วอร์ลอร์ด จ้าวนักรบกลียุค
บทความเกี่ยวกับการ์ตูนหน้านี้ต้องการเก็บกวาด อย่างใดอย่างหนึ่ง ดังนี้
|
วอร์ลอร์ด จ้าวนักรบกลียุค | ||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| ||||||||||
|
วอร์ลอร์ด จ้าวนักรบกลียุค เป็นการ์ตูนฮ่องกง แต่งเรื่องโดย อุนยี่เหลียง วาดภาพโดย เติ้งจื้อฮุย ตีพิมพ์และจัดจำหน่ายโดยสำนักพิมพ์บุรพัฒน์ เนื้อเรื่องจะดำเนินบนอนาคตในอีก 5,000 ปี นับจากยุคปัจจุบัน โดยเป็นยุคที่เต็มไปด้วยการใช้กำลังความรุนแรงและการฆ่าล้างเผ่าพันธ์ มนุษย์บางส่วนจะสามารถใช้พลังพิเศษซึ่งมีชื่อว่า "พลังสนามแม่เหล็ก" ซึ่งสามารถก่อเกิดอานุภาพการทำลายล้างที่รุนแรงหรือพลังในการฟื้นฟูร่างกายได้อย่างรวดเร็ว ผู้มีพลังสนามแม่เหล็กนี้หากมีความเก่งกล้าพอจะได้รับการยกย่องให้มีฐานะเป็น "วอร์ลอร์ด"
พลังสนามแม่เหล็ก
แรงสนามแม่เหล็กเป็นหนึ่งในแรง พื้นฐาน ไม่กี่แรงที่เป็นแรงให้กำเนิดจักรวาล ซึ่งแฝงอยู่ในสสารทุกอย่างในจักรวาล เราจะเห็นแรงแม่เหล็กจากการ เอาแม่เหล็กมาเข้าใกล้กัน ขั้วที่เหมือนกันจะผลักกัน ขั้วที่ต่างกันก็จะดูดกัน แม้เราจะไม่เห็นแรงแม่เหล็กโดยตรง แต่เราก็รู้สึกได้ว่ามันมีอยู่ ตามประวัติศาสตร์เริ่มต้น มีผู้ที่บรรลุถึงพลังสนามแม่เหล็กได้ ก่อนถึงยุควอร์ลอร์ด คือ พระเยซูและ พระพุทธเจ้า พลังสนามแม่เหล็กมีคุณสมบัติตามประสงค์ของผู้ใช้ เช่นทำให้รักษาโรคได้(ฟื้นฟูสภาพเซลล์) เหาะเหิน เดินอากาศได้ เดินบนน้ำ แสดงอภินิหารต่างๆๆ ใช้เทพวิชาต่างๆ เป็นต้น ผู้บรรลุพลังสนามแม่เหล็กระดับสูงไม่จำเป็นต้องกินอาหารหรือหายใจ สามารถอาศัยอยู่ในอวกาศได้ เนื่องจากสามารถดูดซับธาตุจากรอบตัวโดยใช้พลังสนามแม่เหล็กดูดธาตุเข้ามาในตัว ซึ่งพลังสนามแม่เหล็กยังสามารถยืดชีวิตมนุษย์ให้ยืนยาวได้ถึง 300 ปี พลังสนามแม่เหล็กระดับสูงๆยังสามารถสร้างหลุมตัวหนอน(worm hole)ขนาดจิ๋วเพื่อเดินทางอย่างรวดเร็วได้
- ระดับของพลังสนามแม่เหล็ก
พลังสนามแม่เหล็กที่แฝงอยู่ในมนุษย์ ซึ่ง มีหน่วยเป็น แรงม้า ซึ่งเป็นหน่วยที่ใช้ในเครื่องจักรและบรรลุที่ยาก จึงเปลี่ยนหน่วยใหม่ โดยให้ 10,000 แรงม้า = 1 ชั้นบรรยากาศ(แต่บลูคิงดอมยังนับหน่วยพลังสนามแม่เหล็กเป็นแรงม้าอยู่) ซึ่งต้นตอแหล่งพลังสนามแม่เหล็กที่ทำให้มนุษย์บรรลุพลังสนามแม่เหล็กได้คือการแปรปรวนของสนามแม่เหล็กบนดวงอาทิตย์
- ผลของพลังสนามแม่เหล็กเมื่อมนุษย์บรรลุ- 10,000 แรงม้า หรือ1 ชั้นบรรยากาศ
