fbpx
วิกิพีเดีย

สุสานบ้านพรุ

สุสานบ้านพรุ หรือ สุสานจีนบ้านพรุ หรือ เปลวจีนบ้านพรุ ในชื่อท้องถิ่น เป็นสุสานจีนที่ใหญ่ที่สุดในภาคใต้ของประเทศไทย มีขนาดประมาณ 333 ไร่ ตั้งอยู่ใจกลางเทศบาลเมืองบ้านพรุ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ซึ่งห่างจากตัวเมืองชั้นในเทศบาลนครหาดใหญ่ไปทางทิศใต้ประมาณ 8 กิโลเมตร สุสานแห่งนี้ประกอบด้วย 2 กรรมสิทธิ์แบ่งเป็นสุสานของมูลนิธิจงฮั่วสงเคราะห์คนชราอนาถา จำนวน 211 ไร่ และสุสานของมูลนิธิท่งเซียเซี่ยงตึ๊ง (มูลนิธิมิตรภาพสามัคคี) จำนวน 122 ไร่ ซึ่งมีการใช้แนวรั้วและแนวถนนด้วยกัน แต่มีการจัดการสุสานแยกออกจากกัน

สุสานบ้านพรุ
ศาลาขุนนิพัทธ์จีนนครอนุสรณ์ เป็นซุ้มศาลาเก่าแก่ที่ตั้งอยู่คู่กับสุสานมาอย่างยาวนาน
ชื่ออื่นสุสานจีนบ้านพรุ, เปลวจีน
ข้อมูลทั่วไป
สถานะเปิดใช้งาน
ประเภทสุสาน
สถาปัตยกรรมสถาปัตยกรรมจีน
ที่ตั้งเทศบาลเมืองบ้านพรุ อำเภอหาดใหญ่
เมือง สงขลา
ประเทศ ไทย
พิธีเปิด
  • มูลนิธิจงฮั่วสงเคราะห์คนชราอนาถา พ.ศ. 2482
  • มูลนิธิท่งเซียเซี่ยงตึ๊ง พ.ศ. 2511
ปรับปรุงพ.ศ. 2558 มีการเปิดเป็นสถานที่ออกกำลังกาย
เจ้าของมูลนิธิจงฮั่วสงเคราะห์คนชราอนาถา และมูลนิธิท่งเซียเซี่ยงตึ๊ง
ข้อมูลทางเทคนิค
พื้นที่532,800 ตร.ม. (333 ไร่)
เป็นสุสานจีนที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของภาคใต้

สุสานแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นครั้งแรกจากบริจาคที่ดินจำนวน 180 ไร่ โดยขุนนิพัทธ์จีนนคร เมื่อปี พ.ศ. 2482 เพื่อเป็นสถานที่ฌาปนกิจชาวจีนที่เป็นแรงงานสร้างทางรถไฟสายใต้ ซึ่งได้เข้ามาตั้งรกรากในอำเภอหาดใหญ่ โดยนับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2459 เป็นต้นมา มีการสร้างตัดถนนและชุมชนติดต่อกับสถานีชุมทางหาดใหญ่ ซึ่งขยายตัวไปทางทิศตะวันออก ทำให้ประชากรชาวไทยเชื้อสายจีนค่อย ๆ เพิ่มจำนวนมากขึ้น สุสานแห่งนี้จึงเป็นสถานที่สำคัญที่รองรับการฌาปนกิจชาวจีนทั้งหมดในยุคนั้น โดยขุนนิพัทธ์ได้เลือกที่ตั้งในการทำสุสานที่ห่างจากตัวเมืองหาดใหญ่ไปทางใต้ คือบริเวณเทศบาลบ้านพรุในปัจจุบัน ซึ่งในขณะนั้นก็มีชุมชนของคนในพื้นที่เดิมอาศัยอยู่แล้ว กรรมสิทธิ์ที่ดินที่บริจาคโดยขุนนิพัทธ์ปัจจุบันดูแลโดยมูลนิธิจงฮั่วสงเคราะห์คนชราอนาถา ในขณะที่มูลนิธิท่งเซียเซี่ยงตึ๊ง ได้เข้ามาเปิดสุสานเมื่อปี พ.ศ. 2511 ต่อเนื่องกับสุสานเดิมทางทิศใต้

