fbpx
วิกิพีเดีย

ซอ (การร้อง)

ซอ คือลำนำที่ขับร้องด้วยทำนองไพเราะ โดยมีซอเป็นเครื่องดนตรีที่ให้ทำนอง ซอจะต้องขับร้องด้วยถ้อยคำที่สัมผัสคล้องจองกัน ตามท่วงทำนองของเพลงซอ นั้น ๆ ซอแต่ละทำนองนั้นจะส่งคำสัมผัสและคำรับสัมผัสที่ไม่เหมือนกัน “คำซอ” หรือบทขับร้องซอนั้น จะไม่ส่งสัมผัสเหมือนบทค่าวหรือบทกวีเลย แต่จะสัมผัสโยงถ้อยคำ ในทำนองแต่ละเพลงนั้นโดยเฉพาะเท่านั้น

ทำนองซอมีอยู่ด้วยกันหลายทำนอง แต่ก็ไม่มีประวัติที่ทราบแน่ชัด ที่เกี่ยวกับผู้แต่งทำนองซอนั้น ๆ นอกจากจะให้ชื่อทำนองซอนั้นตามสถานที่ อันเป็นที่มาของทำนองซอนั้น ๆ เอาไว้ เช่นทำนองตั้งเชียงใหม่ ทำนองเชียงแสน ทำนองล่องน่านลำปาง ล่องน่านปั่นฝ้าย ซอพม่า ซอเงี้ยว ซออื่อ ซอจะปุ ซอละม้าย และ ซอพระลอเป็นต้น

คำศัพท์เฉพาะ

ซอ"การจะซอนั้นต้องประกอบไปด้วย จั้งซอ คู้ถ้อง จั้งปี่-จั้งซึง ผาม

  • จั้งซอ" คือผู้ที่สามารถ ขับขานซอได้ มีปฏิภาณ ไหวพริบ เป็นเลิศ
  • "คู้ถ้อง" คือจั้งซอ ชายและหญิง ที่ซอเป็นคู่ ร้องโต้ตอบกัน
  • "จั้งปี่-จั้งซึง" คือผู้ที่ทำหน้าที่บรรเลงดนตรีประกอบการขับ
  • "ผาม" เวทีหรือปะรำเล็ก ๆ นั้นเอง ขนาด 4 x 4 เมตร สูง 1.5-2 เมตร

ผู้บรรเลง

ผู้ที่ขับร้องซอนั้นเรียกกันว่า “จั้งซอ” และผู้เป่าปี่ที่ให้ทำนองนั้นเรียกว่า “จั้งปี่” ซึ่งปี่ที่ใช้นำมาบรรเลงนั้น นิยมใช้ปี่ 5 เล่ม (เลา) ครั้นต่อมาจั้งปี่มีงานมาก จึงได้แยกย้ายไปเป่าปี่ให้กับจั้งซอคู่อื่น ๆ ปี่ก็ลดลง 1 เล่ม เหลือเป็นปี่จุม 4 ประกอบด้วย ปี่แม่ ปี่กลาง ปี่ก้อย ปี่เล็ก

“จุม” หมายถึงชุด หรือหมู่นั้นเอง และในสมัยปัจจุบันนี้ จั้งปี่รุ่นเก่าค่อยหมดไปจากล้านนา วงปี่ซอจึงเหลือเพียง จุม 3 เท่านั้น และได้มีซึงเข้ามาบรรเลงร่วม ประมาณ 10 กว่าปีมานี้เอง เป็นที่น่าสังเกตว่า ซอที่ใช้ปี่นั้น จะมีเพียงเฉพาะในจังหวัด เชียงราย เชียงใหม่ เท่านั้น ซอทาง แพร่ น่าน จะใช้ซึงกับสล้อ เรียกว่าซอล่องน่าน

“จั้ง” ถ้าจะแปลเป็นความหมายภาษาไทยนั้นคือ “นัก” นั้นเอง เช่น นักร้อง นักดนตรี แต่ภาษาไทยถิ่นเหนือจะเรียกว่า จั้งซอ จั้งปี่ จั้งแต้ม จั้งซึง ก็คือผู้ที่มีความสามารถในทางนั้น ๆ

* "จั้ง" คือคำว่า จ่าง ภาษาไทยก็คือ ช่าง นั่นเอง .. คำว่า "จ่าง" คนพื้นถิ่นภาคเหนือมักออกเสียงเร็ว ทำให้ฟังเป็น "จั้ง" ก็คือ "จ่าง" หรือ "ช่าง" นั่นเอง

*** จ่าง ในความหมายของคนล้านนา คือ "ผู้ที่ทำเป็น" หรือ "ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญ" ทางภาคกลางเรียกกว่า "นัก" เช่น นักร้อง นักเต้น นักดนตรี นักปั้น

ความเป็นมาของจั้งซอและซอถ้อง

“คู่ถ้อง” คำว่าถองนั้นหมายถึง การตอบโต้ ถามไถ่ หรือสนทนาแลกเปลี่ยนคำพูดกันระหว่างชายหญิง ส่วน“จั้งซอ” คือผู้ที่มีความชำนาญในการขับซอ

ธรรมเนียมของคนล้านนานั้น หากว่าเป็นลูกผู้หญิง เมื่อลูกหลานเรียนจบชั้นประถม เมื่อไม่ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้านหรือดูแลน้อง ๆ แล้ว พ่อแม่ก็อาจจะนำไปฝากฝังกับครูซอที่ชอบพอกัน เพื่อให้ลูกหลานของตนเองนั้นร่ำเรียนวิชาซอ ผู้จะเป็นจั้งซอ จะต้องไปเรียนวิชาซอที่เรียกกันว่า “ไปตั้งขันเฮียนซอ” จากจั้งซอที่มีชื่อเสียง หรือจั้งซอที่ตนเองนิยมชมชอบนั้นเอง โดยมากในสมัยก่อนจำต้องไปอาศัยอยู่กับครูซอเสียเลย ไปปรนนิบัติวัฏฐาก ตั้งแต่ ตักน้ำ ซักผ้า ถูเรือน หุงข้าว ทำอาหาร ตามประเพณีอันเป็นธรรมเนียมระหว่างลูกศิษย์กับอาจารย์ เมื่ออาจารย์ถ่ายทอดวิชาให้ ก็จะต้องหมั่นฝึกฝนท่องจำ และเมื่อพอมีความสามารถในเชิงซอบ้างพอสมควร ก็จะต้องติดตามครูไปทุกหนทุกแห่งที่ครูไปลงผามซอ ซึ้งจะต้องคอยไปดูลีลาท่าทางของครู เพื่อที่จะได้นำมาใช้กับตนเองเมื่อยามที่เจนจบวิชาซอ และออกผามในโอกาสต่อไป อีกทั้งการที่ได้ออกไปสัมผัสผามซอนั้น ช่วยให้เกิดความเคยชินจะได้ไม่เกิดความประหม่าเมื่ออกผามใหม่ ๆ

อ้างอิง

  • สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย 2008-02-26 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
  • สารนุกรมวัฒนธรรมไทย ภาคเหนือ
  • หนังสือ "ค่าวฮ่ำกำบ่าเก่า"

ซอ, การร, อง, ซอ, อลำนำท, บร, องด, วยทำนองไพเราะ, โดยม, ซอเป, นเคร, องดนตร, ให, ทำนอง, ซอจะต, องข, บร, องด, วยถ, อยคำท, มผ, สคล, องจองก, ตามท, วงทำนองของเพลงซอ, ซอแต, ละทำนองน, นจะส, งคำส, มผ, สและคำร, บส, มผ, สท, ไม, เหม, อนก, คำซอ, หร, อบทข, บร, องซอน, จะไม,. sx khuxlanathikhbrxngdwythanxngipheraa odymisxepnekhruxngdntrithiihthanxng sxcatxngkhbrxngdwythxykhathismphskhlxngcxngkn tamthwngthanxngkhxngephlngsx nn sxaetlathanxngnncasngkhasmphsaelakharbsmphsthiimehmuxnkn khasx hruxbthkhbrxngsxnn caimsngsmphsehmuxnbthkhawhruxbthkwiely aetcasmphsoyngthxykha inthanxngaetlaephlngnnodyechphaaethannthanxngsxmixyudwyknhlaythanxng aetkimmiprawtithithrabaenchd thiekiywkbphuaetngthanxngsxnn nxkcakcaihchuxthanxngsxnntamsthanthi xnepnthimakhxngthanxngsxnn exaiw echnthanxngtngechiyngihm thanxngechiyngaesn thanxnglxngnanlapang lxngnanpnfay sxphma sxengiyw sxxux sxcapu sxlamay aela sxphralxepntn enuxha 1 khasphthechphaa 2 phubrrelng 3 khwamepnmakhxngcngsxaelasxthxng 4 xangxingkhasphthechphaa aekikhsx karcasxnntxngprakxbipdwy cngsx khuthxng cngpi cngsung pham cngsx khuxphuthisamarth khbkhansxid miptiphan ihwphrib epnelis khuthxng khuxcngsx chayaelahying thisxepnkhu rxngottxbkn cngpi cngsung khuxphuthithahnathibrrelngdntriprakxbkarkhb pham ewthihruxparaelk nnexng khnad 4 x 4 emtr sung 1 5 2 emtrphubrrelng aekikhphuthikhbrxngsxnneriykknwa cngsx aelaphuepapithiihthanxngnneriykwa cngpi sungpithiichnamabrrelngnn niymichpi 5 elm ela khrntxmacngpiminganmak cungidaeykyayipepapiihkbcngsxkhuxun pikldlng 1 elm ehluxepnpicum 4 prakxbdwy piaem piklang pikxy pielk cum hmaythungchud hruxhmunnexng aelainsmypccubnni cngpirunekakhxyhmdipcaklanna wngpisxcungehluxephiyng cum 3 ethann aelaidmisungekhamabrrelngrwm praman 10 kwapimaniexng epnthinasngektwa sxthiichpinn camiephiyngechphaaincnghwd echiyngray echiyngihm ethann sxthang aephr nan caichsungkbslx eriykwasxlxngnan cng thacaaeplepnkhwamhmayphasaithynnkhux nk nnexng echn nkrxng nkdntri aetphasaithythinehnuxcaeriykwa cngsx cngpi cngaetm cngsung kkhuxphuthimikhwamsamarthinthangnn cng khuxkhawa cang phasaithykkhux chang nnexng khawa cang khnphunthinphakhehnuxmkxxkesiyngerw thaihfngepn cng kkhux cang hrux chang nnexng cang inkhwamhmaykhxngkhnlanna khux phuthithaepn hrux phuthimikhwamechiywchay thangphakhklangeriykkwa nk echn nkrxng nketn nkdntri nkpnkhwamepnmakhxngcngsxaelasxthxng aekikh khuthxng khawathxngnnhmaythung kartxbot thamith hruxsnthnaaelkepliynkhaphudknrahwangchayhying swn cngsx khuxphuthimikhwamchanayinkarkhbsxthrrmeniymkhxngkhnlannann hakwaepnlukphuhying emuxlukhlaneriyncbchnprathm emuximchwyphxaemthanganbanhruxduaelnxng aelw phxaemkxaccanaipfakfngkbkhrusxthichxbphxkn ephuxihlukhlankhxngtnexngnnraeriynwichasx phucaepncngsx catxngiperiynwichasxthieriykknwa iptngkhnehiynsx cakcngsxthimichuxesiyng hruxcngsxthitnexngniymchmchxbnnexng odymakinsmykxncatxngipxasyxyukbkhrusxesiyely ipprnnibtiwtthak tngaet tkna skpha thueruxn hungkhaw thaxahar tampraephnixnepnthrrmeniymrahwangluksisykbxacary emuxxacarythaythxdwichaih kcatxnghmnfukfnthxngca aelaemuxphxmikhwamsamarthinechingsxbangphxsmkhwr kcatxngtidtamkhruipthukhnthukaehngthikhruiplngphamsx sungcatxngkhxyipdulilathathangkhxngkhru ephuxthicaidnamaichkbtnexngemuxyamthiecncbwichasx aelaxxkphaminoxkastxip xikthngkarthiidxxkipsmphsphamsxnn chwyihekidkhwamekhychincaidimekidkhwamprahmaemuxxkphamihm xangxing aekikhsanknganwthnthrrmcnghwdechiyngray Archived 2008 02 26 thi ewyaebkaemchchin sarnukrmwthnthrrmithy phakhehnux hnngsux khawhakabaeka bthkhwamekiywkbwthnthrrmniyngepnokhrng khunsamarthchwywikiphiediyidodyephimkhxmul ekhathungcak https th wikipedia org w index php title sx karrxng amp oldid 9564981, wikipedia, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด,

บทความ

, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม