วัดไผ่ล้อม (จังหวัดสระบุรี)
วัดไผ่ล้อม ตั้งอยู่เลขที่ ๑๖ บ้านไผ่ล้อม ตำบลสวนดอกไม้ อำเภอเสาไห้ จังหวัดสระบุรี สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย มีฐานะ เป็นวัดราษฎร์ สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ที่ดินตั้งวัดมีเนื้อที่ ๙ ไร่ ๒๐ ตาราวา โฉลดเลขที่ ๙๐๔๒ อาณาเขต ทิศเหนือยาว ๓ เส้น ๘ วา ติดกับแม่น้ำแควป่าสัก ทิศใต้ยาว ๒ เส้น ติดต่อกับทุ่ง ทิศตะวันออก ยาว ๒ เส้น ๑๗ วา ติดกับโรงงานทอกระสอบ ทิศตะวันตก ยาว ๓ เส้น ๕ วา ติดต่อกับทางสาธารณะพื้นที่ตั้งวัดเป็นที่ราบอยู่ริมแม่น้ำแควป่าสัก
วัดไผ่ล้อม | |
---|---|
โบสถ์วัดไผ่ล้อม | |
ชื่อสามัญ | วัดไผ่ล้อม |
ที่ตั้ง | ตำบลสวนดอกไม้ อำเสาไห้ จังหวัดสระบุรี |
ประเภท | วัดราษฎร์ |
นิกาย | มหานิกาย เถรวาท |
พระประธาน | พระพุทธรูป ปางมารวิชัย ขนาดพระเพลากว้าง - นิ้ว สูง - นิ้ว |
พระพุทธรูปสำคัญ | พระประธานในอุโบสถ |
เจ้าอาวาส | พระครูวิสุทธิสีลาภิวัฒน์ ฐิติโก |
ความพิเศษ | สร้างในสมัย อยุธยาตอนปลาย |
เวลาทำการ | ทุกวัน |
จุดสนใจ | พระบรมธาตุเจดีย์ |
กิจกรรม | สักการบูชา พระบรมธาตุเจดีย์ |
ส่วนหนึ่งของสารานุกรมพระพุทธศาสนา |
ประวัติ
วัดไผ่ล้อมสร้างขึ้นเป็นวัดนับตั้งแต่ประมาณ พ.ศ. ๒๒๑๒ สมัยอยุธยาตอนปลาย ได้มีนามตามชื่อหมู่บ้าน เป็นวัดชนิดได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาแล้ว ประมาณ พ.ศ. ๒๒๒๒ ตามหลักฐานบันทึกไว้ในทะเบียนของวัด แจ้งว่าตั้งอยู่ เลขที่ ๑๖ หมู่ที่ ๑ ตำบล (สิบต๊ะ) สวนดอกไม้ อำเภอเสาไห้ จังหวัดสระบุรี สร้างประมาณปี พ.ศ. ๒๑๒๒ สมัยสมเด็จพระนารายณ์ ส่วนหลักฐานอื่นไม่มีผู้ใดได้จดบันทึกไว้ ถาวรวัตถุก็ไม่หลงเหลือไว้ให้ศึกษาค้นคว้าได้
ตามประวัติศาสตร์มนุษยชาติในยุคนั้น การที่จะจัดตั้งเป็นประกาศมีสัดส่วนที่มั่นคงไม่มี ส่วนใหญ่จะเป็นเมือง โดยมีเจ้าเมืองปกครองดูแล เมืองที่กล้าเก่งกว่ายกทัพมาโจมตี เมืองที่พ่ายแพ้ก็ตกเป็นเมืองขึ้น หรือถูกกวาดต้อนไปรวมเป็นกำลังเสริมที่จะรุกรานขยายอาณาเขต เมื่อรวมได้หลายๆ เมืองก็จัดตั้งเป็นประเทศมีเมืองหลวงเป็นศูนย์การปกครอง เช่น กรุงสุโขทัย กรุงศรีอยุธยา ต่างชาติต่างเผ่าพันธ์ไม่สามารถเข้าไปร่วมกันได้ต่างก็อพยพหนีไปหาที่อยู่ใหม่ พวกที่ไม่สามารถจะไปไหนได้ก็แทรกตัวอยู่เป็นชนกลุ่มน้อยอยู่ในเมืองหรือประเทศนั้น ประเทศไทยจึงมีชนหลายเผ่าพันธ์ เมื่อไปอยู่ชุมชนใด เป็นกลุ่มมากพอต่างก็นำเข้าประเพณีและวัฒนธรรมขึ้นมากำหนดตั้งเพื่อให้เป็นที่ปฏิบัติร่วมชาวไทยนับถือพระพุทธศาสนา ก็พากันจัดตั้งสำนักสงฆ์ เพื่อให้พระสงฆ์มาอยู่ช่วยการปฏิบัติศาสนกิจตามหลักธรรมของพระพุทธศาสนาเมื่อมีพระสงฆ์และชาวพุทธมากขึ้น มีกำลังพอที่จะจัดตั้งสำนักสงฆ์เป็นวัดมีวิสุงคามสีมาได้ก็รวมกันจัดทำ ด้วยเหตุผลดังกล่าวนำมาข้างต้น ก็พอที่จะมีหลักฐานกล่าวถึงประวัติความเป็นมาของการตั้งวัดไผ่ล้อมได้พอสมควร
ในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ ๑ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช โปรดให้กรมหมื่นเทพทรรักษ์และพระปราบ นำทัพไปขับไล่พม่าออกจากเมืองเชียงแสน พ.ศ. ๒๓๔๗ พม่าพ่ายแพ้ถอยร่นกลับไป ก็ให้เผาเมืองเชียงแสน แล้วรวบรวมผู้คนชาวเชียงแสนได้จำนวนหนึ่งอพยพลงมาแต่ในระหว่างบางส่วนต่างก็กระจัดกระจายกันปักหลักอยู่ตามระยะทางที่ผ่านมาคือ เวียงจันทร์ เชียงใหม่ ลำปาง น่าน ส่วนพวกที่มาถึง ได้โปรดให้ตั้งบ้านเรือนที่เมืองสระบุรี เมืองเสาไห้ (ในสมัยนั้นเมืองสระบุรีเป็นพื้นที่ส่วนหนึ่งของเมืองเสาไห้) อีกส่วนหนึ่งไปตั้งรกรากอยู่ที่บ้านคูเมือง พวกที่มาจากเชียงแสน (โยนกนาคนคร) หรือชาว ไทยวน ได้มาตั้งบ้านเรือนอยู่ ณ ตำบลเสาไห้ (หมู่บ้านไผ่ล้อม) ตำบลสวนดอกไม้ (สิบต๊ะ)ตำบลต้นตาล ตำบลพระยาทด ตำบลท่าช้าง ตำบลศาลารีไทย ตำบลบ้านยาง และตำบลหัวปลวก “ปู่คัมภีระ” หัวหน้าผู้นำอพยพของชาวเชียงแสนพร้อมขุมกำลังผู้ใกล้ชิดได้ตั้งบ้านเรือนอยู่ ณ บ้านโบราณซึ่งอยู่คนละฝั่งวัดไผ่ล้อม ต่อมา สมัยรัชกาลที่ ๒ ได้แต่งตั้งปู่คัมภีระมีบรรดาศักดิ์เป็น “พระยารัตนกาศ” มีหน้าที่คุมกำลังส่งเสบียงให้พลรบยามเกิดศึกสงครามด้านทิศตะวันออก(ศึกเขมร)กองกำลังมีกองโตตั้งอยู่ ๓ แห่ง อยู่ที่สี่คิ้ว ๑ กอง โคกกร่าง ๑ กอง และโคกแย้ ๑ กอง และมีกองม้าอยู่ที่บ้านยาง ๑ กอง ไว้เป็นหน่วยคุ้มกันกองเสบียง เมื่อมีขุมกำลังอำนาจหน้าที่เช่นนี้จึงเชื่อได้ว่า วัดไผ่ล้อมต้องได้รับการทำนุบำรุงให้ดีขึ้น โดยฝีมือของชาวไทยวนที่อพยพมาจากเชียงแสน
ต่อมาผู้อพยพสายตระกูลปู่คัมภีระได้สืบต่อตำแหน่ง “พระยารัตนกาศ” มีลูกหลานหลายคน คนสุดท้ายเป็นบุตรของพ่อเฒ่ามหาวงศ์ ได้เป็นนายอำเภอเสาไห้ คนที่ ๒ พ.ศ. ๒๔๓๙ ถึง พ.ศ. ๒๔๔๓ และได้ตั้งบ้านเป็นสำนักงานที่ทำการอำเภอเสาไห้อยู่ที่บ้านไผ่ล้อมจนถึง ณ ปัจจุบันนี้.
สถานที่ภายในวัด
เสนาสนะ
- ๑.๑ ศาลาการเปรียญกว้าง ๑๔ เมตร ยาว ๓๔ เมตร สร้างด้วยไม้และคอนกรีต พ.ศ. ๒๕๒๓
- ๑.๒ หอสวดมนต์กว้าง ๒๐ เมตร ยาว ๒๐ เมตร สร้างด้วยไม้สัก พ.ศ. ๒๔๑๐
- ๑.๓ กุฏิสงฆ์ จำนวน ๕ หลัง เป็นอาคารไม้ นอกจากนี้มีหอระฆังและวิหาร
ศาสนสถาน
- ๑.๑ อุโบสถกว้าง ๑๗ เมตร ยาว ๓๓ เมตร บูรณะ พ.ศ. ๒๕๐๒ ก่ออิฐถือปูน
- ๑.๒ พระบรมธาตุเจดีย์ ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุแห่งองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ศาสนวัตถุ
- ๑.๑ พระประธานในอุโบสถ พุทธลักษณะ เป็นพระพุทธรูป ปางมารวิชัย ขนาดพระเพลากว้าง - นิ้ว สูง - นิ้ว
ลำดับเจ้าอาวาส
- ๑. พระปลัดอิน
- ๒. พระอาจารย์ศรีวิชัย พ.ศ. ๒๔๕๔
- ๓. พระอาจารย์แป้น พ.ศ. ๒๔๕๔ - พ.ศ. ๒๔๕๘
- ๔. พระอาจารย์คำมี พ.ศ. ๒๔๕๘ - พ.ศ. ๒๔๖๕
- ๕. พระอาจารย์ทองคำ พ.ศ. ๒๔๖๕ - พ.ศ. ๒๔๖๗
- ๖. พระอาจารย์คำมูล พ.ศ. ๒๔๖๗ - พ.ศ. ๒๔๗๖
- ๗. พระอธิการป้อม ทีปงฺกโร พ.ศ. ๒๔๗๖ - พ.ศ. ๒๔๘๔
- ๘. พระอาจารย์เดช พ.ศ. ๒๔๘๔ - พ.ศ. ๒๔๘๙
- ๙. พระอาจารย์หลี พ.ศ. ๒๔๘๙ - พ.ศ. ๒๔๙๕
- ๑๐. พระอธิการประถม ฐิตธมฺโม พ.ศ. ๒๔๙๗ - พ.ศ. ๒๕๓๕
- ๑๑. พระอธิการสุดใจ ถาวโร พ.ศ. ๒๕๓๕ - พ.ศ. ๒๕๔๓
- ๑๒. พระครูวิสุทธิสีลาภิวัฒน์(เมธา)(เมธาภิวัฒน์(วันดี) ฐิติโก พ.ศ. ๒๕๔๕ - ปัจจุบัน
ลำดับเจ้าอาวาส
ลำดับที่ | รายนาม/สมณศักดิ์ | ตำแหน่ง | เริ่มวาระ | สิ้นสุดวาระ | หมายเหตุ | |
---|---|---|---|---|---|---|
๑ | พระปลัดอิน | เจ้าอาวาส | - | - | ||
๒ | พระอาจารย์ศรีวิชัย | เจ้าอาวาส | - | พ.ศ. ๒๔๕๔ | ||
๓ | พระอาจารย์แป้น | เจ้าอาวาส | พ.ศ. ๒๔๕๔ | พ.ศ. ๒๔๕๘ | ||
๔ | พระอาจารย์คำมี | เจ้าอาวาส | พ.ศ. ๒๔๕๘ | พ.ศ. ๒๔๖๕ | ||
๕ | พระอาจารย์ทองคำ | เจ้าอาวาส | พ.ศ. ๒๔๖๕ | พ.ศ. ๒๔๖๗ | ||
๖ | พระอาจารย์คำมูล | เจ้าอาวาส | พ.ศ. ๒๔๖๗ | พ.ศ. ๒๔๗๖ | ||
๗ | พระอธิการป้อม ทีปงฺกโร | เจ้าอาวาส | พ.ศ. ๒๔๗๖ | พ.ศ. ๒๔๘๔ | ||
๘ | พระอาจารย์เดช | เจ้าอาวาส | พ.ศ. ๒๔๘๔ | พ.ศ. ๒๔๘๙ | ||
๙ | พระอาจารย์หลี | เจ้าอาวาส | พ.ศ. ๒๔๘๙ | พ.ศ. ๒๔๙๕ | ||
๑๐ | พระอธิการประถม ฐิตธมฺโม | เจ้าอาวาส | พ.ศ. ๒๔๙๗ | พ.ศ. ๒๕๓๕ | ||
๑๑ | พระอธิการสุดใจ ถาวโร | เจ้าอาวาส | พ.ศ. ๒๕๓๕ | พ.ศ. ๒๕๔๓ | ||
๑๒ | พระครูวิสุทธิสีลาภิวัฒน์ ฐิติโก | เจ้าอาวาส พระอุปัชฌาย์ และ เจ้าคณะตำบลสวนดอกไม้ | พ.ศ. ๒๕๔๕ | - | ปัจจุบัน |
อ้างอิง
- กองพุทธสถาน,สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ. ประวัติวัดทั่วราชอาณาจักร เล่ม ๔ ,หน้า ๓๘๘ ,ประวัติวัดในจังหวัสระบุรี : กองพุทธศาสนสถาน สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ, ๒๕๕๒.
- กองพุทธสถาน,สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ. ประวัติวัดทั่วราชอาณาจักร เล่ม ๔ ,หน้า ๓๘๙ ,ประวัติวัดในจังหวัสระบุรี : กองพุทธศาสนสถาน สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ, ๒๕๕๒.
- กองพุทธสถาน,สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ. ประวัติวัดทั่วราชอาณาจักร เล่ม ๔ ,หน้า ๓๘๙ ,ประวัติวัดในจังหวัสระบุรี : กองพุทธศาสนสถาน สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ, ๒๕๕๒.
- กองพุทธสถาน,สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ. ประวัติวัดทั่วราชอาณาจักร เล่ม ๔ ,หน้า ๓๙๐ ,ประวัติวัดในจังหวัสระบุรี : กองพุทธศาสนสถาน สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ, ๒๕๕๒.