เหตุระเบิดในกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2558
เหตุระเบิดในกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2558 เป็นเหตุระเบิดที่เกิดเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2558 เวลา 18.55 น. ตามเวลาในประเทศไทย ที่ศาลท้าวมหาพรหม โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ บริเวณสี่แยกราชประสงค์ ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต และในวันต่อมาได้เกิดเหตุคนร้ายปาระเบิดลงมาจากสะพานตากสิน บริเวณท่าเรือสาทร ทำให้เรือที่จอดอยู่บริเวณใกล้เคียงถูกสะเก็ดระเบิดเล็กน้อย แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ
เหตุระเบิดในกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2558 | |
---|---|
สถานที่ | ศาลท้าวมหาพรหม โรงแรมเอราวัณ และ ท่าสาทร กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย |
วันที่ | 17 สิงหาคม พ.ศ. 2558 18:55 น. UTC+7 |
เป้าหมาย | ไม่ทราบ |
ประเภท | ระเบิด, การสังหารหมู่ |
อาวุธ | ทีเอ็นที |
ตาย | 20 คน[ต้องการแหล่งอ้างอิงดีกว่านี้] |
เจ็บ | 163 คน |
ผู้เสียหาย | ชาวไทย และนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ |
ผู้ก่อการ | ไม่ทราบ |
ผู้ต้องสงสัย | Adem Karadag และ Grey Wolves |
เบื้องหลัง
ก่อนหน้านี้ ในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558 เกิดระเบิดสองครั้งบริเวณทางเชื่อมรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีสยามเหนือแยกราชประสงค์ โดยคนร้ายนำระเบิดไปวางไว้บริเวณประตูของจุดบริการด่วนมหานครสำนักงานเขตปทุมวันซึ่งให้บริการด้านทะเบียนราษฏร์ มีผู้บาดเจ็บสามคน โดยเชื่อว่าสาเหตุมาจากการเมือง และในเดือนเมษายน พ.ศ. 2558 เกิดเหตุการณ์คาร์บอมที่ชั้นใต้ดินของศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล สมุย อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี มีผู้บาดเจ็บ 10 คน
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
การระเบิด
ครั้งแรก
วันที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2558 เวลา 18.55 น. เกิดระเบิดบริเวณสี่แยกราชประสงค์ กลางกรุงเทพมหานคร ใกล้กับศาลท้าวมหาพรหม สำนักงานตำรวจแห่งชาติรายงานว่าเป็นระเบิดทีเอ็นทีหนัก 3 กิโลกรัมบรรจุอยู่ในท่อในบริเวณศาลท้าวมหาพรหม หน่วยเก็บกู้ระเบิดไม่ทราบน้ำหนัก แต่เจ้าหน้าที่หน่วยอีโอดีวิเคราะห์ว่ามีรัศมีทำลายล้างประมาณ 100 เมตร
ครั้งที่สอง
วันที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2558 เวลา 13.30 น. เกิดระเบิดใกล้ท่าเรือสาทร ฝั่งพระนคร ระเบิดภายในแม่น้ำเจ้าพระยาช่วงใต้สะพานสมเด็จพระเจ้าตากสิน ระหว่าง ท่าสาทรและสถานีสะพานตากสิน โดยคาดว่าต้องการโยนลงท่าเรือสาทรแต่พลาดตกลงแม่น้ำ โดยเหตุการณ์ดังกล่าวไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ หลังเหตุการณ์ทำให้สถาบันการศึกษาโดยรอบยกเลิกการเรียนการสอนในวันดังกล่าวทันที
การบาดเจ็บและเสียชีวิต
สัญชาติ | จำนวน |
---|---|
ไทย | 6 คน |
มาเลเซีย | 5 คน |
จีน | 5 คน |
ฮ่องกง | 2 คน |
อินโดนีเซีย | 1 คน |
สิงคโปร์ | 1 คน |
รวม | 20 คน |
สัญชาติ | จำนวน |
---|---|
ออสเตรีย | 2 |
จีน | 33 |
ฮ่องกง | 3 |
อินโดนีเซีย | 1 |
ญี่ปุ่น | 1 |
มาเลเซีย | 2 |
มัลดีฟส์ | 2 |
มาลี | 1 |
โอมาน | 2 |
ฟิลิปปินส์ | 2 |
กาตาร์ | 1 |
สิงคโปร์ | 3 |
ไต้หวัน | 3 |
ไทย | 60 |
ไม่ทราบสัญชาติ | 25 คน |
รวม | 163 คน |
ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวซึ่งมาเยี่ยมชมศาลท้าวมหาพรหม 12 คนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ และเสียชีวิตที่โรงพยาบาลตำรวจอีก 4 ราย มีผู้บาดเจ็บจำนวน 130 คนที่เข้ารักษาตัวตามโรงพยาบาล 19 แห่ง โดยโรงพยาบาลตำรวจเป็นสถานที่รับผู้บาดเจ็บเข้ารักษาตัวมากที่สุด โรงพยาบาลราชวิถีมีผู้ป่วยอยู่ในหน่วยอภิบาล 2 ราย และโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์มี 4 ราย
ผลกระทบ
หลังเกิดเหตุการณ์ บีทีเอสแจ้งปิดทางเดินเชื่อมสกายวอล์คระหว่างสถานีสยามถึงแยกราชประสงค์ชั่วคราวและมีการเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย
ปลัดกรุงเทพมหานครสั่งปิดการเรียนการสอนในวันที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2558 มีผลต่อโรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานคร 438 แห่ง เช่นเดียวกับโรงเรียนหลายแห่งที่อยู่ใกล้เคียงที่เกิดเหตุ
มีการปิดการจราจรตั้งแต่แยกประตูน้ำถึงแยกสารสินและแยกชิดลมถึงแยกเฉลิมเผ่าหลังเกิดเหตุการณ์จนถึงเวลา 12.00 น. ของวันที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2558 เพื่อให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานลงพื้นที่ดำเนินการเก็บวัตถุพยานอย่างละเอียด ทำให้องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ประกาศปรับเปลี่ยนเส้นทางการเดินรถประจำทางมากกว่า 10 เส้นทาง โดยเฉพาะสายที่ผ่านแยกราชประสงค์ ส่วนรถไฟฟ้าบีทีเอส รถไฟฟ้าใต้ดิน และรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์เปิดให้บริการตามปกติ โดยจัดเจ้าหน้าที่เพิ่มเพื่อเข้มงวดด้านความปลอดภัยมากขึ้น
อธิบดีกรมการบินพลเรือน เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ปรับระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยท่าอากาศยานในสังกัดกรมการบินพลเรือน จำนวน 28 แห่ง เป็นระดับ 3 ซึ่งเป็นระดับความเข้มงวดสูงสุด ด้านท่าเรือแหลมฉบังได้ประกาศให้มีการยกระดับรักษาความปลอดภัยเป็นระดับ 2 รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์และรถไฟฟ้ามหานครต่างเพิ่มมาตรการเฝ้าระวังเช่นเดียวกันรวมถึงการขอความร่วมมือจากผู้โดยสารไม่ให้ใส่แว่นตาดำและห้ามสวมหมวกเข้าสถานีรถไฟฟ้า และตรวจสัมภาระทุกชิ้น
มีการวิพากษ์วิจารณ์ ถึงผู้ต้องหา นายอ๊อด พยุงวงศ์ หรือ นายยงยุทธ พบแก้ว ว่าเป็นผู้ต้องหาที่มีตัวตนจริงหรือไม่เนื่องจากไม่มีเลขบัตรประชาชน ในปี พ.ศ. 2561 ผู้ต้องหาตามหมายจับ ถูกจับกุมเพียง 3 ราย จาก 17 ราย อีก 14 รายนั้นไม่สามารถจับกุมได้
ผู้ต้องสงสัยและแรงจูงใจ
พยานเล่าว่า ผู้ต้องสงสัยเป็นชายที่ทิ้งเป้าไว้ในที่เกิดเหตุ โดยมีภาพยืนยันจากกล้องวงจรปิดในบริเวณนั้น[ต้องการอ้างอิง] ภาพดังกล่าวยังมีการเผยแผร่ในต่างประเทศด้วย เป็นภาพชายมีลักษณะตัวเตี้ยใส่เสื้อเชิ้ตสีเหลืองและทิ้งกระเป๋าเป๋สีดำลง ขณะที่ผู้ต้องสงสัยนั่งบนม้านั่งและเพียง 3-4 วินาทีต่อมาผู้ต้องสงสัยก็ลุกขึ้น และทิ้งเป้ไว้ตรงม้านั่งและเดินจากไปพร้อมทั้งมองโทรศัพท์ของเขาเอง โดยผู้ต้องสงสัยเดินทางโดยตุ๊กตุ๊กและจอดบริเวณหัวลำโพง
ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติกล่าวการโจมตีครั้งนี้เตรียมผ่านอินเทอร์เน็ตและวาดภาพสเก็ตซ์ผู้ต้องสงสัย ตำรวจยังว่ามีผู้ต้องสงสัยอีกสองคนในกล้องวงจรปิดดังกล่าว รัฐบาลไทยกล่าวว่า มั่นใจว่าไม่เป็นการโจมตีของกลุ่มก่อการร้ายข้ามชาติ ตำรวจกล่าวว่าเหตุการณ์นี้มีผู้มีส่วนร่วมอย่างน้อย 10 คน คาดว่าชาวเคิร์ดร่วมกับคนไทยเป็นผู้ก่อเหตุ
ต่อมา คนขับแท็กซี่ผู้หนึ่งยืนยันว่าเขารับผู้ต้องสงสัยขึ้นรถ "อย่างไรก็ดีผู้ต้องสงสัยมีท่าที่จะไม่มีอาการแสดงท่าทีรีบเร่ง แต่ดูจะสงบเงียบ เหมือนลูกค้าทั่วไป และผู้ต้องสงสัยก็ไม่ใช่คนไทย โดยผู้ต้องสงสัยพูดภาษาที่ไม่ชัดเจนที่ระบุไม่ได้ว่าเป็นภาษาอะไรตลอดเวลาบนรถแท็กซี่"
รุ่งเช้าของวันที่ 18 สิงหาคม ตำรวจสัมภาษณ์วินมอเตอร์ไซค์และคนขับแท็กซี่ที่ผ่านละแวกนั้น ตำรวจได้ส่งรูปผู้ต้องสงสัยจากกล้องวงจรปิด "เมื่อตำรวจส่งรูปมาให้ผม ผมเชื่อว่าเป็นคนที่รับส่งซึ่งเป็นคนเดียวกับผู้ต้องสงสัยที่ตำรวจกำลังตามหา" นิคม ปันตุลา วินรถจักรยานยนต์รับจ้างสาทร กล่าว พยานสำคัญกล่าวว่า "เขาวิ่งมาอย่างเร่งรีบ โดยพูดว่า "เร็ว ๆ" ผมกำลังขับ 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และเขายังเร่งให้ขับเร็วขึ้นอีก ระหว่างทาง เขาก้มดูโทรศัพท์ตลอดเวลา และคุยโทรศัพท์เป็นภาษาอังกฤษ แม้ว่าผมไม่เข้าใจที่เขาพูด ชายคนนี้ขอตลอดให้พาไปโรงแรมใกล้กับโรงพยาบาลอโศกใจกลางกรุงเทพมหานคร"
ตำรวจจับผู้ต้องสงสัยได้เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม ที่พูลอนันต์อพาร์ทเมนท์ เขตหนองจอก ทราบชื่อคือ อาเดม คาราดัก หรือบิลาเติร์ก มูฮัมหมัด แต่ให้การปฏิเสธมาโดยตลอด ต่อมาวันที่ 7 กันยายน ทหารได้จับกุมผู้ต้องหาอีกคน ทราบชื่อคือไมไรลี ยูซุฟู เบื้องต้นให้การรับสารภาพ ล่าสุดอาเดมให้การรับสารภาพแต่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำสารภาพดังกล่าว จนเมื่อได้หลักฐานชี้ชัดจากกล้องวงจรปิดจึงสามารถยืนยันได้ จากนั้นในวันที่ 26 กันยายน ตำรวจพาทั้งคู่ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ นำไปสู่การแถลงปิดคดีเมื่อวันที่ 28 กันยายน
ในวันรุ่งขึ้น ตำรวจได้ขอศาลอนุมัติหมายจับอ๊อด พยุงวงศ์ หรือยงยุทธ พบแก้ว ที่มีเบาะแสว่าจะมีความเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดครั้งนี้ และทราบว่าเขาเคยเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดที่สมานเมตตาแมนชั่น อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี ในปี พ.ศ. 2553 และเหตุระเบิดที่ซอยราษฎร์อุทิศ เขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2557 ซึ่งทั้งสองเหตุการณ์อยู่ในช่วงวิกฤตการณ์ทางการเมือง (พ.ศ. 2548 - 2553 และ พ.ศ. 2556 - 2557) ตำรวจจึงยังไม่ตัดประเด็นทางการเมืองทิ้ง ผู้ก่อเหตุที่ถูกออกหมายจับทั้งหมดมีความเชื่อมโยงกันทั้ง 2 คดี โดยมีผู้ต้องหา 17 คน มีคนไทยร่วมขบวนการ 2 คน คือ วรรณา สวนสันต์ กับยงยุทธ พบแก้ว (อ๊อด พยุงวงศ์) และจนถึงตอนนี้สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้เพียง 2 ราย คือบีลาเติร์ก มูฮัมหมัด และไมไรลี ยูซูฟู ศาลทหารพิจารณาคดีนี้ ต่อมา นาง วรรณา สวนสันต์ ถูกจับ ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ วันที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560
ปฏิกิริยา
ในประเทศ
พลตรี สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่า ยังเร็วเกินไปที่จะสรุปอย่างชัดเจนถึงสาเหตุของการระเบิดว่าเป็นการกระทำของกลุ่มบุคคลใด แต่มีแนวโน้มว่าอาจจะเป็นกลุ่มเดิม ๆ ที่เสียประโยชน์ทางการเมืองและต้องการสร้างสถานการณ์วุ่นวายในประเทศ ไม่ต้องการเห็นคนไทยมีความสุขสงบ เป็นความอาฆาตมาดร้ายของคนที่เคยกล่าวว่าเมื่อตนไม่สุขก็อย่าหวังที่คนอื่นจะสุขได้ในคืนวันที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2558 เจ้าหน้าที่ตำรวจ อาทิ พลตำรวจเอก ประวุฒิ ถาวรศิริ พลตำรวจเอก จักรทิพย์ ชัยจินดา พลตำรวจเอก สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ลงพื้นที่
วันที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2558 กรุงเทพมหานครทำความสะอาดที่เกิดเหตุ ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ว่าจะส่งผลกระทบต่อการค้นหาข้อเท็จจริง ฝ่ายหม่อมราชวงศ์สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ตอบว่า "รัฐบาลไม่ได้ห้าม ผู้ที่รับผิดชอบเรื่องหลักฐานต่าง ๆ ไม่ได้ห้าม เราก็ต้องทำความสะอาดครับ นี่คือหน้าที่ของ กทม. ครับ ให้ความเป็นธรรมแก่พวกเราหน่อยนะครับ เราก็โดนมามากแล้วเหมือนกันนะครับ"
กรมคุ้มครองสิทธิฯ จ่ายเยียวยาเหยื่อระเบิดราชประสงค์ศพละ 2 แสนบาท ในขณะที่ต่างชาติจ่ายศพละ 5 แสนบาท ด้านเจ้าหน้าที่รัฐระดับสูงประณามคนร้าย
มีการเรียกประชุมหน่วยงานความมั่นคงทั่วประเทศ โดยแยกส่วนประชุมแต่ละจังหวัดอาทิ จังหวัดน่าน จังหวัดเชียงใหม่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีคำสั่งที่ 451/2558 จัดตั้ง ”ศูนย์อำนวยการบริหารข้อมูลการส่งกลับและการรักษาพยาบาลผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตจากเหตุระเบิดบริเวณสี่แยกราชประสงค์” พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ สั่งให้จัดตั้งศูนย์ติดตามสถานการณ์ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ด้านผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พลตำรวจเอกสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง มีคำสั่งให้ พลตำรวจเอก จักรทิพย์ ชัยจินดา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีระเบิดแยกราชประสงค์และท่าเรือสาทรและให้ พลตำรวจโท ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นหัวหน้าชุดคลี่คลายคดีระเบิด ต่อมาเมื่อพลตำรวจเอก จักรทิพย์ ชัยจินดา ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติจึงได้แต่งตั้งพลตำรวจโท ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีระเบิดแยกราชประสงค์และท่าเรือสาทร แทนตนเอง และให้พันตำรวจเอก สีหนาท ประยูรรัตน์ เลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ดำเนินการสอบสวนเส้นทางการเงินของกลุ่มผู้ต้องสงสัย คดีนี้แม้พลตำรวจเอกสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง จะมีการแถลงปิดคดีไปแล้วเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2558 แต่จะมีการสรุปสำนวนคดีในช่วงสิ้นเดือนตุลาคม พ.ศ. 2558
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
ต่างประเทศ
- ออสเตรเลีย - นายกรัฐมนตรี โทนี แอบบ็อตต์ กล่าวประณามเหตุการณ์ดังกล่าว และยังสนับสนุนให้ชาวออสเตรเลียเที่ยวไทยต่อไป พร้อมกันได้เสนอความช่วยเหลือด้านการสืบสวนแก่ไทย
- กัมพูชา - สมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้ประณามการก่อเหตุระเบิดที่กรุงเทพมหานครอย่างรุนแรงและขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของผู้เสียชีวิต
- จีน - กระทรวงการต่างประเทศจีน ตั้งศูนย์ฉุกเฉินเพื่อติดตามสถานการณ์ในไทย และมีคำสั่งให้สถานเอกอัครราชทูตจีนในกรุงเทพให้ความช่วยเหลือนักท่องเที่ยวชาวจีนที่ได้รับผลกระทบนอกจากนั้นนาย หัว ชุนอิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศได้ออกแถลงการณ์แสดงความเสียใจ และนายหวัง อี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศได้เรียกประชุมประสานงานระหว่างกระทรวงเพื่อรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับชาวจีนในไทย
- อินเดีย - นายกรัฐมนตรี นเรนทระ โมที กล่าวประณามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
- ญี่ปุ่น - โยชิฮิเดะ ซูกะ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น กล่าวแสดงความเสียใจต่อผู้ได้รับบาดเจ็บผู้ได้รับผลกระทบ รวมถึงครอบครัวของผู้เสียชีวิตจากเหตุระเบิดบริเวณสี่แยกราชประสงค์ โดยหลังเกิดเหตุระเบิดกระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่น จัดตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจขึ้นที่สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่น เพื่อดูแลความปลอดภัยให้กับชาวญี่ปุ่น ที่อยู่ในประเทศไทย
- ลาว - ทองสิง ทำมะวง นายกรัฐมนตรีลาว ได้ส่งสาสน์แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ระเบิดในกรุงเทพฯ ต้นสัปดาห์นี้ ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บจำนวนมาก สร้างความเสียหายแก่ทรัพย์สินของประชาชน และสาธารณะอย่างหนัก พร้อมทั้งกล่าวประณามการกระทำดังกล่าวว่าเป็น การกระทำอันป่าเถื่อน
- มาเลเซีย - นายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซะก์ของมาเลเซียประณามผู้อยู่เบื้องหลังเหตุระเบิด
- เนปาล - นายกรัฐมนตรีซูชิล คอยราลาของประเทศเนปาล ส่งสาส์นถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ประณามเหตุระเบิด
- นิวซีแลนด์ - นายเมอร์เรย์ แม็คคัลลี รัฐมนตรีต่างประเทศนิวซีแลนด์กล่าวในแถลงการณ์วันนี้ว่า นิวซีแลนด์จะอยู่เคียงข้างประชาชนชาวไทยในห้วงเวลาที่ต้องเผชิญกับความสูญเสียจากเหตุระเบิดที่แยกราชประสงค์ พร้อมแสดงความเสียใจต่อเหยื่อและครอบครัวที่ได้รับผลกระทบจากเหตุระเบิด
- เกาหลีเหนือ - ปัก ปอง จู นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี ได้ส่งสารแสดงความเห็นอกเห็นใจมายัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีของไทย หลังเกิดเหตุระเบิดขนาดใหญ่ซึ่งสร้างความเสียใจต่อชีวิตและทรัพย์สิน
- รัสเซีย - วลาดีมีร์ ปูติน ส่งสาสน์แสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อเหตุการณ์ก่อการร้ายในกรุงเทพมหานคร[ต้องการอ้างอิง]
- สิงคโปร์ - ลี เซียนลุง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์กล่าวแสดงความเสียใจต่อผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุระเบิดครั้งนี้
- เกาหลีใต้ - นาย จอน แจ มัน เอกอัครราชทูตเกาหลีใต้ประจำประเทศไทย ยืนยันว่าทางการเกาหลีใต้คงไม่มีการออกประกาศห้ามการเดินทางเข้ามาในประเทศไทย
- สหราชอาณาจักร - นายกรัฐมนตรี เดวิด คาเมรอน กล่าวเสียใจที่มีพลเมืองอังกฤษเสียชีวิต และนาย ฟิลิป แฮมมอนด์ รัฐมนตรีต่างประเทศ ออกแถลงการณ์ประณามเหตุการณ์ดังกล่าว และพร้อมให้ความช่วยเหลือด้านการสืบสวน
- สหรัฐ - กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ กล่าวประณามเหตุการณ์ดังกล่าว และพร้อมให้ความช่วยเหลือในการสืบสวน
- สหประชาชาติ - พัน กี-มุน เลขาธิการสหประชาชาติ กล่าวเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต
อ้างอิง
- ↑ ผู้จัดการ (August 17, 2015). "ญาติติดต่อรับศพต่างชาติเหยื่อบึ้มครบ 11 ราย รอพิสูจน์ดีเอ็นเอ 2 ศพ". สืบค้นเมื่อ August 20, 2015.
- ↑ "Bangkok bomb: Explosion close to Erawan shrine kills at least 27 people including four foreigners - latest updates". Telegraph.co.uk. 17 August 2015. สืบค้นเมื่อ 17 August 2015.
- ↑ . Mthai. คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 2016-03-04. สืบค้นเมื่อ August 21, 2015.
- บึมป่วน! ท่าเรือสาทร ไร้เจ็บ น.1รุดสอบ (ชมคลิป)
- "Thailand steps up security in Bangkok after bomb blasts at luxury mall". World News. euronews. 2 February 2015. สืบค้นเมื่อ 17 August 2015.
- http://www.nationtv.tv/mian/content/crime/3784517642315/
- . คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 2015-08-19. สืบค้นเมื่อ 2015-08-22.
- . คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 2015-08-20. สืบค้นเมื่อ 2015-08-22.
- . คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 2015-08-22. สืบค้นเมื่อ 2015-08-22.
- โพสต์ทูเดย์. . คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 2015-10-06. สืบค้นเมื่อ August 20, 2015.
- "Bangkok blast: Fifth Malaysian victim confirmed". The Star Malaysia. 19 August 2015. สืบค้นเมื่อ 19 August 2015.
- "泰国曼谷爆炸事件已致6名中国人遇难 1人失联". ifeng (ภาษาจีน). 18 August 2015. สืบค้นเมื่อ 18 August 2015.
- "Bangkok bomb: Victims and survivors". BBC News. สืบค้นเมื่อ 19 August 2015.
- "One Indonesian died, another injured in Bangkok blast: Ministry". The Jakarta Post. 18 August 2015. สืบค้นเมื่อ 18 August 2015.
- "Bangkok blast: Singaporean woman among those killed". The Straits Times. 18 August 2015. สืบค้นเมื่อ 18 August 2015.
- ศปก.รพ.ตร. "ตรวจสอบรายชื่อล่าสุด ผู้เสียชีวิต-บาดเจ็บ เหตุระเบิดราชประสงค์". คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 2015-08-24. สืบค้นเมื่อ 23 August 2015.
- http://thainews.prd.go.th/website_th/news/news_detail/WNPOL5808170020009
- ผู้จัดการออนไลน์. "ตำรวจเผย 12 ชื่อผู้เสียชีวิต เหตุระเบิดศาลพระพรหม". สืบค้นเมื่อ 18 August 2015.
- ปิดskywalkสถานีสยาม-แยกราชประสงค์
- ผู้จัดการออนไลน์. "สั่งปิดโรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานคร 18 ส.ค. เพื่อความปลอดภัย". สืบค้นเมื่อ 2015-08-17.
- ไทยรัฐออนไลน์. "ปิดจราจรเคลียร์พื้นที่ราชประสงค์ถึงเที่ยง ขสมก.ปรับเดินรถ BTS-MRT วิ่งปกติ". สืบค้นเมื่อ 18 August 2015.
- . คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 2016-03-05. สืบค้นเมื่อ 2015-08-21.
- สายการเดินเรือต่างชาติ-ผู้ประกอบการเอกชน ยังมั่นใจมาตรการรักษาความปลอดภัยของไทย
- MRT-BTS-ARLเพิ่มมาตรการเข้ม ขอค้นสัมภาระยันเปิดวิ่งปกติ
- ↑ "Bangkok bomb: Erawan shrine attacker was 'part of network', police say". Asia. BBC News. 19 August 2015. สืบค้นเมื่อ 19 August 2015.
- . คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 2015-08-22. สืบค้นเมื่อ 2015-08-22.
- ผบ.ตร.มั่นใจระเบิดราชประสงค์ ไม่โยงก่อการร้ายข้ามชาติ[ลิงก์เสีย]
- "Bangkok bomb: Foreign role in attack unlikely, says government". Asia. BBC News. สืบค้นเมื่อ 20 August 2015.
- (PDF). คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม (PDF) เมื่อ 2015-09-22. สืบค้นเมื่อ 2015-08-26.
- . คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 2015-08-21. สืบค้นเมื่อ 2015-08-22.
- "Bangkok authorities clear pair seen before shrine bombing, say key suspect spoke foreign language". Japan Times. สืบค้นเมื่อ 20 August 2015.
- . คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 2015-08-23. สืบค้นเมื่อ 2015-08-22.
- "This is my piece from Bangkok in this morning's Times, Richard Lloyd Parry". The Times of London. สืบค้นเมื่อ 23 August 2015.
- รวบ!ชายต่างชาติต้องสงสัยบึ้มราชประสงค์ 2015-10-14 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน จากคมชัดลึก
- http://www.thairath.co.th/content/527800
- ‘สมยศ’เชื่อ‘อาเดม’คือชายเสื้อเหลือง[ลิงก์เสีย] จากคมชัดลึก
- ด่วน! ศรีวราห์ ยืนยัน! "อาเดม คาราดัก" คือชายเสื้อเหลือง บึ้มราชประสงค์ หลักฐานชัด! จากมติชน
- "ประวุฒิ" ยืนยัน "อาเดม" คือชายเสื้อเหลือง จากเนชั่นทีวี
- คุมตัว “อาเดม-ยูซูฟู” ทำแผนบึ้มแยกราชประสงค์ จาก เอเอสทีวีผู้จัดการ
- ผบ.ตร.แจงละเอียด ปิดคดีระเบิด ‘ราชประสงค์-สาทร’
- ผบ.ตร.ย้ำ “ไอ้อ๊อด” กุญแจสำคัญ บึ้มกรุงยังตัดประเด็นการเมืองไม่ได้ จาก เอเอสทีวีผู้จัดการ
- http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9580000102035
- http://www.thansettakij.com/content/234410
- "รัฐเผยแนวโน้มผู้ก่อเหตุเป็นกลุ่มผู้เสียประโยชน์การเมือง". โพสต์ทูเดย์. 17 August 2015. สืบค้นเมื่อ 24 August 2015.
- ไทม์ไลน์ 24 ชม. ระเบิดอำมหิต ‘ราชประสงค์’ 20 ชีวิตปลิดปลิว
- "ล้างราชประสงค์เร็ว 'สุขุมพันธุ์' โอด "ไม่ทำก็ว่า ทำก็สงสัย" นักวิชาการอัดยิ่งสร้างความแคลงใจ". ประชาไท. 21 August 2015. สืบค้นเมื่อ 24 August 2015.
- มติคณะรัฐมนตรี
- . คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 2015-08-20. สืบค้นเมื่อ 2015-08-20.
- . คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 2016-03-04. สืบค้นเมื่อ 2015-08-20.
- . คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 2015-08-26. สืบค้นเมื่อ 2015-08-24.
- http://www.springnews.co.th/crime/244917
- http://www.tnamcot.com/content/302106
- ผู้นำออสซีขอให้ประชาชนเที่ยวเมืองไทยต่อไป เดลินิวส์. 18 สิงหาคม 2558
- http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/661685
- จีนตั้งศูนย์ฉุกเฉินติดตามเหตุบึ้มราชประสงค์ กรุงเทพธุรกิจ. 18 สิงหาคม 2558
- http://www.m.ryt9.com/s/iq38/2231291[ลิงก์เสีย]
- ↑ ทั่วโลกรุมประณามผู้ก่อเหตุบึ้มราชประสงค์ จีนตั้งศูนย์ฉุกเฉินเกาะติด 2015-08-20 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน MThai News. 18 สิงหาคม 2558
- http://www.innnews.co.th/shownews/show?newscode=640253[ลิงก์เสีย]
- http://www.manager.co.th/IndoChina/ViewNews.aspx?NewsID=9580000094807
- http://www.tnamcot.com/content/261496
- http://www.tnamcot.com/content/261863
- http://thainews.prd.go.th/website_th/news/news_detail/WNFOR5808180020021
- http://www.prachatai.com/journal/2015/08/60955
- นานาชาติประณามเหตุระเบิดราชประสงค์ จากกรุงเทพธุรกิจ
- http://thainews.prd.go.th/website_th/news/news_detail/WNSOC5808180020003
- นายกอังกฤษเสียใจบึ้มกทม.-รมต.ตปท.ประณาม[ลิงก์เสีย] สำนักข่าวไอเอ็นเอ็น. 19 สิงหาคม 2558
แหล่งข้อมูลอื่น
- วิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อเกี่ยวกับ เหตุระเบิดในกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2558
พิกัดภูมิศาสตร์: 13°44′40″N 100°32′26″E / 13.74444°N 100.54056°E