พระยารำไพพงษ์บริพัตร (จิตร บุนนาค)
หัวข้อของชีวประวัตินี้อาจไม่ผ่านแนวปฏิบัติความโดดเด่นทั่วไปหรือบทความบุคคล (พฤษภาคม 2021) (เรียนรู้ว่าจะนำสารแม่แบบนี้ออกได้อย่างไรและเมื่อไร) |
มหาอำมาตย์ตรี พระยารำไพพงษ์บริพัตร (จิตร บุนนาค) (19 กันยายน 2407 - 6 มีนาคม 2470) ขุนนางชาวไทยในตำแหน่งนายช่างในกรมรถไฟ
ประวัติ
พระยารำไพพงษ์บริพัตรเกิดเมื่อวันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2407 ในปลายรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นบุตรชายของ พระยามนตรีสุริยวงศ์ (ชุ่ม บุนนาค) และนางเจียม อนุภรรยา เป็นหลานปู่ของ สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาประยูรวงศ์ (ดิศ บุนนาค) หลานตาของ พระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช (แย้ม สินสุข) เจ้ากรมใน สมเด็จพระราชปิตุลาบรมพงศาภิมุข เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์ กรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช ซึ่งสืบเชื้อสายมาจาก สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช และเป็นหลานลุงของ สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค)
ต่อมาในปี พ.ศ. 2420 ขณะอายุได้ 13 ปี ได้เดินทางไปศึกษาต่อที่ประเทศเยอรมนีเป็นเวลา 13 ปี จึงได้เดินทางกลับสยามเมื่อปี พ.ศ. 2433 ขณะอายุได้ 26 ปีและได้เข้ารับราชการในตำแหน่งล่ามประจำกรมท่า (กระทรวงการต่างประเทศในปัจจุบัน) ปีถัดมาคือในปี พ.ศ. 2434 นายจิตรได้เข้าพิธีอุปสมบท ณ วัดพิชยญาติการาม เป็นเวลา 1 พรรษา จากนั้นจึงได้โอนย้ายมารับราชการใน กรมรถไฟ ในตำแหน่งนายช่างผู้ช่วย กระทั่งปี พ.ศ. 2437 จึงได้เลื่อนเป็นนายช่างภาค หรือ section engineer
กระทั่งวันที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2438 นายจิตรจึงได้รับพระราชทานสัญญาบัตรบรรดาศักดิ์เป็น หลวงรำไพพงษ์บริพัตร ถือศักดินา ๖๐๐ จากนั้นในวันที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2448 ระหว่างที่ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินเปิดเส้นทางรถไฟสายเหนือที่สถานีบ้านภาชี ได้โปรดเกล้าฯ พระราชทานสัญญาบัตรบรรดาศักดิ์เลื่อน หลวงรำไพพงษ์บริพัตร เป็นพระในราชทินนามเดิมถือศักดินา ๘๐๐
กระทั่งวันที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2454 ซึ่งตรงกับต้นรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ พระราชทานยศให้ พระรำไพพงษ์บริพัตร ประจำกรมรถไฟ กระทรวงโยธาธิการ เป็นอำมาตย์ตรี จากนั้นในปี พ.ศ. 2455 ได้เลื่อนตำแหน่งเป็น นายช่างด้าน ต่อมาในวันที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2456 ได้รับโปรดเกล้าฯ พระราชทานยศให้เป็น อำมาตย์โท
มหาอำมาตย์ตรี พระยารำไพพงษ์บริพัตร ถึงแก่อนิจกรรมด้วยไข้พิษเมื่อวันที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2470 สิริอายุได้ 63 ปี เวลาพระราชทานน้ำหลวงอาบศพมีประโคมกลองชนะ ๘ จ่าปี่ ๑ พระราชทานหีบทองลายองุ่น ตั้งบนชั้น ๒ ชั้น ฉัตรเบญจา ๔ คันเป็นเกียรติยศ
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
- พ.ศ. ๒๔๔๐ – เหรียญดุษฎีมาลา เข็มศิลปวิทยา (ร.ด.ม.(ศ))
- พ.ศ. ไม่ปรากฏ – เหรียญจักรพรรดิมาลา (ร.จ.พ.)
- พ.ศ. ไม่ปรากฏ – เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้นที่ 2 ทุติยจุลจอมเกล้า (ท.จ.)
- พ.ศ. ไม่ปรากฏ – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นที่ 2 ทวีติยาภรณ์มงกุฎไทย (ท.ม.)
- พ.ศ. ไม่ปรากฏ – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นที่ 3 ตริตาภรณ์ช้างเผือก (ต.ช.)
อ้างอิง
- พระราชทานสัญญาบัตร
- พระราชทานสัญญาบัตรขุนนาง
- พระบรมราชโองการ ประกาศพระราชทานยศ แก่ข้าราชการกระทรวงโยธาธิการ (หน้า ๑๐๓๐)
- พระราชทานยศ
- ข่าวตาย
- พระราชทานเหรียญดุษฎีมาลา