ศาลพระกาฬ (จังหวัดลพบุรี)
ศาลพระกาฬ หรือเดิมเรียกว่า ศาลสูง เป็นโบราณสถานและศาสนสถานที่ตั้งอยู่กลางวงเวียนชื่อ วงเวียนศรีสุนทร บนถนนนารายณ์มหาราช ในเขตตำบลทะเลชุบศร อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี ตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันออกของพระปรางค์สามยอด และเส้นทางรถไฟสายเหนือ ภายในเป็นที่ประดิษฐาน เจ้าพ่อพระกาฬ เทวรูปโบราณยุคขอมเรืองอำนาจ
ชื่ออักษรไทย | ศรีสุนทร |
---|---|
ชื่ออักษรโรมัน | Si Sunthon |
ที่ตั้ง | ถนนนารายณ์มหาราช อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี |
ทิศทางการจราจร | |
ถนนราชมนู | |
ถนนนารายณ์มหาราช » วงเวียนศรีสุริโยทัย | |
ถนนหน้าพระกาฬ | |
ถนนวิชาเยนทร์ | |
พิกัดภูมิศาสตร์: 14°48′08″N 100°36′54″E / 14.80222°N 100.61500°E
ประวัติ
ศาลพระกาฬ หรือเดิมเรียกว่า ศาลสูง เนื่องจากศาลตั้งอยู่บนฐานศิลาแลงที่อยู่สูงจากพื้นดิน เป็นศาสนสถานที่เป็นฐานศิลาแลงขนาดมหึมา สันนิษฐานกันว่าฐานศิลาแลงดังกล่าวเป็นฐานพระปรางค์ที่ยังสร้างไม่เสร็จ หรือสร้างสำเร็จแต่พังถล่มลงมาภายหลังโดยมิได้รับการซ่อมแซมให้ดีดังเดิม ศาลพระกาฬเป็นสิ่งก่อสร้างของขอม สืบเนื่องมาจากเมืองลพบุรีในอดีตเคยเป็นส่วนหนึ่งของขอมโบราณ ซึ่งได้กลายเป็นศูนย์กลางการปกครองของขอมในลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา อย่างไรก็ตามฌ็อง บวสเซอลิเยร์ ได้สันนิษฐานจากฐานพระปรางค์ที่สูงมากนี้ ว่าเขายังมิได้ข้อยุติว่าเป็นสถาปัตยกรรมขอมโบราณพุทธศตวรรษที่ 16 "อาจเป็นฐานพระปรางค์จริงที่สร้างไม่เสร็จ หรือเสร็จแล้วแต่พังทลายลงมา" ทั้งนี้มีที่ศาลสูงมีการค้นพบศิลาจารึกศาลสูงภาษาเขมร หลักที่ 1 และศิลาจารึกเสาแปดเหลี่ยม (จารึกหลักที่ 18) อักษรหลังปัลลาวะภาษามอญโบราณ จากกรณีจารึกเสาแปดเหลี่ยมที่หักพังนั้น พบว่าเสานี้ถูกทุบทำลายให้ล้มพังอยู่กับที่มิได้เคลื่อนย้ายมาจากที่อื่น จึงสันนิษฐานว่าศาลพระกาฬอาจเคยเป็นศาสนสถานของนิกายเถรวาทมาก่อน ภายหลังถูกดัดแปลงเป็นเทวสถานในนิกายไวษณพของศาสนาฮินดูแทน
รัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ทรงให้สร้างศาลเทพารักษ์ขนาดย่อมก่ออิฐถือปูน มีลักษณะสถาปัตยกรรมตามพระราชนิยม ทรงตึกเป็นแบบฝรั่งหรือเปอร์เซียผสมผสานกับไทยบนฐานศิลาแลงเดิม ตัวศาลเป็นอาคารชั้นเดียวหลบแดดขนาดสามห้อง ภายในบรรจุทับหลังนารายณ์บรรทมสินธุ์ กับเทวรูปสีดำองค์หนึ่ง ประมาณกันว่าเป็นศาลประจำเมืองก็ว่าได้
รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จประพาสเมืองลพบุรีในปี พ.ศ. 2421 ทรงให้ความเห็นเกี่ยวกับศาลสูง ความว่า "ออกจากพระปรางค์สามยอดเดินไปสักสองสามเส้น ถึงศาลพระกาล ที่หน้าศาลมีต้นไทรย้อย รากจดถึงดิน เป็นหลายราก ร่มชิดดี เขาทำแคร่ไว้สำหรับนั่งพัก...ที่ศาลพระกาลนั้นเป็นเนินสูงขึ้นไปมาก มีบันใดหลายสิบขั้น ข้างบนเป็นศาลหรือจะว่าวิหารสามห้อง เห็นจะเป็นช่อฟ้า ใบระกา แต่บัดนี้เหลืออยู่เพียงแต่ผนัง ที่แท่นมีรูปพระนารายณ์สูงประมาณ ๔ ศอก เป็นเทวรูปโบราณทำด้วยศิลา มีเทวรูปเล็ก ๆ เป็นพระอิศวรกับพระอุมาอีก ๒ รูป ออกทางหลังศาลมีบันใดขึ้นไปบนเนินสูงอีกชั้นหนึ่ง มีหอเล็กอีกหอหนึ่ง มีแผ่นศิลาเป็นรูปนารายณ์ทรงครุฑแผ่นหนึ่ง มีรูปนารายณ์ประทมสินธุ์แผ่นหนึ่งวางเปะปะ ไม่ได้ตั้งเป็นที่..."
ราวปี พ.ศ. 2465 ศาลเทพารักษ์หลังเดิมขนาดสามห้องได้ทรุดโทรมลงมาก จึงมีการอัญเชิญเทวรูปองค์ดำดังกล่าวลงมาประดิษฐาน ณ เรือนไม้มุงสังกะสีบริเวณพระปรางค์ชั้นล่าง มีต้นไทรและกร่างปกคลุมทั่วบริเวณ ในปี พ.ศ. 2480 จึงมีการสร้างกำแพงเตี้ย ๆ ก่อด้วยศิลาแลงโดยรอบ
ต่อมาในปี พ.ศ. 2494 บ้างว่า พ.ศ. 2495 ได้มีการสร้างศาลพระกาฬขึ้นใหม่เนื่องจากเรือนไม้สังกะสีเดิมได้ทรุดโทรมลง บางแห่งว่ามาจากการริเริ่มของศักดิ์ ไทยวัฒน์ ข้าหลวงประจำจังหวัดลพบุรีในขณะนั้นจากการสนับสนุนของจอมพลแปลก พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น บางแห่งว่าชลอ วนะภูติ ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรีเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงสำคัญร่วมกับองค์กรอื่น ๆ รวมทั้งชาวลพบุรีและผู้ศรัทธาจำนวนมาก เงินสำหรับก่อสร้างได้มาจากการเรี่ยไรจากชาวลพบุรีและใกล้เคียง รวมทั้งสิ้น 304,586.22 บาท ศาลพระกาฬหลังใหม่จึงถูกออกแบบด้วยสถาปัตยกรรมทรงไทยร่วมสมัยของกรมศิลปากรสมัยหม่อมเจ้ายาใจ จิตรพงศ์ เป็นหัวหน้ากองสถาปัตยกรรม ก่อสร้างสำเร็จในปี พ.ศ. 2496 ซึ่งดูเด่นเป็นสง่า ณ บริเวณหน้าฐานพระปรางค์โบราณ และทำพิธีเปิดเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2495
เจ้าพ่อพระกาฬ
เจ้าพ่อพระกาฬเป็นเทวรูปรุ่นเก่าซึ่งอาจเป็นพระวิษณุ หรือพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร เป็นเทวรูปรุ่นเก่า ศิลปะลพบุรี แต่เดิมเจ้าพ่อพระกาฬมีพระกายสีดำ ทำจากศิลา ไม่มีพระเศียร และพระกรทั้งหมด กล่าวกันว่าเจ้าพ่อพระกาฬได้ไปเข้าฝันผู้ประสงค์ดีท่านหนึ่ง นัยว่าขอพระเศียรและพระกรเท่าที่จะหามาได้ ซึ่งได้มีผู้ศรัทธาได้จัดหาเศียรพระศิลาทรายศิลปะสมัยอยุธยา ส่วนพระกรนั้นได้เพียงข้างเดียวจากทั้งหมดสี่ข้าง
ปัจจุบันเจ้าพ่อพระกาฬไม่เหลือเค้าเดิมซึ่งมีสีดำอีกแล้ว ด้วยถูกปิดทองจากผู้ศรัทธาแลดูเหลืองอร่ามจนสิ้น กล่าวกันว่าปีหนึ่งมีผู้มานมัสการไม่ต่ำกว่าหนึ่งแสนคน
ลิงศาลพระกาฬ
ลิงศาลพระกาฬ หรือ ลิงเจ้าพ่อพระกาฬ ดั้งเดิมเป็นลิงแสม ปัจจุบันมีอยู่ทั้งหมดกว่า 500 ตัว ไม่นับรวมลิงกลุ่มอื่น ๆ ในลพบุรีที่มีกว่า 2,000 ตัว ทั้งนี้ทั้งนั้นลิงฝูงดังกล่าวมิได้มีความเกี่ยวข้องกับศาลพระกาฬเลยแต่อย่างใด แต่เดิมบริเวณโดยรอบศาลพระกาฬเป็นป่าคงมีลิงป่าอาศัยอยู่ ลิงดังกล่าวยังชีพด้วยของถวายแก้บน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลไม้ ปัจจุบันลิงทั้งหมดถูกแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม คือ
