เจ้าพระยามหาเสนา (บุญมา)
เจ้าพระยามหาเสนา ชื่อเดิม บุญมา เป็นสมุหกลาโหมในช่วงต้นรัชกาลพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย เป็นแม่ทัพในสงครามพม่าตีเชียงใหม่ พ.ศ. 2340 และ 2345
เจ้าพระยามหาเสนา (บุญมา) | |
---|---|
สมุหกลาโหม | |
ดำรงตำแหน่ง พ.ศ. 2352 - ? | |
กษัตริย์ | พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย |
ก่อนหน้า | เจ้าพระยามหาเสนา (ปิ่น) |
ถัดไป | เจ้าพระยาวงศาสุรศักดิ์ (แสง วงศาโรจน์) |
เสนาบดีกรมพระนครบาล | |
ดำรงตำแหน่ง พ.ศ. 2337 - 2352 | |
กษัตริย์ | พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก |
ก่อนหน้า | พระยายมราช (บุนนาค) |
ถัดไป | เจ้าพระยายมราช (น้อย บุณยรัตพันธุ์) |
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | บุญมา |
บิดา | เจ้าพระยามหาเสนา (เสน) |
ศาสนา | พุทธ |
ตระกูล | วงศ์เฉกอะหมัด |
เจ้าพระยามหาเสนา (บุญมา) เกิดในสมัยอยุธยา เป็นบุตรของพระยาจ่าแสนยากร (เสน) ซึ่งดำรงตำแหน่งเป็นที่จักรีวังหน้าฯในกรมพระราชวังบวรฯเจ้าฟ้ากรมขุนพรพินิต มารดาคือท่านผู้หญิงพวงแก้ว ธิดาของเจ้าพระยาธรรมาธิกรณ์ (ขุนทอง) เจ้าพระยามหาเสนา (บุญมา) มีพี่สาวร่วมมารดาเดียวกันสามคนชื่อว่า เป้า แป้น และทองดีและมีพี่น้องต่างมารดาคนหนึ่ง คือเจ้าพระยาอรรคมหาเสนา (บุนนาค) พระยาจ่าแสนยากร (เสน) ได้นำบุตรชายทั้งสองของตน คือนายบุญมาและนายบุนนาค เข้ารับราชการในกรมพระราชวังบวรฯ โดยนายบุญมาได้รับแต่งตั้งเป็นหลวงมหาใจภักดิ์ นายเวรมหาดเล็กวังหน้าฯ และนายบุนนาคเป็นนายฉลองไนยนาถ เมื่อพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศสวรรคตในพ.ศ. 2301 กรมพระราชวังบวรฯเจ้าฟ้าอุทุมพรจึงขึ้นครองราชย์สมบัติเป็นสมเด็จพระเจ้าอุทุมพร พระยาจ่าแสนยากร (เสน) บิดาของหลวงมหาใจภักดิ์ (บุญมา) ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าพระยามหาเสนาสมุหกลาโหม เป็นที่รู้จักในนามว่า”เจ้าคุณกลาโหมวัดสามวิหาร” จากนิวาสสถานซึ่งอยู่บริเวณวัดสามวิหารในกรุงศรีอยุธยา
หลังจากการเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่สองในพ.ศ. 2310 พี่สาวทั้งสามของนายบุญมาถูกกวาดต้อนไปพม่า นายบุญมาเดินทางลี้ภัยไปอาศัยที่เมืองเพชรบูรณ์ นายบุญมาเข้ารับราชการอีกครั้งในรัชสมัยสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี ดำรงตำแหน่งเป็นพระพลเมืองเพชรบูรณ์ อยู่กับพระยาเพชรบูรณ์ (ปลี) ต่อมาเมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกเสด็จขึ้นครองราชสมบัติในพ.ศ. 2325 นายบุญมาได้รับการแต่งตั้งให้เป็นที่พระยาตะเกิง จางวางกรมพระแสงปืนซ้าย ต่อมาในพ.ศ. 2337 เมื่อพระยายมราช (บุนนาค) เลื่อนขึ้นเป็นเจ้าพระยาอรรคมหาเสนาสมุหกลาโหม พระยาตะเกิง (บุญมา) จึงได้เลื่อนขึ้นเป็นพระยายมราช เสนาบดีกรมพระนครบาล
พระเจ้าปดุงแห่งราชวงศ์คองบองของพม่า ทรงต้องการที่จะนำหัวเมืองล้านนาเข้าสู่การปกครองของพม่าอีกครั้ง จึงทรงส่งทัพเข้าโจมตีและล้อมเมืองเชียงใหม่สองครั้ง ในพ.ศ. 2340 และพ.ศ. 2345 ทั้งสองครั้งพระยายมราช (บุญมา) ได้ติดตามพระเจ้าหลานเธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงเทพหริรักษ์ ยกทัพฝ่ายพระราชวังหลวงขึ้นไปช่วยพระยากาวิละป้องกันเมืองเชียงใหม่ ในครั้งเมื่อยกทัพไปช่วยเมืองเชียงใหม่ในพ.ศ. 2345 นั้น ด้วยเหตุบางประการทัพของกรมหลวงเทพหริรักษ์ฯและพระยายมราชรั้งรอล่าช้าตามหลังทัพของฝ่ายพระราชวังบวรฯ กรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาทจึงทรงมีพระราชบัณฑูรให้กรมหลวงเทพหริรักษ์ฯ พระยายมราช และเจ้าอนุวงศ์ ยกทัพไปตีเมืองเชียงแสนจากพม่าให้ได้เพื่อเป็นการปรับโทษ นำไปสู่สงครามเชียงแสนในพ.ศ. 2347 พระยายมราช (บุญมา) ติดตามเสด็จกรมหลวงเทพหริรักษ์ยกทัพเข้าโจมตีเมืองเชียงแสน แต่ทัพฝ่ายกรุงเทพฯประสบปัญหาไพร่พลล้มป่วยขาดแคลนเสบียงอาหารจึงถอยทัพออกมาก่อน ต่อมาพระยาอุปราชน้อยธรรมแห่งเชียงใหม่จึงสามารถเข้ายึดเมืองเชียงแสนได้ มีการกวาดต้อนชาวเมืองเชียงแสนออกเป็นห้าส่วน แบ่งให้กรุงเทพฯหนึ่งส่วน กรมหลวงเทพหริรักษ์ทรงจัดให้ชาวเชียงแสนเหล่านั้นไปอยู่ที่เมืองสระบุรีและเมืองราชบุรี เมื่อทัพกลับถึงกรุงเทพแล้ว พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าฯทรงขัดเคือง ด้วยเหตุว่าทัพกรุงฯนั้นกลับลงมาจากเชียงแสนนั้นกลับมาเปล่าไม่ได้ราชการสิ่งใด จึงมีพระราชโองการให้จำกรมหลวงเทพหริรักษ์และพระยายมราชไว้ที่ทิมดาบชั้นนอกไว้สี่วัน เมื่อคลายพระพิโรธแล้วจึงทรงให้กรมหลวงเทพหริรักษ์และพระยายมราชให้พ้นโทษออกมา
เมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยเสด็จขึ้นครองราชสมบัติในพ.ศ. 2352 ทรงแต่งตั้งพระยายมราช (บุญมา) ขึ้นเป็นเจ้าพระยามหาเสนาที่สมุหกลาโหม เจ้าพระยามหาเสนา (บุญมา) ถึงแก่อสัญกรรมในรัชกาลที่ 2
เจ้าพระยามหาเสนา (บุญมา) ปรากฏบุตรดังนี้;
ภรรยาชื่อ ไตร
- ธิดาชื่อ แข
- บุตรชื่อ เขียน
ทั้งสองคนข้างต้นนี้ถูกกวาดต้อนไปพม่าหลังเสียกรุงศรีฯ
ภรรยาชื่อ ท่านผู้หญิงเป้า
- เจ้าจอมทรัพย์ ในรัชกาลที่ 1
- พระยาอภัยพิพิธ (กระต่าย)
ภรรยาชื่อ ท่านผู้หญิงไข่
- บุตรชื่อ ม่วง
- พระยาเพชรบูรณ์ (นุช)
อ้างอิง
- ↑ วงศ์เฉกอะหมัด http://www.bunnag.in.th/history2-2.html
- ↑ ลำดับสกุลเก่าบางสกุลภาคที่ ๓: สกุลเฉกอหมัด ฉะบับเจ้าพระยาทิพากรวงศ์. พิมพ์ในงานพระราชทานเพลิงศพ พระตำรวจเอก เจ้าพระยาราชศุภมิตร (อ๊อด ศุภมิตร) ณ เมรุวัดเบญจมบพิตร เมื่อปีมะเมีย พ.ศ. ๒๔๘๓.
- ↑ สมมตอมรพันธุ์, พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระ. เรื่องตั้งเจ้าพระยาในกรุงรัตนโกสินทร์. กรุงเทพ : กรมศิลปากร, 2545.
- ↑ ทิพากรวงศ์ (ขำ บุนนาค), เจ้าพระยา. พระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ ๑. พิมพ์ครั้งที่ ๖.
- ดำรงราชานุภาพ, สมเด็จกรมพระยา. พงษาวดารเรื่องเรารบพม่า ครั้งกรุงธน ฯ แลกรุงเทพ ฯ.
- ดำรงราชานุภาพ, สมเด็จกรมพระยา.. พระราชพงษาวดาร กรุงรัตนโกสินทร รัชกาลที่ ๒. ฉบับพิมพ์ครั้งแรก ปีมโรงอัฐศก พ.ศ. ๒๔๕๙; พิมพ์ที่โรงพิมพ์ไทย ณสพานยศเส