fbpx
วิกิพีเดีย

วัดป่าธรรมโสภณ

วัดป่าธรรมโสภณ เป็นวัดตั้งอยู่เลขที่ 225/1 หมู่ 1 ถ.ราชมนู ตำบลทะเลชุบศร อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี

วัดป่าธรรมโสภณ
ที่ตั้งถนนราชมนู ตำบลทะเลชุบศร อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี รหัสไปรษณีย์ 15000
ประเภทวัดราษฏร์
นิกายมหานิกาย
พระพุทธรูปสำคัญหลวงพ่อพุทธมงคลสรรเพ็ชญ์ พระพุทธรูปปางมารวิชัยแกะสลักจากหินทราย ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
ความพิเศษมีวิหารอยู่หลังหนึ่งซึ่งสร้างขึ้นในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช
จุดสนใจพื้นที่ของวัดเป็นสันคูเมือง
กิจกรรมเชิญชวนพุทธศาสนิกชนมาร่วมกันสวดมนต์ภาวนาเสริมดวงชะตาได้ที่อุโบสถ วัดป่าธรรมโสภณ โดยมี พระครูภาวนาโสภณ รอง เจ้าอาวาสฯ เจ้าคณะอำเภอเมืองลพบุรีเป็นผู้นำสวด ซึ่งจะสวดกันทุกวันพระ ตั้งแต่เวลา 18.00 - 19.20 น.
ส่วนหนึ่งของสารานุกรมพระพุทธศาสนา

ประวัติ

วัดป่าธรรมโสภณ พื้นที่ของวัดเป็นสันคูเมือง อยู่ห่างจากศาลพระกาฬประมาณ 500 เมตร สร้างขึ้นเป็นวัด นับตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2225 ต่อมา กลายสภาพเป็นวัดร้าง ถูกทิ้งร้างอยู่ใจกลางเมืองลพบุรีมาแต่ครั้งในอดีต บริเวณวัดเป็นป่าไม้นานาชนิด ชาวบ้านจึงเรียกว่าวัดป่า มีวิหารอยู่หลังหนึ่งซึ่งสร้างขึ้นในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ในอดีต เดิมชื่อ วัดป่าเรไลย์ ต่อมาในปี พ.ศ. 2448 คุณถนอม, คุณพรรณ, คุณเชย, พระสมบัติยาธิบาล มีจิตศรัทธาอันเป็นมหากุศล มาปฏิสังขรณ์วิหาร ซึ่งมีอักษรจารึกอยู่หน้าบันวิหารดังกล่าว ต่อมาปี พ.ศ. 2449 พระอธิการฉาย สุวรรณสร (หลวงพ่อฉาย) พร้อมด้วยเพื่อนสหธรรมิกอีก 4 รูป ศิษย์วัดอีก 6 คน รวม 11 คน มาประจำอยู่ที่วัดป่าแห่งนี้และเปลี่ยนชื่อเสียใหม่ว่า “วัดป่าธรรมโสภณ” ช่วยกันพัฒนาวัดจนได้รับพระราชทานวิสุงคามเสมาเมื่อวันที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2498 และได้ประกอบพิธีผูกพัทธสีมา เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2499

ประวัติหลวงพ่อพุทธมงคลสรรเพ็ชญ์

ลพบุรีเมื่อครั้งอดีตเคยเจริญรุ่งเรืองทางด้านสถาปัตยกรรม ศิลปกรรม เป็นอย่างมาก ดูได้จากซากปรักหักพังของสิ่งปลูกสร้างรวมทั้งสิ่งเคารพสักการะ โดยเฉพาะ “พระพุทธรูป” ในครั้งอดีตเชื่อกันว่าการสร้างพระพุทธรูปที่มีขนาดใหญ่จากวัสดุที่มีความแข็งแรงคงทนโดยเฉพาะหินที่ช่างจะต้องบรรจงแกะสลักด้วยความระมัดระวังให้มีความประณีตสวยงามมีพุทธลักษณะถูกต้องตรงกับสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธจ้า วัดป่าธรรมโสภณ เป็นวัดหนึ่งอยู่ในใจกลางเมืองลพบุรีที่มีพระประธานที่ประดิษฐานอยู่ในอุโบสถของวัดป่าธรรมโสภณเป็นพระพุทธรูปที่เรียกได้ว่ามีขนาดใหญ่โตที่สุดที่สร้างจากหินทราย มีขนาดหน้าตักวัดได้ 2 เมตร 30 เซนติเมตร ความสูงวัดได้ 3 เมตร 80 เซนติเมตร

กรมศิลปากรได้เคยดำเนินการ เพื่อจะนำไปเก็บรวบรวมไว้ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สมเด็จพระนารายณ์ แต่การเคลื่อนย้ายในสมัยนั้นเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากองค์ท่านใหญ่มาก กรมศิลปากรไม่มีพาหนะขนาดใหญ่เพื่อเคลื่อนย้ายได้มีเพียงแรงคน จึงได้ไปติดต่อขอกำลังทหารเกณฑ์จากค่ายปืนใหญ่ซึ่งเดิมตั้งอยู่บริเวณ โรงเรียนพิบูลวิทยาลัยในปัจจุบัน เจ้าหน้าที่กรมศิลป์ฯพร้อมกำลังทหารเกณฑ์หลายสิบนายพร้อมกันไปที่วัดตะพานหิน จากนั้นจึงช่วยกันลองยกเศียรดูก่อน โดยกำลังทหารนับสิบนายไม่สามารถยกเศียรขึ้นได้เนื่องจากมีขนาดใหญ่และทำจากหินทรายที่มีน้ำหนักมาก อีกทั้งมาคิดอีกทีว่าถึงนำไปได้ก็คงหาที่ตั้งยากจึงเปลี่ยนใจปล่อยไว้ตามเดิม ราวปี พ.ศ. 2483 หลวงพ่อฉายฯ ได้รับนิมนต์ฉันเพลในตลาดลพบุรี พร้อมด้วยพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระธรรมรามมุนี(หลวงพ่อขุน) เจ้าอาวาสวัดเขาวงพระจันทร์ อดีตเจ้าคณะจังหวัดลพบุรี ได้สนทนากับพระเดชพระคุณ ได้ความว่าวัดป่าธรรมโสภณเป็นวัดที่มีอุโบสถใหญ่โต แต่ยังขาดองค์พระประธาน ขณะนี้มีพระพุทธรูปเก่าแก่อยู่องค์หนึ่งชื่อหลวงพ่อใหญ่ฝังจมดินอยู่ที่วัดตะพาน แถวคลองตาปี่ แต่ด้วยขนาดและน้ำหนักที่มากเกินความสามารถเจ้าหน้าที่กรมศิลปากรและทหารเกณฑ์หลายสิบนายได้ทดลองยกท่อนเศียรดูก่อน ปรากฏว่ายกไม่ขึ้น เจ้าหน้าที่จึงทิ้งองค์ท่านไว้ตามเดิม วันรุ่งขึ้นหลวงพ่อฉาย ได้เดินทางไปติดต่อขอหลวงพ่อใหญ่มาเป็นองค์พระประธานในอุโบสถของวัด ทางเจ้าหน้าที่กรมศิลปากรก็ไม่ขัดข้องเพียงแต่ต้องให้ทางวัดดำเนินการเคลื่อนย้ายเอง จากนั้นท่านได้เดินทางมายังวัดตะพานทันที ท่านได้จุดธูปเทียน บอกกล่าวขออนุญาตเคลื่อนย้ายองค์หลวงพ่อใหญ่ หลังเสร็จพิธี หลวงพ่อฉายได้ลองให้ทหารยกท่อนเศียรดูปรากฏว่ากำลังทหารเพียง 3 นายก็ยกขึ้นได้ จากนั้นจึงช่วยกันขุดชิ้นส่วนอื่นที่ฝังอยู่ใต้ดินจนครบองค์ นำใส่รถเข็น เข็นไปตามทางรถไฟจนถึงวัดป่า จากนั้นพระและเณรก็ช่วยกันหามเข้าไปในอุโบสถ ปะติดปะต่อจนเรียบร้อย แล้วจึงทำการลงรักปิดทอง 100% จนเหลืองอร่ามทั่วทั้งองค์ จนไม่เห็นหินทรายเนื้อเดิม จากนั้นหลวงพ่อฉายจึงได้ถวายนามให้ใหม่ว่า “หลวงพ่อพุทธมงคลสรรเพ็ชญ์” นับแต่นั้นมา

ประวัติหลวงพ่อฉาย สุวรรณสร

ประวัติหลวงพ่อฉาย สุวรรณสร อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าธรรมโสภณ ตำบลทะเลชุบศร อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี เกิดที่จังหวัดสุโขทัย อำเภอศรีสำโรง ตำบลบ้านคลองตาหรั่ง บิดาชื่อ เปรม มารดาชื่อทองคำ มีบุตรร่วมบิดามารดาด้วยกัน ๘ คน ชาย ๕ คน หญิง ๓ คน หลวงพ่อฉายสุวรรณสรนี้ เป็นบุตรคนที่ ๒ เกิดเมื่อ ปีมะแม เดือน ๖ ขึ้น ๑๑ ค่ำ วันพฤหัสบดี ปฐมวัยชื่อ ฉุย นามสกุล จอมปรีดา อยู่ในนิสสัยของฆราวาส อายุ ๑๘ ปี เมื่ออายุ ๑๕ ปี เรียนมูลกัจจายกับพระปลัดแป๊ะเป็นครู สำนักวัดใหญ่บ้านสวน เมื่ออายุได้ ๑๘ ปี จึงบรรพชาเป็นสามเณร พระอุปปัชฌาย์ ชื่ออ้นอยู่วัดใหญ่บ้านสวนมิได้ย่อท้อต่อการศึกษาเรียนมูลกัจจายต่อจนอายุได้ ๒๐ ปี ตอนนี้ บิดามารดาเห็นอายุครบกำหนดการอุปสมบทตามประเพณี จึงจัดการอุปสมบท ณ ที่วัดใหญ่บ้านสวน จังหวัดสุโขทัย พระอุปปัชฌาย์ อ้น พระปลัดแป๊ะเป็นกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์อ้นเป็นอนุสาวนาจารย์ เมื่ออุปสมบทแล้วได้ศึกษามูลกระจายต่อ และปฏิบัติครูบาอาจารย์อยู่ ๑ พรรษา เมื่อศึกษาอยู่ที่นั้นแล้วอาจารย์ก็แนะนำให้ไปศึกษาต่อณะที่วัดกระหวัดสิการาม จ.สวรรคโลก จำพรรษาอยู่ที่นั้น ๑ พรรษา ครูผู้สอนชื่อพระครูสวัสดิ์ มีความรุ้ในมูลกัจจายเก่งมาก (สรุปความ) “เมื่อก่อนมาอยู่ลพบุรี คือเมื่ออุปสมบทแล้วได้ปฏิบัติอุปัชฌาย์อาจารย์อยู่ที่วัดนั้น ๑ พรรษา และต่อมาพรรษา ๒ ได้มาโปรดญาติโยมที่บ้านเกิดเมืองนอน ๑ พรรษา ต่อมาได้ไปศึกษามูลกัจจายที่พระครูสวัสดิ์ วัดกระหวัดสิการาม จ. สวรรคโลก อีก ๑ พรรษา รวมเมื่ออุปสมบทแล้วอยู่ภาคเหนือ ๓ พรรษา” ต่อนั้นมาได้ลงมาหาที่ศึกษาต่อที่ จ. ลพบุรี ได้อยู่กับอาจารย์จัด วัดปากน้ำ ต.บางงา อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี อาจารย์จัดนี้เป็นผู้เลิศในทางกัมมัฏฐาน จงกรม และธุดงค์ ได้เข้าเรียนอยู่กับท่าน ๒ พรรษา “ก่อนจะไปพบหลวงพ่อเภา ท่านอาจารย์จัดชวนไปฟังเทศน์หลวงพ่อเภาที่วัด ไลย์ เมื่อไปพบท่านก่อนกำลังจะฉันอาหาร ท่านนั่งหลับตาอยู่กับพระวินัยแปลก เกิดความเลื่อมใส เมื่อท่านฉันอาหารเสร็จแล้วนิมนต์ท่านขึ้นเทศน์ ได้ฟังท่านเทศน์แล้วเกิดความเลื่อมใสไม่อยากกลับมาด้วยท่านอาจารย์จัดนึกในใจว่าท่านก็มี ตาหู จมูก ลิ้น กายใจ เหมือนกับเราท่านทำใมทำได้เราก็ต้องทำได้ไม่มีความย่อท้อ มานึกว่าถ้าไม่กลับมาอาจารย์จะว่าทิ้งท่านจึงมาก่อน แล้วท่านอาจารย์จัดท่านนำพาไปธุดงค์ไปนมัสการพระพุทธบาท และพระพุทธฉาย แล้วเลยไปพระแท่นดงรังษ์ เมื่อกลับจากธุดงค์แล้วได้ขึ้นไปเยี่ยมญาติที่สุโขทัย กลับมาจากเยี่ยมญาติแล้วมาที่อำเภออินทร์ มาพบท่านอาจารย์ปุ้ย วัดศรีสำราญ ตำบลบ้านน้ำตาล อำเภออินทร์ จังหวัดสิงห์บุรี เพราะมีความเลื่อมใส คือ มีปฏิปทาเหมือนกับหลวงพ่อเภา ท่านอาจารย์ปุ้ย ชวนอยู่ด้วย ๓ วัน ท่านบอกว่า พระที่ถ้ำตะโกก็มาอยู่ที่นี่เหมือนกัน ท่านอาจารย์ปุ้ยผู้นี้ เป็นผู้เก่งทางพระวินัย ทั้งทางบุพพสิกขา และมหาขันธ์ ก็เลยได้ศึกษาพระวินัยอยู่กับท่าน ๒ พรรษา จนสำเร็จในด้านพระวินัย มีความชำนานมากไม่กลัวใคร ในระยะ ๒ พรรษานี้ ได้ทราบข่าวว่ามีปราชญ์ที่วัดทุ่งแก้ว เจ้าคุณธรรมนิเทศใจ วัดทุ่งแก้วได้ไปขอนิสัยอยู่ด้วย แต่ว่าไม่ได้จำพรรษา ต่อไปได้ทราบข่าวว่าเขาเรียนพระกรรมมัฏฐาน ท่านอาจารย์หอม วัดโค่ง ได้เล่าเรียนอนัตตา กฐินขันธ์ อานิสงค์ ๕ มาติกา ๘ บุพพกิจ ๗ เมื่อเล่าเรียนจบแล้วก็กลับมาที่วัดศรีสำราญตามเดิม ตอนที่อยู่วัดศรีสำราญนี้ได้เล่าเรียน สมุฏฐานในด้านพระวินัยจนหมดแล้ว ได้กลับขึ้นไปเยี่ยมโยมที่สุโขทัยอีกครั้งหนึ่ง เมื่อกลับจากเยี่ยมโยมแล้ว ได้ตรงมาอยู่ที่วัดถ้ำตะโกเลย “ในระยะนี้ย่างเข้าพรรษาที่ ๘” ในพรรษานี้ไม่ได้เรียนอะไรมาก ได้แต่ฟังธรรมนั่งภาวนามาอยู่ถ้ำตะโกพรรษา ๒ จึงได้เรียนพระวินัย ด้วยท่านพระวินัยธรอุ่น ท่านผู้นี้มีความแตกฉานในด้านพระวินัยปิฎกมาก เริ่มเรียนแต่ศีล ๒๒๗ ต่อมา ได้ศึกษาเรื่อง จัตต์ ๑๔ มีขันธ์ต่างๆ เป็นต้น ต่อมาพรรษาที่ ๔ ได้หัดสวดมนต์ต่างๆ ให้พระที่วัดนั้น ประมาณความว่าได้มาอยู่วัดถ้ำตะโก รวม ๔ พรรษาด้วยกัน (ต่อ) เมื่อออกพรรษาแล้วได้มาจำพรรษาอยู่ที่วัดชีป่า ได้อบรมศีลธรรมให้ผู้มีมิจฉาทิฏฐิละจากมิจฉาชีพเดิมเสียหลายคน มีความภาคภูมิใจที่ได้สร้างบารมีในที่นี่ ๑ พรรษา ครั้นเมื่อออกพรรษาแล้วได้กลับไปถ้ำตะโกอีกเพื่อศึกษาในการทำบุพพกิจการสวดปาฏิโมกข์ เพื่อเปลี่ยนให้ถูกต้องตามฤดูกาล ในการประชุมนี้มีพระผู้ใหญ่มาประชุมหลายท่าน มีพระอุปปัชฌาย์คง หลวงพ่อเภา เป็นประธาน ท่านอาจารย์พร้อม ท่านวินัยธรอุ่น และพระอุปปัชฌาย์คง เมื่อตกลงว่าใช้ได้แล้วที่ประชุมมอบให้เป็นผู้ทำแบบบุพพกิจส่งไปให้สำนักต่างๆ ที่ขึ้นต่อวัดถ้ำตะโก แล้วได้จำพรรษาที่ถ้ำตะโกอีก เพื่อศึกษาให้มั่นคง ในเรื่องบุพพกิจ เมื่อมีสมภารที่วัดต่างๆมาแล้ว ได้ตรวจสอบเรื่องบุพพกิจนี้ให้เป็นที่ถูกต้องตลอดจนพรรษานั้น ต่อจากนั้นเมื่อออกพรรษาแล้ว ได้มาอยู่ที่วัดนิโครธ เพราะมีความสงสารท่านอุปปัชฌาย์คง จัดพระให้มาอยู่ไม่มีใครมาเนื่องจากมีโยมโป๋ไปขอให้พระมาอยู่ จึงขอโอกาสมาอยู่เสียเอง เมื่อมามีพระตามมาอีก ๓ องค์ อุบาสิกาอีก ๒ จำพรรษาอยู่ที่วัดนิโครธ ๑ พรรษา เมื่อออกพรรษาแล้วกลับไปถ้ำตะโก เขาจะจัดให้ไปเป็นสมภารวัดปฐมพานิชอำเภอบ้านหมี่ ไม่ยอมไปเลยหนีมาเที่ยวที่วัดชีป่า และหนีไปอยู่วัดนาจานกลัวเขาจะตามเจออาหารไม่เป็นที่สบายกลับมาอยู่วัดชีป่าเลยหลวงพ่อเภามาตามให้ไปเฝ้าวัดถ้ำตะโก เพราะหลวงพ่อเภา และอุปปัชฌาย์คง พระวินัยธรอุ่น ท่านไปย่างกุ้ง ไม่มีพระผู้ใหญ่ปกครอง เมื่อท่านกลับมาจากย่างกุ้ง ท่านก็จัดให้ไปอยู่วัดปฐมพานิชเพราะสมภารเขาสึก ต่อมาสมภารเขากลับมาบวชใหม่อีกเลยปรึกษากันว่าให้สมภารเก่าเขาอยู่ เลยมาพักอยู่ที่วัดนิโครธ ต่อมามีโยมเจือ โยมบุตร์ โยมเอม ไปปรึกษาโยมโป๋ให้นิมนต์มาอยู่ที่วัดป่านี้ ท่านบอกให้ไปปรึกษาเจ้าคณะอำเภอ ขณะนั้นพระครูโวทานสมณคุตร์ วัดเชิงท่าเป็นเจ้าคณะอำเภอ ไปขออนุญาตอยู่ ๓ วัน จึงได้รับอนุญาต เลยจัดวัดป่านี้ขึ้นต่อหลวงพ่อเภาสำนักวัดถ้ำตะโก จึงได้ติดต่อมาจนถึงทุกวันนี้ เมื่อมาอยู่คราวแรกมีพระจำพรรษารวมกัน ๕ องค์ พรรษา ๒ ที่วัดป่าจึงจัดให้รื้อวัดนิโครธพร้อมด้วยอุบาสิกา มาอยู่ปลูกอยู่ที่วัดป่านี้ เป็นอุบัติเหตุที่มีอุบาสิกาวัดป่าธรรมโสภณ ท่านได้จำพรรษาในวัดนี้รวม ๖ พรรษา ในระยะนี้ได้สั่งสอนอุบาสกอุบาสิกา ให้มีระเบียบวินัยดีขึ้น เมื่อพ้นพรรษา ๖ แล้ว ได้เบื่อหน่ายการปกครองจึงมอบให้อาจารย์คำเป็นผู้ใหญ่ปกครองแทน ท่านจึงได้ไปเยี่ยมโยมและจำพรรษาอยู่ที่หัวงิ้ว อำเภอพยุหคีรี ๑ พรรษา ครั้นเมื่อออกพรรษาทางด้านวัดป่าเกิดการยุ่งยากกันขึ้นระหว่างการปกครองพวกอุบาสิกาทั้งหลายจึงพากันมาหาท่านที่หัวงิ้ว เพื่อนิมนต์ให้กลับมาอยู่วัดป่าตามเดิมเมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๐

ดูเพิ่ม

อ้างอิง

  • วัดป่าธรรมโสภณ ลพบุรี

ดป, าธรรมโสภณ, เป, นว, ดต, งอย, เลขท, หม, ราชมน, ตำบลทะเลช, บศร, อำเภอเม, องลพบ, งหว, ดลพบ, งถนนราชมน, ตำบลทะเลช, บศร, อำเภอเม, องลพบ, งหว, ดลพบ, รห, สไปรษณ, 15000ประเภทว, ดราษฏร, กายมหาน, กายพระพ, ทธร, ปสำค, ญหลวงพ, อพ, ทธมงคลสรรเพ, ชญ, พระพ, ทธร, ปปางมารว, ย. wdpathrrmosphn epnwdtngxyuelkhthi 225 1 hmu 1 th rachmnu tablthaelchubsr xaephxemuxnglphburi cnghwdlphburiwdpathrrmosphnthitngthnnrachmnu tablthaelchubsr xaephxemuxnglphburi cnghwdlphburi rhsiprsniy 15000praephthwdrastrnikaymhanikayphraphuththrupsakhyhlwngphxphuththmngkhlsrrephchy phraphuththruppangmarwichyaekaslkcakhinthray thimikhnadihythisudinolkkhwamphiessmiwiharxyuhlnghnungsungsrangkhuninsmysmedcphranaraynmharachcudsnicphunthikhxngwdepnsnkhuemuxngkickrrmechiychwnphuththsasnikchnmarwmknswdmntphawnaesrimdwngchataidthixuobsth wdpathrrmosphn odymi phrakhruphawnaosphn rxng ecaxawas ecakhnaxaephxemuxnglphburiepnphunaswd sungcaswdknthukwnphra tngaetewla 18 00 19 20 n swnhnungkhxngsaranukrmphraphuththsasna enuxha 1 prawti 2 prawtihlwngphxphuththmngkhlsrrephchy 3 prawtihlwngphxchay suwrrnsr 4 duephim 5 xangxingprawti aekikhwdpathrrmosphn phunthikhxngwdepnsnkhuemuxng xyuhangcaksalphrakalpraman 500 emtr srangkhunepnwd nbtngaet pi ph s 2225 txma klaysphaphepnwdrang thukthingrangxyuicklangemuxnglphburimaaetkhrnginxdit briewnwdepnpaimnanachnid chawbancungeriykwawdpa miwiharxyuhlnghnungsungsrangkhuninsmysmedcphranaraynmharach inxdit edimchux wdpaerily txmainpi ph s 2448 khunthnxm khunphrrn khunechy phrasmbtiyathibal micitsrththaxnepnmhakusl maptisngkhrnwihar sungmixksrcarukxyuhnabnwihardngklaw txmapi ph s 2449 phraxthikarchay suwrrnsr hlwngphxchay phrxmdwyephuxnshthrrmikxik 4 rup sisywdxik 6 khn rwm 11 khn mapracaxyuthiwdpaaehngniaelaepliynchuxesiyihmwa wdpathrrmosphn chwyknphthnawdcnidrbphrarachthanwisungkhamesmaemuxwnthi 8 knyayn ph s 2498 aelaidprakxbphithiphukphththsima emuxwnthi 9 kumphaphnth ph s 2499prawtihlwngphxphuththmngkhlsrrephchy aekikhlphburiemuxkhrngxditekhyecriyrungeruxngthangdansthaptykrrm silpkrrm epnxyangmak duidcaksakprkhkphngkhxngsingpluksrangrwmthngsingekharphskkara odyechphaa phraphuththrup inkhrngxditechuxknwakarsrangphraphuththrupthimikhnadihycakwsduthimikhwamaekhngaerngkhngthnodyechphaahinthichangcatxngbrrcngaekaslkdwykhwamramdrawngihmikhwampranitswyngammiphuththlksnathuktxngtrngkbsmedcphrasmmasmphuththca wdpathrrmosphn epnwdhnungxyuinicklangemuxnglphburithimiphraprathanthipradisthanxyuinxuobsthkhxngwdpathrrmosphnepnphraphuththrupthieriykidwamikhnadihyotthisudthisrangcakhinthray mikhnadhnatkwdid 2 emtr 30 esntiemtr khwamsungwdid 3 emtr 80 esntiemtrkrmsilpakridekhydaeninkar ephuxcanaipekbrwbrwmiwthiphiphithphnthsthanaehngchati smedcphranarayn aetkarekhluxnyayinsmynnepnipdwykhwamyaklabak enuxngcakxngkhthanihymak krmsilpakrimmiphahnakhnadihyephuxekhluxnyayidmiephiyngaerngkhn cungidiptidtxkhxkalngthhareknthcakkhaypunihysungedimtngxyubriewn orngeriynphibulwithyalyinpccubn ecahnathikrmsilpphrxmkalngthhareknthhlaysibnayphrxmknipthiwdtaphanhin caknncungchwyknlxngykesiyrdukxn odykalngthharnbsibnayimsamarthykesiyrkhunidenuxngcakmikhnadihyaelathacakhinthraythiminahnkmak xikthngmakhidxikthiwathungnaipidkkhnghathitngyakcungepliynicplxyiwtamedim rawpi ph s 2483 hlwngphxchay idrbnimntchnephlintladlphburi phrxmdwyphraedchphrakhunhlwngphxphrathrrmrammuni hlwngphxkhun ecaxawaswdekhawngphracnthr xditecakhnacnghwdlphburi idsnthnakbphraedchphrakhun idkhwamwawdpathrrmosphnepnwdthimixuobsthihyot aetyngkhadxngkhphraprathan khnanimiphraphuththrupekaaekxyuxngkhhnungchuxhlwngphxihyfngcmdinxyuthiwdtaphan aethwkhlxngtapi aetdwykhnadaelanahnkthimakekinkhwamsamarthecahnathikrmsilpakraelathhareknthhlaysibnayidthdlxngykthxnesiyrdukxn praktwaykimkhun ecahnathicungthingxngkhthaniwtamedim wnrungkhunhlwngphxchay idedinthangiptidtxkhxhlwngphxihymaepnxngkhphraprathaninxuobsthkhxngwd thangecahnathikrmsilpakrkimkhdkhxngephiyngaettxngihthangwddaeninkarekhluxnyayexng caknnthanidedinthangmayngwdtaphanthnthi thanidcudthupethiyn bxkklawkhxxnuyatekhluxnyayxngkhhlwngphxihy hlngesrcphithi hlwngphxchayidlxngihthharykthxnesiyrdupraktwakalngthharephiyng 3 naykykkhunid caknncungchwyknkhudchinswnxunthifngxyuitdincnkhrbxngkh naisrthekhn ekhniptamthangrthifcnthungwdpa caknnphraaelaenrkchwyknhamekhaipinxuobsth patidpatxcneriybrxy aelwcungthakarlngrkpidthxng 100 cnehluxngxramthwthngxngkh cnimehnhinthrayenuxedim caknnhlwngphxchaycungidthwaynamihihmwa hlwngphxphuththmngkhlsrrephchy nbaetnnmaprawtihlwngphxchay suwrrnsr aekikhprawtihlwngphxchay suwrrnsr xditecaxawaswdpathrrmosphn tablthaelchubsr xaephxemuxnglphburi cnghwdlphburi ekidthicnghwdsuokhthy xaephxsrisaorng tablbankhlxngtahrng bidachux eprm mardachuxthxngkha mibutrrwmbidamardadwykn 8 khn chay 5 khn hying 3 khn hlwngphxchaysuwrrnsrni epnbutrkhnthi 2 ekidemux pimaaem eduxn 6 khun 11 kha wnphvhsbdi pthmwychux chuy namskul cxmprida xyuinnissykhxngkhrawas xayu 18 pi emuxxayu 15 pi eriynmulkccaykbphrapldaepaepnkhru sankwdihybanswn emuxxayuid 18 pi cungbrrphchaepnsamenr phraxuppchchay chuxxnxyuwdihybanswnmiidyxthxtxkarsuksaeriynmulkccaytxcnxayuid 20 pi txnni bidamardaehnxayukhrbkahndkarxupsmbthtampraephni cungcdkarxupsmbth n thiwdihybanswn cnghwdsuokhthy phraxuppchchay xn phrapldaepaepnkrrmwacacary phraxacaryxnepnxnusawnacary emuxxupsmbthaelwidsuksamulkracaytx aelaptibtikhrubaxacaryxyu 1 phrrsa emuxsuksaxyuthinnaelwxacarykaenanaihipsuksatxnathiwdkrahwdsikaram c swrrkholk caphrrsaxyuthinn 1 phrrsa khruphusxnchuxphrakhruswsdi mikhwamruinmulkccayekngmak srupkhwam emuxkxnmaxyulphburi khuxemuxxupsmbthaelwidptibtixupchchayxacaryxyuthiwdnn 1 phrrsa aelatxmaphrrsa 2 idmaoprdyatioymthibanekidemuxngnxn 1 phrrsa txmaidipsuksamulkccaythiphrakhruswsdi wdkrahwdsikaram c swrrkholk xik 1 phrrsa rwmemuxxupsmbthaelwxyuphakhehnux 3 phrrsa txnnmaidlngmahathisuksatxthi c lphburi idxyukbxacarycd wdpakna t bangnga x thawung c lphburi xacarycdniepnphuelisinthangkmmtthan cngkrm aelathudngkh idekhaeriynxyukbthan 2 phrrsa kxncaipphbhlwngphxepha thanxacarycdchwnipfngethsnhlwngphxephathiwd ily emuxipphbthankxnkalngcachnxahar thannnghlbtaxyukbphrawinyaeplk ekidkhwameluxmis emuxthanchnxaharesrcaelwnimntthankhunethsn idfngthanethsnaelwekidkhwameluxmisimxyakklbmadwythanxacarycdnukinicwathankmi tahu cmuk lin kayic ehmuxnkberathanthaimthaideraktxngthaidimmikhwamyxthx manukwathaimklbmaxacarycawathingthancungmakxn aelwthanxacarycdthannaphaipthudngkhipnmskarphraphuththbath aelaphraphuththchay aelwelyipphraaethndngrngs emuxklbcakthudngkhaelwidkhunipeyiymyatithisuokhthy klbmacakeyiymyatiaelwmathixaephxxinthr maphbthanxacarypuy wdsrisaray tablbannatal xaephxxinthr cnghwdsinghburi ephraamikhwameluxmis khux miptipthaehmuxnkbhlwngphxepha thanxacarypuy chwnxyudwy 3 wn thanbxkwa phrathithataokkmaxyuthiniehmuxnkn thanxacarypuyphuni epnphuekngthangphrawiny thngthangbuphphsikkha aelamhakhnth kelyidsuksaphrawinyxyukbthan 2 phrrsa cnsaercindanphrawiny mikhwamchananmakimklwikhr inraya 2 phrrsani idthrabkhawwamiprachythiwdthungaekw ecakhunthrrmniethsic wdthungaekwidipkhxnisyxyudwy aetwaimidcaphrrsa txipidthrabkhawwaekhaeriynphrakrrmmtthan thanxacaryhxm wdokhng idelaeriynxntta kthinkhnth xanisngkh 5 matika 8 buphphkic 7 emuxelaeriyncbaelwkklbmathiwdsrisaraytamedim txnthixyuwdsrisarayniidelaeriyn smutthanindanphrawinycnhmdaelw idklbkhunipeyiymoymthisuokhthyxikkhrnghnung emuxklbcakeyiymoymaelw idtrngmaxyuthiwdthataokely inrayaniyangekhaphrrsathi 8 inphrrsaniimideriynxairmak idaetfngthrrmnngphawnamaxyuthataokphrrsa 2 cungideriynphrawiny dwythanphrawinythrxun thanphunimikhwamaetkchanindanphrawinypidkmak erimeriynaetsil 227 txma idsuksaeruxng ctt 14 mikhnthtang epntn txmaphrrsathi 4 idhdswdmnttang ihphrathiwdnn pramankhwamwaidmaxyuwdthataok rwm 4 phrrsadwykn tx emuxxxkphrrsaaelwidmacaphrrsaxyuthiwdchipa idxbrmsilthrrmihphumimicchathitthilacakmicchachiphedimesiyhlaykhn mikhwamphakhphumiicthiidsrangbarmiinthini 1 phrrsa khrnemuxxxkphrrsaaelwidklbipthataokxikephuxsuksainkarthabuphphkickarswdpatiomkkh ephuxepliynihthuktxngtamvdukal inkarprachumnimiphraphuihymaprachumhlaythan miphraxuppchchaykhng hlwngphxepha epnprathan thanxacaryphrxm thanwinythrxun aelaphraxuppchchaykhng emuxtklngwaichidaelwthiprachummxbihepnphuthaaebbbuphphkicsngipihsanktang thikhuntxwdthataok aelwidcaphrrsathithataokxik ephuxsuksaihmnkhng ineruxngbuphphkic emuxmismpharthiwdtangmaaelw idtrwcsxberuxngbuphphkicniihepnthithuktxngtlxdcnphrrsann txcaknnemuxxxkphrrsaaelw idmaxyuthiwdniokhrth ephraamikhwamsngsarthanxuppchchaykhng cdphraihmaxyuimmiikhrmaenuxngcakmioymopipkhxihphramaxyu cungkhxoxkasmaxyuesiyexng emuxmamiphratammaxik 3 xngkh xubasikaxik 2 caphrrsaxyuthiwdniokhrth 1 phrrsa emuxxxkphrrsaaelwklbipthataok ekhacacdihipepnsmpharwdpthmphanichxaephxbanhmi imyxmipelyhnimaethiywthiwdchipa aelahniipxyuwdnacanklwekhacatamecxxaharimepnthisbayklbmaxyuwdchipaelyhlwngphxephamatamihipefawdthataok ephraahlwngphxepha aelaxuppchchaykhng phrawinythrxun thanipyangkung immiphraphuihypkkhrxng emuxthanklbmacakyangkung thankcdihipxyuwdpthmphanichephraasmpharekhasuk txmasmpharekhaklbmabwchihmxikelypruksaknwaihsmpharekaekhaxyu elymaphkxyuthiwdniokhrth txmamioymecux oymbutr oymexm ippruksaoymopihnimntmaxyuthiwdpani thanbxkihippruksaecakhnaxaephx khnannphrakhruowthansmnkhutr wdechingthaepnecakhnaxaephx ipkhxxnuyatxyu 3 wn cungidrbxnuyat elycdwdpanikhuntxhlwngphxephasankwdthataok cungidtidtxmacnthungthukwnni emuxmaxyukhrawaerkmiphracaphrrsarwmkn 5 xngkh phrrsa 2 thiwdpacungcdihruxwdniokhrthphrxmdwyxubasika maxyuplukxyuthiwdpani epnxubtiehtuthimixubasikawdpathrrmosphn thanidcaphrrsainwdnirwm 6 phrrsa inrayaniidsngsxnxubaskxubasika ihmiraebiybwinydikhun emuxphnphrrsa 6 aelw idebuxhnaykarpkkhrxngcungmxbihxacarykhaepnphuihypkkhrxngaethn thancungidipeyiymoymaelacaphrrsaxyuthihwngiw xaephxphyuhkhiri 1 phrrsa khrnemuxxxkphrrsathangdanwdpaekidkaryungyakknkhunrahwangkarpkkhrxngphwkxubasikathnghlaycungphaknmahathanthihwngiw ephuxnimntihklbmaxyuwdpatamedimemux ph s 2460duephim aekikhcnghwdlphburixangxing aekikhwdpathrrmosphn lphburi bthkhwamekiywkbxakhar hrux sthanthisakhyniyngepnokhrng khunsamarthchwywikiphiediyidodyephimkhxmulekhathungcak https th wikipedia org w index php title wdpathrrmosphn amp oldid 9246933, wikipedia, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด,

บทความ

, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม