นกโกโรโกโส
นกโกโรโกโส | |
---|---|
สถานะการอนุรักษ์ | |
ไม่มั่นคง (IUCN 3.1) | |
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
อาณาจักร: | Animalia |
ไฟลัม: | Chordata |
ชั้น: | Aves |
อันดับ: | Cuculiformes |
วงศ์: | Cuculidae |
สกุล: | Carpococcyx |
สปีชีส์: | C. renauldi |
ชื่อทวินาม | |
Carpococcyx renauldi Oustalet, 1896 |
นกโกโรโกโส (ชื่อวิทยาศาสตร์: Carpococcyx renauldi; อังกฤษ: coral-billed ground-cuckoo) เป็นนกที่อาศัยบนพื้นขนาดค่อนข้างใหญ่ ในวงศ์นกคัคคู (Cuculidae) เป็นนกประจำถิ่นของไทยและพบในลาว กัมพูชา และ เวียดนาม ลักษณะเด่นคือ ลำตัวสีเทา หัว คอ และหางยาวสีน้ำเงินม่วงเข้ม จะงอยปากสีแดงสด ขาสีแดงเข้ม คาดว่าขนาดประชากรลดลงอย่างรวดเร็ว สภานะในปัจจุบันของนกโกโรโกโสอยู่ในระดับเกือบอยู่ในข่ายใกล้การสูญพันธุ์ (VU)
อนุกรมวิธานและศัพทมูลวิทยา
นกโกโรโกโส (Carpococcyx renauldi) มีชื่อลักษณะเฉพาะตั้งเพื่อเป็นเกียรติแก่มิชชันนารีชาวฝรั่งเศส เจ. เอ็น. เรโนลด์ (ค.ศ. 1838–1898) ซึ่งรวบรวมตัวอย่างพันธุ์พืชและสัตว์จำนวนมากระหว่างงานเผยแผ่ศาสนาในเวียดนาม และผู้ก่อตั้งพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติเวียดนามในปี พ.ศ. 2441
ชื่ออื่น: นกอีโหลง นกขายหมู
ในเอเซียสกุลนกโกโรโกโส (Carpococcyx) หรือเรียก “นกคัดคูดินเอเชีย” (Asian ground-cuckoo) ของวงศ์นกคัดคู (Cuculidae) มี 3 ชนิด นกโกโรโกโส (C. renauldi) เป็นชนิดที่หาดูได้ง่ายกว่าอีก 2 ชนิดหนึ่ง คือที่พบบนเกาะบอร์เนียว (นกโกโรโกโสบอร์เนียว –C. radiceus; Bornean Ground Cuckoo) และ ชนิดที่พบที่เกาะสุมาตรา (นกโกโรโกโสสุมาตรา –C. viridis; Sumatra Ground Cuckoo)
ลักษณะ
นกโกโรโกโสเป็นนกที่อาศัยบนพื้นดิน มีรูปลักษณะแบบไก่ฟ้า ลักษณะที่โดดเด่นโดยเฉพาะเมื่ออยู่ในที่แจ้งคือ ลำตัวบนมีสีเทาออกฟ้าและด้านล่างสีเทาอ่อน หัว คอ อก ขนปีกนอกและหางยาวสีน้ำเงินม่วงเข้ม เป็นมันแกมเขียวฟ้า อกล่างสีเทาอ่อนออกเหลืิอง ขาสีแดงเข้ม ค่อนข้างยาว ขนคลุมแข้งสีเทาอ่อน ระหว่างรอบคอสีดำและอก-หลังสีเทาอาจมีแถบขนสีขาวคั่นบาง ๆ ปีกสีเทาหรือเป็นสีเทาอ่อนไล่จากเข้มสุดบนปลายปีกและหลังไปจนเป็นสีขาวที่อก เมื่อกางปีกตะโพกเทาแกมน้ำตาล จะงอยปากสีแดงสดค่อนข้างหนาและโค้งงุ้มเล็กน้อย รอบตามีขนหรอมแหรม หนังรอบตาสีน้ำเงินม่วงหรือม่วงแดง ตาเหลือง
มีขนาดค่อนข้างใหญ่ ความยาววัดจากปลายปากถึงปลายหางประมาณ 65–70 เซนติเมตร ขนาดลำตัวยาว หางสีดำยาวประมาณ 35 เซนติเมตร
นกโตเต็มวัยตัวผู้และตัวเมียสีสันคล้ายคลึงกัน ขนหางในตัวผู้มีความยาวระหว่าง 29 ไม่เกิน 35 เซนติเมตร ในตัวเมียมีความยาวเฉลี่ย 33 เซนติเมตร
นกรุ่น มีหัวสีน้ำตาลเข้ม หน้าผากสีน้ำตาลแดง หนังรอบตาสีเทา ลำตัวส่วนบนเป็นสีน้ำตาล ส่วนล่างมีสีน้ำตาลแดง จะงอยปากสีน้ำตาลเข้ม
การแพร่กระจายพันธุ์
เป็นนกประจำถิ่นของไทย ลาว กัมพูชา และเวียดนาม อาศัยในป่าหญ้ารก ในป่าดิบแล้ง ป่าโปร่ง ตั้งแต่พื้นที่ราบถึงไม่เกินความสูง 900 เมตร จากระดับน้ำทะเล พบได้ค่อนข้างยาก ในประเทศไทยอาจพบทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันตกเฉียงเหนือและภาคตะวันตกเฉียงใต้ ได้แก่ ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา, เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว จังหวัดจันทบุรี, เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าลุ่มน้ำยม จังหวัดแพร่ มีรายงานการพบในพื้นที่อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าตะเบาะ-ห้วยใหญ่ จังหวัดเพชรบูรณ์ และอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง จังหวัดพิษณุโลก ในอินโดจีนอาจพบได้บ่อยในอดีต และพบบางส่วนน้อยมากในพื้นที่ที่สูงไม่เกิน 1,500 เมตร จากระดับน้ำทะเล
พฤติกรรมและนิเวศวิทยา
นกโกโรโกโสเป็นนกที่อาศัยและหากินตามพื้นดินบริเวณที่มีลูกไม้หรือที่ปกคลุมแน่นด้วยพืช ชอบซ่อนตัวอยู่ตามกอหญ้า ถ้าถูกรบกวนจะวิ่งหนีอย่างรวดเร็ว นกโกโรโกโสมักไม่ค่อยบินแม้ว่าจะบินได้เร็ว พบเห็นได้ยากแม้มีขนาดใหญ่ เวลานอนจะขึ้นไปเกาะบนต้นไม้หรือกิ่งไผ่ที่ไม่สูงมาก ประมาณไม่เกิน 10 เมตร จากพื้นดินเช่นเดียวกับจำพวกไก่ และไก่ฟ้า
เสียงร้องก้องดัง พยางค์แรกสั้น "ปู๊ป ปู้-วุ้บ" และ "วู้ว" ดังไกล ลากเสียงเล็กน้อย
การหาอาหาร
หาอาหารบนพื้นดิน อาหารได้แก่ แมลง หนอน สัตว์ขนาดเล็ก ปลวก ผลไม้ลูกไม้สุกที่หล่นจากต้น เช่น ไทร หว้า และตะขบป่า กินลูกไม้ เมล็ดพืช นอกจากนี้การดักถ่ายด้วยกล้องยังพบว่า นกโกโรโกโสมีพฤติกรรมเดินหากินตามสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดใหญ่อย่างกวางและหมูป่า และส่งเสียงร้องซึ่งอาจเป็นที่มาของชื่อ นกขายหมู[ต้องการอ้างอิง]
การผสมพันธุ์
ผสมพันธุ์ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์-–มิถุนายน นกโกโรโกโสเป็นนกในวงศ์นกคัคคูเช่นเดียวกับแม่นกกาเหว่าซึ่งไม่ทำรังเลี้ยงลูกของตัวเอง แต่นกโกโรโกโสทำรังและเลี้ยงลูกเอง วางไข่ครั้งละ 2–4 ฟอง ทำรังบนต้นไม้ สูงประมาณ 3–4 เมตร หรืออาจบนกิ่งไม้ที่เรี่ยพื้น
ระยะฟักตัว 18 ถึง 19 วัน ลูกนกเพิ่งฟักไม่มีขน มีผิวสีน้ำตาลเข้ม เปิดตาในวันที่ 5 ออกจากรังเมื่ออายุระหว่าง 17–19 วัน เริ่มหาอาหารเองในวันที่ 28 ของชีวิต และแยกรังเมื่ออายุ 50–60 วัน
การศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับชีววิทยาการสืบพันธุ์ของนกชนิดนี้มีไม่มากโดยเฉพาะนกในธรรมชาติ คาดว่าไม่แตกต่างจากพวกนกบั้งรอกมากนัก
การอนุรักษ์
ไม่มีการประมาณขนาดประชากรที่ชัดเจน พบน้อยในถิ่นอาศัยที่เหมาะสม หรือ พบเห็นได้เฉพาะบางพื้นที่
คาดว่าแนวโน้มประชากรนกโกโรโกโสในประเทศไทยและอินโดจีนลดลง เนื่องจากการล่าเพื่ออาหารและการค้านกที่เพิ่มขึ้น จากหลักฐานการเพิ่มขึ้นของการล่าโดยใช้แร้วดักนก (cable-snaring) ประมาณว่าอัตราการลดจำนวนประชากรของนกโกโรโกโสใน 3 ประเทศน่าจะลดลงถึงร้อยละ 80 ในระยะเวลาเพียงสิบกว่าปี ตลอดจนสาเหตุจากการสูญเสียแหล่งที่อยู่อาศัย จากปัจจัยข้างต้นทำให้สภานะในปัจจุบันของนกโกโรโกโสอยู่ในระดับเกือบอยู่ในข่ายใกล้การสูญพันธุ์ (VU) ในบัญชีแดงของ IUCN
ในประเทศไทย
นกโกโรโกโส (C. renauldi) เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ลำดับที่ 53 ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พุทธศักราช 2535 และถูกจัดแสดงในสวนสัตว์ดุสิต สวนสัตว์เปิดเขาเขียว
อ้างอิง
- แม่แบบ:Url=https://www.iucnredlist.org/details/22684138/0
- Beolens, Bo (2003). Whose bird? : men and women commemorated in the common names of birds. Michael Watkins. London: Christopher Helm. ISBN 0-7136-6647-1. OCLC 52357299.
- ↑ นกโกโรโกโส. สถานีวิจัยสิ่งแวดล้อมสะแกราช, สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย. สืบค้นเมื่อ 17 มิถุนายน 2564.
- ↑ "นกโกโรโกโส - eBird". ebird.org.
- ↑ "นกโกโรโกโส Coral-billed Ground Cuckoo ( Carpococcyx renauldi (Oustalet, 1896) )". www.lowernorthernbird.com.
- ↑ นกโกโรโกโส/Coral-billed Ground-cuckoo (Carpococcyx renauldi). องค์การสวนสัตว์. สืบค้นเมื่อ 17 มิถุนายน 2564.
- ↑ "นกโกโรโกโส Coral-billed Ground Cuckoo – ภาพถ่ายนกทุกชนิดที่พบในประเทศไทย".
- ↑ "นกโกโรโกโส (Coral-billed Ground Cuckoo; Carpococcyx renauldi) จากบล็อก โอเคเนชั่น oknation.net". oknation.nationtv.tv.
- ↑ "Bloggang.com : : จันทร์น้อย : นกโกโรโกโส". BlogGang.
- ↑ Erhitzøe, Mann, Brammer, Fuller: Cuckoos of the World. S. 211. ISBN 978-0-7136-6034-0
- ↑ "นกโกโรโกโส Coral-billed Ground Cuckoo". Birds of Thailand: Siam Avifauna.
- ↑ "นกโกโรโกโส - สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กลุ่มงานวิจัยสัตว์ป่า". www.thaiwildlife.info.
- ↑ International), BirdLife International (BirdLife (2018-08-06). "IUCN Red List of Threatened Species: Carpococcyx renauldi". IUCN Red List of Threatened Species.
- ↑ นกโกโรโกโส DooAsia. สืบค้นเมื่อ 17 มิถุนายน 2564.
- Payne, R. & de Juana, E. (2018). Coral-billed Ground-cuckoo (Carpococcyx renauldi). In: del Hoyo, J., Elliott, A., Sargatal, J., Christie, D.A. & de Juana, E. (eds.). Handbook of the Birds of the World Alive. Lynx Edicions, Barcelona.
- Andy Symes (2018-04-17). "Archived 2018 topic: Coral-billed Ground-cuckoo (Carpococcyx renauldi): revise global status?". BirdLife's Globally Threatened Bird Forums (ภาษาอังกฤษ).
- ราชกิจจนุเบกษา. เล่ม 111 ตอนที่ 51ก, 16 พฤศจิกายน 2537.