บริเวณหลุมศพเก่าในช่วงแรก ๆ ของการเปิดสุสานของมูลนิธิจงฮั่วสงเคราะห์คนชราอนาถา ถือเป็นโซนหนึ่งที่มีรูปแบบของการตกแต่งป้ายหลุมหลากหลายมากที่สุดในภาคใต้ แตกต่างจากในปัจจุบันที่พบว่ามีการทำป้ายหลุมฮวงซุ้ยที่คล้าย ๆ กัน โดยภายในโซนหลุมเก่านี้ประกอบด้วยรูปแบบจีนมีสถูปพุทธ รูปแบบคริสตัง และรูปแบบหลุมหินเรียงก่อ ปัจจุบันหลุมศพเก่าจำนวนหลายหลุมได้ถูกทิ้งร้างและไม่ได้รับการเข้าไปดูแลรักษา

ในเวลาต่อมาเมื่อหาดใหญ่ได้ยกระดับเป็นเทศบาลนครหาดใหญ่และบ้านพรุได้ยกระดับเป็นเทศบาลเมืองบ้านพรุ ทำให้มีชุมชน โรงงาน และโกดังสินค้า เข้ามาตั้งใกล้กับสุสานมากขึ้นตลอดแนวถนนเพชรเกษม ซึ่งเชื่อมต่อไปยังด่านพรมแดนสะเดา ประเทศมาเลเซียได้ ทำให้สุสานกลายเป็นที่เปิดโล่งขนาดของเทศบาลเมืองบ้านพรุ ปัจจุบันทางมูลนิธิท่งเซียเซี่ยงตึ๊งจึงได้เปิดให้คนภายนอก โดยเฉพาะประชาชนในเทศบาลเมืองบ้านพรุ เข้ามาใช้งานในเชิงกิจกรรมนันทนาการ โดยมีการเปิดไฟในช่วงเย็นจนถึง 20.00 น.

ที่ตั้ง

สุสานบ้านพรุตั้งอยู่ติดกับถนนสายหลักคือถนนเพชรเกษม การใช้งานที่ดินโดยรอบสุสานประกอบด้วยที่อยู่อาศัยปานกลางจนถึงหนาแน่นมาก สำนักเทศบาลเมืองบ้านพรุ ไปรษณีย์บ้านพรุ ตลาดสดบ้านพรุ โรงเรียน วัด โรงงาน โกดังเอกชน มีอาณาเขตโดยรอบโครงการดังต่อไปนี้

  • ทิศเหนือ ติดต่อกับโกดังสินค้าบริษัท ดีเอส หาดใหญ่
  • ทิศตะวันออก ติดต่อกับสวนยางพาราและโรงเรียนสานฝันมูลนิธิ
  • ทิศใต้ ติดต่อกับวัดป่าแสงธรรม ที่ดินเปล่า และโกดังบริษัทเอส-2000
  • ทิศตะวันตก ติดต่อกับถนนเพชรเกษม ฝั่งตรงข้ามถนนเป็นชุมชน

ภูมิลักษณะบริเวณที่ตั้งสุสาน

ลักษณะกายภาพบริเวณพื้นที่สุสานบ้านพรุ เป็นที่ราบเชิงเขาของแอ่งหาดใหญ่ โดยมีลักษณะค่อย ๆ ลาดต่ำจากทางฝั่งตะวันออกซึ่งเป็นภูเขาเตี้ย ลงไปทางทิศตะวันตกที่เป็นที่ต่ำกว่า จนจดคลองอู่ตะเภา มีความสูงเหนือระดับน้ำทะเลประมาณ 13.00 เมตร และสูงสุดประมาณ 56.00 เมตร ด้วยเหตุนี้ทางฝั่งทิศตะวันตกของสุสานจึงเป็นจุดที่สามารถเห็นทัศนียภาพแนวเทือกเขาฝั่งตรงข้ามได้อย่างชัดเจนตามภูมิลักษณะในรูปแบบแอ่ง นอกจากนี้ยังสามารถมองเห็นอาคารสูงจากตัวเมืองหาดใหญ่ชั้นในทางทิศเหนือได้อีกด้วย

ด้วยระยะทางจากสุสานที่ห่างจากคลองอู่ตะเภากว่า 1.85 กิโลเมตร รวมถึงความสูงของภูมิลักาณะบริเวณพื้นที่สุสาน ทำให้ไม่ได้รับผลกระทบน้ำท่วมหลากจากคลองอู่ตะเภา สอดคล้องกับการวางสุสานตามหลักชัยภูมิฮวงจุ้ย ที่กล่าวว่าพื้นที่สุสานน้ำต้องไม่ท่วมถึง เนื่องจากจะทำให้ศพในโลงศพเน่าเปื่อยได้ ส่งผลกระทบต่อบรรพชน

ทัศนียภาพจากสุสานบ้านพรุ ในปี พ.ศ. 2563

ประวัติสุสาน

 
โซนป้ายหลุมศพรุ่นเก่าในช่วงยุคแรก ๆ ของสุสาน

ในอดีตบริเวณพื้นที่สุสานบ้านพรุปัจจุบัน เป็นสวนยางพาราเก่าซึ่งเป็นอาชีพหลักของชาวบ้านพรุ จนเมื่อขุนนิพัทธ์จีนนครได้เข้ามาซื้อที่ดิน แล้วบริจาคเป็นสถานที่สำหรับการฌาปนกิจชาวจีนที่เข้ามาตั้งรกรากในหาดใหญ่ ซึ่งมีมูลเหตุมาจากการสร้างทางรถไฟสายใต้จนเมื่อมาสิ้นสุดบริเวณสถานีชุมทางหาดใหญ่ ซึ่งเป็นชุมทางหลักของภาคใต้ แรงงานชาวจีนส่วนใหญ่จึงเลือกมาปักหลักตั้งถิ่นฐานที่อำเภอหาดใหญ่ ซึ่งในขณะนั้นเป็นชุมชนขนาดเล็ก ในเวลานั้นขุนนิพัทธ์จีนนคร หัวหน้าแรงงานชาวจีน ได้เป็นผู้สร้างถนนนิพัทธ์อุทิศ 1,2,3 ในรูปแบบกริดตารางขนานไปกับสถานีชุมทางหาดใหญ่ทางทิศตะวันออก เมื่อปี พ.ศ. 2459 ทำให้เกิดการสร้างตึกแถวพาณิชยกรรมตลอดแนวถนนทั้ง 3 สายนี้ อันเป็นการบุกเบิกพัฒนาเมืองหาดใหญ่ที่สำคัญ ทำให้หาดใหญ่กลายเป็นเมืองเศรษฐกิจที่ใหญ่และสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของภาคใต้ในเวลาต่อมา

ขุนนิพัทธ์จีนนครได้ทำการซื้อที่ดินในชุมชนบ้านพรุ เพื่อบริจาคสร้างสุสานแก่ชาวจีนที่เสียชีวิตในหาดใหญ่ จำนวน 180 ไร่ เมื่อปี พ.ศ. 2482 โดยให้มูลนิธิจงฮั่วสงเคราะห์คนชราอนาถาเป็นผู้ดูแลรักษา ภายในสุสานจึงประกอบด้วยศพชาวจีนทั้งศพไร้ญาติ และศพมีตระกูล โดยศพไร้ญาติจะเป็นการฌาปนกิจในลักษณะการกุศล ส่วนศพมีตระกูลจะเป็นรูปแบบของการขายฮวงซุ้ย ในเวลาต่อทางมูลนิธิก็ได้จัดซื้อที่ดินเพิ่มเติมอีกประมาณ 31 ไร่ ทางทิศเหนือซึ่งปัจจุบันยังไม่ได้มีการขายฮวงซุ้ยเพิ่มเติม

ในส่วนกรรมสิทธิ์สุสานมูลนิธิท่งเซียเซี่ยงตึ๊ง ก่อตั้งขึ้นราวปี พ.ศ. 2511 ต่อเนื่องจากส่วนสุสานมูลนิธิจงฮั่วสงเคราะห์คนชราอนาถไปทางใต้ โดยมีการใช้แนวรั้วและแนวถนนเชื่อมต่อกัน ทำให้คนส่วนใหญ่เข้าใจว่าเป็นสุสานที่มีเจ้าของเพียงรายเดียว สุสานของมูลนิธิท่งเซียเซี่ยงตึ๊ง มีการจัดการที่ค่อนข้างเป็นระบบมากกว่าของมูลนิธิจงฮั่ว จากการวางแถวของฮวงซุ้ยที่มีขนาดกลาง ๆ และขนาดใหญ่วางเป็นแถวชัดเจน แสดงถึงสภาพเศรษฐกิจของสังคมหาดใหญ่ยุคนั้นที่ชาวจีนประกอบอาชีพจนมีฐานะร่ำรวย มากขึ้นกว่าชาวจีนในช่วงยุคแรก ๆ ที่จะทำฮวงซุ้ยขนาดเล็ก และไม่ตกแต่งป้ายหลุมมาก แม้ว่าภาพรวมมูลนิธิท่งเซียเซี่ยงตึ๊งจะเน้นขายฮวงซุ้ยเป็นหลัก แต่ก็มีการฮวงซุ้ยสำหรับศพไร้ญาติ รวมถึงหลุมบรรจุอัฐิไร้ญาติรวมขนาดใหญ่บริเวณด้านหน้าโครงการ

ในปี พ.ศ. 2558 ทางมูลนิธิท่งเซียเซี่ยงตึ๊งได้เปิดให้คนภายนอกเข้ามาใช้งานในเชิงกิจกรรมนันทนาการพักผ่อนหย่อนใจและออกกำลังกาย โดยทางมูลนิธิมีการจัดสรรเครื่องออกกำลังกาย เครื่องเล่น และลานแอโรบิกไว้รองรับ ซึ่งก็พบว่ามีประชาชนส่วนหนึ่งเข้ามาใช้งานในช่วงและช่วงเย็น ทั้งการเล่นฟุตบอล เล่นเครื่องออกำลังกาย เลี้ยงปลา เต้นแอโรบิก และวิ่ง สุสานแห่งนี้มีการเปิดไฟในช่วงเย็นจนถึง 20.00 น. นอกจากนี้ในบางโอกาสสุสานแห่งนี้ก็เป็นสถานที่จัดกิจกรรมเช่นวิ่งมาราธอน หรือปั่นจักรยาน เนื่องจากระบบสัญจรภายในสุสานมีระยะค่อนข้างไกล การเปิดสุสานให้คนภายนอกเข้ามาใช้นี้ มีรูปแบบคล้ายกับสวนสุขภาพสมาคมแต้จิ๋ว ในเขตสาทร กรุงเทพมหานคร

ชื่อ

เนื่องจากชื่อสถานที่อย่างเป็นทางการ คือสุสานและตามด้วยชื่อมูลนิธิ แต่สำหรับประชาชนในพื้นที่จะเข้าใจและนิยมเรียกว่า สุสานบ้านพรุ ตามสถานที่ตั้งในเทศบาลเมืองบ้านพรุ ด้วยเหตุนี้ทำให้ประชาชนรุ่นใหม่ ๆ ที่มาสุสาน จะเข้าว่าสุสานแห่งนี้มีเจ้าของเพียงรายเดียว นอกจากนี้ยังมีชื่อที่ท้องถิ่นที่เรียกว่า เปลวจีนบ้านพรุ โดยเปลว ในภาษาใต้ แปลว่าสุสาน ที่ฝังศพ คำว่าเปลวนี้ยังใช้เป็นคำสามัญทั่วไปเวลาเรียกชื่อ ป่าช้า หรือ สุสานที่อื่น ๆ ในภาคใต้อีกด้วย

แหล่งข้อมูลอื่น

  • แผนที่และภาพถ่ายทางอากาศของ สุสานบ้านพรุ
    • ภาพถ่ายดาวเทียมจากวิกิแมเปีย หรือกูเกิลแมปส์
    • แผนที่จากมัลติแมป หรือโกลบอลไกด์
    • ภาพถ่ายทางอากาศจากเทอร์ราเซิร์ฟเวอร์

พิกัดภูมิศาสตร์: 6°57′30″N 100°28′32″E / 6.9583506°N 100.475493°E / 6.9583506; 100.475493

อ้างอิง

  1. ศุภกร หงส์ฟ่องฟ้า. วันที่ 9 ธันวาคม 2563. หัวหน้าสุสานมูลนิธิท่งเซียเซี่ยงตึ๊ง. สัมภาษณ์
  2. หาดใหญ่โฟกัส. (2561). ... รู้หรือไม่ ??. สืบค้นเมื่อ 9 มิถุนายน 2564.
  3. สงขลานิวส์. (2014). ขุนนิพัทธ์จีนนคร (เจียกีซี) ต้นตระกูลจิระนคร ผู้สร้างเมืองหาดใหญ่. สืบค้นเมื่อ 9 มิถุนายน 2564.
  4. วงค์เดือน ภานุวัฒนากูล. (2552). อัตลักษณ์ของคนไทยเชื้อสายจีนท่ามกลางความหลากหลายทางวัฒนธรรม. ปริญญาศิลปศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาวิชาพัฒนามนุษย์และสังคม มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
  5. ศูนย์วิจัยสารสนเทศภูมิศาสตร์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ศูนย์ภูมิภาคเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศภาคใต้. (2559). ฐานข้อมูลสารสนเทศภูมิศาสตร์ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม.
  6. สถาบันวิจัยและพัฒนาสุขภาพภาคใต้. (2555).ประวัติศาสตร์ท้องถิ่นเมืองหาดใหญ่.
  7. ศิลปวัฒนธรรม. (2564). ขุนนิพัทธ์จีนนคร ผู้บุกเบิกหาดใหญ่ยุคแรกสุด อุทิศที่ดิน พัฒนาจากป่าสู่เมืองใหญ่.
  8. สุราหนึ่งป้าน. (2559). บ้านพรุ | สร้างแผงกั้นห้ามยูเทิร์นหวั่นลดอุบัติเหตุ !!. สืบค้นเมื่อ 10 มิถุนายน 2564.
  9. ไปเที่ยวป่าช้า กันมั้ย? มั้ย มั้ย มั้ย. สืบค้นเมื่อ 10 มิถุนายน 2564.

สานบ, านพร, หร, สานจ, นบ, านพร, หร, เปลวจ, นบ, านพร, ในช, อท, องถ, เป, นส, สานจ, นท, ใหญ, ดในภาคใต, ของประเทศไทย, ขนาดประมาณ, ไร, งอย, ใจกลางเทศบาลเม, องบ, านพร, อำเภอหาดใหญ, งหว, ดสงขลา, งห, างจากต, วเม, องช, นในเทศบาลนครหาดใหญ, ไปทางท, ศใต, ประมาณ, โลเมตร, ส. susanbanphru hrux susancinbanphru hrux eplwcinbanphru inchuxthxngthin epnsusancinthiihythisudinphakhitkhxngpraethsithy 2 mikhnadpraman 333 ir tngxyuicklangethsbalemuxngbanphru xaephxhadihy cnghwdsngkhla sunghangcaktwemuxngchninethsbalnkhrhadihyipthangthisitpraman 8 kiolemtr susanaehngniprakxbdwy 2 krrmsiththiaebngepnsusankhxngmulnithicnghwsngekhraahkhnchraxnatha canwn 211 ir aelasusankhxngmulnithithngesiyesiyngtung mulnithimitrphaphsamkhkhi canwn 122 ir sungmikarichaenwrwaelaaenwthnndwykn aetmikarcdkarsusanaeykxxkcakknsusanbanphrusalakhunniphththcinnkhrxnusrn epnsumsalaekaaekthitngxyukhukbsusanmaxyangyawnanchuxxunsusancinbanphru eplwcinkhxmulthwipsthanaepidichnganpraephthsusansthaptykrrmsthaptykrrmcinthitngethsbalemuxngbanphru xaephxhadihyemuxng sngkhlapraeths ithyphithiepidmulnithicnghwsngekhraahkhnchraxnatha ph s 2482mulnithithngesiyesiyngtung ph s 2511prbprungph s 2558 mikarepidepnsthanthixxkkalngkay 1 ecakhxngmulnithicnghwsngekhraahkhnchraxnatha aelamulnithithngesiyesiyngtungkhxmulthangethkhnikhphunthi532 800 tr m 333 ir epnsusancinthiihyaelaekaaekthisudaehnghnungkhxngphakhitsusanaehngnikxtngkhunkhrngaerkcakbricakhthidincanwn 180 ir odykhunniphththcinnkhr emuxpi ph s 2482 3 ephuxepnsthanthichapnkicchawcinthiepnaerngngansrangthangrthifsayit sungidekhamatngrkrakinxaephxhadihy odynbtngaetpi ph s 2459 epntnma mikarsrangtdthnnaelachumchntidtxkbsthanichumthanghadihy sungkhyaytwipthangthistawnxxk thaihprachakrchawithyechuxsaycinkhxy ephimcanwnmakkhun 4 susanaehngnicungepnsthanthisakhythirxngrbkarchapnkicchawcinthnghmdinyukhnn odykhunniphththideluxkthitnginkarthasusanthihangcaktwemuxnghadihyipthangit khuxbriewnethsbalbanphruinpccubn sunginkhnannkmichumchnkhxngkhninphunthiedimxasyxyuaelw krrmsiththithidinthibricakhodykhunniphththpccubnduaelodymulnithicnghwsngekhraahkhnchraxnatha inkhnathimulnithithngesiyesiyngtung idekhamaepidsusanemuxpi ph s 2511 txenuxngkbsusanedimthangthisitbriewnhlumsphekainchwngaerk khxngkarepidsusankhxngmulnithicnghwsngekhraahkhnchraxnatha thuxepnosnhnungthimirupaebbkhxngkartkaetngpayhlumhlakhlaymakthisudinphakhit aetktangcakinpccubnthiphbwamikarthapayhlumhwngsuythikhlay kn odyphayinosnhlumekaniprakxbdwyrupaebbcinmisthupphuthth rupaebbkhristng aelarupaebbhlumhineriyngkx pccubnhlumsphekacanwnhlayhlumidthukthingrangaelaimidrbkarekhaipduaelrksainewlatxmaemuxhadihyidykradbepnethsbalnkhrhadihyaelabanphruidykradbepnethsbalemuxngbanphru thaihmichumchn orngngan aelaokdngsinkha ekhamatngiklkbsusanmakkhuntlxdaenwthnnephchreksm sungechuxmtxipyngdanphrmaednsaeda praethsmaelesiyid thaihsusanklayepnthiepidolngkhnadkhxngethsbalemuxngbanphru pccubnthangmulnithithngesiyesiyngtungcungidepidihkhnphaynxk odyechphaaprachachninethsbalemuxngbanphru ekhamaichnganinechingkickrrmnnthnakar odymikarepidifinchwngeyncnthung 20 00 n 1 enuxha 1 thitng 2 phumilksnabriewnthitngsusan 3 prawtisusan 4 chux 5 aehlngkhxmulxun 6 xangxingthitng aekikhsusanbanphrutngxyutidkbthnnsayhlkkhuxthnnephchreksm karichnganthidinodyrxbsusanprakxbdwythixyuxasypanklangcnthunghnaaennmak sankethsbalemuxngbanphru iprsniybanphru tladsdbanphru orngeriyn wd orngngan okdngexkchn mixanaekhtodyrxbokhrngkardngtxipni thisehnux tidtxkbokdngsinkhabristh diexs hadihy thistawnxxk tidtxkbswnyangpharaaelaorngeriynsanfnmulnithi thisit tidtxkbwdpaaesngthrrm thidinepla aelaokdngbristhexs 2000 thistawntk tidtxkbthnnephchreksm fngtrngkhamthnnepnchumchnphumilksnabriewnthitngsusan aekikhlksnakayphaphbriewnphunthisusanbanphru epnthirabechingekhakhxngaexnghadihy odymilksnakhxy ladtacakthangfngtawnxxksungepnphuekhaetiy lngipthangthistawntkthiepnthitakwa cncdkhlxngxutaepha mikhwamsungehnuxradbnathaelpraman 13 00 emtr aelasungsudpraman 56 00 emtr dwyehtunithangfngthistawntkkhxngsusancungepncudthisamarthehnthsniyphaphaenwethuxkekhafngtrngkhamidxyangchdecntamphumilksnainrupaebbaexng nxkcakniyngsamarthmxngehnxakharsungcaktwemuxnghadihychninthangthisehnuxidxikdwydwyrayathangcaksusanthihangcakkhlxngxutaephakwa 1 85 kiolemtr rwmthungkhwamsungkhxngphumilkanabriewnphunthisusan thaihimidrbphlkrathbnathwmhlakcakkhlxngxutaepha 5 sxdkhlxngkbkarwangsusantamhlkchyphumihwngcuy thiklawwaphunthisusannatxngimthwmthung enuxngcakcathaihsphinolngsphenaepuxyid sngphlkrathbtxbrrphchn thsniyphaphcaksusanbanphru inpi ph s 2563prawtisusan aekikh osnpayhlumsphrunekainchwngyukhaerk khxngsusan inxditbriewnphunthisusanbanphrupccubn epnswnyangpharaekasungepnxachiphhlkkhxngchawbanphru cnemuxkhunniphththcinnkhridekhamasuxthidin aelwbricakhepnsthanthisahrbkarchapnkicchawcinthiekhamatngrkrakinhadihy sungmimulehtumacakkarsrangthangrthifsayitcnemuxmasinsudbriewnsthanichumthanghadihy sungepnchumthanghlkkhxngphakhit aerngnganchawcinswnihycungeluxkmapkhlktngthinthanthixaephxhadihy sunginkhnannepnchumchnkhnadelk inewlannkhunniphththcinnkhr hwhnaaerngnganchawcin idepnphusrangthnnniphththxuthis 1 2 3 inrupaebbkridtarangkhnanipkbsthanichumthanghadihythangthistawnxxk emuxpi ph s 2459 thaihekidkarsrangtukaethwphanichykrrmtlxdaenwthnnthng 3 sayni xnepnkarbukebikphthnaemuxnghadihythisakhy thaihhadihyklayepnemuxngesrsthkicthiihyaelasakhythisudaehnghnungkhxngphakhitinewlatxma 6 7 khunniphththcinnkhridthakarsuxthidininchumchnbanphru ephuxbricakhsrangsusanaekchawcinthiesiychiwitinhadihy canwn 180 ir emuxpi ph s 2482 odyihmulnithicnghwsngekhraahkhnchraxnathaepnphuduaelrksa phayinsusancungprakxbdwysphchawcinthngsphiryati aelasphmitrakul odysphiryaticaepnkarchapnkicinlksnakarkusl swnsphmitrakulcaepnrupaebbkhxngkarkhayhwngsuy inewlatxthangmulnithikidcdsuxthidinephimetimxikpraman 31 ir thangthisehnuxsungpccubnyngimidmikarkhayhwngsuyephimetiminswnkrrmsiththisusanmulnithithngesiyesiyngtung kxtngkhunrawpi ph s 2511 txenuxngcakswnsusanmulnithicnghwsngekhraahkhnchraxnathipthangit odymikarichaenwrwaelaaenwthnnechuxmtxkn thaihkhnswnihyekhaicwaepnsusanthimiecakhxngephiyngrayediyw susankhxngmulnithithngesiyesiyngtung mikarcdkarthikhxnkhangepnrabbmakkwakhxngmulnithicnghw cakkarwangaethwkhxnghwngsuythimikhnadklang aelakhnadihywangepnaethwchdecn aesdngthungsphaphesrsthkickhxngsngkhmhadihyyukhnnthichawcinprakxbxachiphcnmithanararwy makkhunkwachawcininchwngyukhaerk thicathahwngsuykhnadelk aelaimtkaetngpayhlummak aemwaphaphrwmmulnithithngesiyesiyngtungcaennkhayhwngsuyepnhlk aetkmikarhwngsuysahrbsphiryati rwmthunghlumbrrcuxthiiryatirwmkhnadihybriewndanhnaokhrngkarinpi ph s 2558 thangmulnithithngesiyesiyngtungidepidihkhnphaynxkekhamaichnganinechingkickrrmnnthnakarphkphxnhyxnicaelaxxkkalngkay odythangmulnithimikarcdsrrekhruxngxxkkalngkay ekhruxngeln aelalanaexorbikiwrxngrb sungkphbwamiprachachnswnhnungekhamaichnganinchwngaelachwngeyn thngkarelnfutbxl elnekhruxngxxkalngkay eliyngpla etnaexorbik aelawing susanaehngnimikarepidifinchwngeyncnthung 20 00 n nxkcakniinbangoxkassusanaehngnikepnsthanthicdkickrrmechnwingmarathxn hruxpnckryan enuxngcakrabbsycrphayinsusanmirayakhxnkhangikl karepidsusanihkhnphaynxkekhamaichni mirupaebbkhlaykbswnsukhphaphsmakhmaetciw inekhtsathr krungethphmhankhrchux aekikhenuxngcakchuxsthanthixyangepnthangkar khuxsusanaelatamdwychuxmulnithi aetsahrbprachachninphunthicaekhaicaelaniymeriykwa susanbanphru tamsthanthitnginethsbalemuxngbanphru dwyehtunithaihprachachnrunihm thimasusan caekhawasusanaehngnimiecakhxngephiyngrayediyw nxkcakniyngmichuxthithxngthinthieriykwa eplwcinbanphru 8 odyeplw inphasait aeplwasusan thifngsph 9 khawaeplwniyngichepnkhasamythwipewlaeriykchux pacha hrux susanthixun inphakhitxikdwyaehlngkhxmulxun aekikhkhxmmxns miphaphaelasuxekiywkb susanbanphruaephnthiaelaphaphthaythangxakaskhxng susanbanphru phaphthaydawethiymcakwikiaemepiy hruxkuekilaemps aephnthicakmltiaemp hruxoklbxlikd phaphthaythangxakascakethxrraesirfewxrphikdphumisastr 6 57 30 N 100 28 32 E 6 9583506 N 100 475493 E 6 9583506 100 475493xangxing aekikh 1 0 1 1 suphkr hngsfxngfa wnthi 9 thnwakhm 2563 hwhnasusanmulnithithngesiyesiyngtung smphasn hadihyofks 2561 ruhruxim subkhnemux 9 mithunayn 2564 sngkhlaniws 2014 khunniphththcinnkhr eciykisi tntrakulcirankhr phusrangemuxnghadihy subkhnemux 9 mithunayn 2564 wngkheduxn phanuwthnakul 2552 xtlksnkhxngkhnithyechuxsaycinthamklangkhwamhlakhlaythangwthnthrrm priyyasilpsastrmhabnthit sakhawichaphthnamnusyaelasngkhm mhawithyalysngkhlankhrinthr sunywicysarsnethsphumisastrthrphyakrthrrmchatiaelasingaewdlxm sunyphumiphakhethkhonolyixwkasaelaphumisarsnethsphakhit 2559 thankhxmulsarsnethsphumisastr thrphyakrthrrmchatiaelasingaewdlxm sthabnwicyaelaphthnasukhphaphphakhit 2555 prawtisastrthxngthinemuxnghadihy silpwthnthrrm 2564 khunniphththcinnkhr phubukebikhadihyyukhaerksud xuthisthidin phthnacakpasuemuxngihy surahnungpan 2559 banphru srangaephngknhamyuethirnhwnldxubtiehtu subkhnemux 10 mithunayn 2564 ipethiywpacha knmy my my my subkhnemux 10 mithunayn 2564 ekhathungcak https th wikipedia org w index php title susanbanphru amp oldid 9454943, wikipedia, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด,

บทความ

, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม