ไพบูลย์ บุตรขัน
ไพบูลย์ บุตรขัน (4 กันยายน พ.ศ. 2461 - 29 สิงหาคม พ.ศ. 2515) นักแต่งเพลง และนักเขียนบทละคร ที่มีผลงานที่มีชื่อเสียงจำนวนมาก จนได้รับการขนานนามให้เป็น "อัจฉริยะนักแต่งเพลงอันดับหนึ่งของไทย"
ไพบูลย์ บุตรขัน | |
---|---|
หุ่นรูปครูไพบูลย์ บุตรขัน ที่พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งไทย | |
สารนิเทศภูมิหลัง | |
เกิด | 4 กันยายน พ.ศ. 2461 ไพบูลย์ ประณีต จังหวัดปทุมธานี ประเทศสยาม |
เสียชีวิต | 29 สิงหาคม พ.ศ. 2515 (53 ปี) นครหลวงกรุงเทพธนบุรี ประเทศไทย |
คู่สมรส | ดวงเดือน บุตรขัน (พ.ศ. 2511 - 2515) |
อาชีพ | นักแต่งเพลง, นักเขียนบทละคร |
ปีที่แสดง | พ.ศ. 2490 - พ.ศ. 2515 |
ประวัติ
ครูไพบูลย์ บุตรขัน เดิมชื่อ ไพบูลย์ ประณีต เกิดที่บ้านท้องคุ้ง ตำบลเชียงรากใหญ่ อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี เป็นบุตรของนายบุตร และนางพร้อม ประณีต ครอบครัวมีอาชีพทำนา มีฐานะยากจน มีพี่น้อง 3 คน เมื่ออายุได้ 6 ปี บิดาเสียชีวิต จึงได้รับการเลี้ยงดูโดยนายเจน บุตรขัน ผู้เป็นอา นำไปอยู่ที่อำเภอปทุมวัน กรุงเทพ และได้เปลี่ยนนามสกุลจากประณีต มาเป็นบุตรขัน
ไพบูลย์ บุตรขัน เริ่มศึกษาชั้นประถมต้นที่จังหวัดปทุมธานี ประถมปลายที่โรงเรียนสตรีปทุมวัน และศึกษาจนจบมัธยม 8 ที่โรงเรียนสวัสดิ์อำนวยเวทย์ กรุงเทพ และศึกษาดนตรีเพิ่มเติมจากครูพิณ โปร่งแก้วงาม ราวปี พ.ศ. 2476-2478 และเรียนวิชาดนตรีและโน้ตเพลงสากลเพิ่มเติมที่สมาคมวายเอ็มซีเอ แถบถนนวรจักร และได้ใช้โน้ตดนตรีประกอบการแต่งเพลงทุกครั้งตั้งแต่นั้นมา
หลังจากเรียนจบ ไพบูลย์ บุตรขัน ได้ทำงานเป็นครูสอนภาษาไทยที่โรงเรียนกว๋องสิว แล้วลาออกไปทำงานเป็นช่างไฟฟ้าที่โรงไฟฟ้าสามเสน แล้วลาออกไปทำงานกับคณะละคร คณะแม่แก้ว และคณะจันทโรภาส ของพรานบูรพ์ ทำหน้าที่เขียนบทละครวิทยุ และแต่งเพลง
งานเพลงของไพบูลย์ บุตรขัน เริ่มบันทึกแผ่นเสียงเมื่อประมาณ พ.ศ. 2490 จากการชักนำของ สวัสดิภาพ บุนนาค ซึ่งเป็นเพื่อนและน้องเขย เพลงในยุคแรกได้แก่เพลง "มนต์เมืองเหนือ" "คนจนคนจร" "ดอกไม้หน้าพระ" "ดอกไม้หน้าฝน" และ "ค่าน้ำนม" และได้รับการยกย่องว่าเป็นงานที่มีคุณค่า และได้รับรางวัลแผ่นเสียงทองคำพระราชทาน เช่น "โลกนี้คือละคร" (ขับร้องโดย ปรีชา บุณยะเกียรติ) "เบ้าหลอมดวงใจ" และ "มนต์รักลูกทุ่ง" (ขับร้องโดย ไพรวัลย์ ลูกเพชร) "ฝนเดือนหก" (ขับร้องโดย รุ่งเพชร แหลมสิงห์) "ยมบาลเจ้าขา" (ขับร้องโดย บุปผา สายชล)
