fbpx
วิกิพีเดีย

แคน

แคน เป็นเครื่องดนตรีพื้นเมืองชนิดหนึ่งของประเทศลาวและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (อีสาน) ในประเทศไทย และถือเป็นสัญลักษณ์ประจำกลุ่มชาติพันธุ์ลาวอีกด้วย เครื่องดนตรีชนิดนี้จะใช้ไม้ซางขนาดต่าง ๆ ประกอบกันเข้าเป็นตัวแคน แคนเป็นเครื่องเป่ามีลิ้นโลหะ เสียงเกิดจากลมผ่านลิ้นโลหะไปตามลำไม้ที่เป็นลูกแคน การเป่าแคนต้องใช้ทั้งเป่าลมเข้าและดูดลมออกด้วย จึงเป่ายากพอสมควรและแคนมีหลายขนาด ถือเป็นเครื่องดนตรีชนิดหนึ่งที่ให้เสียงไพเราะ เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว สร้างเสียงประสานได้ในตัวเอง บ่งบอกถึงวิถีชีวิตของชาวพื้นเมืองบริเวณลุ่มแม่น้ำโขงได้เป็นอย่างดี ใครเป็นผู้คิดประดิษฐ์เครื่องดนตรีที่เรียกว่า "แคน" เป็น คนแรก และทำไมจึงเรียกว่า "แคน" นั้น ยังไม่มีหลักฐานที่แน่นอนยืนยันได้

แคน

ประเภทของแคน

แคนมีหลายประเภทตามจำนวนลูกแคน คือ

  1. แคนหก มีลูกแคน 3 คู่ (6 ลูก) เป็นแคนขนาดเล็กที่สุด สำหรับเด็กหรือผู้เริ่มฝึกหัดใช้เป่าเพลงง่าย ๆ เพราะเสียงไม่ครบ บางทีก็จะทำเป็นของที่ระลึกสำหรับนักท่องเที่ยว
  2. แคนเจ็ด มีลูกแคน 7 คู่ (14 ลูก) เป็นแคนขนาดกลาง มีเสียงครบ 7 เสียง ตามระบบสากล และมีระดับเสียงสูง ต่ำ ทั้ง 7 เสียง หรือที่เรียกว่า คู่แปด คือ โด เร มี ฟา ซอล ลา ที (คู่แปด คือทุกเสียงเช่นเสียงโด ก็จะมีทั้งเสียงโดสูง และโดต่ำ ทุกเสียงมีคู่เสียงทั้งหมด) แคน 7 ไม่มีเสียงเสพที่เป็นเสียง ซอลสูง ด้านแพซ้าย และไม่มีเสียงเสพที่เป็นเสียง ลาสูง ทางด้านแพขวา
  3. แคนแปด ใหญ่กว่าแคนเจ็ด มีลูกแคน 8 คู่ (16 ลูก) คือ โด เร มี ฟา ซอล ลา ที โด เพิ่มคู่เสียงระดับสูงขึ้นไปให้เป็นเสียงประสานในการเล่นเพลงพื้นเมือง ได้แก่ เสียง ซอลสูง ด้านแพซ้าย และเสียงเสพที่เป็นเสียง ลาสูง ทางด้านแพขวา
  4. แคนเก้า มีลูกแคน 9 คู่ (18 ลูก) ใหญ่ที่สุด มีเสียงต่ำที่สุด เวลาเป่าต้องใช้ลมมาก มีจำนวนคู่เสียงครบเช่นเดียวกับแคนแปด แต่ที่เพิ่มขึ้นมาอีกก็คือเพิ่มเสียงเสพประสานด้านแพซ้ายที่เป็นเสียงซอลสูงอีกหนึ่งเสียง และเพิ่มเสียงเสพประสานที่แพขวาซึ่งเป็นเสียงลาสูงอีกหนึ่งเสียง สรุปแล้วจึงมีลูกแคนทั้งหมด 9 คู่ และที่สำคัญคือเป็นแคนเสียงต่ำที่ใช้เป่าให้เป็นเสียงเบสในการเป่าแบบแคนวง แต่ในปัจจุบันวงดนตรีพื้นเมืองนิยมใช้พิณเบสหรือเบสของดนตรีสากล แคน 9 จึงไม่เป็นนิยมอีก จึงทำให้เยาวชนรุ่นหลังไม่มีโอกาสได้เห็นได้ยินการบรรเลงของแคน 9 อีกเลย
  5. แคนสิบ เป็นแคนที่ปรับปรุงมาจากแคนแปด โดยผู้ประดิษฐ์และออกแบบ ชื่อ สำเร็จ คำโมง แต่ในระยะหลังไม่เป็นที่นิยมมากนักจึงไม่มีผู้สืบทอดผลงานนี้ไว้