- ลิงศาล หรือ ลิงเจ้าพ่อ เป็นลิงฝูงใหญ่อาศัยบริเวณโดยรอบศาลพระกาฬช่วงเที่ยง และอาศัยที่พระปรางค์สามยอดและบางส่วนของโรงเรียนพิบูลวิทยาลัยช่วงเช้าและเย็น เมื่อพลบค่ำพวกมันจะกลับมานอนที่ศาลพระกาฬ กลุ่มนี้มีความเป็นอยู่ค่อนข้างดี มักได้รับของเซ่นไหว้จากผู้ศรัทธาเสมอ ซึ่ง ลิงศาล อาจแบ่งย่อยได้อีกสามกลุ่มคือ กลุ่มศาลพระกาฬ, กลุ่มพระปรางค์สามยอด และกลุ่มโรงเรียนพิบูลวิทยาลัย
- ลิงมุมตึก หรือ ลิงนอกศาล หรือ ลิงตลาด เป็นลิงจรจัดซึ่งแตกหลงฝูงและมิได้รับการยอมรับกลับเข้าฝูง มักเร่ร่อนตามมุมตึก ร้านค้าบ้านเรือนในชุมชนเมืองลพบุรี ลิงกลุ่มนี้มักสร้างปัญหาและความเสียหายอยู่เสมอ
จำนวนลิงก็เพิ่มจำนวนมากขึ้นตลอดในเขตเมืองเก่า และเริ่มออกมาจากแหล่งเดิมไปอาศัยอยู่ย่านขนส่งสระแก้ว และสี่แยกเอราวัณซึ่งเป็นเขตเมืองใหม่ ก่อนหน้านี้เคยมีแนวคิดที่จะควบคุมประชากรลิงมาตลอด อาทิ การทำหมันลิง จนในปลายปี พ.ศ. 2557 ได้มีการร้องเรียนจากชาวบ้าน ว่าลิงที่ศาลพระกาฬบางตาลงเนื่องจากทางเทศบาลเมืองลพบุรีได้ส่งเจ้าหน้าที่มาจับ การนี้จำเริญ สละชีพ นายกเทศมนตรีเมืองลพบุรี และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้มาชี้แจงว่าลิงที่ถูกจับนั้นเป็นลิงที่แตกฝูงและเกเรไปไว้ที่สวนสัตว์ลพบุรีจำนวน 74 ตัว ที่ส่วนใหญ่อิดโรยและมีแผลทั่วตัว นอกจากนี้ยังพบว่ามีลิงศาลพระกาฬจำนวน 30-40 ตัวถูกจับและปล่อยทิ้งไว้ที่ตำบลดอนดึง อำเภอบ้านหมี่ ภายหลังจึงมีแผนจัดการที่จะนำลิงไปไว้ที่ตำบลโพธิ์เก้าต้น อำเภอเมืองลพบุรี โดยทำในลักษณะสวนลิง
สถานที่ใกล้เคียง
อ้างอิง
- ↑ ส.สีมา. (7 พฤษภาคม 2556). "ศาลพระกาฬ". ศิลปวัฒนธรรม. 34:7, หน้า 34
- ↑ สมพงษ์ นิติกุล. ภาพโบราณ ตำนานเมืองลพบุรี. กรุงเทพฯ : พี.เอ.ลีฟวิ่ง, 2456, หน้า 53
- ศานติ ภักดีคำ ผศ. ดร. (3 มกราคม 2556). "เมื่อ "ลวปุระ" หรือ "ลพบุรี" ถูกพระเจ้าสุริยวรมันที่ ๑ ทำลาย "กลายเป็นป่า"". ศิลปวัฒนธรรม. 34:3, หน้า 111
- ศานติ ภักดีคำ ผศ. ดร. (3 มกราคม 2556). "เมื่อ "ลวปุระ" หรือ "ลพบุรี" ถูกพระเจ้าสุริยวรมันที่ ๑ ทำลาย "กลายเป็นป่า"". ศิลปวัฒนธรรม. 34:3, หน้า 113
- กรมศิลปากร. จารึกในประเทศไทย เล่ม 2. กรุงเทพฯ : กรมศิลปากร. 2529, หน้า 57-60
- มรดกความทรงจำแห่งนพบุรีศรีลโวทัยปุระ : ว่าด้วยโคลงเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนารายณ์ฯ และจารึกโบราณแห่งเมืองละโว้. ดร. วินัย ศรีพงศ์เพียร และ ดร. ตรงใจ หุตางกูร (บรรณาธิการ). กรุงเทพฯ : ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน), 2558, หน้า 182
- ↑ ส.สีมา. (7 พฤษภาคม 2556). "ศาลพระกาฬ". ศิลปวัฒนธรรม. 34:7, หน้า 35
- ↑ "ศาลพระกาฬ". สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี. สืบค้นเมื่อ 1 พฤศจิกายน 2556. Check date values in:
|accessdate=
(help) - . SHARE SIAM. คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 2019-01-01. สืบค้นเมื่อ 1 พฤศจิกายน 2556. Check date values in:
|accessdate=
(help) - ↑ ส.สีมา. (7 พฤษภาคม 2556). "ศาลพระกาฬ". ศิลปวัฒนธรรม. 34:7, หน้า 36
- ↑ ส.สีมา. (7 พฤษภาคม 2556). "ศาลพระกาฬ". ศิลปวัฒนธรรม. 34:7, หน้า 37
- "โครงการบ้านคนเลี้ยงลิง". มูลนิธิช่วยชีวิตสัตว์ป่าแห่งประเทศไทย. สืบค้นเมื่อ 29 สิงหาคม 2557. Check date values in:
|accessdate=
(help)[ลิงก์เสีย] - ↑ ""ลิงลพบุรี" ชะตากรรมวันนี้ช่างน่าเศร้า". โพสต์ทูเดย์. 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2557. สืบค้นเมื่อ 29 สิงหาคม 2557. Check date values in:
|accessdate=, |date=
(help)[ลิงก์เสีย] - ↑ "ทำหมันหรือรักษาไส้เลื่อนระวัง "ลิง" เจ็บตัวฟรี ?!". คมชัดลึก. 21 สิงหาคม 2552. สืบค้นเมื่อ 1 พฤศจิกายน 2556. Check date values in:
|accessdate=, |date=
(help) - "โวย "ลิงลพบุรี" หาย! ชี้จนท.จับเรียบ หลายร้อยตัว! "สัตวแพทย์" ดัง จี้แจงไปไว้ไหน". ข่าวสด. 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2557. สืบค้นเมื่อ 29 สิงหาคม 2557. Check date values in:
|accessdate=, |date=
(help) - "ศึกจับลิงปะทุ! โต้นักอนุรักษ์ ไม่มีทารุณกรรม". ไทยรัฐ. 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2557. สืบค้นเมื่อ 29 สิงหาคม 2557. Check date values in:
|accessdate=, |date=
(help) - "กรมอุทยานแห่งชาติฯ ระบุลิงลพบุรีที่จับไม่ใช่ลิงศาลพระกาฬ". สำนักข่าวไทย. 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2557. สืบค้นเมื่อ 29 สิงหาคม 2557. Check date values in:
|accessdate=, |date=
(help)[ลิงก์เสีย] - . เนชั่น. 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2557. คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 2016-03-05. สืบค้นเมื่อ 29 สิงหาคม 2557. Check date values in:
|accessdate=, |date=
(help)
แหล่งข้อมูลอื่น
- วิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อเกี่ยวกับ ศาลพระกาฬ