เกอลูลุซ
เกอลูลุซ (อินโดนีเซีย: kelulus) หรือ กาลูลุซ (kalulus) เป็นเรือพายชนิดหนึ่งที่ใช้ในอาณาจักรมัชปาหิต (ประเทศอินโดนีเซียปัจจุบัน) โดยทั่วไปแล้วจะมีขนาดเล็กและใช้กรรเชียงหรือพาย อย่างไรก็ตาม ในการเดินทางระยะไกลอาจติดตั้งใบเรือได้ :261 เรือชนิดนี้ไม่เหมือนกับเรือกาลูลิซ (อินโดนีเซีย: prahu kalulis) ซึ่งพบทางตะวันออกของหมู่เกาะอินโดนีเซีย
ศัพทมูลวิทยา
ชื่อเกอลูลุซอาจมาจากคำว่า ลูลุซ (lulus) ในภาษามลายูและชวา ซึ่งแปลว่า "ทำให้สิ่งหนึ่งผ่านไปได้" คำศัพท์ในพจนานุกรมฮอบสัน-จ็อบสัน (Hobson-Jobson) แปลตามตัวอักษรให้ความหมายว่า "the threader"
คำอธิบาย
รายงานแรกที่พบมาจากพงศาวดารของกษัตริย์แห่งปาไซ (มลายู: Hikayat Raja-Raja Pasai, อักษรยาวี: حكاية راج-راج ڤاسا) ประมาณคริสต์ศตวรรษที่ 14 ซึ่งกล่าวว่าเกอลูลุซเป็นเรือประเภทหนึ่งที่ใช้โดยอาณาจักรมัชปาหิต แม้ว่าคำอธิบายจะไม่ชัดเจนนัก แต่เกอลูลุซก็เป็นหนึ่งในประเภทเรือหลักของอาณาจักรรองจากเรือจง (jong) และมาลังบัง (malangbang)
จากแหล่งข้อมูลภาษาโปรตุเกส ชื่อถูกแปลเป็นกาลาลุช (calaluz, พหูพจน์ calaluzes) โดยอธิบายว่าเป็น "เรือพายแบบเร็วที่ใช้ทางทะเลในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้":557
ในปี ค.ศ. 1515 ตูแม ปีรึช (Tomé Pires) รายงานว่าปาเตส (ชวา: pates) หรือขุนนางของชวา มีเรือกาลาลุชมากมายใช้สำหรับการโจมตีและอธิบายว่า:
"...แต่พวกมันไม่เหมาะที่จะใช้ออกห่างจากชายฝั่ง เกอลูลุซเป็นเรือชนิดพิเศษของชวา พวกมันถูกแกะสลักเพื่อตกแต่งมากกว่าพันรูปแบบเช่น มีรูปงูและปิดทอง แต่ละลำมีลวดลายเหล่านี้มากมาย และส่วนใหญ่ของเรือถูกทาสีซึ่งทำให้สวยงาม เรือถูกสร้างขึ้นมาอย่างสง่างามและพวกมันมีไว้เพื่อกษัตริย์ที่จะสำราญส่วนพระองค์ แสดงความแตกต่างจากคนทั่วไป พวกเขาใช้ไม้พายในการพายเรือ"
“... พวกเขาออกไปด้วยรถฉลองชัย และหากพวกเขาไปทางทะเล [พวกเขาไป] ในเรือกาลาลุชที่ทาสีตกแต่ง สะอาดและสวยงามมาก มีหลังคามากมายจนขุนนางมองไม่เห็นฝีพายของเรือ":200
ในปี ค.ศ. 1537 เรือเกอลูลุซชวาที่พบในปตานีได้ถูกอธิบายว่าเรือมีพายสองแถว: แถวหนึ่งใช้ไม้พาย อีกแถวหนึ่งกรรเชียงในแบบเดียวกับเรือแกลลีย์ โดยบรรทุกทหารกว่า 100 นาย พร้อมด้วยปืนใหญ่และอาวุธปืนมากมาย กงซาลู ดึ โซซา (Gonçalo de Souza) เขียนในบันทึก Coriosodades de Gonçallo de Sousa ของเขาว่าเรือมี 27 พาย (54 ฝีพาย?) พร้อมทหาร 20 นายและติดอาวุธด้วยปืนขนาดเล็ก (falconselhos; ฟัลกงเซลยุส) ปรับทิศทางได้ที่หัวเรือและท้ายเรือ:158
พจนานุกรมภาษาสเปนระบุว่ากาลาลุซ (สเปน: calaluz) เป็น "เรือเล็กที่ใช้ในหมู่เกาะอินเดียตะวันออก"
ในปี ค.ศ. 1544 อังตอนียู กัลเวา (António Galvão) นักประวัติศาสตร์ชาวโปรตุเกส ได้ทำบทความเกี่ยวกับมาลูกู ซึ่งระบุประเภทของเรือที่มาจากภูมิภาคนี้ รวมทั้งเกอลูลุซด้วย เขาอธิบายว่าลำตัวเรือเป็นรูปไข่ตรงกลาง แล้วค่อยโค้งขึ้นที่ปลายทั้งสองข้าง หัวเรือมีรูปร่างเหมือนคองูที่ชูสูงโดยมีส่วนหัวของงูใหญ่และเขาของกวาง
การใช้งาน
เกอลูลุซถูกใช้เป็นเรือขนส่งหรือเรือรบ การบุกโพ้นทะเลของอาณาจักรมัชปาหิตโดยปกติใช้เรือชนิดนี้ในจำนวนที่มากมาย ปาตี (ผู้สำเร็จราชการ) ของชวามีเรือรบเกอลูลุซมากมายเพื่อโจมตีหมู่บ้านชายฝั่ง ในปี ค.ศ. 1513 ระหว่างที่รัฐสุลต่านเดมักเข้าโจมตีโปรตุเกสที่มะละกา เรือเกอลูลุซถูกใช้โดยเทียบเข้ากับเรือเปินจาจัป (มลายู: penjajap) และเรือลันจารัน (ชวา: lancaran) เพื่อใช้ขนส่งกองทหารยกพลขึ้นบก เนื่องจากเรือสำเภาชวามีขนาดใหญ่เกินกว่าจะเข้าใกล้ฝั่งได้
ปี ค.ศ. 1574 ราตูกาลินยามัต (ชวา: Ratu Kalinyamat) พระราชินีแห่งกาลินยามัตและเจปอรอ ทรงนำการโจมตีมะละกาของโปรตุเกส ด้วยเรือ 300 ลำ โดย 220 ลำเป็นเรือเกอลูลุซ ที่เหลือเป็นเรือจง การโจมตีสิ้นสุดลงด้วยความล้มเหลวของกองทัพชวา
ในปี ค.ศ. 1600 กษัตริย์จิอะฮ์ มาซียูโร (ชวา: Chiay Masiuro หรือ Chiaymasiouro) แห่งรัฐเดมัก ได้เสด็จโดยเรือกาเลลุซ (calelus) จากอาณาจักรบลัมบางัน (ชวา: Blambangan) ซึ่งขับเคลื่อนโดยใช้พายและใบเรือไปทางทิศใต้ หลังจากผ่านไป 12 วัน ก็มาถึงลูกาอันตอรอ (ชวา: Luca Antara) หรือ Java Major ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นประเทศออสเตรเลีย ณ ที่นั้นนายท่าสถานีการค้าหรือชะฮ์บันดาร์ (มลายู: syahbandar) รับเสด็จพระองค์ซึ่งได้ทรงประทับอยู่หลายวัน จิอะฮ์ มาซียูโรทรงพบว่าผู้อยู่อาศัยเป็นชาวชวา แต่มีวัฒนธรรมผสมผสานของชวา, ซุนดา และบาหลี หลังจากที่เสด็จกลับมาที่บลัมบางันแล้ว ข่าวการเสด็จสร้างความประหลาดใจอย่างมากและเป็นเรื่องโจษขานของสาธารณชนในชวา:61–63
ดูเพิ่ม
- ซาซีลีปัน เรือพายของประเทศฟิลิปปินส์
- โตมาโก
- วากาตาวา
- เปินจาจัป
- จง
- ลันจารัน
- โกรา-โกรา
- การติดต่อกับออสเตรเลียของชาวชวา
- เรือพระราชพิธี
อ้างอิง
- ↑ Mills, J. V. (1930). "Eredia's Description of Malaca, Meridional India, and Cathay". Journal of the Malayan Branch of the Royal Asiatic Society. 8.
- Yule, Sir Henry (1996). Hobson-Jobson: The Anglo-Indian Dictionary. Wordsworth Editions. p. 143. ISBN 9781853263637.
- ↑ Hill (มิถุนายน 1960), p. 157: จากนั้นเขาก็สั่งกำลังพลให้เตรียมอาวุธและยุทโธปกรณ์ทั้งหมดที่จำเป็นสำหรับการโจมตีดินแดนปาไซ - เรือสำเภาที่ใหญ่ที่สุดประมาณสี่ร้อยลำ รวมถึงเรือบรรทุก (มาลังบัง) และเรือแกลลีย์จำนวนมาก เช่นเดียวกับ Nugroho (2011). p. 286, อ้างถึง Hikayat Raja-Raja Pasai, 3: 98: "Sa-telah itu, maka disuroh baginda musta'idkan segala kelengkapan dan segala alat senjata peperangan akan mendatangi negeri Pasai itu, sa-kira-kira empat ratus jong yang besar-besar dan lain daripada itu banyak lagi daripada malangbang dan kelulus." (หลังจากนั้น พระเจ้าอยู่หัวมีหมายรับสั่งให้เตรียมยุทโธปกรณ์และอาวุธทั้งหมดเพื่อมายังดินแดนป่าไซ ประกอบด้วยเรือจงใหญ่ประมาณสี่ร้อยลำ นอกจากนั้นมีเรือมาลังบังและเกอลูลุซอีกมาก)
- Pinto, Fernão Mendes (2013). The Travels of Mendes Pinto. Chicago: University of Chicago Press. ISBN 978-0226923239.
- Catz, Rebecca D. (1989). The travels of Mendes Pinto. Chicago: University of Chicago Press. ISBN 0226923231.
- Pires, Tome (1944). The Suma oriental of Tomé Pires : an account of the East, from the Red Sea to Japan, written in Malacca and India in 1512-1515 ; and, the book of Francisco Rodrigues, rutter of a voyage in the Red Sea, nautical rules, almanack and maps, written and drawn in the East before 1515. The Hakluyt Society. ISBN 9784000085052. บทความนี้รวมเอาเนื้อความจากแหล่งอ้างอิงนี้ ซึ่งเป็นสาธารณสมบัติ
- Coriosidades de Gonçalo de Souza, manuscript in the Biblioteca da Universidade de Coimbra, Ms. 3074, fol. 38vo.
- Reid, Anthony (2012). Anthony Reid and the Study of the Southeast Asian Past. Singapore: Institute of Southeast Asian Studies. ISBN 978-9814311960.
- "calaluz". enciclonet 3.0.
- Jacobs, Hubert (1971). A Treatise on the Moluccas (c. 1544), probably the preliminary version of António Galvão's lost Historia das Moluccas. Rome: Jesuit Historical Society. OCLC 905632007.
- Adam (2019). p.128: "Setelah itu maka disuruh baginda musta'ibkan segala kelengkapan dan segala alat senjata peperangan akan mendatangi negeri Pasai itu; sekira-kira empat ratus jong yang besar-besar; dan lain daripada itu banyak lagi daripada melangbang [melambang] dan kelulus."
- Winstedt, Sir Richard (1962). A History of Malaya (Rev. and enlarged ed.). Singapore: Marican. OCLC 876833983.
- Marsden, William (7 June 2012). The History of Sumatra: Containing an Account of the Government, Laws, Customs, and Manners of the Native Inhabitants. Cambridge University Press. p. 431. ISBN 978-1108050487.
บรรณานุกรม
- Adam, Ahmat (2019). Hikayat Raja Pasai. SIRD. ISBN 9789672464006.
- Hill, A. H. (มิถุนายน 1960). "Hikayat Raja-Raja Pasai". Journal of the Malaysian Branch of the Royal Asiatic Society. 33: 1–215. ISSN 0126-7353.
- Nugroho, Irawan Djoko (2011). Majapahit Peradaban Maritim. Suluh Nuswantara Bakti. ISBN 9786029346008.