แคนนอกจากบรรเลงเป็นวงแล้ว ก็ยังใช้บรรเลงประกอบการลำ (การขับร้อง) หรือใช้บรรเลงร่วมกับพิณ โปงลาง ฯลฯ

ประเภทของลิ้นแคน

ใช้ทองแดงผสมเงิน ช่างที่มีฝีมือนิยมใช้เหรียญสมัยรัชกาลที่ห้า น้ำหนักเงิน 1 บาท ผสมกับเหรียญสตางค์ แบ่งออกเป็น

  1. ลิ้นเงิน แบ่งออกเป็น
    1. เงินสองทองหนึ่ง มีเนื้อเงินมากที่สุดให้เสียงนุ่มละมุน มีน้ำหนักลงลึกมีมิติ ส่วนมากมีในช่างอุบลรุ่นก่อน ๆ ปัจจุบันแทบไม่มีทำแล้ว
    2. เงินสองทองสาม มีเนื้อเงินน้อยกว่าแบบแรก ให้เสียงที่สดใสขึ้น แต่น้ำหนักเสียงลดลง
  2. ลิ้นเงินสับทอง (สลับหรือผสม) มีทองแดง 50% ขึ้นไป มีอัตราไม่แน่นอนแล้วแต่ช่างจะคิดขึ้นมาเฉพาะตัว ให้เสียงที่ดังกังวาน ดังไกล แต่น้ำหนักเสียงเบา เป่ายาก ใช้ลมมาก การอยู่ตัวของลิ้นยากขึ้นเช่น เงินหนึ่งทองสี่ เงินหนึ่งทองหก เงินหนึ่งทองสิบ
  3. ลิ้นทอง อาจเป็นทองแดง ทองสำริด ปลอกกระสุน ฯลฯ