มนุษย์ผู้ที่จะบรรลุถึงพลังสนามแม่เหล็กได้ ต้อง สามารถควบคุมพลังไฟฟ้าให้ได้ก่อน ดังนั้นผู้ที่บรรลุได้จะสามารถใช้พลังสนามแม่เหล็ก เบนแสงที่มาตกกระทบก่อนสะท้อนเข้าตาทำให้ดูเหมือนหายตัว อีกทั้งสามารถพลางตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมได้
- 250,000 แรงม้า หรือ 25 ชั้นบรรยากาศ ขั้นทลายดารา มนุษย์ที่บรรลุขั้นนี้จะทำลาย ดวงดาวที่คอยกำหนดชะตาชีวิตของตังเองได้ ดวงดี-ร้าย ความเป็นความตาย ไม่อาจกำหนดดวงชะตาของเขาได้นอกจากตัวเขาเอง นอกจากนี้ยังสามารถ รักษาและฟื้นสภาพเซลล์ที่เสียหายได้ อีกด้วย
- 50 ชั้นบรรยากาศ หรือ 500,000 แรงม้า ขั้นต้านแรงดึงดูด คนที่บรรลุพลังระดับนี้ จะเคลื่อนไหวกลางอากาศเหมือนกับอยุ่บนพื้นดิน โดย ไม่ต้องใช้พลังสนามแม่เหล็กทำให้ลอยเลย ว่ากันว่าขณะอยู่กลางอากาศ สามารถบังคับผมที่สะบัด ไปมาได้เลยทีเดียว อีกทั้งด้วยพลังระดับนี้ยังสามารถดูดโลหะให้ สามารถเก็บไว้ในร่างกายของตัวเองได้ ผู้มีความสามารถระดับนี้จะเก็บยอดศาสตรา ไว้กับตัวเองเพื่อสะดวกในการใช้
- 75 ชั้นบรรยากาศ หรือ 750,000 แรงม้า ขั้นนิวเคลียร์ฟิกชั่น ระดับขั้นนี้ ผู้บรรลุจะสามารถ แตกสลายอะตอมต่างๆๆ ให้มีขนาดเล็กลงและปล่อยพลังงานมหาศาลที่แฝงอยู่ออกมาได้ ซึ่งเป็นหลักการเดียวกับการทำระเบิดนิวเคลียร์ พลังระดับนี้หากหยั่งสำนึกถึงขีดสุดได้ สามารถแสดงผลของการทำลายล้างใน ระดับต้านสสารได้ แม้มีพลังเพียง 75 ชั้นบรรยากาศเท่านั้น( มี เพียงไจแอนชาร์คทำได้ เนื่องจากท่าไม้ตายของเขา " อัสนีปลิดเทพ" )
- 99 ชั้นบรรยากาศ หรือ 990,000 แรงม้า ขั้นนี้แม้จะเป็นขั้นก่อนถึง 1 ล้านแรงม้าเพียง 1 ชั้นบรรยากาศ แต่ก็สามารถใช้พลังได้คล้าย 1 ล้านแรงม้า คือ สามารถสร้างหลุมดำ และ สลายร่างกายแล้วคืนสภาพได้อย่างรวดเร็ว สามารถใช้เทพวิชาโดยไม่สูญเสียพลังชีวิต
- 100 ชั้นบรรยากาศ หรือ 1,000,000 แรงม้า ขั้นนิวเคลียร์ฟิวชั่น หรือ ขั้นผลาญอัตตา ระดับนี้เป็นระดับเดียวกับดวงอาทิตย์ที่สามารถ หลอมรวมอะตอมขนาดเล็กให้มีขนาดใหญ่ได้ พลังงานที่ปลดปล่อยออกมามากมายมหาศาลเช่นเดียวดวงอาทิตย์ หากผู้บรรลุขั้นนี้ใช้พลังถึงขีดสุดมากเกินไป อาจทำลายดาวเคราะห์ทั้งดวงได้ พลังระดับ100 ชั้นบรรยากาศ จะไม่อ่อนแรงลงเมื่อสู้ไปนานๆ จะชี้ผลแพ้ชนะจากเทพวิชาเท่านั้น
- 150 ชั้นบรรยากาศ 1,500,000 แรงม้า หรือมากกว่า ขั้นระดับต้านสสาร ขั้นนี้ยากจะมีคนบรรลุ เนื่องจากขั้นนี้พลังสนามแม่เหล็กจะทำลายสสาร หรือ สร้างสสารจากความว่างเปล่าได้ ถึงขั้นนี้มนุษย์ถึงขั้นจะเลียนแบบพระเจ้า สามารถสร้างดาวเคราะห์ขึ้นมากความว่างเปล่า หรือ ย้ายวงโคจรของดาว ตามใจชอบ(Bigbang)
ตัวละคร ในภาค วอร์ลอร์ด จ้าวนักรบกลียุค
- ไป่หวู่หนาน จิตมาร
- เป็นจิตแปลกแยกของไป่หวู่หนานผู้มีเมตตา ไม่ทราบว่ามีตัวตนอยู่แต่แรกหรือถือกำเนิดขึ้นภายหลัง ปรากฏตัวเป็นครั้งแรกก่อนถึงการประลองของหวู่หนานและดาบใหญ่ หวู่หนานแสวงหาสำนึกที่เหมาะสมกับตนเองเพื่อพัฒนาวิชายุทธให้ถึงขั้นสุดยอด หลังจากที่ได้คบชู้กับฉิงฉิง เพื่อนเล่นแต่วัยเยาว์ที่เคยมีความหลังมาด้วยกันตั้งแต่สมัยอยู่เผ่าวายุ ซึ่งปัจจุบันอยู่กินกับนาโด้ พลทหารสามัญๆของเผ่าอินฟินิตี้ หลังจากสวมเขาให้แก่นาโด้ผู้ซึ่งนับถือหวู่หนานเหมือนพี่น้องแล้ว หวู่หนานก็บรรลุขีดขั้นสุดยอดของตัวเอง พร้อมๆกับการปลดปล่อยจิตมารที่ถูกกักขังออกมายังโลกภายนอก กลายเป็นหวู่หนานอีกคนที่อหังการและอำมหิตโดยไม่หลงเหลือความเมตตาใดๆ หวู่หนานจิตมารยึดร่างเนื้อแล้วบุกไปชิงดาบโลกาของไอรอนฮอร์สและปะทะกับไป่ โฉ่ว ก่อนที่ดาบโลกาจะสับหัวของไป่โฉ่วเป็นสองเสี่ยง หวู่หนานพลันได้สติและยึดร่างคืนจากจิตมาร หวู่หนานตัดสินใจรบกับจิตมารให้รู้ผลแพ้ชนะก่อนจะสู้ขั้นแตกหักกับดาบใหญ่ หวู่หนานเข้าไปอยู่ในทรงกลมเหล็กที่ผนึกจากร่างอาฟีร์ และใช้พลังของอาฟีร์สร้างร่างของหวู่หนานจิตมารขึ้นมา ทั้งสองปะทะกับในทรงกลมอาฟีร์ ณ ก้นทะเลที่ลึกนับหมื่นลี้ ในที่สุดหวู่หนานก็เอาชนะจิตมารได้และผลของการปะทะกันทำให้ดาบโลกาและฟ้าดิน แตกสลายจนเคล็ดดาบนรกภูมิ ที่แฝงอยู่ในดาบปรากฏออกมาทำให้หวู่หนานบรรลุสุดยอดวิชาของตระกูลไป่นี้ ทันที หลังจากการประลองกับดาบใหญ่ หวู่หนานรวมร่างเป็นเทพนักรบกลียุคบุกถล่มบลูคิงด้อม หวู่หนานจิตมารที่ถูกกักขังอยู่ในใจของหวู่หนานพยายามช่วงชิงการบังคับ เทพนักรบแต่ไม่เป็นผล จึงตัดสินใจแบ่งจิตและรหัสพันธุกรรมของตนลงในร่างเทพอสูรที่บาดเจ็บตนหนึ่ง เทพอสูรตนนั้นกลับสู่พื้นโลกและไปรวมกับไข่เทพอสูรที่ปริศนาทักษิณทิ้งไว้ เมื่อศึกเทพอสูรครั้งก่อน หลายปีผ่านไปหวู่หนานจิตมารอาศัยพลังของไข่เทพอสูรฟื้นร่างและสามารถควบคุม เทพอสูรทั้งหมด จนกระทั่งศึกบลูคิงด้อมบุกโลกรถด่วนในร่างเทพอสูรผลาญโลกาเปิดเผยตัวเพื่อ ทำลายล้างบลูคิงด้อม แต่กลับเสียท่าให้แก่จ้าวสวรรค์ไจแอ้นชาร์คและบรรดาจ้าวสวรรค์ปลิดเทพ หวู่หนานจึงต้องยึดการควบคุมเทพอสูรจากรถด่วนและเปลี่ยนร่างเป็นเทพนักรบกลี ยุค ก่อนจะละศึกกลับมาที่โลกและคอยเฝ้าดูศึกระหว่างชาวโลกกับบลูคิงด้อมอย่าง เงียบงัน
- เทพนักรบกลียุคและเทพอสูรผลาญโลกา
- ในศึกเทพอสูร รถด่วน ปริศนาทักษิณและไป่โลโบ้ได้ขนเทพอสูรมาร่วมในงานประลองที่ตระกูลไป่จัดขึ้น เมื่อสบโอกาสไป่โลโบ้จึงปลดปล่อยเทพอสูรออกมาทำลายล้างทุกสิ่งที่ขวางหน้า หวู่หนานต้องขุดอาวุธลับของตระกูลไป่คือวิหกเหล็กอาฟีร์ขึ้นมารับมือกับกอง ทัพเทพอสูร ปริศนาทักษินและรถด่วนรวมร่างกับเทพอสูรจนบบรลุพลัง 50 ชั้นบรรยากาศและรบกับวอร์ลอร์ดมากมาย
- ไป่โฉ่ว
- เป็นวอร์ลอดพยัคฆ์สมุทร ที่ไร้เทียมทาน ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งวอร์ลอร์ดพยัคฆ์สมุทรได้โดยการฆ่าพี่ชายตนเอง นิสัยอหังการรักการต่อสู้ ถึงกับเคยจัดให้มีการชุมนุมเพื่อสังหารตนเอง เพื่อพิสูจน์ฝีมือผลนั้น สี่ยอดฝีมือแห่งสำนักสุดขั้วไม่อาจสะท้าน วอลอร์ดนับพันมิอาจกล้ำกลาย จากศึกนั้นทำให้ไปโฉ่วได้วอลอร์ดพันทัพและลูกชายเพิ่มขึ้นมาอีกคน แต่ไป่วโฉ่วก็ไม่คิดใช้วอลอร์ดพันทัพอาวุธสังหารที่มีอำนาจถึง 100 ชั้นบรรยากาศ เพราะต้องการพัฒนาฝีมือด้วยตนเอง ภายหลังเสียชีวิตด้วยฝีมือไป่หวู่หนานจิตมารผู้เป็นลูก
- ไป่ปู้เอ้อ เป็นลูกคนที่ 2 ของไป่โฉ่วกับเชียะเฟย เป็นน้องคนละแม่ กับไป่หวู่หนาน ถูกดูดเข้าวอร์ลออร์ด พันทัพตอนอายุ 7 เดือนกลับสู่โลกอีกครั้งหลังจากถูกดูดเข้าวอร์ดพันทัพ 3 ปี กลับมาตอน ไป่หวู่หนานสู้กับดาบใหญ่และกลายร่างเป็นจ้าวนักรบกลียุค ขัดขวางการบุกโลกของบลูคิงด้อม ด้วยร่างกายที่เหมือนคนอายุ 16 ปี แต่แท้จริงอายุเพียง 3 ปี ต่อมาได้ขึ้นเป็นเจ้าเมืองพันทัพ และถูกไป่หวู่หนานจิตมารดูดพลังชวิต จนตาย
- ไป่ไร้ลักษณ ชื่อต่อมา ราโอ ,ราชันต์ไร้ลักษณ์ ,ราโอทมิฬ เป็นลูกพี่ลูกน้องกับ ไปโฉ่ว มีความจงรักภักดีต่อไปโฉ่วมาก หลังจากไป่หวู่หนานในร่างนักรบกลียุคต้านการบุกของบลูคิงด้อมและขับไล่ออกจากโลก ไป่โฉ่วได้ให้ ราโอ เปลี่ยนชื่อหลังจากศึกเทพอสูร เข้าไปฝึกวิชาในวอร์ลอร์ดพันทัพ ซึ่งเข้าได้เป็นครั้งสุดท้าย หลังจากเข้าได้ 7 วันออกมาเปลี่ยนชื่อเป็น ราชันไร้ลักษณ์ ได้ปกครองเมืองไร้ลักษณ์ ซึ่งตั้งขึ้นพร้อมกันกับเมืองพันทัพ
- ไปมู่เปียน
- ไป่ห้ายุค
- ไป่โลโบ
- วอร์ลอร์ดปลาวาฬโหด
- วอร์ลอร์ดหมัดเหล็ก
- วอร์ลอร์ดเปลี่ยนเส้นเอ็น
- วอร์ลอร์ดดาบใหญ่
- วอร์ลอร์ดต้าไห่ อินฟินิตี้
- วอร์ลอร์ดแบล๊คจากัวร์
- วอร์ลอร์ดแบล๊คไทเกอร
- วอร์ลอร์ดตรีเนตร
- วอร์ลอร์ดอุกกาบาต
- วอร์ลอร์ดจอมฟ้า
- วอร์ลอร์ดนาโด
- วอร์ลอร์ดพายุคลั่ง
- วอร์ลอร์ดลูน่า
- รถด่วน
- ปริศนาทักษิณ
- ไซเหมินเต๋อจื่อ
- โอวอวิ๋น
- เซียะเฟย
- ลอร่า
- เนตรสมุทร
- ลีน่า
- จ้าวสวรรค์ไซอา
- ไอรอนฮอรส
- วอร์ลอรด์จ้าวจันทรา
- จ้าวสวรรค์กอร
- จ้าวสวรรค์สลิง
- จ้าวสวรรค์เทาชั่นเบลด
- จ้าวสวรรค์เฮลสปิริต
- จ้าวสวรรค์ไวลด์ไทเกอร
- จ้าวสวรรค์บลูเองเจิ้ล
- จ้าวสวรรค์ไวท์ชารค
- จ้าวสวรรค์แบล็คชารค
- จ้าวสวรรค์ซากา
- จ้าวพยัคฆ์ขั้วอุดร
- ซีซ่าร์สมุทร
- เทพอสูรพิษร้าย
- รถด่วนบูรพา
- ไป่ป้าเทียน
- ไป่เจิ้น
- ไป่หวู่หนาน
- วอร์ลอร์ดทางช้างเผือก
- วอร์ลอร์ดสุดขั้ว
- วอร์ลอร์ดพันทัพ
- วอร์ลอร์ดอำมหิต
- วอร์ลอร์ดคีร์เก้น
- เสือน้อย(แบล็คไทเกอร์)
- ฟ้าทมิฬ
- จ้าวสวรรค์ไจแอนชาร์ค
- อัสนีทยาน
- ทาสทยาน
- จอมพลัง
- กรงเล็บผี
- นาโด้
ยอดศาสตรา
- ดาบจักรวาล
- ดาบสำนึก
- ดาบสำนึกทองคำ
- ดาบโลกา-ฟ้าดิน
- ดาบนรกภูมิ
- ดาบตัดสวาส
- ดาบฉลามคลั่ง
- กระบี่จ้าวสวรรค์
- ดาบเฮอริเคน
- กระบี่ไร้ขอบเขต
- ดาบจักรวาลมารร้าย
- สำนึก มาร คลั่ง
- กระบี่ อินฟินิตี้
เทพวิชา
- ห้ายอดเคล็ดดาบ
- เทพวิชาสุดขั้วอินฟินิตี้
- เทพนักรบกลียุค
- เคล็ดอภิอสูร
- ดาบนรกภูมิ
- เจ็ดพิฆาตตระกูลไป่
- เทพนักสู้นรกภูมิ : เป็นวิชาที่ถูกกล่าวขานว่าใร้เทียมทานในหมู่เทพวิชา ถูกบัญญัติขึ้นเมื่อหนึ่งแสนปีก่อนโดยยอดนักดาบอัจฉริยะนามว่า ตี้อวี่ หรือ ทูตนรก แรกเริ่มนั้นเป็นเพียงแค่วิชาพลังสนามแม่เหล็กที่ใช้ในการศึกษาสภาวะจิตแปลกแยก ภายหลังใด้ถูกนำมาดัดแปลงเพื่อใช้ในการต่อสู้ เมื่อเทพนักสู้นรกภูมิทำงาน ผู้ใช้สามารถสร้างร่างแยกที่เกิดจากปราณสนามแม่เหล็กและใช้พลังสมองควบคุมเพื่อร่วมต่อสู้ไปกับร่างเนื้อของตน ลดความได้เปรียบหรือทำลายข้อแตกต่างทางด้านจำนวนในการต่อสู้ลงอย่างสิ้นเชิง ร่างปราณที่เรียกออกมา โดยมากจะจำลองภาพหน้าและบุคลิกมาจากญาติมิตรหรือแม้กระทั่งคู่ปรับที่ล่วงลับ เพื่อแสดงความเคารพหรือหวังผลทางจิตวิทยา ไม่ใช่เป็นการเรียกวิญญาณคนตายออกมาจริงๆ เทพนักสู้นรกภูมิมีความแตกต่างจากเทพวิชาอื่นตรงที่ไม่สามารถพัฒนาขึ้นได้ด้วยพละกำลังหรือความสามารถในการควบคุมสนามแม่เหล็กอย่างเดียว จำนวนของร่างปราณ ความแข็งแกร่ง ความรู้สึกนึกคิด หรือแม้กระทั่งเทพวิชาที่ร่างปราณสามารถใช้ได้ ล้วนขึ้นอยู่กับอัจฉริยะภาพของผู้ใช้ นอกจากนี้ ความสัมพันธ์ส่วนตัวของผู้ใช้ และบุคลิกของร่างปราณที่ถูกจำลองออกมา ก็มีผลเช่นกัน ข้อจำกัดหนึ่งเดียวของเทพนักสู้นรกภูมิคือ พลังของร่างแยกสามารถพัฒนาจนมีขีดจำกัดเทียบเท่าผู้ใช้ได้ แต่จะไม่มีทางเหนือกว่า
- เทพนักสู้พยัคฆ์สมุทร เป็นวิชาเทพนักสู้นรกภูมิที่ถูกพัฒนาขึ้นอีกระดับของ ไป่ซื่อหนาน โดยใช้จิตอหังการและความทะเยอทะยาน ปราศจากคุณธรรมน้ำมิตรและความสัมพันธ์ทางสายเลือดเป็นแรงขับดัน ไปซื่อหนานสามารถเรียกเทพนักสู้นรกภูมิได้สูงสุด 6 ร่าง และทุกร่างที่จำลองมาสามารถเปล่งพลังสนามแม่เหล็กได้เทียบเท่ากับบุคลิกดั้งเดิม แต่มีจุดอ่อนคือ เทพนักสู้นรกภูมิที่ถูกเรียกออกมาแม้จะสามารถเปล่งพลังสนามแม่เหล็กได้เท่าบุคลิกดั้งเดิม แต่ไม่สามารถจำลองสำนึกและความสามารถที่แท้จริงของบุคลิกนั้นๆได้ เนื่องจากบุคลิกของไปซื้อหนานผู้ใช้ มีความทะเยอทะยานอำมหิต และความทะนงตน กดสำนึกของร่างแยกอยู่
- เทพนักสู้อินฟินิตี้ เป็นวิชาเทพนักสู้นรกภูมิที่ถูกพัฒนาขึ้นอีกระดับของ ไป่โส่วหนาน และถือเป็นเทพนักสู้นรกภูมิขั้นสมบูรณ์แบบ มีพลังเทียบเท่ากับการใช้พลังสนามแม่เหล็กผลาญชีวิตตนเองหนึ่งร้อยปี ต่างจากหลักการขับดันพลังของไปซื่อหนานผู้น้อง ไปโส่วหนานละทิ้งความคิดและทิฐิส่วนตน เน้นใช้ความรู้สึกและความเคารพในญาติมิตรสหายผลักดันสำนึก จำนวนเทพนักสู้นรกภูมิที่สามารถระดมออกมาได้เกือบจะไร้ขีดจำกัด จุดอ่อนก็คือจำนวนของร่างแยกจะผกผันกับความแข็งแกร่ง แต่มีข้อได้เปรียบเหนือเทพนักสู้นรกภูมิสายอื่นคือ ความสัมพันธ์และความเคารพของของไป่โส่วหนานที่มีต่อร่างดั้งเดิม ทำให้บุคลิกที่จำลองมาสามารถเปล่งพลังและเทพวิชาที่เหนือกว่าผู้ใช้ได้ เช่นร่างจำลองของ ไห่หู่ ผู้เป็นบิดา สามารถเปล่งพลังหนึ่งล้านแรงม้าได้ โดยที่ตัวผู้ใช้เองยังไม่ได้บรรลุ
- เคล็ดสุดขั้วสะท้านภพ
- เคล็ดสังหารเทียนหวู่
- หมัดอหังการสังหารวาฬ
- ดาบมารแห่งยุค
- เคล็ดอสูร
- ห้ายอดวิชาสำนักซิลเวอร์มูล
- จักรวาลทมิฬ - จักรวาลสีขาว
- อภิไร้มิติ(อภิไร้วิถี)
- เคล็ดปลิดเทพ
- วัฏจักรหกตลบ
- อัสนีปลิดเทพ(อัสนีประหารเทพ)
- ประหารเทพไร้ปรานี(ประหารเทพไร้สำนึก)
- เคล็ดแมงกะพรุนราชันย์สะท้านภพ
- หมื่นม้าพันทัพ