"กลิ่นโคลนสาปควาย" (แต่งขึ้นในปี พ.ศ. 2496 ขับร้องโดยชาญ เย็นแข) เป็นอีกผลงานชิ้นสำคัญชิ้นหนึ่งของของไพบูลย์ บุตรขัน ที่ทางราชการไทยเคยประกาศห้ามเปิดในช่วงการปราบปรามคอมมิวนิสต์ แม้จะมีการห้ามจากทางการแต่ยิ่งห้ามก็มีผู้ฟังซื้อแผ่นเสียงไปฟังเป็นจำนวนมาก เพลงนี้ยังได้รับยกย่องให้เป็นรากฐานของเพลงลูกทุ่งอีกด้วยเพราะในอดีตก่อน พ.ศ. 2500 นั้นเพลงในประเทศไทยยังมิได้แบ่งแยก ยุคสมัยที่ยังไม่ได้มีการแบ่งแยกเพลงลูกกรุงและเพลงลูกทุ่งออกจากกันอย่างชัดเจน
หลังจากเสียชีวิตไปแล้วหลายปี ในปี พ.ศ. 2532 เพลงของครูไพบูลย์ ได้รับรางวัลพระราชทานในงานกึ่งศตวรรษเพลงลูกไทย ถึง 10 เพลง ได้แก่ "ชายสามโบสถ์" (ขับร้องโดย คำรณ สัมบุญณานนท์) "น้ำตาเทียน" (ขับร้องโดย ทูล ทองใจ) "บ้านไร่นารัก" และ "เพชรร่วงในสลัม" (ขับร้องโดย ชินกร ไกรลาศ) "ฝนซาฟ้าใส" (ขับร้องโดย ยุพิน แพรทอง) "ฝนเดือนหก" (ขับร้องโดย รุ่งเพชร แหลมสิงห์) "บุพเพสันนิวาส" และ "มนต์รักแม่กลอง" (ขับร้องโดย ศรคีรี ศรีประจวบ) "มนต์รักลูกทุ่ง" (ขับร้องโดย ไพรวัลย์ ลูกเพชร) และ "ยมบาลเจ้าขา" (ขับร้องโดย บุปผา สายชล) และในปี พ.ศ. 2534 ได้รับรางวัลจากเพลง "หนุ่มเรือนแพ" (ขับร้องโดย กาเหว่า เสียงทอง)
ผลงาน
ผลงานเพลง ที่ได้รับความนิยมทั้งในยุคต้นและยุคหลัง ได้แก่
- เพลงกลิ่นโคลนสาบควาย - ชาญ เย็นแข
- เพลงกลิ่นเกล้า - นริศ อารีย์
- เพลงขวัญใจคนจน - ปรีชา บุณยเกียรติ
- เพลงค่าน้ำนม - ชาญ เย็นแข
- เพลงชายสามโบสถ์ - คำรณ สัมบุณณานนท์
- เพลงดอกดินถวิลฟ้า - ชัยชนะ บุญนะโชติ
- เพลงตะรางดวงใจ ชาญ เย็นแข
- เพลงทะเลร่ำไห้ ลัดดา ศรีวรนันท์
- เพลงน้ำตาเทียน ทูล ทองใจ
- เพลงน้องนางบ้านนา - สมยศ ทัศนพันธุ์
- เพลงน้ำลงเดือนยี่ รุ่งเพชร แหลมสิงห์
- เพลงบุพเพสันนิวาส - ศรคีรี ศรีประจวบ
- เพลงฝนเดือนหก รุ่งเพชร แหลมสิงห์
- เพลงเพชรร่วงในสลัม - (ชินกร ไกรลาศ)
- เพลงมนต์เมืองเหนือ - สมยศ ทัศนพันธุ์
- เพลงถึงแม้พี่นี้จะขี้เมา นริศ ทองอารีย์
- เพลงเมาเหล้าเมารัก ชาตรี ศรีชล
- เพลงแม่ศรีเรือน (ชาญ เย็นแข)
- เพลงมนต์รักลูกทุ่ง (ไพรวัลย์ ลูกเพชร)
- เพลงมนต์รักอสูร (วินัย จุลละบุษปะ ทัศนัย ชอุ่มงาม )
- เพลงแม่แตงร่มใบ ชัยชนะ บุญนะโชติ
- เพลงมือพี่มีพลัง ปรีชา บุณยเกียรติ
- เพลงรอยรักรอยไถ สมยศ ทัศนพันธุ์
- เพลงรูปหล่อถมไป บุปผา สายชล
- เพลงโลกนี้คือละคร ปรีชา บุณยเกียรติ
- เพลงลิเกชีวิต ปรีชา บุณยเกียรติ ศิริ คุ้มอยู่
- เพลงแว่วเสียงซึง เรียม ดาราน้อย
- เพลงสาวชาวสวน ผ่องศรี วรนุช
- เพลงเสียงกระซิบสั่ง สมยศ ทัศนพันธุ์
- เพลงสามหัวใจ ชาญ เย็นแข
- เพลงอันเป็นดวงใจ ทูล ทองใจ
- เพลงโอ้ทูลกระหม่อม ลัดดา ศรีวรนันท์
- กลิ่นธูปสุโขทัย ไพรวัลย์ ลูกเพชร
ฯลฯ
ชีวิตส่วนตัว
ตั้งแต่วัยหนุ่ม ครูไพบูลย์ บุตรขัน ป่วยเป็นโรคเรื้อนและไม่มีเงินรักษาอย่างจริงจัง ครูไพบูลย์เก็บตัวเงียบไม่ออกสังคม โดยได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดจากนางพร้อม ประณีต ผู้เป็นมารดาจนนางพร้อมเสียชีวิตในปี พ.ศ. 2508 แต่ได้ความช่วยเหลือจากเพื่อนฝูง พาไปรักษาจนหายดี แต่ก็ยังมีร่างกายพิการ ต่อมาได้กลับมาเป็นโรคร้ายอีกครั้ง และใช้ยาเสพติดเพื่อบรรเทาอาการ และเข้าบำบัดที่สำนักสงฆ์ถ้ำกระบอกจนหายขาดในปี พ.ศ. 2502
ครูไพบูลย์ บุตรขัน สมรสกับ ดวงเดือน บุตรขัน นักแต่งเพลงลูกศิษย์ครูไสล ไกรเลิศ ที่เป็นเพื่อนกัน ทั้งคู่ร่วมงานกันและแต่งงานกันในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2511 แต่ครูไพบูลย์ได้ล้มป่วยด้วยโรคลำไส้ อาเจียนเป็นเลือด หลังจากนั้นไม่นาน จนกระทั่งเสียชีวิตเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2515 (อายุ 56 ปี) มีพิธีพระราชทานเพลิงศพเมื่อเดือนมกราคม พ.ศ. 2516
อ้างอิง
- เจนภพ จบกระบวนวรรณ. เพลงลูกทุ่ง, TK Park Music Library ชุดดนตรีไทย. กรุงเทพ : สำนักงานอุทยานการเรียนรู้, พ.ศ. 2550. 176 หน้า. หน้า หน้าที่. ISBN 978-974-8218-83-0
- ↑ . คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 2008-02-17. สืบค้นเมื่อ 2008-03-02.
- http://www.maemaiplengthai.com/webboard/viewthread.php?tid=175
- แม่ไม้เพลงไทย รำลึกไพบูลย์ บุตรขัน โดย วัฒน์ วรรลยางกูร
- วัฒน์ วรรลยางกูร, สารคดีชีวิต คีตกวีลูกทุ่ง ไพบูลย์ บุตรขัน, แพรวสำนักพิมพ์, 2541, 230 หน้า, ISBN 974-8249-88-1
แหล่งข้อมูลอื่น
- ประวัติครูไพบูลย์ บุตรขัน 2 3 4 5 โดย คีตา พญาไท