แคน, บทความน, ไม, การอ, างอ, งจากแหล, งท, มาใดกร, ณาช, วยปร, บปร, งบทความน, โดยเพ, มการอ, างอ, งแหล, งท, มาท, าเช, อถ, เน, อความท, ไม, แหล, งท, มาอาจถ, กค, ดค, านหร, อลบออก, เร, ยนร, าจะนำสารแม, แบบน, ออกได, อย, างไรและเม, อไร, เป, นเคร, องดนตร, นเม, องชน, ดหน. bthkhwamniimmikarxangxingcakaehlngthimaidkrunachwyprbprungbthkhwamni odyephimkarxangxingaehlngthimathinaechuxthux enuxkhwamthiimmiaehlngthimaxacthukkhdkhanhruxlbxxk eriynruwacanasaraemaebbnixxkidxyangiraelaemuxir aekhn epnekhruxngdntriphunemuxngchnidhnungkhxngpraethslawaelaphakhtawnxxkechiyngehnux xisan inpraethsithy aelathuxepnsylksnpracaklumchatiphnthulawxikdwy ekhruxngdntrichnidnicaichimsangkhnadtang prakxbknekhaepntwaekhn aekhnepnekhruxngepamilinolha esiyngekidcaklmphanlinolhaiptamlaimthiepnlukaekhn karepaaekhntxngichthngepalmekhaaeladudlmxxkdwy cungepayakphxsmkhwraelaaekhnmihlaykhnad thuxepnekhruxngdntrichnidhnungthiihesiyngipheraa epnexklksnechphaatw srangesiyngprasanidintwexng bngbxkthungwithichiwitkhxngchawphunemuxngbriewnlumaemnaokhngidepnxyangdi ikhrepnphukhidpradisthekhruxngdntrithieriykwa aekhn epn khnaerk aelathaimcungeriykwa aekhn nn yngimmihlkthanthiaennxnyunynidaekhnpraephthkhxngaekhn aekikhaekhnmihlaypraephthtamcanwnlukaekhn khux aekhnhk milukaekhn 3 khu 6 luk epnaekhnkhnadelkthisud sahrbedkhruxphuerimfukhdichepaephlngngay ephraaesiyngimkhrb bangthikcathaepnkhxngthiraluksahrbnkthxngethiyw aekhnecd milukaekhn 7 khu 14 luk epnaekhnkhnadklang miesiyngkhrb 7 esiyng tamrabbsakl aelamiradbesiyngsung ta thng 7 esiyng hruxthieriykwa khuaepd khux od er mi fa sxl la thi khuaepd khuxthukesiyngechnesiyngod kcamithngesiyngodsung aelaodta thukesiyngmikhuesiyngthnghmd aekhn 7 immiesiyngesphthiepnesiyng sxlsung danaephsay aelaimmiesiyngesphthiepnesiyng lasung thangdanaephkhwa aekhnaepd ihykwaaekhnecd milukaekhn 8 khu 16 luk khux od er mi fa sxl la thi od ephimkhuesiyngradbsungkhunipihepnesiyngprasaninkarelnephlngphunemuxng idaek esiyng sxlsung danaephsay aelaesiyngesphthiepnesiyng lasung thangdanaephkhwa aekhneka milukaekhn 9 khu 18 luk ihythisud miesiyngtathisud ewlaepatxngichlmmak micanwnkhuesiyngkhrbechnediywkbaekhnaepd aetthiephimkhunmaxikkkhuxephimesiyngesphprasandanaephsaythiepnesiyngsxlsungxikhnungesiyng aelaephimesiyngesphprasanthiaephkhwasungepnesiynglasungxikhnungesiyng srupaelwcungmilukaekhnthnghmd 9 khu aelathisakhykhuxepnaekhnesiyngtathiichepaihepnesiyngebsinkarepaaebbaekhnwng aetinpccubnwngdntriphunemuxngniymichphinebshruxebskhxngdntrisakl aekhn 9 cungimepnniymxik cungthaiheyawchnrunhlngimmioxkasidehnidyinkarbrrelngkhxngaekhn 9 xikely aekhnsib epnaekhnthiprbprungmacakaekhnaepd odyphupradisthaelaxxkaebb chux saerc khaomng aetinrayahlngimepnthiniymmaknkcungimmiphusubthxdphlnganniiwaekhnnxkcakbrrelngepnwngaelw kyngichbrrelngprakxbkarla karkhbrxng hruxichbrrelngrwmkbphin opnglang lpraephthkhxnglinaekhn aekikhichthxngaedngphsmengin changthimifimuxniymichehriyysmyrchkalthiha nahnkengin 1 bath phsmkbehriyystangkh aebngxxkepn linengin aebngxxkepn enginsxngthxnghnung mienuxenginmakthisudihesiyngnumlamun minahnklnglukmimiti swnmakmiinchangxublrunkxn pccubnaethbimmithaaelw enginsxngthxngsam mienuxenginnxykwaaebbaerk ihesiyngthisdiskhun aetnahnkesiyngldlng linenginsbthxng slbhruxphsm mithxngaedng 50 khunip mixtraimaennxnaelwaetchangcakhidkhunmaechphaatw ihesiyngthidngkngwan dngikl aetnahnkesiyngeba epayak ichlmmak karxyutwkhxnglinyakkhunechn enginhnungthxngsi enginhnungthxnghk enginhnungthxngsib linthxng xacepnthxngaedng thxngsarid plxkkrasun l bthkhwamekiywkbephlng dntri hrux ekhruxngdntriniyngepnokhrng khunsamarthchwywikiphiediyidodyephimkhxmul duephimthi sthaniyxy dntriekhathungcak https th wikipedia org w index php title aekhn amp oldid 9516046, wikipedia, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด,

บทความ

, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม