ชาวจีนในเคนยา
ชาวจีนในเคนยา เป็นหนึ่งในกลุ่มชาติพันธุ์ที่หลากหลายของประเทศเคนยา ซึ่งมีการติดต่อค้าขายและตั้งถิ่นฐานในชายฝั่งทะเลทางตะวันออกของเคนยาตั้งแต่ช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 15 จนถึงในปัจจุบันก็ยังมีชาวจีนกลุ่มใหม่ได้อพยพมาจากสาธารณรัฐประชาชนจีนมาตั้งถิ่นฐานในเคนยา ในช่วงปี ค.ศ. 1990-2000 และได้มีการประมาณการว่ามีชาวจีนที่พำนักในเคนยาประมาณ 3,000-10,000 คน
ประชากรทั้งหมด | |
---|---|
3,000-10,000 | |
ภูมิภาคที่มีประชากรอย่างมีนัยสำคัญ | |
ไนโรบี, มอมบาซา | |
ภาษา | |
ภาษาสวาฮีลี, ภาษาอังกฤษ, ภาษาจีน | |
ศาสนา | |
อิสลาม, คริสต์, พุทธ |
ประวัติ
นักเดินเรือชาวจีนเริ่มมีบทบาททางด้านการติดต่อค้าขายกับเคนยา นักโบราณคดีได้ค้นพบเครื่องเคลือบจีนที่สร้างขึ้นในช่วงราชวงศ์ถัง โดยค้นพบในหมู่บ้านของชาวเคนยา และได้สันนิษฐานว่าอาจเป็นสินค้าที่มากับกองเรือสินค้าที่นำมาโดยเจิ้งเหอในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 15 ในเกาะลามูมีการบอกเล่าแบบปากต่อปากของชาวบ้านแถบนั้นว่ามีชาวจีน 20 คน ที่อาจจะเป็นหนึ่งในทหารบนกองเรือของเจิ้งเหอ รอดมาจากเรืออัปปางขึ้นฝั่งมาที่เกาะลามูเมื่อหลายร้อยปีมาแล้ว พวกเขาได้รับการอนุญาตให้ตั้งถิ่นฐานบนเกาะได้ เนื่องจากพวกเขาได้ช่วยชนพื้นเมืองกำจัดงูหลามขนาดใหญ่ ซึ่งต่อมาพวกเขาได้สมรสข้ามชาติพันธุ์กับชนพื้นเมืองและได้ละความเชื่อเดิมหันมายอมรับนับถือศาสนาอิสลามเฉกเช่นชนบนเกาะ ชาวเกาะลามูเชื่อว่าพวกเขาเป็นผู้สืบเชื้อสายเป็นรุ่นที่หกของชาวจีนกลุ่มดังกล่าว
ในปี ค.ศ. 2002 ได้มีการตรวจสอบดีเอ็นเอจากนางบารากา บาดี ชี สตรีผู้หนึ่งบนเกาะลามู อายุ 53 ปี ซึ่งผลการพิสูจน์ดังกล่าวได้รับการยืนยันว่าเธอเชื้อสายจีนจริง โดยบุตรสาวของเธอ อึมวามากา ชารีฟู ได้รับทุนการศึกษาจากสาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อเข้าศึกษาต่อในแพทย์แผนจีนโบราณ (TCM) ในประเทศจีน
ในยุคปัจจุบันมีชาวจีนอพยพเข้าสู่เคนยาในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 20 โดยในปี ค.ศ. 1996 ในเคนยามีจำนวนชาวจีนเพียงน้อยนิดในกรุงไนโรบีมีร้านอาหารจีนเพียงแห่งเดียว แต่ในปี ค.ศ. 2007 มีร้านอาหารจีนเกิดขึ้นมากกว่า 40 ร้าน ที่ส่วนใหญ่ดำเนินการจากชาวจีนในแผ่นดินใหญ่ ส่วนใหญ่ชาวจีนมักตั้งถิ่นฐานรอบกับสถานทูตซึ่งใกล้กับพื้นที่ของกองบัญชาการกระทรวงกลาโหมซึ่งถือเป็นพื้นที่ที่มีความปลอดภัยมากที่สุดแห่งหนึ่งของเมือง นอกจากนี้ชาวจีนในส่วนต่างๆของประเทศได้ดำเนินธุรกิจนำเข้าและส่งออกผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายอย่าง เช่น นำเข้าคอมพิวเตอร์, เครื่องแก้ว และชิ้นส่วนยานยนต์ และส่งออกหูฉลาม
มีแรงงานชาวจีนจำนวนมากเข้ามาใช้แรงงานในประเทศเคนยาด้วยเหตุผลทางด้านเสถียรภาพและอัตราความเจริญเติบโตอย่างสูงของประเทศที่เป็นปัจจัยที่ทำให้พวกเขาเลือกมาทำงานยังเคนยา หลายคนประกอบไปด้วยวัยกลางคนและแรงงานวัยรุ่นที่เป็นที่ต้องการของยุโรปและอเมริกา โดยสื่อเองก็ได้มีการประมาณการจำนวนของชาวจีนในช่วงปี ค.ศ. 2006-2008 ว่ามี จำนวนประมาณ 3,000-10,000 คน
การศึกษาและสื่อ
ในประเทศเคนยา ชุมชนชาวจีนมีโรงเรียนภาษาจีนเพียงแห่งเดียว คือ โรงเรียนเคนยา-จีน (肯尼亚中国学校) ก่อตั้งในเดือนมีนาคม ค.ศ. 2006 ครู 20 คน ซึ่งสอนภาษาจีน 5 คน และมีนักเรียน 200 คน รวมทั้งระดับอนุบาล 20 คน ระดับประถมศึกษา 50 คน และนักเรียนเทคนิค 130 คน โดยร้อยละ 25 เป็นชาวจีน ส่วนในมหาวิทยาลัยไนโรบีมีการเปิดการสอนสาขาปรัชญาขงจื๊อครั้งแรกในทวีปแอฟริกา
วิทยุจีนระหว่างประเทศ (China Radio International) และสถานีโทรทัศน์กลางจีน (China Central Television) มีการออกอากาศขึ้นใหม่ไม่กี่ชั่วโมงต่อวันโดยเคนยาบรอดคาสติงคอร์เปอร์เรชัน (Kenya Broadcasting Corporation)
อ้างอิง
- ↑ Fackler, Ted (2007-07-04), "Chinese Expatriates in Kenya", China Daily, สืบค้นเมื่อ 2009-03-29
- ↑ Beech, Hannah (2001), , Time, 158 (7/8), คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 2001-08-27, สืบค้นเมื่อ 2009-03-29 Unknown parameter
|month=
ignored (help) - ↑ Onjala, Joseph (2008), (PDF), Nairobi: African Economic Research Consortium, คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม (PDF) เมื่อ 2008-11-13, สืบค้นเมื่อ 2009-03-30 Unknown parameter
|month=
ignored (help) - "Children of the master voyager?", People's Daily, 2006-11-03, สืบค้นเมื่อ 2009-03-30
- "Is this young Kenyan Chinese descendant?", China Daily, 2005-07-11, สืบค้นเมื่อ 2009-03-30
- York, Geoffrey (2005-07-18), "Revisiting the history of the high seas", The Globe and Mail, สืบค้นเมื่อ 2009-03-30
- "肯尼亚知名华商徐晖:翱翔非洲大地的九头鸟/Xu Hui, a famous Chinese businessman in Kenya: A "Nine-Headed Bird" soaring over Africa", Sina News, 2009-02-11, สืบค้นเมื่อ 2009-03-30
- ↑ "华商淘金肯尼亚:不光是生意,还有中国人的脸面/Chinese merchants "panning for gold" in Kenya: Not just business, but also "face" for Chinese people", Xinhua News, 2006-11-07, สืบค้นเมื่อ 2009-03-30
- Song, Xianxia (2008-04-23), , Shandong News, คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 2011-07-20, สืบค้นเมื่อ 2009-03-30
- "非洲肯尼亚中国学校/Africa: Kenya-China School", Overseas Chinese Language and Culture Education Online, Beijing: Chinese Language Educational Fund, 2008, สืบค้นเมื่อ 2009-03-29
แหล่งข้อมูลอื่น
- Weinberg, Paul (2001), , Time, 158 (7/8), คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 2010-08-02, สืบค้นเมื่อ 2009-03-29 Unknown parameter
|month=
ignored (help). Includes pictures of various Chinese-owned businesses in the city. - Yu, Xi (2007-02-19), "肯尼亚华人华侨的欢腾中国年/Kenya's Overseas Chinese Celebrate the "China Year"", China Radio International, สืบค้นเมื่อ 2009-03-30.
- Cai, Guoxi; Moji, Kazuhiko; Wu, Xiaonan; Zhang, Konglai (2007), "Knowledge, attitudes, beliefs, and practices of Chinese migrants in Nairobi, Kenya and Dar es Salaam, Tanzania toward HIV/AIDS", Tropical Medicine and Health, 35 (1): 11–18, doi:10.2149/tmh.35.11, ISSN 1349-4147, สืบค้นเมื่อ 2009-03-30