ธนูทดกำลัง หรือเสียงอ่านในภาษาอังกฤษ คอมพาวน์ด โบว เป็นธนูสมัยใหม่ที่ใช้ระบบคานงัด โดยใช้สายเคเบิลและลูกรอก (pulleys) ในการออกแรงเค้นไปที่ปีกธนู
ปีกของคันธนูทดกำลังมีความแข็งมากกว่าปีกของ คันธนูแบบปีกโค้งกลับ หรือ คันธนูยาว ความแข็งของปีกคันธนูทดกำลังนี้จะทำให้มีพลังที่มีประสิทธิภาพมากกว่าคันธนูชนิดอื่นๆ โดยการใช้งานร่วมกับลูกรอก และ เพลาลูกเบี้ยว(cams) คันธนูทดกำลังมีสายธนูที่นำไปใช้กับรอก(และ เพลาลูกเบี้ยว) และรอกข้างหนึ่งหรือทั้งสองข้างจะมีสายเคเบิลหนึ่งหรือหลายเส้นเชื่อมต่อกับรอกที่อยู่ตรงด้านปีกธนูฝั่งตรงข้าม เมื่อนักธนูดึงสายธนูจะทำให้รอกทำงาน และเมื่อง้างสายจนสุดนักธนูจะไม่ต้องออกแรงต้านกลไกมากนัก แต่หากเมื่อยังอยู่ในขณะดึงสายธนูนักธนูจะต้องออกแรงดึงต้านกลไกเพื่อโน้มปีกธนูมากขึ้น พลังงานสะสมที่ปีกธนูจึงมีมากกว่าเมื่อเทียบกับธนูประเภทอื่น
จากรูปแบบการใช้งานของระบบคานงัดนี้ทำให้คันธนูทดกำลังมีความเป็นเอกลักษณ์ทางด้านแรงดึงปีกธนู ที่ซึ่งเพิ่มน้ำหนักแรงดึงขึ้นจนสุดแล้วเข้า "ภาวะผ่อนแรง" ด้วยน้ำหนักที่เบาขณะค้างสายไว้
ธนูทดกำลังไม่ค่อยมีผลกระทบจากอุณหภูมิและความชื้นมากนักและยังให้ความแม่นยำ ความเร็ว และระยะหวังผลที่ดีกว่า เมื่อเทียบกับธนูประเภทอื่น
จากงานวิจัยในช่วงก่อนศตวรรษที่ 20 ก่อนที่จะเริ่มมีการประดิษฐ์คันธนูทดกำลัง ธนูคอมโพสิท (Composite bow) ถูกเรียกว่า คอมพาวน์ด โบว ซึ่งปัจจุบันได้ถูกแทนที่แล้ว
โครงสร้างของธนูทดกำลัง ภาพขยายระบบรอกของธนูทดกำลัง
ส่วนกึ่งกลางของธนูที่เป็นส่วนที่ยึดปีกธนูทั้งสองข้าง และเป็นที่ติดตั้งอุปกรณ์เสริมเช่น ศูนย์เล็ง และ ศูนย์ถ่วง เรียกว่า คันบังคับธนู(Riser) โดยคันธนูนี้ถูกออกแบบให้มีความแข็งแรงและมีน้ำหนักเบา ส่วนใหญ่มักทำจาก อะลูมิเนียม หรือ แม็กนีเซียม อัลลอย และส่วนใหญ่มักจะผลิตด้วยวัสดุสำหรับสร้างเครื่องบินเช่น 6061 อะลูมิเนียม อัลลอย
ปีกธนูสร้างจากวัสดุผสม ที่มีความสามารถในการยืดหยุ่นและทนแรงอัดสูง ปีกธนูเป็นตัวสะสมพลังงานทั้งหมดของคันธนู - ไม่ได้มีการสะสมพลังงานที่ระบบรอกและสายธนู น้ำหนักในการง้างสายธนูโดยทั่วไปจะอยู่ระหว่าง 10 ถึง 100 ปอนด์ สร้างความเร็วให้ลูกธนูได้ 150 ถึง 370 ฟีต ต่อวินาที(46 ถึง 113 เมตร/วินาที)
ในการติดตั้งทั่วไปส่วนใหญ่ ระบบรอกและเพลาจะถูกติดอยู่ตรงส่วนปลายปีกธนู รูปทรงของเพลาลูกเบี้ยวอาจแตกต่างกันตามรูปทรงของคันธนู โดยมีบางอย่างแตกต่างกันในแนวคิดการใช้งานระบบเพลาลูกเบี้ยวในการเก็บพลังงานสะสมไว้ทีปีกธนู และสิ่งเหล่านี้ทั้งหมดตกอยู่ภายใต้ประเภทที่เรียกว่า bow eccentrics โดยมี 4ประเภทที่ใช้กันมากที่สุดคือ Single Cam, Hybrid Cam, Dual Cam และ Binary Cam อย่างไรก็ตาม นอกจากนี้ยังมีอีกแบบที่ไม่ค่อยมีการใช้งานมากนักคือ Quad Cam and Hinged "ภาวะผ่อนแรง" เป็นคำที่อธิบายถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อเพลาม้วนจนสุด ดังภาพขยายตัวอย่างระบบรอก ขณะง้างสายจนสุด 'ด้านยาว' ของเพลาลูกเบี้ยวอยู่ฝั่งนักธนู เมื่อเปรียบเทียบกับรูปแรกระบบเพลาแสดง 'ด้านสั้น' เข้าหานักธนู "ภาวะผ่อนแรง" จึงเป็นเรื่องสำคัญที่นักธนูจะเลือกเปลี่ยนคานงัดจากคานสั้นเป็นคานยาว
เมื่อธนูถูกง้างออกน้ำหนักที่ใช้ในการง้างสายจะเพิ่มขึ้นถึงจุดสุดจากนั้นจะเข้าสู่ "ภาวะผ่อนแรง" อัตราส่วนร้อยละของน้ำหนักง้างสายสูงสุดก่อนจะหยุด(เรียกว่า "กำแพง") ป้องกันไม่ให้สามารถง้างสายต่อไปได้อีก ภาวะผ่อนแรงจะใช้น้ำหนักประมาณร้อยละ 65 ถึง 80 ของอัตราง้างสูงสุดสำหรับการออกแบบธนูทดกำลังก่อนหน้านี้ ถึงแม้ว่าจะเคยมีคันธนูรู่นเก่าสามารถให้ภาวะผ่อนแรงได้อัตราร้อยละ 50 และการออกแบบล่าสุดธนูบางคันสามารถทำให้ประสิทธิภาพของภาวะผ่อนแรงได้เกินกว่าอัตราร้อยละ 90
จากรูปทางด้านขวามือแสดงลักษณะแนวแกนจากปีกธนูถึงเพลาซึ่งติดอยู่ตรงด้านปลายปีกธนูโดยมีมุมหนึ่งของเพลายึดอยู่ตรงกึ่งกลาง ในขณะสายธนูกำลังถูกง้างเพลาเกิดการหมุนและเกิดแรงกระทำกดไปที่ปีกธนู
สายธนูของธนูทดกำลัง โดยปรกติจะสร้างจาก เส้นใยโพลีอีทิลีนที่มีแรงโมดุลัสยืดหยุ่น สูง และถูกออกแบบให้มีความต้านทานแรงดึงได้ดีและมีอัตราการย้วยเล็กน้อย
การเปรียบเทียบกับธนูชนิดอื่น ลักษณะเด่น ในการทำงานของระบบรอกและเพลา(เรียกว่า 'eccentrics') คือการสะสมพลังงาน จึงทำให้ธนูทดกำลังสะสมพลังงานได้มากขึ้นและยิงได้เร็วขึ้น การออกแบบของระบบรอกและเพลาสามารถควบคุมอัตราเร่งของลูกธนูได้โดยตรง ลักษณะด้อย จำนวนชิ้นส่วนเคลื่อนที่ที่มีจำนวนมากกว่า ต้องอาศัยการดูแลที่มากกว่าและสร้างจุดเสียหายได้มากกว่า
ลูกธนู ลูกธนูที่ใช้ของธนูทดกำลังเมื่อเทียบกับลูกธนูของธนูปีกโค้งกลับนั้นไม่ได้มีความแตกต่างกันมากนัก มักทำด้วยอะลูมิเนียมอัลลอย, เส้นใยคาร์บอน หรือสร้างจากวัสดุผสมของทั้งสองชนิด
ลูกธนูที่ทำด้วยไม้มักไม่นิยมใช้งานกับธนูทดกำลัง เนื่องจากแรงสะสมที่มากอาจกระแทกให้ก้านของลูกธนูหัก และอาจทำให้ชิ้นส่วนของก้านธนูที่แตกพุ่งไปโดนแขนของนักธนู
ผู้ผลิตแต่ละรายจะผลิตก้านธนูที่มีความแตกต่างกันทั้งทางด้าน น้ำหนัก spines และความยาวที่แตกต่างกัน ในรูปทรงเดียวกันของก้านธนูเพื่อให้เข้ากันตามรูปแบบของนักธนูแต่ละคน โดยอ้างอิงกับลักษณะทางกายภาพ
ดูเพิ่ม
อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น 25ปีหลังสิทธิบัตรของอัลเลนในปี ค.ศ. 1969 รูปถ่ายของธนูทดกำลังในยุค 1970 ชนิดของธนู
ธน, ทดกำล, หร, อเส, ยงอ, านในภาษาอ, งกฤษ, คอมพาวน, โบว, เป, นธน, สม, ยใหม, ใช, ระบบคานง, โดยใช, สายเคเบ, ลและล, กรอก, pulleys, ในการออกแรงเค, นไปท, กธน, กของค, นม, ความแข, งมากกว, าป, กของ, นธน, แบบป, กโค, งกล, หร, นธน, ยาว, ความแข, งของป, กค, นน, จะทำให, พล, . thnuthdkalng hruxesiyngxaninphasaxngkvs khxmphawnd obw epnthnusmyihmthiichrabbkhanngd odyichsayekhebilaelalukrxk pulleys inkarxxkaerngekhnipthipikthnukhnthnuthdkalng pikkhxngkhnthnuthdkalngmikhwamaekhngmakkwapikkhxng khnthnuaebbpikokhngklb hrux khnthnuyaw khwamaekhngkhxngpikkhnthnuthdkalngnicathaihmiphlngthimiprasiththiphaphmakkwakhnthnuchnidxun odykarichnganrwmkblukrxk aela ephlalukebiyw cams khnthnuthdkalngmisaythnuthinaipichkbrxk aela ephlalukebiyw aelarxkkhanghnunghruxthngsxngkhangcamisayekhebilhnunghruxhlayesnechuxmtxkbrxkthixyutrngdanpikthnufngtrngkham emuxnkthnudungsaythnucathaihrxkthangan aelaemuxngangsaycnsudnkthnucaimtxngxxkaerngtanklikmaknk aethakemuxyngxyuinkhnadungsaythnunkthnucatxngxxkaerngdungtanklikephuxonmpikthnumakkhun phlngngansasmthipikthnucungmimakkwaemuxethiybkbthnupraephthxuncakrupaebbkarichngankhxngrabbkhanngdnithaihkhnthnuthdkalngmikhwamepnexklksnthangdanaerngdungpikthnu thisungephimnahnkaerngdungkhuncnsudaelwekha phawaphxnaerng dwynahnkthiebakhnakhangsayiwthnuthdkalngimkhxymiphlkrathbcakxunhphumiaelakhwamchunmaknkaelayngihkhwamaemnya khwamerw aelarayahwngphlthidikwa emuxethiybkbthnupraephthxuncaknganwicyinchwngkxnstwrrsthi 20 kxnthicaerimmikarpradisthkhnthnuthdkalng thnukhxmophsith Composite bow thukeriykwa khxmphawnd obw 1 sungpccubnidthukaethnthiaelw enuxha 1 okhrngsrangkhxngthnuthdkalng 2 karepriybethiybkbthnuchnidxun 2 1 lksnaedn 2 2 lksnadxy 3 lukthnu 4 duephim 5 xangxing 6 aehlngkhxmulxunokhrngsrangkhxngthnuthdkalng aekikh phaphkhyayrabbrxkkhxngthnuthdkalng swnkungklangkhxngthnuthiepnswnthiyudpikthnuthngsxngkhang aelaepnthitidtngxupkrnesrimechn sunyelng aela sunythwng eriykwa khnbngkhbthnu Riser odykhnthnunithukxxkaebbihmikhwamaekhngaerngaelaminahnkeba swnihymkthacak xalumieniym hrux aemkniesiymxllxy aelaswnihymkcaphlitdwywsdusahrbsrangekhruxngbinechn 6061 xalumieniym xllxypikthnusrangcakwsduphsmthimikhwamsamarthinkaryudhyunaelathnaerngxdsung pikthnuepntwsasmphlngnganthnghmdkhxngkhnthnu imidmikarsasmphlngnganthirabbrxkaelasaythnu nahnkinkarngangsaythnuodythwipcaxyurahwang 10 thung 100 pxnd srangkhwamerwihlukthnuid 150 thung 370 fittxwinathi 46 thung 113 emtr winathi inkartidtngthwipswnihy rabbrxkaelaephlacathuktidxyutrngswnplaypikthnu rupthrngkhxngephlalukebiywxacaetktangkntamrupthrngkhxngkhnthnu odymibangxyangaetktangkninaenwkhidkarichnganrabbephlalukebiywinkarekbphlngngansasmiwthipikthnu aelasingehlanithnghmdtkxyuphayitpraephththieriykwa bow eccentrics odymi 4praephththiichknmakthisudkhux Single Cam Hybrid Cam Dual Cam aela Binary Cam xyangirktam nxkcakniyngmixikaebbthiimkhxymikarichnganmaknkkhux Quad Cam and Hinged phawaphxnaerng epnkhathixthibaythungsingthiekidkhunemuxephlamwncnsud dngphaphkhyaytwxyangrabbrxk khnangangsaycnsud danyaw khxngephlalukebiywxyufngnkthnu emuxepriybethiybkbrupaerkrabbephlaaesdng dansn ekhahankthnu phawaphxnaerng cungepneruxngsakhythinkthnucaeluxkepliynkhanngdcakkhansnepnkhanyawemuxthnuthukngangxxknahnkthiichinkarngangsaycaephimkhunthungcudsudcaknncaekhasu phawaphxnaerng xtraswnrxylakhxngnahnkngangsaysungsudkxncahyud eriykwa kaaephng pxngknimihsamarthngangsaytxipidxik phawaphxnaerngcaichnahnkpramanrxyla 65 thung 80 khxngxtrangangsungsudsahrbkarxxkaebbthnuthdkalngkxnhnani thungaemwacaekhymikhnthnurunekasamarthihphawaphxnaerngidxtrarxyla 50 aelakarxxkaebblasudthnubangkhnsamarththaihprasiththiphaphkhxngphawaphxnaerngidekinkwaxtrarxyla 90cakrupthangdankhwamuxaesdnglksnaaenwaekncakpikthnuthungephlasungtidxyutrngdanplaypikthnuodymimumhnungkhxngephlayudxyutrngkungklang inkhnasaythnukalngthukngangephlaekidkarhmunaelaekidaerngkrathakdipthipikthnusaythnukhxngthnuthdkalng odyprkticasrangcak esniyophlixithilinthimiaerngomdulsyudhyunsung aelathukxxkaebbihmikhwamtanthanaerngdungiddiaelamixtrakarywyelknxykarepriybethiybkbthnuchnidxun aekikhlksnaedn aekikh inkarthangankhxngrabbrxkaelaephla eriykwa eccentrics khuxkarsasmphlngngan cungthaihthnuthdkalngsasmphlngnganidmakkhunaelayingiderwkhun karxxkaebbkhxngrabbrxkaelaephlasamarthkhwbkhumxtraerngkhxnglukthnuidodytrnglksnadxy aekikh canwnchinswnekhluxnthithimicanwnmakkwa txngxasykarduaelthimakkwaaelasrangcudesiyhayidmakkwalukthnu aekikhlukthnuthiichkhxngthnuthdkalngemuxethiybkblukthnukhxngthnupikokhngklbnnimidmikhwamaetktangknmaknk mkthadwyxalumieniymxllxy esniykharbxn hruxsrangcakwsduphsmkhxngthngsxngchnidlukthnuthithadwyimmkimniymichngankbthnuthdkalng enuxngcakaerngsasmthimakxackraaethkihkankhxnglukthnuhk aelaxacthaihchinswnkhxngkanthnuthiaetkphungipodnaekhnkhxngnkthnuphuphlitaetlaraycaphlitkanthnuthimikhwamaetktangknthngthangdan nahnk spines aelakhwamyawthiaetktangkn inrupthrngediywknkhxngkanthnuephuxihekhakntamrupaebbkhxngnkthnuaetlakhn odyxangxingkblksnathangkayphaphduephim aekikhthnuaelalukthnu thnupikokhngklbxangxing aekikh Tutankhamun Anatomy of an Excavation The notes were made in the 1920s and describe composite bows as compound the modern compound bow did not exist at this time http www griffith ox ac uk gri carter 135z htmlaehlngkhxmulxun aekikh25pihlngsiththibtrkhxngxlelninpi kh s 1969 rupthaykhxngthnuthdkalnginyukh 1970 chnidkhxngthnuekhathungcak https th wikipedia org w index php title thnuthdkalng amp oldid 4716551, wikipedia, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด,
บทความ , อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม
