วิชา มหาคุณ
ศาสตราจารย์พิเศษ วิชา มหาคุณ (เกิด 8 มีนาคม พ.ศ. 2489) คณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต และ ผู้อำนวยการหลักสูตรนิติศาสตรดุษฎีบัณฑิตคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต อดีตกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และอดีตประธานแผนกคดีเยาวชนและครอบครัวในศาลฎีกา
วิชา มหาคุณ | |
---|---|
กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ | |
ดำรงตำแหน่ง 22 กันยายน 2549 – 30 ธันวาคม 2558 | |
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | 8 มีนาคม พ.ศ. 2489 (75 ปี) |
การศึกษา
- ปริญญาตรี นิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- ปริญญาโท นิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- ปริญญาโท รัฐศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
- เนติบัณฑิตไทย สำนักอบรมศึกษากฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภา
- ปริญญาบัตรการป้องกันราชอาณาจักร รุ่นที่ 41วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร
- ประกาศนียบัตรการเมืองการปกครองในระบประชาธิปไตยสำหรับนักบริหารระดับสูง รุ่นที่ 11 (สถาบันพระปกเกล้า)
- ประกาศนียบัตรวิทยาลัยตลาดทุน (รุ่นที่10)
- หลักสูตรนิติธรรมเพื่อประชาธิปไตย (รุ่นที่ 3)
- นิติศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
- รัฐประศาสนศาสตร์ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า)
และได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่ง ศาสตราจารย์พิเศษ แห่งคณะนิติศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เคยได้รับทุนจาก มูลนิธิร็อกกีเฟลเลอร์ ให้ศึกษาวิจัยเรื่อง "การเผยแพร่ความรู้กฎหมายไปสู่ชนบท" ณ ศูนย์ศึกษาเบลลาจิโอ ประเทศอิตาลี กับ
เคยได้รับทุนจาก องค์การอนุเคราะห์เด็กแห่งนอรเวย์ ให้ศึกษาวิจัยเรื่อง "การทารุณกรรมเด็ก"
รวมทั้งได้รับทุนฝึกอบรมด้านบำบัดผู้ติดยาเสพติด ณ. นครนิวยอร์ก จากองค์การเดท็อปแห่งสหรัฐอเมริกา
และผ่านการศึกษาหลักสูตร Cambridge-Thammasat Executive Education Programme ณ มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ประเทศอังกฤษ
วิชาจบการศึกษาปริญญาตรี และปริญญาโทจากคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เนติบัณฑิตไทยสำนักอบรมศึกษากฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภา ปริญญาโทรัฐศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ปริญญาบัตรการป้องกันราชอาณาจักรวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร รุ่นที่ 41 ประกาศนียบัตรการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตยสำหรับนักบริหารระดับสูง รุ่นที่ 11 (สถาบันพระปกเกล้า) ประกาศนียบัตรวิทยาลัยตลาดทุน (วตท.รุ่นที่10) หลักสูตรนิติธรรมเพื่อประชาธิปไตย รุ่นที่3 นิติศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ รัฐประศาสนศาสตร์ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) และได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งศาสตราจารย์พิเศษแห่งคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เคยได้รับทุนจาก มูลนิธิร็อกกีเฟลเลอร์ ให้ศึกษาวิจัยเรื่อง "การเผยแพร่ความรู้กฎหมายไปสู่ชนบท" ณ ศูนย์ศึกษาเบลลาจิโอ ประเทศอิตาลี กับได้รับทุน9จากองค์การอนุเคราะห์เด็กแห่งนอรเวย์ให้ศึกษาวิจัยเรื่อง "การทารุณกรรมเด็ก" รวมทั้งได้รับทุนฝึกอบรมด้านบำบัดผู้ติดยาเสพติด ณ นครนิวยอร์ก จากองค์การเดท็อปแห่งสหรัฐอเมริกา และผ่านการศึกษาหลักสูตร Cambridge-Thammasat Executive Education Programme ณ มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ประเทศอังกฤษ
การทำงาน
วิชาเริ่มรับราชการในตำแหน่งเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ต่อมาได้โอนไปรับราชการเป็นพนักงานอัยการ จนเป็นอัยการจังหวัดผู้ช่วยจังหวัดกำแพงเพชร ต่อด้วยผู้พิพากษาศาลจังหวัดแพร่ ผู้พิพากษาประจำกระทรวงช่วยทำงานทำเนียบนายกรัฐมนตรี ทำหน้าที่เลขานุการส่วนตัวนายกรัฐมนตรี (ธานินทร์ กรัยวิเชียร) ผู้อำนวยการกองพิทักษ์ทรัพย์ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลคดีเด็กและเยาวชนจังหวัดอุบลราชธานี ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดอุบลราชธานี เลขานุการศาลฎีกา ขณะดำรงตำแหน่งเลขานุการศาลฎีกาได้ถูกคำสั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมให้ออกจากราชการ เมื่อ พ.ศ. 2535 ด้วยข้อหาขัดคำสั่งรัฐมนตรี เมื่อครั้งเกิดกรณี "วิกฤตตุลาการ"[ต้องการอ้างอิง] แต่ได้ทูลเกล้าถวายฎีกาคัดค้านคำสั่งดังกล่าว[ต้องการอ้างอิง] ในที่สุดพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชกระแสว่า ไม่สมควรออกจากราชการ[ต้องการอ้างอิง] รัฐมนตรีจึงมีคำสั่งยกเลิกคำสั่งที่ให้ออกจากราชการ[ต้องการอ้างอิง] ดังนั้นวิชาจึงยังดำรงตำแหน่งตุลาการ[ต้องการอ้างอิง]
ต่อมาจึงได้รับโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ รองอธิบดีผู้พิพากษาภาค 1 รองอธิบดีผู้พิพากษาศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ผู้พิพากษาศาลฎีกา ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา ประธานศาลอุทธรณ์ภาค 2 และภาค 1 ตามลำดับ กับได้รับเลือกตั้งให้เป็นกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม ผู้ทรงคุณวุฒิสองสมัย และเป็นศาสตราจารย์พิเศษแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
วิชา มหาคุณดำรงตำแหน่งสุดท้ายในราชการศาลยุติธรรม คือ ประธานแผนกคดีเยาวชนและครอบครัวในศาลฎีกา ก่อนจะถูกเสนอชื่อจากที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาให้เป็นกรรมการการเลือกตั้ง] และได้รับการคาดหมายว่าจะได้รับเลือกเป็น กกต.เพราะได้รับคะแนนเสียงเป็นอันดับหนึ่ง แต่ปรากฏว่าไม่ได้รับการคัดเลือกจากที่ประชุมวุฒิสภา เมื่อวันที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2549
วิชา มหาคุณได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการ ป.ป.ช.เมื่อวันที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2549-22 กันยายน พ.ศ. 2558 ตามประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ฉบับที่ 19 ลงวันที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2549 ต่อมาได้รับแต่งตั้งเป็นสมาชิกสมัชชาแห่งชาติ และได้รับโปรดเกล้าฯ เป็นสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2550 โดยได้รับการคัดเลือกให้เป็นรองประธานกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ คนที่ 3 ประธานอนุกรรมการยกร่างรัฐธรรมนูญกรอบที่ 3 ว่าด้วยองค์กรอิสระและศาล เป็นกรรมการที่ปรึกษาอาวุโส สถาบันระหว่างประเทศว่าด้วยการต่อต้านทุจริต (IACA) ณ กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2556-2562 เป็นประธานมูลนิธิต่อต้านการทุจริต ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2558 เป็น ประธานคณะกรรมการจริยธรรม ประจำกรมศุลกากร ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2559
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
- พ.ศ. 2541 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นสูงสุด มหาปรมาภรณ์ช้างเผือก (ม.ป.ช.)
- พ.ศ. 2536 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นสูงสุด มหาวชิรมงกุฎ (ม.ว.ม.)
- พ.ศ. 2559 – เหรียญดุษฎีมาลา เข็มศิลปวิทยา (ร.ด.ม.(ศ)) สาขานิติศาสตร์
- พ.ศ. 2538 – เหรียญจักรพรรดิมาลา (ร.จ.พ.)
- พ.ศ. 2554 – เหรียญลูกเสือสดุดี ชั้นที่ 1
อ้างอิง
- รายชื่อบุคลากร
- http://www.parliament.go.th/news/news_detail.php?prid=28734
- ประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ฉบับที่ 19 เรื่อง ให้พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญบางฉบับมีผลใช้บังคับต่อไป
- ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์, เล่ม ๑๑๕ ตอนที่ ๒๓ ข หน้า ๔, ๒๕๔๑
- ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์, เล่ม ๑๑๐ ตอนที่ ๒๐๐ ง ฉบับพิเศษ หน้า ๗, ๓ ธันวาคม ๒๕๓๖
- ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนกนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเหรียญดุษฎีมาลา เข็มศิลปวิทยา ประจำปี ๒๕๕๙, เล่ม ๑๓๔ ตอนที่ ๑๘ ข หน้า ๓, ๑๑ เมษายน ๒๕๖๐
- ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเหรียญจักรมาลาและจักรพรรดิมาลา, เล่ม ๑๑๓ ตอนที่ ๔ ข หน้า ๔๔๙, ๑๕ มีนาคม ๒๕๓๙
- ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นสิริยิ่งรามกีรติ ลูกเสือสดุดี ชั้นพิเศษ และเหรียญลูกเสือสดุดี ประจำปี ๒๕๕๔ - ๒๕๕๕, เล่ม ๑๓๒ ตอนที่ ๔ ข หน้า ๑๘, ๒๐ มกราคม ๒๕๕๘