ตงเฟิง-41
ตงเฟิง-41 (DF-41, CSS-20) (จีนตัวย่อ: 东风-41; จีนตัวเต็ม: 東風-41; แปลตรงตัว: "สายลมตะวันออก-41") เป็นขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นที่สี่ชนิดเชื้อเพลิงแข็งที่ติดตั้งบนพาหนะเคลื่อนที่ทางถนนของประเทศจีน ที่ดำเนินการโดยกองกำลังจรวดของกองทัพปลดแอกประชาชน (เดิมคือกองพลปืนใหญ่ที่สอง) ตงเฟิง-41 เป็นขีปนาวุธทางยุทธวิธีรุ่นที่สี่และล่าสุดของชุดการพัฒนาขีปนาวุธตงเฟิง ได้รับการเปิดเผยอย่างเป็นทางการในขบวนสวนสนามทางทหารเนื่องในวันชาติจีนเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2562
ตงเฟิง-41 东风-41, DF-41 | |
---|---|
ขีปนาวุธ 东风-41 บนพาหนะเคลื่อนที่ทางถนน | |
ชนิด | ICBM |
สัญชาติ | ประเทศจีน |
บทบาท | |
ประจำการ | พ.ศ. 2560 |
ผู้ใช้งาน | กองกำลังจรวดของกองทัพปลดแอกประชาชน |
ประวัติการผลิต | |
บริษัทผู้ผลิต | สถาบันเทคโนโลยียานขนส่งจีน (CALT) |
ข้อมูลจำเพาะ | |
น้ำหนัก | ≈ 80,000 กิโลกรัม (160,000 斤) |
ความยาว | ≈ 21 เมตร (63 尺) |
เส้นผ่าศูนย์กลาง | ≈ 2.25 เมตร (67.5 寸) |
หัวรบ | อาวุธเทอร์โมนิวเคลียร์, 10–12 MIRV (หัวรบเดียว 1 เมกะตัน หรือหลายหัวรบแบบแยกเป้าโจมตีได้ขนาด 20, 90, 150 กิโลตัน) |
เครื่องยนต์ | จรวดเชื้อเพลิงแข็งสามตอน N-15 |
พิสัยปฏิบัติการ | ≈12,000–15,000 กิโลเมตร (7,500–9,300 ไมล์) |
ความเร็ว | มัค 25 (30,626 กิโลเมตรต่อชั่วโมง; 19,030 ไมล์ต่อชั่วโมง; 8.5073 กิโลเมตรต่อวินาที) |
ระบบนำวิถี | ใช้แรงเฉื่อย, อาจประกอบด้วยดาวเทียมนำร่องและระบบดาวเทียมเป๋ย์โต่ว |
Accuracy | 100 เมตร CEP |
ใช้กับ | ไซโล, แท่นยิงอาวุธปล่อยอัตตาจรเคลื่อนที่ทางถนน, เคลื่อนที่ทางราง |
การออกแบบ
มีรายงานว่าตงเฟิง-41 มีพิสัยปฏิบัติการระหว่าง 12,000 ถึง 15,000 กิโลเมตร (7,500 ถึง 9,300 ไมล์) คาดว่ามีความเร็วสูงสุดที่ 25 มัค และสามารถบรรทุกหลายหัวรบแบบแยกเป้าโจมตี (MIRV) ได้ (สูงสุด 10 หัวรบ) มีรายงานว่าการพัฒนาเทคโนโลยี MIRV นั้นเพื่อตอบสนองต่อการติดตั้งระบบป้องกันขีปนาวุธแห่งชาติของสหรัฐ (NMD) ซึ่งทำให้ความสามารถในการป้องปรามนิวเคลียร์ของจีนลดลง โครงการนี้เริ่มต้นในปี พ.ศ. 2529 และปัจจุบันอาจพัฒนาควบคู่ไปกับโครงการจฺวี้ล่าง-2 (巨浪-2, JL-2)
แม้ว่าจะมีรายงานว่าตงเฟิง-41 สามารถบรรทุกหัวรบได้ 6 ถึง 10 หัวรบ นักวิเคราะห์คาดว่าน่าจะบรรทุกได้เพียงสามหัวรบ โดยน้ำหนักบรรทุกเพิ่มเติมใช้สำหรับอุปกรณ์ช่วยเจาะเกราะจำนวนมาก
ริชาร์ด ฟิชเชอร์ (Richard Fisher) ผู้เชี่ยวชาญกิจการทหารในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าวว่าโดยปกติหน่วยของกองกำลังจรวดของกองทัพปลดแอกประชาชน มีฐานยิงขีปนาวุธ 6–12 แท่น และอาจมี "ขีปนาวุธบรรจุใหม่" อีก 6–12 ลูกซึ่งจะถูกปล่อยหลังจากขีปนาวุธลูกแรกที่ติดตั้งปล่อยออกไปแล้ว ทำให้แต่ละหน่วยที่ติดตั้งฐานยิงตงเฟิง-41 มีขีปนาวุธ 12–24 ลูก หากขีปนาวุธมีหัวรบ 10 หัว นั่นจะทำให้หน่วยบัญชาการยุทธทางอากาศหน่วยเดียวมีความสามารถในการกำหนดเป้าหมายประชิดสหรัฐอเมริกาด้วยหัวรบนิวเคลียร์ 120–240 ลูก
การพัฒนา
องค์กร Air Power Australia รายงานว่าโครงการตงเฟิง-41 ได้ถูกระงับก่อนปี พ.ศ. 2543 โดยเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นถูกนำไปใช้กับโครงการตงเฟิง-31A มีการคาดการณ์ที่ไม่ถูกต้องว่าตงเฟิง-41 จะถูกส่งมอบให้กับกองพลปืนใหญ่ที่ 2 ประมาณปี พ.ศ. 2553 ผู้เชี่ยวชาญทางการทหารบางคนคาดว่าขีปนาวุธจะถูกเปิดเผยในขบวนสวนสนามแห่งชาติในปี พ.ศ. 2552 อย่างไรก็ตาม การซ้อมขบวนสวนสนามไม่ได้แสดงขีปนาวุธชนิดนี้
เว็บไซต์ฝ่ายอนุรักษ์นิยมในสหรัฐอเมริกา The Washington Free Beacon รายงานในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2555 ว่าตงเฟิง-41 มีการทดสอบการปฏิบัติการบินครั้งแรกเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2555
ในเดือนเมษายน พ.ศ. 2556 หัวหน้าสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติไต้หวันรายงานต่อสภานิติบัญญัติว่าตงเฟิง-41 ยังอยู่ในระหว่างการพัฒนาและยังไม่ได้นำไปใช้
ในรายงานประจำปี พ.ศ. 2556 ต่อรัฐสภาของกระทรวงกลาโหมสหรัฐเรื่องการพัฒนาทางทหารของจีน ไม่ได้กล่าวถึงตงเฟิง-41 อย่างชัดเจน แต่ระบุว่า "จีนอาจกำลังพัฒนา ICBM อัตตาจรทางถนนแบบใหม่ ซึ่งมีความสามารถในการบรรทุกหัวรบแบบแยกเป้าโจมตีได้หลายจุดอย่างอิสระ (MIRV)" ซึ่งอาจหมายถึงตงเฟิง-41 ต่อมาในปี พ.ศ. 2556 The Free Beacon รายงานว่าการทดสอบการยิงครั้งที่สองตามรายงานรายละเอียดการทดสอบของเจ้าหน้าที่ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2556 จากศูนย์ปล่อยดาวเทียมไท่หยวน (太原卫星发射中心) ในมณฑลชานซีและตกกระทบในพื้นที่ทางตะวันตกของจีน
The Free Beacon รายงานเมื่อเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2557 ว่าเจ้าหน้าที่ของสหรัฐ ได้กล่าวในขณะนั้นว่าตั้งแต่ปี พ.ศ. 2555 ตงเฟิง-41 ถูกยิงทดสอบแล้วสองครั้ง
ในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2557 เว็บไซต์ศูนย์ตรวจสอบสิ่งแวดล้อมมณฑลส่านซีของจีนบังเอิญทำรายงานข่าวเกี่ยวกับเหตุการณ์การตั้งสถานีฐานเพื่อตรวจสอบสิ่งแวดล้อมสำหรับฐานยิงขีปนาวุธข้ามทวีปตงเฟิง-41 รายงานข่าว (และทั้งเว็บไซต์) ถูกลบหลังจากได้รับความสนใจจากสาธารณชนไม่นาน
The Free Beacon อ้างว่าจีนได้ทดสอบการยิงตงเฟิง-41 ซึ่งติดหัวรบกลับสู่ชั้นบรรยากาศหลายหัวรบเป็นครั้งแรกในวันที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2557 ปลายเดือนนั้น จีนยืนยันว่าการปล่อยขีปนาวุธดังกล่าวเกิดขึ้น โดยอ้างว่ามีสิทธิ์โดยชอบธรรมในการทดสอบทางวิทยาศาสตร์ภายในเขตแดนของตน ซึ่งไม่ได้กำหนดเป้าหมายไปยังประเทศใด ๆ และการพัฒนาขีปนาวุธดังกล่าวไม่กระทบต่อนโยบายของจีนที่เมื่อเกิดความขัดแย้งจะไม่ใช้อาวุธนิวเคลียร์โจมตีก่อน
ในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2558 ขีปนาวุธได้รับการทดสอบการปฏิบัติการบินเป็นครั้งที่สี่ และในเดือนธันวาคม ได้รับการทดสอบเป็นครั้งที่ห้า การทดสอบการบินทั้งสองครั้งกระทำเพื่อทดลองการใช้หัวรบกลับสู่ชั้นบรรยากาศแบบแยกเป้าโจมตี โดยการยิงขีปนาวุธและหัวรบจำลองถูกติดตามโดยดาวเทียมไปยังพิสัยการปะทะทางตะวันตกของจีน
เดือนเมษายน พ.ศ. 2559 จีนประสบความสำเร็จในการทดสอบครั้งที่ 7 ด้วยหัวรบจำลองสองหัวใกล้กับทะเลจีนใต้ ท่ามกลางความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นระหว่างวอชิงตันและปักกิ่งเกี่ยวกับพื้นที่นั้น
วันที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2560 มีรายงานว่าจีนได้ส่งกองพลน้อยขีปนาวุธทางยุทธศาสตร์ไปยังมณฑลเฮย์หลงเจียง ซึ่งมีพรมแดนติดกับรัสเซีย และอีกหนึ่งหน่วยไปยังซินเจียง ในเดือนพฤศจิกายนปีเดียวกัน เพียงสองวันก่อนที่ประธานาธิบดีทรัมป์จะเยือนจีน ได้มีการทดสอบตงเฟิง-41 ในบริเวณทะเลทรายโกบี
เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2562 ในวันครบรอบ 70 ปีของสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้มีการแสดงขีปนาวุธในขบวนสวนสนามทางทหารขนาดใหญ่
รุ่นเคลื่อนที่ทางราง
วันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2558 จีนได้ดำเนินการทดสอบฐานยิงอาวุธปล่อยรุ่นเคลื่อนที่ทางรางใหม่สำหรับตงเฟิง-41 ซึ่งคล้ายกับฐานของขีปนาวุธ RT-23 โมโลเดซ (รัสเซีย: РТ-23 УТТХ «Мо́лодец») ของรัสเซีย
รุ่นติดตั้งในไซโล
สหพันธ์นักวิทยาศาสตร์อเมริกัน (FAS) กล่าวว่าในปี พ.ศ. 2564 จีนกำลังสร้างไซโลขีปนาวุธ 120 หลังสำหรับขีปนาวุธตงเฟิง-41 ใกล้กับเมืองอวี้เหมิน (玉门市) ในมณฑลกานซู่ และไซโลขีปนาวุธอีก 110 หลังใกล้เมืองฮามี่ (哈密市) ในซินเจียง
ในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2564 พื้นที่ที่สามถูกค้นพบว่ากำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้างใกล้กับเมืองออร์ดอส (鄂尔多斯市) ในมองโกเลียใน โดยพื้นที่ใหม่จะบรรจุ ICBM มากกว่า 100 ลูก เจ้าหน้าที่สหรัฐ ระบุว่าฐานขีปนาวุธใหม่ทั้ง 3 ฐานจะติดตั้งขีปนาวุธนิวเคลียร์พิสัยไกลใหม่รวม 350 ถึง 400 ลูก
อ้างอิง
- ↑ "DF-41 (Dong Feng-41 / CSS-X-20)". Center for Strategic and International Studies (ภาษาอังกฤษ). 8 ตุลาคม 2019. สืบค้นเมื่อ 28 กรกฎาคม 2021.
- ↑ Paul Fiddian (สิงหาคม 2012). . Armed Forces International News. คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 8 สิงหาคม 2014. สืบค้นเมื่อ 20 มีนาคม 2013.
- ↑ "DF-41 (Dong Feng-41 / CSS-X-20)". Missile Threat. Center for Strategic and International Studies. 31 กรกฎาคม 2021.
- "China's strategic deterrents on display". China Daily (ภาษาอังกฤษ). 2 ตุลาคม 2019. สืบค้นเมื่อ 19 ตุลาคม 2019.
- ↑ . Janes.com. 1 มิถุนายน 2010. คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 26 มีนาคม 2011.
- Arjun Subramanian P (12 พฤศจิกายน 2012). "DF-41: China's answer to the US BMD efforts". Institute for Defence Studies and Analyses. สืบค้นเมื่อ 8 มีนาคม 2014.
- Kristensen, Hans M.; Norris, Robert S. (2018). "Chinese nuclear forces, 2018". Bulletin of the Atomic Scientists. 74 (4): 289–295. Bibcode:2018BuAtS..74d.289K. doi:10.1080/00963402.2018.1486620.
- "Chinese Government Website Confirms New Multi-Warhead ICBM". Washington Free Beacon (ภาษาอังกฤษ). 1 สิงหาคม 2014. สืบค้นเมื่อ 2 ตุลาคม 2019.
- Sean O'Connor (April 2012). "PLA Ballistic Missiles". Air Power Australia. p. 1. APA-TR-2010-0802. สืบค้นเมื่อ 18 January 2014.
- John Pike. "DF-41 - China Nuclear Forces". Globalsecurity.org. สืบค้นเมื่อ 21 มีนาคม 2010.
- . News.xinhuanet.com. 2 กันยายน 2009. คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 10 มกราคม 2015. สืบค้นเมื่อ 21 มีนาคม 2010.
- Gertz, Bill (15 สิงหาคม 2012). "China test fires new long-range missile". Washington Free Beacon (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2 ตุลาคม 2019.
- Rogge Chen and Sofia Wu (15 เมษายน 2013). "China yet to deploy 094 sub, JL-2 & DF-41 missiles: security head". Focus Taiwan. Central News Agency. สืบค้นเมื่อ 19 เมษายน 2013.
- "Military and Security Developments Involving the People's Republic of China 2013". Office of the Secretary of Defense (U.S. Department of Defense): 6. 2013. http://www.defense.gov/pubs/2013_china_report_final.pdf. เรียกข้อมูลเมื่อ 18 January 2014.
- "China Conducts Second Flight Test of New Long-Range Missile". freebeacon.com. 17 ธันวาคม 2013.
- Gertz, Bill (6 มิถุนายน 2014). "Pentagon Confirms New Chinese Long-Range ICBM Development". Washington Free Beacon (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2 ตุลาคม 2019.
- "China 'confirms new generation long range missiles'". Daily Telegraph. AFP. 1 สิงหาคม 2014. สืบค้นเมื่อ 2 สิงหาคม 2014.
- Gertz, Bill (18 ธันวาคม 2014). "China Tests ICBM With Multiple Warheads". Washington Free Beacon.
- "Chinese Military Confirms DF-41 Flight Test". Washington Free Beacon. 26 ธันวาคม 2014.
- "China Missile Test | Multi-Warhead Missile". Washington Free Beacon. 11 ธันวาคม 2015.
- "China Confirms Multiple-Warhead Missile Test in South China Sea". Washington Free Beacon. 21 เมษายน 2016.
- "Say Hello to China's ICBMs". SpaceDaily.com. 30 มกราคม 2017.
- "Did China test a missile that could strike US ahead of Trump's visit?". South China Morning Post (ภาษาอังกฤษ). 9 พฤศจิกายน 2017. สืบค้นเมื่อ 8 มิถุนายน 2019.
- Bora, Kukil (10 พฤศจิกายน 2017). "Ahead of Trump visit, China likely tested 12,000-km-range missile that could strike anywhere in US". International Business Times, India Edition.
- "China displays new hypersonic nuclear missile on 70th anniversary". www.aljazeera.com. 1 ตุลาคม 2019.
- Fisher Jr, Richard (23 ธันวาคม 2015). . Jane's 360. คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 24 ธันวาคม 2015. สืบค้นเมื่อ 25 ตุลาคม 2019.
- "Chinese Defense Ministry Confirms Rail-Mobile ICBM Test". Washington Free Beacon. 31 ธันวาคม 2015.
- "China Is Building A Second Nuclear Missile Silo Field". Federation Of American Scientists (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 1 สิงหาคม 2021.
- "EXCLUSIVE: China building third missile field for hundreds of new ICBMs". Washington Times. 12 สิงหาคม 2021.
- "The Chinese Nuclear Breakout and the Biden Administration's Nuclear Posture Review | RealClearDefense". RealClearDefense.com. 28 สิงหาคม 2021.
- "China's nuclear missile silo expansion: From minimum deterrence to medium deterrence". Bulletin of the Atomic Scientists (ภาษาอังกฤษ). 1 กันยายน 2021. สืบค้นเมื่อ 2 ตุลาคม 2021.
แหล่งข้อมูลอื่น
- ภัยคุกคามจากขีปนาวุธ - ตงเฟิง 41 CSIS