ปาเตรีย เอเอ็มวี
ปาเตรีย เอเอ็มวี (ฟินแลนด์: Patria AMV) เป็นยานพานะทหารขับเคลื่อนแปดล้อแบบหลายบทบาท ที่ผลิตโดยปาเตรีย ซึ่งเป็นบริษัทอุตสาหกรรมป้องกันประเทศของฟินแลนด์
ปาเตรีย เอเอ็มวี | |
---|---|
ปาเตรีย เอเอ็มวี ของโครเอเชียติดอาวุธด้วยสถานีอาวุธควบคุมระยะไกลโพรเท็กเตอร์ | |
ชนิด | รถลำเลียงพลหุ้มเกราะ |
สัญชาติ | ประเทศฟินแลนด์ |
บทบาท | |
ประจำการ | ค.ศ. 2007–ปัจจุบัน |
ผู้ใช้งาน | ดูประจำการด้านล่าง |
สงคราม | สงครามในอัฟกานิสถาน การแทรกแซงที่นำโดยซาอุดีอาระเบียในเยเมน |
ประวัติการผลิต | |
ผู้ออกแบบ | ปาเดรีย |
ข้อมูลจำเพาะ | |
น้ำหนัก | 16,000 ถึง 27,000 กก. (35,000 ถึง 60,000 ปอนด์) |
ความยาว | 7.7 ม. (25 ฟุต) |
ความกว้าง | 2.8 ม. (9 ฟุต 2 นิ้ว) |
ความสูง | 2.3 ม. (7 ฟุต 7 นิ้ว) |
ลูกเรือ | 2–3 นาย (ผู้บัญชาการ, พลขับ, พลปืนเสริม) ผู้โดยสาร 8–12 นาย |
อาวุธหลัก | ปืนใหญ่สูงสุด 105 มม. หรือครกแฝด 120 มม. ในป้อมปืน |
เครื่องยนต์ | ดีไอ 12 สแกนเนียดีเซล หรือดีซี 12 สแกนเนียดีเซล 405 กิโลวัตต์ (543 แรงม้า) หรือ 360 กิโลวัตต์ (480 แรงม้า) |
กำลัง/น้ำหนัก | 15.6 กิโลวัตต์/ชั่วโมง (21.2 แรงม้า/ขั่วโมง) (น้ำหนักสูงสุด), 25.3 กิโลวัตต์/ชั่วโมง (34.4 แรงม้า/ชั่วโมง) (น้ำหนักขั้นต่ำ) |
กันสะเทือน | ขับเคลื่อน 8 ล้อ ระบบกันสะเทือนอิสระ |
พิสัยปฏิบัติการ | 600–850 กม. (370–530 ไมล์) |
ความเร็ว | มากกว่า 100 กม./ชม. (60 ไมล์ต่อ ชม.) บนบก สูงถึง 10 กม./ชม. (6.2 ไมล์ต่อ ชม.) ในน้ำ |
คุณสมบัติหลักของรถเกราะล้อยางแบบแยกส่วนนี้คือการออกแบบให้เป็นชิ้นส่วนประกอบมาตรฐาน ซึ่งช่วยสำหรับการรวมตัวของป้อมปืน, อาวุธ, ตัวรับรู้ หรือระบบการสื่อสารที่แตกต่างกันในโครงรถเดียวกัน การออกแบบมีอยู่สำหรับยานพาหนะรถลำเลียงพลหุ้มเกราะ (APC) และรุ่นรถรบทหารราบ (IFV), รุ่นคมนาคม, รถพยาบาล และรุ่นที่รองรับการยิงที่แตกต่างกัน ติดอาวุธด้วยปืนครกและระบบปืนเส้นผ่าศูนย์กลางขนาดใหญ่ ยานพาหนะมีระดับการป้องกันทุ่นระเบิดที่ดีมาก และสามารถทนต่อการระเบิดทีเอ็นทีสูงถึง 10 กิโลกรัม (22 ปอนด์) รถเกราะล้อยางแบบแยกส่วนนี้มีระดับการป้องกันลูกดอกเจาะเกราะส่วนหน้าสูงถึง 30 มม. คุณสมบัติที่สำคัญอีกประการหนึ่งคือความคล่องตัวที่ดีมาก (ความเร็ว, ความว่องไว และความสะดวกสบายของลูกเรือรวมกัน) ในภูมิประเทศที่ขรุขระ โดยใช้งานแบบสมบุกสมบันแต่มีการปรับระบบกันสะเทือนแบบไฮดรอนิวแมติกที่ทนทานแต่ละล้อแยกกัน
ประวัติ
รถเกราะล้อยางแบบแยกส่วนนี้เกิดจากงานวิจัย ซึ่งผลิตโดยกองบัญชาการกองทัพบกฟินแลนด์ใน ค.ศ. 1995 บนแนวคิดรถหุ้มเกราะที่แตกต่าง ใน ค.ศ. 1996 ยานพาหนะปาเตรียเริ่มพัฒนายานพาหนะด้วยแนวคิดที่แตกต่าง และพบว่าการขับเคลื่อนแปดล้อจำนวนหนึ่งจะเหมาะที่สุดสำหรับการแทนที่สำหรับซิซูปาซิขับเคลื่อนหกล้อ กองทัพฟินแลนด์ (FDF) ได้สั่งซื้อแนวคิดนี้อย่างเป็นทางการใน ค.ศ. 1999 ซึ่งพร้อมแล้วเมื่อ ค.ศ. 2000 ปาเตรียยังคงพัฒนายานยนต์และรถเกราะล้อยางแบบแยกส่วนต้นแบบแรกที่พร้อมสำหรับการทดสอบในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2001 สองตัวอย่างการประเมินได้รับการสั่งซื้อโดยกองทัพฟินแลนด์ในเดือนธันวาคม ค.ศ. 2001 และได้รับการส่งมอบใน ค.ศ. 2003 ในปีเดียวกันนั้น กองทัพฟินแลนด์ได้สั่งซื้อปาเตรีย เอเอ็มวี ที่ติดตั้งอามอสจำนวน 24 คันสำหรับการจัดส่ง ค.ศ. 2006–2009 กองทัพฟินแลนด์ยังกล่าวด้วยว่าพวกเขาต้องการสั่งซื้อ 100 คัน พร้อมกับสถานีอาวุธควบคุมระยะไกล ซึ่งหลังจากนั้นได้สั่งซื้อ 62 คัน ส่วนในเดือนธันวาคม ค.ศ. 2002 กระทรวงกลาโหมโปแลนด์ได้สั่งซื้อยานพาหนะนี้จำนวน 690 คัน ทำให้ปาเตรียเป็นผู้นำในการผลิตรถรบทหารราบช่วง 15–27 ตันในทวีปยุโรป ข้อตกลงที่ตามมาได้ทำทั่วทวีปยุโรป เช่นเดียวกับในแอฟริกาใต้และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์—ในหลาย ๆ สถานที่ที่ผลิตในท้องถิ่น ใน ค.ศ. 2004 รถเกราะล้อยางแบบแยกส่วนได้กลายเป็นพาหนะต่อสู้รุ่นที่ 4 รายแรกในประเภทของมันที่เข้าสู่การผลิตแบบต่อเนื่อง
การออกแบบยึดตามประสบการณ์ที่ได้รับจากการสร้างปาซิ และความคิดเห็นของลูกค้าเกี่ยวกับยานพาหนะดังกล่าว มันถูกออกแบบมาทั้งหมดในสภาพแวดล้อมเสมือนจริง 3 มิติก่อนการสร้าง และการทดสอบต้นแบบที่ประสบความสำเร็จในภายหลังนั้นแสดงให้เห็นว่ามันตอบสนองความคาดหวังทั้งหมด
รถคันนี้ได้รับการออกแบบในรุ่นขับเคลื่อนหกล้อ, แปดล้อ และสิบล้อ แต่รุ่นขับเคลื่อนสิบล้อได้หยุดลงในภายหลัง
เวอร์ชัน
ปาเตรีย เอเอ็มวี (เวอร์ชันแรก)
รถเกราะล้อยางแบบแยกส่วนนี้ได้รับการเสนอในสามรุ่นหลัก ได้แก่ แท่นปืนใหญ่พื้นฐาน, แท่นปืนใหญ่หลังคาสูง และแท่นปืนใหญ่อาวุธหนัก
- รถเกราะล้อยางแบบแยกส่วนแท่นปืนใหญ่พื้นฐาน ประกอบด้วยรถลำเลียงพลหุ้มเกราะ, รถรบทหาราบ, การสั่งการและควบคุม, รถพยาบาล, การลาดตระเวน, รถลำเลียงปืนครก, ยานพาหนะเซลล์เชื้อเพลิง, จรวดนำวิถีต่อสู้รถถัง และยานพาหนะระบบปืนเคลื่อนที่ แท่นปืนใหญ่พื้นฐานยังสามารถให้เป็นแท่นปืนใหญ่แอล พื้นฐานแบบขยายกับปริมาณภายในที่เพิ่มขึ้น
- รถเกราะล้อยางแบบแยกส่วนแท่นปืนใหญ่หลังคาสูง มีช่องด้านหลังขนาดใหญ่ขึ้นและสูงขึ้น ซึ่งช่วยให้งานที่ต้องใช้พื้นที่มากขึ้นสามารถทำได้ภายในยานพาหนะ รถเกราะล้อยางแบบแยกส่วนแท่นปืนใหญ่ระบบเหมาะสำหรับระบบบัญชาการ, การควบคุม และการสื่อสาร รวมถึงรถพยาบาลขนาดใหญ่ และยานพาหนะห้องปฏิบัติการ
- รถเกราะล้อยางแบบแยกส่วนแท่นปืนใหญ่อาวุธหนัก มีคุณสมบัติโครงสร้างที่แข็งแกร่ง ทำให้เหมาะสมกับระบบอาวุธหนัก เช่น ปาเตรียอามอสป้อมปืนครกขนาด 120 มม. หรือระบบปืนเคลื่อนที่
ปาเตรีย เอเอ็มวีเอกซ์พี
ใน ค.ศ. 2013 ปาเตรียได้เปิดตัวเวอร์ชันใหม่ของรถเกราะล้อยางแบบแยกส่วน ส่วนในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2014 ปาเตรียได้ประกาศชื่อสำหรับยานเกราะขับเคลื่อนแปดล้อรุ่นต่อไป นั่นคือ ปาเตรีย เอเอ็มวีเอกซ์พี ซึ่งย่อมาจากเอกซ์ตราเพย์โหลด, เอกซ์ตราเพอร์ฟอร์มานซ์ และเอกซ์ตราโพรเทคชัน
ในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2017 ประเทศสโลวาเกียเป็นประเทศแรกที่ได้รับรถเกราะล้อยางแบบแยกส่วนรุ่นใหม่ ภายใต้โครงการความร่วมมือกับประเทศฟินแลนด์ ในความพยายามที่จะแทนที่รถรบทหารราบบีวีพี-1 และบีวีพี-2 ของโซเวียต
รุ่นประจำชาติ
- รุ่นสโลวีเนีย "สคอฟ สวารัน" ใช้ประตูไฮดรอลิกที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ ประตูใหม่ยังมีพื้นที่สำหรับบรรทุกกระสุนเพิ่มเติม, อาวุธต่อต้านรถถังแบบอาร์พีจีสองกระบอก และปืนกลอเนกประสงค์หนึ่งกระบอก
- รุ่น 'แบดเจอร์' ของแอฟริกาใต้ ติดตั้งชุดเกราะใต้พื้นจากแลนด์โมบิลิตีเทคโนโลยีส์ (LMT) และป้อมต่อสู้แบบแยกส่วน (MCT) ของเดเนลแลนด์ซิสเด็มส์ ซึ่งได้นำเสนอในรุ่นย่อยคือ แบบหมวด, สนับสนุนการยิง, ปืนครก, บัญชาการ และขีปนาวุธ
- รุ่นของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์นั้นยาวขึ้นเล็กน้อย (ยาวกว่า 0.4 เมตร) เพื่อให้พอดีกับป้อมปืนบีเอ็มพี-3 ที่มีเนื้อที่มากขึ้น และจำนวนทหารเท่ากับรุ่นรถเกราะล้อยางแบบแยกส่วนดั้งเดิม
ฮาวอค (สหรัฐ)
ปาเตรีย และล็อกฮีด มาร์ติน ตกลงร่วมมือกันในการชิงชัยสำหรับโครงการเอ็มพีซี (รถลำเลียงพลนาวิกโยธิน) ของนาวิกโยธินสหรัฐที่ได้รับการกำหนดให้แทนที่แอลเอวี-25 ซึ่งเหล่านาวิกโยธินสหรัฐวางแผนที่จะได้รับรถลำเลียงพลนาวิกโยธิน 600 คัน ทางปาเตรียจะส่งมอบรถเกราะล้อยางแบบแยกส่วนขับเคลื่อนแปดล้อ ส่วนล็อกฮีด มาร์ติน ซิสเต็มส์อินทริเกชัน เป็นผู้รับผิดชอบข้อเสนอของรถลำเลียงพลนาวิกโยธิน เช่นเดียวกับการรวมระบบ, ระบบความอยู่รอด, สายการผลิตของสหรัฐ และเครือข่าย รวมถึงโลจิสติกส์ ซึ่งในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 2012 นาวิกโยธินให้สัญญากับล็อกฮีดสำหรับการพัฒนายานพาหนะของพวกเขาที่เรียกว่าฮาวอค
เพื่อป้องกันการโจมตีของทุ่นระเบิด ฮาวอคจะใช้ 'ซับเฟรม' แทนตัวถังรูปตัววี เมื่อวันที่ 3 เมษายน ค.ศ. 2013 ฮาวอคประสบความสำเร็จเสร็จสิ้นในการทดสอบสะเทินน้ำสะเทินบกในฐานะส่วนหนึ่งของการประเมินผลสำหรับโครงการรถลำเลียงพลนาวิกโยธิน
รถลำเลียงพลนาวิกโยธินถูกระงับในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2013 และเริ่มใหม่ในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2014 จากนั้นได้ปรับโครงสร้างใหม่เป็นระยะที่ 1 ของโครงการยานรบล้อยางสะเทินน้ำสะเทินบก (ACV) ซึ่งรวมรายการคู่แข่งของรถลำเลียงพลนาวิกโยธินก่อนหน้านี้
ในช่วงฤดูร้อน ค.ศ. 2013 ฮาวอคได้ทำการทดสอบระบบป้องกันได้สำเร็จในระหว่างการทดสอบการระเบิดหลายครั้ง รถคันนี้เสร็จสิ้นการทดสอบระบบป้องกันตามเกณฑ์และวัตถุประสงค์ทั้งหมดโดยมีเครื่องมือบ่งชี้ว่าไม่มีการบาดเจ็บใด ๆ ที่จะส่งผลต่อลูกเรือสามนาย และนาวิกโยธินปลดประจำการ 9 นาย ล็อกฮีดยังส่งรายงานที่แสดงให้เห็นถึงความคล้ายคลึงกันระหว่างฮาวอคกับยานพาหนะของเหล่านาวิกโยธินอื่น ๆ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดต้นทุน, ข้อกำหนดในการฝึก และความต้องการด้านการส่งกำลังบำรุง
ล็อกฮีดฮาวอค เอเอ็มวี สำเร็จในหลักสูตรเส้นทางภูเขาบัตต์ของศูนย์ทดสอบยานยนต์เนวาดาในเดือนกันยายน ค.ศ. 2014 ซึ่งล็อกฮีดวางแผนที่จะเสนอฮาวอคในโครงการยานรบล้อยางสะเทินน้ำสะเทินบกระยะที่ 1 ของเหล่านาวิกโยธิน และมอบยานพาหนะ 16 คันเพื่อทดสอบเมื่อมีคำขอสำหรับข้อเสนอ (RFP) ในต้น ค.ศ. 2015 อย่างไรก็ตาม ในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2015 ความร่วมมือระหว่างปาเตรียกับล็อกฮีด มาร์ติน ได้สิ้นสุดลง และฮาวอคไม่ได้รับการเสนอให้เข้าร่วมโครงการยานรบล้อยางสะเทินน้ำสะเทินบก
ประจำการ
กองทัพบกโปแลนด์ได้สั่งซื้อรถ 690 คันใน ค.ศ. 2003 ซึ่งรวมถึงรถเกราะล้อยางแบบแยกส่วน 313 คันพร้อมป้อมปืนอิตฟิสต์-30ปี โอตีโอ เมลารา ขนาด 30 มม. ของอิตาลี และรถเกราะล้อยางแบบแยกส่วนในองค์ประกอบรุ่นอื่น ๆ 377 คันที่จะส่งมอบระหว่าง ค.ศ. 2004 ถึง 2013 ซึ่งรถของโปแลนด์บางคันได้กรีธาพลสู่ประเทศอัฟกานิสถาน รถของโปแลนด์เป็นที่รู้จักกันในชื่อคาเทออ โรโซมาค ("วุลเวอรีน") ในประจำการกองทัพบกโปแลนด์ ใน ค.ศ. 2013 กองทัพโปแลนด์ได้สั่งซื้อยานพาหนะเพิ่มอีก 307 คัน ซึ่งรวมถึงรถเกราะล้อยางแบบแยกส่วน 122 คัน และติดตั้งปืนครก 80 คัน รวมทั้งหมด 997 คัน ทำให้โปแลนด์เป็นผู้นำมาประจำการที่ใหญ่ที่สุดโดยมีค่าแตกต่างระหว่างราคาทุนกับราคาขายที่ยุติธรรม
กองทัพบกฟินแลนด์สั่งซื้อรถเกราะล้อยางแบบแยกส่วนจำนวน 24 คันพร้อมระบบปืนครกเอมอส และรถเกราะล้อยางแบบแยกส่วน 62 คันที่ติดตั้งระบบอาวุธควบคุมระยะไกลโพรเทกเตอร์ (อาร์ดับเบิลยูเอส) สำหรับปืนกลหนัก.50 เอ็ม2เอชบี คิวซีบี หรือปืนกลยิงลูกระเบิดจีเอ็มจี เวอร์ชันมาตรฐานเป็นที่รู้จักในชื่อเอกซ์เอ-360 ในประจำการกองทัพบกฟินแลนด์ ขณะที่เวอร์ชันเอมอสเป็นที่รู้จักในชื่อเอกซ์เอ-361
ในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2006 กระทรวงกลาโหมของสโลวีเนียได้ประกาศว่าปาเตรีย เอเอ็มวี จะเป็นยานรบหุ้มเกราะรุ่นใหม่ของกองทัพสโลวีเนีย ปาเตรียจะจัดหารถ 135 คัน โดยบางคันติดตั้งปืนครกนีโม, บางคันติดตั้งสถานีอาวุธควบคุมด้วยรีโมตเอลบิต 30 มม. และส่วนที่เหลือกับป้อมปืนคองส์เบิร์กโพรเทคเตอร์ ข้อกล่าวหาในสื่อฟินแลนด์ระบุว่าปาเตรียใช้การติดสินบนเพื่อประกันสัญญาของสโลวีเนียซึ่งนำไปสู่เรื่องอื้อฉาวและการสอบสวนทางอาญาในประเทศฟินแลนด์ และอาจมีส่วนทำให้นายกรัฐมนตรี ยาแน็ส ยานชา พ่ายแพ้ในการเลือกตั้งรัฐสภาของสโลวีเนีย ค.ศ. 2008 เนื่องจากวิกฤตการเงิน ทำให้งบประมาณด้านกลาโหมถูกตัดหลายครั้ง ในตอนแรกสัญญาจัดหายานพาหนะ 135 คันควรได้รับการแก้ไขให้มียานพาหนะน้อยลงพร้อมอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ดีขึ้น ซึ่งในเวลาต่อมา กระทรวงกลาโหมได้รับความเดือดร้อนจากการตัดเงินครั้งใหญ่ ส่วนใน ค.ศ. 2012 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมได้ประกาศยกเลิกสัญญาเมื่อถึงเวลารับรถ 30 คัน โดยมีการซื้อรถหุ้มเกราะและอาวุธที่มีความสามารถสูงขึ้นในอนาคตระยะกลาง
ในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2007 เดเนลแลนด์ซิสเตมส์ของแอฟริกาใต้ได้รับสัญญาในการสร้างรถเกราะล้อยางแบบแยกส่วนรุ่นปรับปรุง พร้อมการป้องกันขีปนาวุธและทุ่นระเบิดในระดับสูงสำหรับกองทัพแอฟริกาใต้ ซึ่งรถเกราะล้อยางแบบแยกส่วนดังกล่าวจะแทนที่ราเทลของแอฟริกาใต้ในฐานะส่วนหนึ่งของ "โปรเจกต์โฮฟีสเตอร์" (เกือกม้า) รวมห้ารุ่นที่แตกต่างกัน ได้แก่ ยานพาหนะบัญชาการ, ปืนครก, ขีปนาวุธ, แผนก และยิงสนับสนุน ในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2013 ทางและปาเตรียได้ประกาศว่าพวกเขาได้ลงนามในข้อตกลงเกี่ยวกับการผลิตและส่งมอบรถเกราะล้อยางปาเตรีย เอเอ็มวี ขับเคลื่อนแปดล้อไปยังแอฟริกาใต้ ข้อตกลงดังกล่าวรวมถึงยานพาหนะ 238 คัน ซึ่งรถรุ่นพรีซีรีส์ 5 คันได้รับการส่งมอบไปแล้วในระหว่างขั้นตอนการพัฒนา
ในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2007 กระทรวงกลาโหมโครเอเชียได้เลือกปาเตรีย เอเอ็มวี เป็นยานรบหุ้มเกราะรุ่นใหม่ของกองทัพโครเอเชียในการประกวดราคาระหว่างประเทศครั้งแรกในประวัติศาสตร์ โดยจะได้รับรถเกราะล้อยางแบบแยกส่วน 84 คัน แรกเริ่มเดิมที ได้มีแผนเรียกรถขับเคลื่อนแปดล้อ 84 คัน และรถขับเคลื่อนหกล้อ 42 คัน กระทั่งกระทรวงกลาโหมโครเอเชียได้อนุมัติการจัดซื้อยานพาหนะปาเตรีย เอเอ็มวี ขับเคลื่อนแปดล้อจำนวน 84 คัน ส่วนแนวคิดของการกำหนดแบบขับเคลื่อนหกล้อถูกยกเลิก และอีก 42 คันที่เหลือนี้ได้ถูกกำหนดให้เป็นแบบขับเคลื่อนแปดล้อแทน การจัดซื้อรถเกราะล้อยางแบบแยกส่วนอีก 42 คันที่เหลือเกิดขึ้นในเดือนธันวาคม ค.ศ. 2008 อย่างไรก็ตาม เนื่องจากวิกฤตการณ์ทางการเงิน สัญญาดังกล่าวได้รับการแก้ไขเล็กน้อยในเดือนเมษายน ค.ศ. 2010 โดยมีแผนเริ่มต้นในการเลื่อนไปก่อนตามคำสั่งครึ่งหนึ่ง (มีการกล่าวถึงยานพาหนะ 64 คัน) แต่มีการตัดสินใจว่าทั้งหมด 126 คันจะยังคงอยู่ตามคำสั่ง อย่างไรก็ตาม เพื่อที่จะลดต้นทุนของข้อตกลงได้บ้าง รุ่นที่แพงที่สุด เช่น นีโม หรือหน่วยวิศวกรรมอาจถูกแทนที่ด้วยรุ่นรถลำเลียงพลหุ้มเกราะที่มีราคาถูกกว่า ในทางกลับกัน การผลิตจะเร่งขึ้นและจะส่งมอบรถทั้งหมดภายในสิ้น ค.ศ. 2012
รัฐบาลแห่งสาธารณรัฐนอร์ทมาซิโดเนียได้ประกาศใน ค.ศ. 2006 ว่าจะจัดหาประเภทเดียวกับที่กองทัพโครเอเชียเลือกหลังจากการทดลองทดสอบใน ค.ศ. 2007—เนื่องจากจะมีค่าใช้จ่ายน้อยกว่าการดำเนินการทดลองด้วยตนเอง โครงแบบของยานพาหนะปาเตรียที่ชนะการแข่งในที่สุดจะคล้ายกับในราชการของสโลวีเนีย แต่อาจมีจำนวนน้อยกว่า อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการเผยแพร่สัญญาใด ๆ
ในเดือนมกราคม ค.ศ. 2008 บริษัทปาเตรียได้ประกาศว่ากองกำลังติดอาวุธสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้สั่งรถเกราะล้อยางแบบแยกส่วน ซึ่งติดตั้งป้อมปืนบีเอ็มพี-3 โดยยังไม่ได้ประกาศจำนวนยานพาหนะ
เมื่อวันที่ 30 มกราคม ค.ศ. 2008 มีการประกาศว่าปาเตรียได้เสนอให้ส่งมอบรถเกราะล้อยางแบบแยกส่วน 30 คันแรกภายในสี่เดือนของการสั่งซื้อ หากกองทัพเช็กเกียเลือกรถเกราะล้อยางแบบแยกส่วนในฐานะรถลำเลียงพลหุ้มเกราะถัดไป ซึ่งกองทัพเช็กเกียได้เลือกสไตร์ พันดัวร์ ของประเทศออสเตรียในฐานะรถลำเลียงพลหุ้มเกราะถัดไป แต่รัฐบาลเช็กเกียได้ถอนตัวจากข้อตกลงเมื่อปลายปีก่อน โดยอ้างว่าสไตร์ได้ล้มเหลวในการปฏิบัติตามพันธกรณีที่เกิดขึ้นจากสัญญา
ส่วนในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 2010 บริษัทปาเตรียได้ขายรถเกราะล้อยางแบบแยกส่วน 113 คันให้แก่ประเทศสวีเดนในข้อตกลงมูลค่า 250 ล้านยูโร ข้อตกลงดังกล่าวรวมถึงตัวเลือกสำหรับรถยนต์อีก 113 คันในอนาคต
อ้างอิง
- "Puolustusvoimat hankkii raivaamispanssareita". verkkouutiset.fi (ภาษาฟินแลนด์). Suomen Kansallisverkko Oy. 22 December 2004. สืบค้นเมื่อ 6 October 2018.
- Mac Dougall, David; Huuhtanen, Elias (17 September 2018). "Investigation: Finnish-made Patrias, some with Russian heavy weapons, deployed in Yemen battle zone". News Now Finland. สืบค้นเมื่อ 6 October 2018.
- Gerard O'Dwyer. "Patria Wins Swedish AMV Contract". Defense News. สืบค้นเมื่อ 2009-06-26.
- https://www.patria.fi/sites/default/files/file_attachments/patria_amv_xp_brochure_lowres.pdf
- ↑ "Sotataloustietoutta VIII" (PDF). สืบค้นเมื่อ 5 November 2014.
- Panssariseminaari 2006[ลิงก์เสีย]
- . Patria Oy. คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 2014-07-14. สืบค้นเมื่อ 5 November 2014.
- Fiorenza, Nicholas (21 November 2017). "Slovakia receives new version of AMV XP under joint IFV programme with Finland". IHS Jane's 360. คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 23 November 2017. สืบค้นเมื่อ 23 November 2017.
- Photo of the Svarun vehicle with new door 2011-10-04 at the Wayback Machine.. "Slovenian Armed Forces"
- . Jane's Information Group
- "IHS Events, Webinars, Training and User Groups". Janes.com. สืบค้นเมื่อ 2013-01-12.
- "SOFEX 2010 - Galleries". Janes.com. สืบค้นเมื่อ 2013-01-12.
- "Patria vahvoilla Yhdysvaltain merijalkaväen ajoneuvokaupoissa. YLE Uutiset 18.10.2007". Yle Uutiset. จากแหล่งเดิมเมื่อ 12 June 2008. สืบค้นเมื่อ 5 November 2014.
- Patrian AMV tarjolla Yhdysvaltain merijalkaväelle. Seppälä, Jarmo: Tekniikka ja Talous 18.10.2007 2008-03-04 at the Wayback Machine.
- Personnel carrier development contracts awarded 2012-09-14 at the Wayback Machine. - Militarytimes.com, September 10, 2012
- Wasserbly, Daniel. "Details emerge on competitors for the USMC's Marine Personnel Carrier." Janes, 28 September 2012.
- Commitment to Swimming Vehicle Throws Off Marines’ Tight Modernization Schedule - Nationaldefensemagazine.org, October 2013
- Marines Budget Scramble: Commandant Resurrects MPC, ACV In Limbo 2014-02-27 at the Wayback Machine. - Breakingdefense.com, 17 February 2014
- Freedberg Jr., Sydney J. (2 April 2014). "A Sneak Peek At Marines' New Amphibious Combat Vehicle". breakingdefense.com. Breaking Media, Inc. จากแหล่งเดิมเมื่อ 5 April 2014. สืบค้นเมื่อ 2 April 2014.
- Marines upgrading, replacing amphibs under new strategy 2014-09-24 at the Wayback Machine. - Militarytimes.com, 24 September 2014
- Havoc 8x8 Demonstrates High Levels of Crew Protection in Marine Corps' Blast Testing 2013-09-27 at the Wayback Machine. - Deagel.com, 24 September 2013
- Lockheed Martin's Havoc 8x8 Armored Modular Vehicle successfully completed automotive tests - Armyrecognition.com, 24 September 2014
- Lockheed Martin Ends Collaboration with Patria on Havoc & Will Present its Own Design for ACV 2015-07-14 at the Wayback Machine. - Armyrecognition.com, 11 July 2015
- "Defense Aerospace: Denel Lands Biggest Contract In Its History". จากแหล่งเดิมเมื่อ 21 October 2014. สืบค้นเมื่อ 5 November 2014.
- . Patria Oy. คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 2014-09-08. สืบค้นเมื่อ 5 November 2014.
- ↑ "Finci dobivaju posao za nabavu oklopnih vozila - 24 July 2007". จากแหล่งเดิมเมื่อ 27 September 2007. สืบค้นเมื่อ 24 July 2007.
- "Patria offers Czechs to supply first 30 APCs within four months - ČeskéNoviny.cz". จากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-09-28. สืบค้นเมื่อ 2008-01-31.
แหล่งข้อมูลอื่น
คอมมอนส์ มีภาพและสื่อเกี่ยวกับ: ปาเตรีย เอเอ็มวี |
- Patria AMV official website