fbpx
วิกิพีเดีย

เอเลนอร์ เดอ แคลร์

เอเลนอร์ เดอ แคลร์ (อังกฤษ: Eleanor de Clare) เป็นพระนัดดาในพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 1 แห่งอังกฤษ และเป็นทายาทในดินแดนอันกว้างใหญ่ไพศาลของตระกูลเดอ แคลร์ และเป็นภรรยาของฮิวจ์ เดสเปนเซอร์ผู้ลูก

ตราประจำตัวของเอเลนอร์ เดอ แคลร์

วัยเยาว์

เอเลนอร์เกิดในเดือนตุลาคมหรือพฤศจิกายน ค.ศ. 1292 ที่ปราสาทคายร์ฟิลลีในแกลมอร์แกน ปราสาทขนาดใหญ่ที่บิดาของเธอเป็นผู้สร้างขึ้นมา มารดาของเธอคือโจนแห่งเอเคอร์ พระราชธิดาคนที่สองในบรรดาพระราชธิดาห้าคนที่มีชีวิตรอดของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 1 ส่วนบิดาของเธอคือกิลเบิร์ต 'แดง' เดอ แคลร์ เอิร์ลที่ 7 แห่งกลอสเตอร์ เธอเป็นบุตรคนที่สองของกิลเบิร์ตและโจน ในตอนที่เอเลนอร์เกิดโจนมีพระชนมายุ 20 พรรษา ส่วนกิลเบิร์ตมีอายุ 49 ปี เอเลนอร์มีพี่ชายหนึ่งคนคือกิลเบิร์ด บุตรชายและทายาทของบิดามารดาซึ่งเกิดในปี ค.ศ. 1291 เธอมีน้องสาวสองคน คือ มาร์กาเร็ตซึ่งน่าจะเกิดในช่วงครึ่งปีแรกของ ค.ศ. 1294 ซึ่งต่อมากลายเป็นภรรยาของเพียส การ์เวสตัน กับเอลิซาเบธซึ่งเกิดในเดือนกันยายน ค.ศ. 1295 เอเลนอร์มีอายุน้อยกว่าพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 2 ผู้เป็นน้าชายเพียง 8 ปีครึ่ง

กิลเบิร์ต พี่ชายของเอเลนอร์เติบโตในครัวเรือนของพระราชินีมาร์เกอรีต ยายเลี้ยงที่น่าจะแก่กว่ากิลเบิร์ตเพียง 9 ปี กิลเบิร์ตแดง บิดาของพี่น้องเดอ แคลร์ถึงแก่กรรมในเดือนธันวาคม ค.ศ. 1295 ด้วยวัย 52 ปี หลังจากที่เอลิซาเบธ บุตรคนสุดท้องเกิดได้ไม่กี่อาทิตย์ ในปี ค.ศ. 1296 โจนผู้เป็นม่ายได้ยกปราสาทบริสตอลให้เป็นที่พักอาศัยของลูกๆ ในช่วงต้นปี ค.ศ. 1297 ขณะเอเลนอร์มีอายุได้ 4 ปี โจนได้สมรสใหม่กับราล์ฟ เดอ มอนเธอร์เมอร์ ผู้ติดตามของสามีโดยที่ยังไม่ได้รับพระราชานุญาตจากพระราชบิดาที่หวังจะจับพระนางสมรสกับเคานต์แห่งซาวอย โจนน่าจะพาลูกๆ ไปร้องขอความเห็นใจจากพระราชบิดา คาดว่าพระนางคงหวังให้พระนัดดาตัวน้อยๆ ช่วยเรียกความเมตตาจากกษัตริย์ แต่ไม่ได้ผล โจนถูกยึดที่ดิน เดอ มอนเธอร์เมอร์ถูกจับขังคุก แต่สุดท้ายกษัตริย์ก็ทำใจว่าพระองค์ไม่สามารถยกเลิกการสมรสของทั้งคู่ได้ และอาจจะด้วยความรักที่มีพระธิดา เมื่อเห็นว่าพระนางลำบากกับการตั้งครรภ์ พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดจึงยอมใจอ่อนและยอมรับการสมรส

การสมรสกับฮิวจ์ เดสเปนเซอร์ผู้ลูก

ตำนานเล่าว่าเอเลนอร์นั้นงดงามและได้เรื่องได้ราวที่สุดในบรรดาสามสาวพี่น้องเดอ แคลร์ เธอมีความคล้ายคลึงกับมารดาผู้เป็นขัตติยะนารีที่สุด ในฐานะพี่สาวคนโต เธอสมรสเป็นคนแรก เพื่อชดใช้หนี้ที่พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 1 ติดฮิวจ์ เดสเปนเซอร์ผู้พ่อ ตระกูลเดสเปนเซอร์แม้จะเป็นตระกูลผู้ดีเก่าแก่ แต่ไม่มียศศักดิ์และที่ดิน เอเลนอร์ในตอนนั้นเองก็ไม่มียศศักดิ์และที่ดินเช่นกัน เธอสมรสกับฮิวจ์ เดสเปนเซอร์ผู้ลูกด้วยวัยเพียง 13 พรรษา ในวันที่ 26 พฤษภาคม ค.ศ. 1306 ที่วิหารเวสต์มินสเตอร์ต่อหน้ากษัตริย์ พระราชินีมาร์เกอรีตอาจไม่ได้ไปร่วมงานเนื่องจากเพิ่งให้กำเนิดเอเลนอร์ พระราชบุตรคนสุดท้องของกษัตริย์เมื่อไม่กี่อาทิตย์ก่อนหน้า กษัตริย์มีพระชนมายุเกือบ 67 พรรษาและสิ้นพระชนม์ในอีกหนึ่งปีต่อมา (เอเลนอร์ พระธิดาซึ่งมีศักดิ์เป็นน้าของเอเลนอร์ เดอ แคลร์สิ้นพระชนม์ในปี ค.ศ. 1311 ด้วยวัยพียง 5 พรรษา) โจนแห่งเอเคอร์ มารดาของเอเลนอร์ซึ่งมาร่วมพิธีสมรสด้วยสิ้นพระชนม์ในอีก 11 เดือนหลังพิธีสมรส ไม่มีใครรูว่าอิซาเบล โบชอมป์ มารดาของฮิวจ์ เดสเปนเซอร์ซึ่งเป็นธิดาของเอิร์ลแห่งวอริคมาร่วมพิธีสมรสด้วยหรือไม่ เธอเสียชีวิตหลังพิธีสมรสเพียง 4 วัน แขกที่มาร่วมพิธีอีกคนคือพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 2 น้าชายของเอเลนอร์ซึ่งได้แต่งตั้งฮิวจ์เป็นอัศวิน (พร้อมกับคนอีกเกือบ 300 คน) ก่อนพิธีสมรสเพียง 4 วัน โดยในตอนนั้นพระองค์ดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าชายแห่งเวลส์, เอิร์ลแห่งเชสเตอร์, เคานต์แห่งปงตีเยอและมงเตรยล์ และดยุคแห่งอากีแตน เพียส กาเวสตัน สหายรักของพระองค์ได้รับแต่งตั้งเป็นอัศวินในวันที่ฮิวจ์สมรสกับเอเลนอร์

ฮิวจ์ซึ่งอยู่ในช่วงวัยรุ่นตอนปลายไม่ใช่คู่สมรสที่เหมาะสมสำหรับพระนัดดาคนโตของกษัตริย์ แม้จะเป็นหลานชายของเอิร์ล, เป็นหลานชายเลี้ยงของเอิร์ลอีกคน (เอิร์ลแห่งนอร์ฟอล์กซึ่งถึงแก่กรรมในปีที่ฮิวจ์สมรส) และเป็นน้องภรรยาของเฮนรีแห่งแลงคัสเตอร์ พระภาติยะของกษัตริย์ แต่ฮิวจ์ไม่มีโอกาสที่จะได้สืบทอดตำแหน่ง บิดาของเขาครอบครองดินแดนขนาดกว้างใหญ่ไพศาลซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในมิดแลนด์และบักกิงแฮมเชอร์ แต่ฮิวจ์ไม่มีสิทธิ์ใดๆ ในดินแดนจนกว่าฮิวจ์ผู้พ่อจะถึงแก่กรรม

น้าชายของเอเลนอร์ขึ้นครองบัลลังก์เป็นพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 2 ในปี ค.ศ. 1307 พระองค์ดูรักใคร่พระภาคิไนยและเริ่มพระราชทานที่ดินให้แก่เธอและสามี ทั้งยังมอบตำแหน่งอันเป็นที่ปรารถนาของใครหลายคนให้เธอ โดยให้เธอเป็นหนึ่งในนางสนองพระโอษฐ์ของอีซาแบลแห่งฝรั่งเศส พระราชินีที่เพิ่งอภิเษกสมรสกัน ในปี ค.ศ. 1309 พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 2 ได้พระราชทานคฤหาสน์ซัตตันในนอร์ฟอล์กซึ่งเคยเป็นของอดีตอัศวินเทมพลาร์ให้แก่ฮิวจ์ ซึ่งเป็นของขวัญชิ้นเดียวที่เขาได้รับก่อนจะขึ้นเป็นคนโปรดของกษัตริย์ ในปี ค.ศ. 1310 ฮิวจ์ผู้พ่อได้ยกคฤหาสน์หกหลังให้แก่บุตรชาย

หนึ่งในสิ่งแรกๆ ที่พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 2 ทำคือการจับพระภาคิไนยตระกูลเดอ แคลร์สมรส มาร์กาเร็ตและเอลิซาเบธมีชีวิตสมรสที่สั้นและไม่มีความสุข ทั้งคู่เป็นม่ายตั้งแต่อายุไม่ถึง 20 ปีและถูกจับสมรสใหม่ทันทีกับคนโปรดของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ด แต่ชีวิตสมรสของเอเลนอร์กับฮิวจ์กลับเป็นไปอย่างราบรื่น เธอมีบุตรธิดาให้กับฮิวจ์ถึง 9 คนในช่วงปี ค.ศ. 1308 ถึง ค.ศ. 1325 ประกอบด้วยบุตรชายสี่คนและบุตรสาวห้าคนที่ล้วนภักดีต่อพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดแม้จะประสบปัญหาความวุ่นวายทางการเมือง ได้แก่

  • ฮิวจ์ เดสเปนเซอร์ บารอนเดสเปนเซอร์ (เกิด ค.ศ. 1308) บุตรชายคนโตและทายาท
  • กิลเบิร์ต เดสเปนเซอร์ (เกิด ค.ศ. 1309)
  • เอ็ดเวิร์ด เดสเปนเซอร์ (เกิด ค.ศ. 1310) เป็นทหาร ถูกสังหารในการปิดล้อมแวนส์ เป็นบิดาของเอ็ดเวิร์ด เดสเปนเซอร์ บารอนเดสเปนเซอร์ที่ 1 อัศวินแห่งการ์เตอร์
  • จอห์น เดสเปนเซอร์ (เกิด ค.ศ. 1311)
  • อิซาเบล เดสเปนเซอร์ (เกิด ค.ศ. 1312) สมรสกับริชาร์ด ฟิตซ์อาลัน เอิร์ลที่ 10 แห่งอารันเดล
  • เอเลนอร์ เดสเปนเซอร์ (เกิด ค.ศ. 1315) เป็นแม่ชีที่วัดคริสต์เซมปริงแฮม
  • โจน เดสเปนเซอร์ (เกิด ค.ศ. 1317) เป็นแม่ชีที่วิหารชาฟท์สบรี
  • มาร์กาเร็ต เดสเปนเซอร์ (เกิด ค.ศ. 1319) เป็นแม่ชีที่วัดคริสต์วัตตัน
  • เอลิซาเบธ เดสเปนเซอร์ (เกิด ค.ศ. 1325) สมรสกับมอริส เดอ บาร์กลีย์ บารอนบาร์กลีย์

ในยุคที่ที่ดินคืออำนาจ ความไร้อำนาจของฮิวจ์ทำให้เอเลนอร์ไม่ค่อยมีอิทธิพล ทว่าเธอเป็นที่คุ้นหน้าคุ้นตาในราชสำนักในฐานะนางสนองพระโอษฐ์ผู้ติดตามของพระราชินีอีซาแบลและร่วมเดินทางไปฝรั่งเศสพร้อมกับพระราชินีในปี ค.ศ. 1313 อีซาแบลซึ่งเป็นน้าสะใภ้ของเอเลนอร์มีอายุน้อยกว่าเธอหลายปีและมีผู้ติดตามเป็นกลุ่มธิดาขุนนางที่ต่างก็มีสามี, มีครอบครัว และมีความรับผิดชอบตามระบอบศักดินาเป็นของตนเอง เอเลนอร์มีคณะผู้ติดตามของตนเองโดยจอห์น เดอ เบิร์กแฮมสเต็ดเป็นมหาดเล็กของเธอ

เอเลนอร์ยังสนิทสนิมกับพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 2 น้าชายที่ออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดให้เวลาที่เธออยู่ในราชสำนัก บางครั้งแม้เธอจะไม่ได้อยู่ในราชสำนักพระองค์ก็ยังคงจ่ายให้ ซึ่งเป็นสิทธิพิเศษที่พระภาคิไนยคนอื่นๆ ไม่ได้ เธอมักปรากฏอยู่ในเอกสารในยุคนั้นในฐานะ "เลดีเอเลนอร์ เดสเปนเซอร์" พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดไม่ได้รักแค่เธอ แต่ยังเผื่อแผ่ความรักไปให้สามีของเธอด้วย

ในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 1314 กิลเบิร์ต เดอ แคลร์ผู้ลูก เอิร์ลแห่งกลอสเตอร์วัย 23 ปี พี่ชายของเอเลนอร์ถูกสังหารระหว่างทำสมรภูมิแบนน็อคเบิร์น พระเจ้าโรเบิร์ต เดอะ บรูซ กษัตริย์แห่งสกอตแลนด์ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องของเอเลนอร์เฝ้าศพของเอิร์ลแห่งกลอสเตอร์ทั้งคืนและส่งคืนกลับอังกฤษอย่างสมเกียรติโดยไม่เรียกร้องค่าใช้จ่ายใดๆ แม้พระองค์จะมีสิทธิ์เรียกร้อง มาทิลดา ภรรยาม่ายของเอิร์ลแห่งกลอสเตอร์ประกาศว่าตนเองกำลังตั้งครรภ์ ซึ่งเป็นการโกหก กษัตริย์เฝ้ารอทายาทที่กำลังจะเกิดของกิลเบิร์ตด้วยความอดทน มาทิลดาหลอกรัฐสภาได้สามปีก่อนที่ความจริงจะถูกเปิดเผย รัฐสภามีคำสั่งให้แบ่งทรัพย์สินที่ดินของเดอ แคลร์เป็นสามส่วนเท่าๆ กันให้แก่น้องสาวทั้งสามคนของเอิร์ลแห่งกลอสเตอร์ เนื่องจากกฎหมายสมัยกลางกำหนดให้พี่น้องหญิงได้สืบทอดมรดกเท่าๆ กัน ขณะที่กฎบุตรคนโตใช้ได้กับบุตรเพศชายเท่านั้น

ความสัมพันธ์ของฮิวจ์ เดสเปนเซอร์กับพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 2

ฮิวจ์กับเอเลนอร์ได้รับแกลมอร์แกนกับคฤหาสน์อีกสองสามแห่งในอังกฤษเป็นส่วนแบ่งในมรดกที่ดิน น้องสาวอีกสองคนของเธอในตอนนั้นได้สมรสกับชายที่พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 2 ไว้วางใจ คือ มาร์กาเร็ตกับฮิวจ์ ออดลีย์ และเอลิซาเบธกับโรเจอร์ ดาโมรี ทำให้ออดลีย์กับดาโมรีมั่งคั่งและมีอิทธิพลขึ้นมา การแบ่งที่ดินของตระกูลเดอ แคลร์เป็นหนึ่งในเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นในรัชสมัยของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 2 เนื่องจากฮิวจ์ เดสเปนเซอร์ผู้ทะเยอทะยานและไร้ยางอายได้ใช้มรดกของเอเลนอร์สร้างอำนาจให้ตนเอง เขาได้รับเลือกเป็นมหาดเล็กของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดในปี ค.ศ. 1318 ซึ่งเป็นตำแหน่งที่สูงส่ง บันทึกเล่าว่าพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดไม่ได้คิดอะไรเป็นพิเศษกับฮิวจ์ในช่วงปีแรกๆ ที่รู้จักกัน แต่หลังเขาได้เป็นมหาเล็กประจำพระองค์ ชายทั้งสองก็สนิทสนมกันมากขึ้น ฮิวจ์ได้ใช้ความใกล้ชิดทำให้กษัตริย์ลุ่มหลงและพยายามยึดครองมรดกเดอ แคลร์ทั้งหมดที่อยู่ในเวลส์ตอนใต้

เป็นที่รับรู้กันว่าพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 2 เป็นพวกรักร่วมเพศ พระองค์หลงใหล หรืออาจจะหลงรักสามีของพระภาคิไนยและเริ่มแสดงออกว่าทรงโปรดปรานเขาเป็นอย่างมาก ฮิวจ์หลงใหลในอำนาจที่ได้รับจากการเป็นคนโปรดและกลายเป็นทรราชย์ เขาฉกฉวยที่ดิน เงินทอง และทุจริตฉ้อฉล ไม่มีใครรู้ว่าเอเลนอร์คิดอย่างไรกับพฤติกรรมอันไร้ศีลธรรมของสามีที่รีดไถเอาที่ดินและทรัพย์สินต่างๆ มากมายซึ่งหนึ่งในนั้นคือที่ดินซึ่งเป็นของเอลิซาเบธ น้องสาวของเอเลนอร์ และไม่มีใครรู้ว่าเธอคิดอย่างไรเรื่องความสัมพันธ์ของเขากับกษัตริย์ซึ่งเป็นน้าชายของเธอ เป็นไปได้สูงว่าฮิวจ์คือคนรักของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 2 พระองค์หลงใหลเขามาก ทว่าฮิวจ์ยังคงมีความสัมพันธ์ทางเพศกับเอเลนอร์อยู่ บุตรจำนวนหนึ่งของทั้งคู่เกิดหลังจากที่ฮิวจ์เริ่มมีความสัมพันธ์กับพระเจ้าเอ็ดเวิร์ด

ทว่าบางคนกลับเชื่อว่าคนที่มีความสัมพันธ์ชู้สาวกับกษัตริย์ในเวลานั้นคือเอเลนอร์ โรเบิร์ตแห่งเรดิงได้กล่าวไว้ว่าพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดนั้นหลงระเริงกับ "ความสัมพันธ์ทางเพศอันชั่วร้ายและต้องห้าม" และ "ปฏิเสธอ้อมกอดฉันท์สามีภรรยาอันแสนหวานของพระราชินีอีซาแบล" ซึ่ง "ความสัมพันธ์ทางเพศอันชั่วร้ายและต้องห้าม" ที่กล่าวถึงอาจไม่ใช่การร่วมประเวณีทางทวารหนักกับฮิวจ์อย่างที่คนส่วนใหญ่ตีความ แต่อาจเป็นการร่วมประเวณีในเครือญาติกับเอเลนอร์ พระองค์ใช้เวลามากมายอยู่กับเอเลนอร์ ทั้งตามลำพังสองต่อสองและมีฮิวจ์อยู่ด้วย ทรงโปรดปรานเธอมากขึ้นเรื่อยๆ และพระราชทานของขวัญมากมายให้แก่เธอ ทั้งพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 2 และฮิวจ์ต่างไว้ใจเอเลนอร์มาก ว่ากันว่าเธอถูกส่งไปอยู่ในครัวเรือนของอีซาแบลในฐานะ "แม่บ้าน" หรือไม่ก็สายลับ เธอได้รับอนุญาตให้อ่านจดหมายทุกฉบับของอีซาแบลและคอยจับตาดูพระราชินี ความสัมพันธ์ของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดกับอีซาแบลเลวร้ายลงอย่างหนักในปี ค.ศ. 1324 เมื่อพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดสิ้นความไว้เนื้อเชื่อใจในตัวพระราชินี อีซาแบลถูกมองว่าเป็นสายลับของฝรั่งเศส พระโอรสธิดาถูกพรากไปจากพระนาง เอเลนอร์ได้รับมอบหมายให้ดูแลจอห์นแห่งเอลแธม พระโอรสคนที่สองของอีซาแบล พระราชินีผู้ทนทุกข์มาเป็นเวลานาน

การถูกจองจำ

 
ภาพการประหารชีวิตฮิวจ์ เดสเปนเซอร์ผู้ลูก จากเอกสารของฌ็อง ฟรัวซาร์

ในปี ค.ศ. 1326 อีซาแบลกับโรเจอร์ มอร์ติเมอร์ คนรักของพระนางบุกอังกฤษ พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 2 กับฮิวจ์หนีไปลอนดอน แม้จะเป็นการกระทำที่ขี้ขลาด แต่ทั้งคู่รู้ดีว่าอีซาแบลเกลียดชังพวกตนจับใจและจะถูกจับกุมไม่ได้เด็ดขาด เอเลนอร์กำลังตั้งครรภ์บุตรคนสุดท้ายของตนกับฮิวจ์จึงไม่สามารถเดินทางได้ พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดให้เธออยู่ในหอคอยแห่งลอนดอนซึ่งทรงคิดว่าปลอดภัยสำหรับเธอ

ในอังกฤษประชาชนเกลียดชังเดสเปนเซอร์และหัวเราะเยาะกษัตริย์ผู้อ่อนแอของตนเองจึงปล่อยให้อีซาแบลกับมอร์ติเมอร์ทำตามที่ต้องการ ในเดือนพฤศจิกายนพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดกับฮิวจ์ถูกจับกุมตัว บิดาของฮิวจ์ถูกแขวนคอทันที พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดถูกบีบให้สละบัลลังก์ ฮิวจ์ถูกนำตัวไปพิจารณาคดีและถูกตัดสินว่าทรยศขายชาติและเป็นโจร เขาถูกประหารต่อหน้าสาธารณชนด้วยการแขวนคอจากการเป็นโจร และถูกลากและหั่นเป็นสี่ส่วนจากการทรยศขายชาติ เท่านั้นไม่พอเขายังถูกควักเครื่องในจากการ "สร้างความขัดแย้งระหว่างกษัตริย์กับพระราชินี" และถูกตัดหัวจากการกลับมาอังกฤษทั้งที่ถูกเนรเทศ

ไม่มีใครรู้ว่าเอเลนอร์รู้สึกอย่างไรกับการตายของสามี เธออาจจะรักเขา ภายหลังเธอได้สร้างหลุมฝังศพอันวิจิตรงดงามให้แก่เขาที่วิหารทูว์กสบรี เอเลนอร์ซึ่งกลายเป็นม่ายถูกคุมขังในหอคอยแห่งลอนดอนเป็นเวลาสองปี บุตรชายคนโตของเธอถูกส่งไปอยู่ในครัวเรือนของคนโปรดของอีซาแบลและถูกจำคุกจนถึงปี ค.ศ. 1331 ธิดาสามคนของเธอซึ่งคนโตสมรสแล้ว กับคนเล็กซึ่งยังอยู่ในการอนุบาล ถูกบังคับให้บวชเป็นชีโดยถูกส่งตัวไปคนละอารามกัน การกระทำที่โหดร้ายนี้อาจเป็นผลมาจากความเกลียดชังในช่วงที่เธอเป็นนางสนองพระโอษฐ์ให้อีซาแบล

การสมรสครั้งที่สอง

สองปีต่อมาเอเลนอร์ได้รับการปล่อยตัว ในปี ค.ศ. 1329 เอเลนอร์ถูกวิลเลียม ลา ซอชลักพาตัวไปจากปราสาทฮันลีย์ในวูร์สเตอร์เชอร์เพื่อไปสมรสกับเขา ลา ซอชเป็นลูกพี่ลูกน้องห่างๆ ของโรเจอร์ มอร์ติเมอร์ เขาเป็นหนึ่งในคนที่จับกุมตัวฮิวจ์ เดสเปนเซอร์ในเวลส์ตอนใต้และมีส่วนในการปิดล้อมบุตรชายของเอเลนอร์ที่คายร์ฟิลลีในช่วงปลายปี ค.ศ. 1326 หรือต้นปี ค.ศ. 1327 เอเลนอร์ไม่ใช่หญิงตระกูลเดอ แคลร์คนเดียวที่ถูกลักพาตัว เอลิซาเบธ น้องสาวของเอเลนอร์ก็ถูกลักพาตัวไปสมรสกับตีโบ เดอ แวร์ดง และในปลายคริสต์ทศวรรษ 1330 มาร์กาเร็ต ออดลีย์ หลานสาว (ลูกของพี่น้อง) ของเอเลนอร์ซึ่งเป็นบุตรสาวของมาร์กาเร็ต น้องสาวของเธอก็ประสบกับชะตากรรมแบบเดียวกัน เมื่อเธอถูกราล์ฟ สแตฟฟอร์ดลักพาตัว

ไม่มีใครรู้ว่าเอเลนอร์เต็มใจสมรสหรือไม่ แต่เธอดูมีความสุขดีกับวิลเลียมและไม่ได้ร้องเรียนต่อพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 3 เพื่อขอให้การสมรสเป็นโมฆะซึ่งเธอมีสิทธิ์ทำได้ในทางกฎหมาย เอเลนอร์มีบุตรให้สามีคนที่สองสองคน คือ

  • วิลเลียม เดอ ลา ซอช (เกิด ค.ศ. 1330) เป็นพระที่วิหารกลอสตันบรี
  • จอยส์ ซอช (เกิด ค.ศ 1331) สมรสกับจอห์น เดอ โบเตอตูต์ ลอร์กโบเตอตูต์ที่ 2

โชคดีเป็นของเอเลนอร์เมื่อโชคชะตาพลิกผัน พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 3 น้อยขึ้นมาท้าทายอำนาจของพระราชมารดาและคนรักในปี ค.ศ. 1330 เอเลนอร์ร้องเรียนต่อลูกพี่ลูกน้องของเธอทันทีว่ามอร์ติเมอร์ข่มขู่และกลั่นแกล้งจนเธอต้องยอมลงนามสละสิทธิ์ในที่ดิน พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดรับฟังและคืนแกลมอร์แกนให้แก่เธอ

เอเลนอร์อายุยืนกว่าสามีคนที่สองของเธอ เธอถึงแก่กรรมในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 1337 ด้วยวัย 44 ปี ร่างของเธอถูกฝังที่วิหารทูว์กสบรีร่วมกับบรรพบุรุษและลูกหลานอีกหลายคน เธอกับฮิวจ์ เดสเปนเซอร์ และฮิวจ์ซึ่งเป็นบุตรชายของทั้งคู่ เป็ผู้อุปถัมภ์ใหญ่ของวิหาร

อ้างอิง

  • Women of Edward II's reign: Eleanor de Clare
  • Hidden historical heroines (#14: Eleanor de Clare)

เอเลนอร, เดอ, แคลร, งกฤษ, eleanor, clare, เป, นพระน, ดดาในพระเจ, าเอ, ดเว, ดท, แห, งอ, งกฤษ, และเป, นทายาทในด, นแดนอ, นกว, างใหญ, ไพศาลของตระก, ลเดอ, แคลร, และเป, นภรรยาของฮ, วจ, เดสเปนเซอร, กตราประจำต, วของ, เน, อหา, ยเยาว, การสมรสก, บฮ, วจ, เดสเปนเซอร, ความส. exelnxr edx aekhlr xngkvs Eleanor de Clare epnphranddainphraecaexdewirdthi 1 aehngxngkvs aelaepnthayathindinaednxnkwangihyiphsalkhxngtrakuledx aekhlr aelaepnphrryakhxnghiwc edsepnesxrphuluktrapracatwkhxngexelnxr edx aekhlr enuxha 1 wyeyaw 2 karsmrskbhiwc edsepnesxrphuluk 3 khwamsmphnthkhxnghiwc edsepnesxrkbphraecaexdewirdthi 2 4 karthukcxngca 5 karsmrskhrngthisxng 6 xangxingwyeyaw aekikhexelnxrekidineduxntulakhmhruxphvscikayn kh s 1292 thiprasathkhayrfilliinaeklmxraekn prasathkhnadihythibidakhxngethxepnphusrangkhunma mardakhxngethxkhuxocnaehngexekhxr phrarachthidakhnthisxnginbrrdaphrarachthidahakhnthimichiwitrxdkhxngphraecaexdewirdthi 1 swnbidakhxngethxkhuxkilebirt aedng edx aekhlr exirlthi 7 aehngklxsetxr ethxepnbutrkhnthisxngkhxngkilebirtaelaocn intxnthiexelnxrekidocnmiphrachnmayu 20 phrrsa swnkilebirtmixayu 49 pi exelnxrmiphichayhnungkhnkhuxkilebird butrchayaelathayathkhxngbidamardasungekidinpi kh s 1291 ethxminxngsawsxngkhn khux markaertsungnacaekidinchwngkhrungpiaerkkhxng kh s 1294 sungtxmaklayepnphrryakhxngephiys karewstn kbexlisaebthsungekidineduxnknyayn kh s 1295 exelnxrmixayunxykwaphraecaexdewirdthi 2 phuepnnachayephiyng 8 pikhrungkilebirt phichaykhxngexelnxretibotinkhrweruxnkhxngphrarachinimarekxrit yayeliyngthinacaaekkwakilebirtephiyng 9 pi kilebirtaedng bidakhxngphinxngedx aekhlrthungaekkrrmineduxnthnwakhm kh s 1295 dwywy 52 pi hlngcakthiexlisaebth butrkhnsudthxngekididimkixathity inpi kh s 1296 ocnphuepnmayidykprasathbristxlihepnthiphkxasykhxngluk inchwngtnpi kh s 1297 khnaexelnxrmixayuid 4 pi ocnidsmrsihmkbralf edx mxnethxremxr phutidtamkhxngsamiodythiyngimidrbphrarachanuyatcakphrarachbidathihwngcacbphranangsmrskbekhantaehngsawxy ocnnacaphaluk iprxngkhxkhwamehniccakphrarachbida khadwaphranangkhnghwngihphranddatwnxy chwyeriykkhwamemttacakkstriy aetimidphl ocnthukyudthidin edx mxnethxremxrthukcbkhngkhuk aetsudthaykstriykthaicwaphraxngkhimsamarthykelikkarsmrskhxngthngkhuid aelaxaccadwykhwamrkthimiphrathida emuxehnwaphrananglabakkbkartngkhrrph phraecaexdewirdcungyxmicxxnaelayxmrbkarsmrskarsmrskbhiwc edsepnesxrphuluk aekikhtananelawaexelnxrnnngdngamaelaideruxngidrawthisudinbrrdasamsawphinxngedx aekhlr ethxmikhwamkhlaykhlungkbmardaphuepnkhttiyanarithisud inthanaphisawkhnot ethxsmrsepnkhnaerk ephuxchdichhnithiphraecaexdewirdthi 1 tidhiwc edsepnesxrphuphx trakuledsepnesxraemcaepntrakulphudiekaaek aetimmiysskdiaelathidin exelnxrintxnnnexngkimmiysskdiaelathidinechnkn ethxsmrskbhiwc edsepnesxrphulukdwywyephiyng 13 phrrsa inwnthi 26 phvsphakhm kh s 1306 thiwiharewstminsetxrtxhnakstriy phrarachinimarekxritxacimidiprwmnganenuxngcakephingihkaenidexelnxr phrarachbutrkhnsudthxngkhxngkstriyemuximkixathitykxnhna kstriymiphrachnmayuekuxb 67 phrrsaaelasinphrachnminxikhnungpitxma exelnxr phrathidasungmiskdiepnnakhxngexelnxr edx aekhlrsinphrachnminpi kh s 1311 dwywyphiyng 5 phrrsa ocnaehngexekhxr mardakhxngexelnxrsungmarwmphithismrsdwysinphrachnminxik 11 eduxnhlngphithismrs immiikhrruwaxisaebl obchxmp mardakhxnghiwc edsepnesxrsungepnthidakhxngexirlaehngwxrikhmarwmphithismrsdwyhruxim ethxesiychiwithlngphithismrsephiyng 4 wn aekhkthimarwmphithixikkhnkhuxphraecaexdewirdthi 2 nachaykhxngexelnxrsungidaetngtnghiwcepnxswin phrxmkbkhnxikekuxb 300 khn kxnphithismrsephiyng 4 wn odyintxnnnphraxngkhdarngtaaehnngepnecachayaehngewls exirlaehngechsetxr ekhantaehngpngtieyxaelamngetryl aeladyukhaehngxakiaetn ephiys kaewstn shayrkkhxngphraxngkhidrbaetngtngepnxswininwnthihiwcsmrskbexelnxrhiwcsungxyuinchwngwyruntxnplayimichkhusmrsthiehmaasmsahrbphranddakhnotkhxngkstriy aemcaepnhlanchaykhxngexirl epnhlanchayeliyngkhxngexirlxikkhn exirlaehngnxrfxlksungthungaekkrrminpithihiwcsmrs aelaepnnxngphrryakhxngehnriaehngaelngkhsetxr phraphatiyakhxngkstriy aethiwcimmioxkasthicaidsubthxdtaaehnng bidakhxngekhakhrxbkhrxngdinaednkhnadkwangihyiphsalsungswnihyxyuinmidaelndaelabkkingaehmechxr aethiwcimmisiththiid indinaedncnkwahiwcphuphxcathungaekkrrmnachaykhxngexelnxrkhunkhrxngbllngkepnphraecaexdewirdthi 2 inpi kh s 1307 phraxngkhdurkikhrphraphakhiinyaelaerimphrarachthanthidinihaekethxaelasami thngyngmxbtaaehnngxnepnthiprarthnakhxngikhrhlaykhnihethx odyihethxepnhnunginnangsnxngphraoxsthkhxngxisaaeblaehngfrngess phrarachinithiephingxphiesksmrskn inpi kh s 1309 phraecaexdewirdthi 2 idphrarachthankhvhasnsttninnxrfxlksungekhyepnkhxngxditxswinethmphlarihaekhiwc sungepnkhxngkhwychinediywthiekhaidrbkxncakhunepnkhnoprdkhxngkstriy inpi kh s 1310 hiwcphuphxidykkhvhasnhkhlngihaekbutrchayhnunginsingaerk thiphraecaexdewirdthi 2 thakhuxkarcbphraphakhiinytrakuledx aekhlrsmrs markaertaelaexlisaebthmichiwitsmrsthisnaelaimmikhwamsukh thngkhuepnmaytngaetxayuimthung 20 piaelathukcbsmrsihmthnthikbkhnoprdkhxngphraecaexdewird aetchiwitsmrskhxngexelnxrkbhiwcklbepnipxyangrabrun ethxmibutrthidaihkbhiwcthung 9 khninchwngpi kh s 1308 thung kh s 1325 prakxbdwybutrchaysikhnaelabutrsawhakhnthilwnphkditxphraecaexdewirdaemcaprasbpyhakhwamwunwaythangkaremuxng idaek hiwc edsepnesxr barxnedsepnesxr ekid kh s 1308 butrchaykhnotaelathayath kilebirt edsepnesxr ekid kh s 1309 exdewird edsepnesxr ekid kh s 1310 epnthhar thuksngharinkarpidlxmaewns epnbidakhxngexdewird edsepnesxr barxnedsepnesxrthi 1 xswinaehngkaretxr cxhn edsepnesxr ekid kh s 1311 xisaebl edsepnesxr ekid kh s 1312 smrskbrichard fitsxaln exirlthi 10 aehngxarnedl exelnxr edsepnesxr ekid kh s 1315 epnaemchithiwdkhristesmpringaehm ocn edsepnesxr ekid kh s 1317 epnaemchithiwiharchafthsbri markaert edsepnesxr ekid kh s 1319 epnaemchithiwdkhristwttn exlisaebth edsepnesxr ekid kh s 1325 smrskbmxris edx barkliy barxnbarkliyinyukhthithidinkhuxxanac khwamirxanackhxnghiwcthaihexelnxrimkhxymixiththiphl thwaethxepnthikhunhnakhuntainrachsankinthananangsnxngphraoxsthphutidtamkhxngphrarachinixisaaeblaelarwmedinthangipfrngessphrxmkbphrarachiniinpi kh s 1313 xisaaeblsungepnnasaiphkhxngexelnxrmixayunxykwaethxhlaypiaelamiphutidtamepnklumthidakhunnangthitangkmisami mikhrxbkhrw aelamikhwamrbphidchxbtamrabxbskdinaepnkhxngtnexng exelnxrmikhnaphutidtamkhxngtnexngodycxhn edx ebirkaehmsetdepnmhadelkkhxngethxexelnxryngsnithsnimkbphraecaexdewirdthi 2 nachaythixxkkhaichcaythnghmdihewlathiethxxyuinrachsank bangkhrngaemethxcaimidxyuinrachsankphraxngkhkyngkhngcayih sungepnsiththiphiessthiphraphakhiinykhnxun imid ethxmkpraktxyuinexksarinyukhnninthana eldiexelnxr edsepnesxr phraecaexdewirdimidrkaekhethx aetyngephuxaephkhwamrkipihsamikhxngethxdwyineduxnmithunayn kh s 1314 kilebirt edx aekhlrphuluk exirlaehngklxsetxrwy 23 pi phichaykhxngexelnxrthuksngharrahwangthasmrphumiaebnnxkhebirn phraecaorebirt edxa brus kstriyaehngskxtaelndsungepnlukphiluknxngkhxngexelnxrefasphkhxngexirlaehngklxsetxrthngkhunaelasngkhunklbxngkvsxyangsmekiyrtiodyimeriykrxngkhaichcayid aemphraxngkhcamisiththieriykrxng mathilda phrryamaykhxngexirlaehngklxsetxrprakaswatnexngkalngtngkhrrph sungepnkarokhk kstriyefarxthayaththikalngcaekidkhxngkilebirtdwykhwamxdthn mathildahlxkrthsphaidsampikxnthikhwamcringcathukepidephy rthsphamikhasngihaebngthrphysinthidinkhxngedx aekhlrepnsamswnetha knihaeknxngsawthngsamkhnkhxngexirlaehngklxsetxr enuxngcakkdhmaysmyklangkahndihphinxnghyingidsubthxdmrdketha kn khnathikdbutrkhnotichidkbbutrephschayethannkhwamsmphnthkhxnghiwc edsepnesxrkbphraecaexdewirdthi 2 aekikhhiwckbexelnxridrbaeklmxraeknkbkhvhasnxiksxngsamaehnginxngkvsepnswnaebnginmrdkthidin nxngsawxiksxngkhnkhxngethxintxnnnidsmrskbchaythiphraecaexdewirdthi 2 iwwangic khux markaertkbhiwc xxdliy aelaexlisaebthkborecxr daomri thaihxxdliykbdaomrimngkhngaelamixiththiphlkhunma karaebngthidinkhxngtrakuledx aekhlrepnhnunginehtukarnsakhythiekidkhuninrchsmykhxngphraecaexdewirdthi 2 enuxngcakhiwc edsepnesxrphuthaeyxthayanaelairyangxayidichmrdkkhxngexelnxrsrangxanacihtnexng ekhaidrbeluxkepnmhadelkkhxngphraecaexdewirdinpi kh s 1318 sungepntaaehnngthisungsng bnthukelawaphraecaexdewirdimidkhidxairepnphiesskbhiwcinchwngpiaerk thiruckkn aethlngekhaidepnmhaelkpracaphraxngkh chaythngsxngksnithsnmknmakkhun hiwcidichkhwamiklchidthaihkstriylumhlngaelaphyayamyudkhrxngmrdkedx aekhlrthnghmdthixyuinewlstxnitepnthirbruknwaphraecaexdewirdthi 2 epnphwkrkrwmephs phraxngkhhlngihl hruxxaccahlngrksamikhxngphraphakhiinyaelaerimaesdngxxkwathrngoprdpranekhaepnxyangmak hiwchlngihlinxanacthiidrbcakkarepnkhnoprdaelaklayepnthrrachy ekhachkchwythidin enginthxng aelathucritchxchl immiikhrruwaexelnxrkhidxyangirkbphvtikrrmxnirsilthrrmkhxngsamithiridithexathidinaelathrphysintang makmaysunghnunginnnkhuxthidinsungepnkhxngexlisaebth nxngsawkhxngexelnxr aelaimmiikhrruwaethxkhidxyangireruxngkhwamsmphnthkhxngekhakbkstriysungepnnachaykhxngethx epnipidsungwahiwckhuxkhnrkkhxngphraecaexdewirdthi 2 phraxngkhhlngihlekhamak thwahiwcyngkhngmikhwamsmphnththangephskbexelnxrxyu butrcanwnhnungkhxngthngkhuekidhlngcakthihiwcerimmikhwamsmphnthkbphraecaexdewirdthwabangkhnklbechuxwakhnthimikhwamsmphnthchusawkbkstriyinewlannkhuxexelnxr orebirtaehngerdingidklawiwwaphraecaexdewirdnnhlngraeringkb khwamsmphnththangephsxnchwrayaelatxngham aela ptiesthxxmkxdchnthsamiphrryaxnaesnhwankhxngphrarachinixisaaebl sung khwamsmphnththangephsxnchwrayaelatxngham thiklawthungxacimichkarrwmpraewnithangthwarhnkkbhiwcxyangthikhnswnihytikhwam aetxacepnkarrwmpraewniinekhruxyatikbexelnxr phraxngkhichewlamakmayxyukbexelnxr thngtamlaphngsxngtxsxngaelamihiwcxyudwy thrngoprdpranethxmakkhuneruxy aelaphrarachthankhxngkhwymakmayihaekethx thngphraecaexdewirdthi 2 aelahiwctangiwicexelnxrmak waknwaethxthuksngipxyuinkhrweruxnkhxngxisaaeblinthana aemban hruximksaylb ethxidrbxnuyatihxancdhmaythukchbbkhxngxisaaeblaelakhxycbtaduphrarachini khwamsmphnthkhxngphraecaexdewirdkbxisaaeblelwraylngxyanghnkinpi kh s 1324 emuxphraecaexdewirdsinkhwamiwenuxechuxicintwphrarachini xisaaeblthukmxngwaepnsaylbkhxngfrngess phraoxrsthidathukphrakipcakphranang exelnxridrbmxbhmayihduaelcxhnaehngexlaethm phraoxrskhnthisxngkhxngxisaaebl phrarachiniphuthnthukkhmaepnewlanankarthukcxngca aekikh phaphkarpraharchiwithiwc edsepnesxrphuluk cakexksarkhxngchxng frwsar inpi kh s 1326 xisaaeblkborecxr mxrtiemxr khnrkkhxngphranangbukxngkvs phraecaexdewirdthi 2 kbhiwchniiplxndxn aemcaepnkarkrathathikhikhlad aetthngkhurudiwaxisaaeblekliydchngphwktncbicaelacathukcbkumimideddkhad exelnxrkalngtngkhrrphbutrkhnsudthaykhxngtnkbhiwccungimsamarthedinthangid phraecaexdewirdihethxxyuinhxkhxyaehnglxndxnsungthrngkhidwaplxdphysahrbethxinxngkvsprachachnekliydchngedsepnesxraelahweraaeyaakstriyphuxxnaexkhxngtnexngcungplxyihxisaaeblkbmxrtiemxrthatamthitxngkar ineduxnphvscikaynphraecaexdewirdkbhiwcthukcbkumtw bidakhxnghiwcthukaekhwnkhxthnthi phraecaexdewirdthukbibihslabllngk hiwcthuknatwipphicarnakhdiaelathuktdsinwathryskhaychatiaelaepnocr ekhathukprahartxhnasatharnchndwykaraekhwnkhxcakkarepnocr aelathuklakaelahnepnsiswncakkarthryskhaychati ethannimphxekhayngthukkhwkekhruxngincakkar srangkhwamkhdaeyngrahwangkstriykbphrarachini aelathuktdhwcakkarklbmaxngkvsthngthithukenrethsimmiikhrruwaexelnxrrusukxyangirkbkartaykhxngsami ethxxaccarkekha phayhlngethxidsranghlumfngsphxnwicitrngdngamihaekekhathiwiharthuwksbri exelnxrsungklayepnmaythukkhumkhnginhxkhxyaehnglxndxnepnewlasxngpi butrchaykhnotkhxngethxthuksngipxyuinkhrweruxnkhxngkhnoprdkhxngxisaaeblaelathukcakhukcnthungpi kh s 1331 thidasamkhnkhxngethxsungkhnotsmrsaelw kbkhnelksungyngxyuinkarxnubal thukbngkhbihbwchepnchiodythuksngtwipkhnlaxaramkn karkrathathiohdraynixacepnphlmacakkhwamekliydchnginchwngthiethxepnnangsnxngphraoxsthihxisaaeblkarsmrskhrngthisxng aekikhsxngpitxmaexelnxridrbkarplxytw inpi kh s 1329 exelnxrthukwileliym la sxchlkphatwipcakprasathhnliyinwursetxrechxrephuxipsmrskbekha la sxchepnlukphiluknxnghang khxngorecxr mxrtiemxr ekhaepnhnunginkhnthicbkumtwhiwc edsepnesxrinewlstxnitaelamiswninkarpidlxmbutrchaykhxngexelnxrthikhayrfilliinchwngplaypi kh s 1326 hruxtnpi kh s 1327 exelnxrimichhyingtrakuledx aekhlrkhnediywthithuklkphatw exlisaebth nxngsawkhxngexelnxrkthuklkphatwipsmrskbtiob edx aewrdng aelainplaykhristthswrrs 1330 markaert xxdliy hlansaw lukkhxngphinxng khxngexelnxrsungepnbutrsawkhxngmarkaert nxngsawkhxngethxkprasbkbchatakrrmaebbediywkn emuxethxthukralf saetffxrdlkphatwimmiikhrruwaexelnxretmicsmrshruxim aetethxdumikhwamsukhdikbwileliymaelaimidrxngeriyntxphraecaexdewirdthi 3 ephuxkhxihkarsmrsepnomkhasungethxmisiththithaidinthangkdhmay exelnxrmibutrihsamikhnthisxngsxngkhn khux wileliym edx la sxch ekid kh s 1330 epnphrathiwiharklxstnbri cxys sxch ekid kh s 1331 smrskbcxhn edx obetxtut lxrkobetxtutthi 2ochkhdiepnkhxngexelnxremuxochkhchataphlikphn phraecaexdewirdthi 3 nxykhunmathathayxanackhxngphrarachmardaaelakhnrkinpi kh s 1330 exelnxrrxngeriyntxlukphiluknxngkhxngethxthnthiwamxrtiemxrkhmkhuaelaklnaeklngcnethxtxngyxmlngnamslasiththiinthidin phraecaexdewirdrbfngaelakhunaeklmxraeknihaekethxexelnxrxayuyunkwasamikhnthisxngkhxngethx ethxthungaekkrrmineduxnmithunayn kh s 1337 dwywy 44 pi rangkhxngethxthukfngthiwiharthuwksbrirwmkbbrrphburusaelalukhlanxikhlaykhn ethxkbhiwc edsepnesxr aelahiwcsungepnbutrchaykhxngthngkhu epphuxupthmphihykhxngwiharxangxing aekikhWomen of Edward II s reign Eleanor de Clare Hidden historical heroines 14 Eleanor de Clare ekhathungcak https th wikipedia org w index php title exelnxr edx aekhlr amp oldid 8348506, wikipedia, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด,

บทความ

, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม