fbpx
วิกิพีเดีย

การเลี้ยวเบน

การเลี้ยวเบน (อังกฤษ: diffraction) คือการที่เมื่อคลื่นผ่านรูที่เล็กมาก ๆ แล้วมีขนาดใหญ่กว่ารู ถ้าคลื่นไม่มีการเลี้ยวเบน คลื่นที่ผ่านออกไปจะมีขนาดเท่ากับรูนั้น

การเลี้ยวเบนของคลื่นเกิดขึ้นได้ เมื่อคลื่นจากแหล่งกำเนิดเดินทางไปพบสิ่งกีดขวางที่มีลักษณะเป็นขอบหรือช่อง ทำให้คลื่นเคลื่อนที่เลี้ยวอ้อมผ่านสิ่งกีดขวางไปได้  อธิบายได้โดยใช้ หลักของฮอยเกนส์  ซึ่งกล่าวไว้ว่า “ทุก ๆ จุดบนหน้าคลื่นอาจถือได้ว่าเป็นจุดกำเนิดคลื่นใหม่ที่ให้คลื่นความยาวคลื่นเดิมและเฟสเดียวกัน”

ภาพแสดงคลื่นเลี้ยวเบนผ่านช่องเปิด

เมื่อคลื่นเคลื่อนที่กระทบกับสิ่งกีดขวาง คลื่นส่วนที่กระทบสิ่งกีดขวางจะสะท้อนกลับมา  คลื่นบางส่วนที่ผ่านไปได้ที่ขอบหรือช่องเปิด จะสามารถแผ่จากขอบของสิ่งกีดขวางเข้าไปทางด้านหลังของสิ่งกีดขวางนั้น คล้ายกับคลื่นเคลื่อนที่อ้อมผ่านสิ่งกีดขวางนั้นได้เรียกปรากฏการณ์นี้ ว่า “การเลี้ยวเบน”

เมื่อให้คลื่นต่อเนื่องเส้นตรงความยาวคลื่นคงตัวเคลื่อนที่ผ่านสิ่งกีดขวาง ที่มีลักษณะเป็นช่องเปิดที่เรียกว่า สลิต (slit) การเลี้ยวเบนจะแตกต่างกันโดยลักษณะคลื่นที่เลี้ยวเบนผ่านไปได้จะขึ้นอยู่กับ ความกว้างของสลิต

  • เมื่อคลื่นเลี้ยวเบนผ่านช่องแคบมาก ๆ จะเลี้ยวเบนได้อย่างเด่นชัด (ได้หน้าคลื่นวงกลม)
  • การเลี้ยวเบนเมื่อช่องกว้างใกล้เคียงกับความยาวคลื่นตกกระทบ
  • การเลี้ยวเบนเมื่อช่องกว้างมากกว่าความยาวคลื่นตกกระทบ จะเกิดการแทรกสอดหลังเลี้ยวเบน
  • การเลี้ยวเบนเมื่อช่องกว้างมาก ๆ  เมื่อเทียบกับความยาวคลื่น จะไม่เกิดการแทรกสอดหลังเลี้ยวเบน

การเลี้ยวเบนผ่านช่องเดี่ยว

ในกรณีที่มีขบวนวงโยธวาทิตผ่านไปตามท้องถนน พบว่าเสียงกลอง (หน้าคลื่นสีแดง) ซึ่งมีความถี่ต่ำแต่ความยาวคลื่นยาว จะเลี้ยวเบนได้ดีกว่าเสียงจากเครื่องเป่า (หน้าคลื่นสีน้ำเงิน) ซึ่งมีความถี่เสียงสูง เนื่องจากการเลี้ยวเบนดีช่องกว้างต้องเท่ากับหรือใกล้เคียงความยาวคลื่นเสียง

  • การเลี้ยวเบนผ่านช่องเปิดเดี่ยว (single slit) บางกรณีหลังจากเลี้ยวเบนแล้วไปเกิดการแทรกสอดกันอีก เกิดแนวบัพและปฏิบัพ
แนวปฏิบัพ (เสียงดัง) แนวบัพ (เสียงเบา)
d sin Ө = nג d sin Ө = (n+1/2) ג

การเลี้ยวเบนผ่านช่องแคบคู่

เมื่อคลื่นเคลื่อนที่ผ่านช่องแคบคู่ (double slits) ซึ่งมีขนาดช่องเล็ก ๆ พบว่าช่องเล็ก ๆ นั้นทำหน้าที่เป็นแหล่งกำเนิดคลื่นแหล่งใหม่ที่กระจายคลื่นวงกลมออกมา เกิดการแทรกสอดกันเป็นไปตามกฎการแทรกสอด ของแหล่งกำเนิดคลื่นสองแหล่งจริงๆ ปรากฏเป็นแนวปฏิบัพและบัพดังรูป

 
การเลี้ยวเบนผ่านช่องแคบคู่

อ้างอิง

  1. https://maytimblog.wordpress.com/2013/02/10/การเลี้ยวเบน/
  2. http://www.il.mahidol.ac.th/e-media/waves/properties/diffraction.html

การเล, ยวเบน, งกฤษ, diffraction, อการท, เม, อคล, นผ, านร, เล, กมาก, แล, วม, ขนาดใหญ, กว, าร, าคล, นไม, คล, นท, านออกไปจะม, ขนาดเท, าก, บร, นของคล, นเก, ดข, นได, เม, อคล, นจากแหล, งกำเน, ดเด, นทางไปพบส, งก, ดขวางท, กษณะเป, นขอบหร, อช, อง, ทำให, คล, นเคล, อนท, เ. kareliywebn xngkvs diffraction khuxkarthiemuxkhlunphanruthielkmak aelwmikhnadihykwaru thakhlunimmikareliywebn khlunthiphanxxkipcamikhnadethakbrunnkareliywebnkhxngkhlunekidkhunid emuxkhluncakaehlngkaenidedinthangipphbsingkidkhwangthimilksnaepnkhxbhruxchxng thaihkhlunekhluxnthieliywxxmphansingkidkhwangipid xthibayidodyich hlkkhxnghxyekns sungklawiwwa thuk cudbnhnakhlunxacthuxidwaepncudkaenidkhlunihmthiihkhlunkhwamyawkhlunedimaelaefsediywkn phaphaesdngkhluneliywebnphanchxngepid emuxkhlunekhluxnthikrathbkbsingkidkhwang khlunswnthikrathbsingkidkhwangcasathxnklbma khlunbangswnthiphanipidthikhxbhruxchxngepid casamarthaephcakkhxbkhxngsingkidkhwangekhaipthangdanhlngkhxngsingkidkhwangnn khlaykbkhlunekhluxnthixxmphansingkidkhwangnnideriykpraktkarnni wa kareliywebn emuxihkhluntxenuxngesntrngkhwamyawkhlunkhngtwekhluxnthiphansingkidkhwang thimilksnaepnchxngepidthieriykwa slit slit kareliywebncaaetktangknodylksnakhlunthieliywebnphanipidcakhunxyukb khwamkwangkhxngslit emuxkhluneliywebnphanchxngaekhbmak caeliywebnidxyangednchd idhnakhlunwngklm kareliywebnemuxchxngkwangiklekhiyngkbkhwamyawkhluntkkrathb kareliywebnemuxchxngkwangmakkwakhwamyawkhluntkkrathb caekidkaraethrksxdhlngeliywebn kareliywebnemuxchxngkwangmak emuxethiybkbkhwamyawkhlun caimekidkaraethrksxdhlngeliywebn 1 kareliywebnphanchxngediyw aekikhinkrnithimikhbwnwngoythwathitphaniptamthxngthnn phbwaesiyngklxng hnakhlunsiaedng sungmikhwamthitaaetkhwamyawkhlunyaw caeliywebniddikwaesiyngcakekhruxngepa hnakhlunsinaengin sungmikhwamthiesiyngsung enuxngcakkareliywebndichxngkwangtxngethakbhruxiklekhiyngkhwamyawkhlunesiyng kareliywebnphanchxngepidediyw single slit bangkrnihlngcakeliywebnaelwipekidkaraethrksxdknxik ekidaenwbphaelaptibphaenwptibph esiyngdng aenwbph esiyngeba d sin Ө nג d sin Ө n 1 2 ג 2 kareliywebnphanchxngaekhbkhu aekikhemuxkhlunekhluxnthiphanchxngaekhbkhu double slits sungmikhnadchxngelk phbwachxngelk nnthahnathiepnaehlngkaenidkhlunaehlngihmthikracaykhlunwngklmxxkma ekidkaraethrksxdknepniptamkdkaraethrksxd khxngaehlngkaenidkhlunsxngaehlngcring praktepnaenwptibphaelabphdngrup kareliywebnphanchxngaekhbkhuxangxing aekikh https maytimblog wordpress com 2013 02 10 kareliywebn http www il mahidol ac th e media waves properties diffraction html bthkhwamekiywkbwithyasastrniyngepnokhrng khunsamarthchwywikiphiediyidodyephimkhxmul duephimthi sthaniyxy withyasastrekhathungcak https th wikipedia org w index php title kareliywebn amp oldid 9409381, wikipedia, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด,

บทความ

, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม