แนวคิดปฏิเสธเอดส์
แนวคิดปฏิเสธเอดส์ (AIDS denialism) เป็นมุมมองของกลุ่มคนและองค์กรบางกลุ่มที่ปฏิเสธว่าเชื้อเอชไอวีเป็นสาเหตุของกลุ่มอาการภูมิคุ้มกันเสื่อมหรือเอดส์ ผู้มีแนวคิดปฏิเสธบางคนปฏิเสธการมีอยู่ของเชื้อเอชไอวี ในขณะที่บางคนยอมรับว่าเชื้อนี้มีจริง แต่เป็นเชื้อไวรัสอาศัยธรรมดาที่ไม่มีอันตราย และไม่ได้ทำให้เกิดเอดส์ แม้ผู้มีแนวคิดปฏิเสธจะยอมรับว่าเอดส์เป็นโรคที่มีอยู่จริง แต่ก็จะเชื่อว่าเป็นโรคที่เกิดจากการใช้ยาเสพติด ภาวะทุพโภชนาการ ปัญหาสุขอนามัย และผลข้างเคียงจากยาต้านไวรัส แทนที่จะเกิดจากการติดเชื้อเอชไอวี
ในทางวิทยาศาสตร์นั้นถือว่าหลักฐานสนับสนุนว่าเอชไอวีเป็นสาเหตุของโรคเอดส์นั้นได้ข้อสรุปแล้ว ชุมชนวิทยาศาสตร์ได้ปฏิเสธและเพิกเฉยต่อข้ออ้างของเหล่าผู้มีแนวคิดปฏิเสธเอดส์จากการใช้เหตุผลที่ไม่ถูกต้อง การเลือกยกข้อมูลบางส่วนขึ้นอ้าง และการแปลผลให้เข้าใจผิดจากข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ที่ล้าสมัย จากการที่มีการปฏิเสธที่จะถกเถียงข้ออ้างเหล่านี้จากชุมชนวิทยาศาสตร์ ข้อมูลของผู้มีแนวคิดปฏิเสธเอดส์จึงแพร่กระจายทางอินเทอร์เน็ตเป็นหลัก
แม้จะไม่ได้รับการยอมรับจากวิทยาศาสตร์ แนวคิดปฏิเสธเอดส์กลับมีผลกระทบทางการเมืองไม่น้อย โดยเฉพาะในประเทศแอฟริกาใต้ ภายใต้การนำของประธานาธิบดี Thabo Mbeki นักวิทยาศาสตร์และแพทย์ได้พยายามเตือนถึงผลเสียต่อมนุษย์ที่เกิดจากแนวคิดปฏิเสธเอดส์ที่ทำให้ผู้ติดเชื้อเอชไอวีไม่มารับการรักษาจากวิธีการรักษาที่พิสูจน์แล้วว่าได้ผล นักวิจัยทางสาธารณสุขในแอฟริกาใต้และมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดต่างศึกษาผลกระทบจากแนวคิดปฏิเสธเอดส์โดยเป็นอิสระจากกัน ประมาณการว่าผลจากการยอมรับแนวคิดปฏิเสธเอดส์ของรัฐบาลแอฟริกาใต้ทำให้มีผู้เสียชีวิตจากเอดส์เพิ่ม 330,000 ถึง 340,000 คน ติดเชื้อเอชไอวี 171,000 คน และมีทารกแรกเกิดติดเชื้อเอชไอวี 35,000 คน
ประวัติศาสตร์
ปี ค.ศ. 1983 นักวิทยาศาสตร์และแพทย์กลุ่มหนึ่งในสถาบันปาสเตอร์ ฝรั่งเศส นำโดย Luc Montagnier ค้นพบไวรัสชนิดใหม่ชนิดหนึ่งในผู้ป่วยที่มีอาการและอาการแสดงที่มักพบนำมาก่อนเอดส์ และตั้งชื่อไวรัสนี้ว่า "lymphadenopathy-associated virus" (ไวรัสที่สัมพันธ์กับการมีพยาธิสภาพของต่อมน้ำเหลือง) หรือ LAV และได้ส่งตัวอย่างไวรัสนี้ไปให้ทีมวิจัยของ Robert Gallo ในสหรัฐอเมริกา การค้นพบนี้ได้รับการตรวจสอบโดยผู้เสมอกันและได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร Science
ชุมชนผู้มีแนวคิดปฏิเสธเอดส์
อดีตผู้คัดค้าน
การเสียชีวิตของผู้มีแนวคิดปฏิเสธที่ติดเชื้อเอชไอวี
ในปี พ.ศ. 2550 เว็บไซต์ aidstruth.org นำโดยนักวิจัยเรื่องเอชไอวีเพื่อต่อต้านคำอ้างของกลุ่มผู้มีแนวคิดปฏิเสธได้แสดงรายชื่อส่วนหนึ่งของผู้มีแนวคิดปฏิเสธเอดส์ที่เสียชีวิตจากสาเหตุที่เกี่ยวข้องกับโรคเอดส์ ตัวอย่างเช่น นิตยสาร Continuum ซึ่งเคยปฏิเสธการมีอยู่ของเอชไอวีและเอดส์มาตลอดต้องปิดตัวลงหลังจากบรรณาธิการของนิตยสารต่างเสียชีวิตจากสาเหตุที่เกี่ยวข้องกับเอดส์ทั้งหมด ในทุกรายที่เสียชีวิตนั้น ชุมชนผู้มีแนวคิดปฏิเสธเอดส์ต่างลงความเห็นว่าเป็นการเสียชีวิตที่ไม่ทราบสาเหตุ หรือจากการใช้ยาบางอย่างโดยลับ หรือความเครียด แทนที่จะเป็นจากเอชไอวีหรือเอดส์ เช่นเดียวกันมีอดีตผู้คัดค้านที่มีเชื้อเอชไอวีหลายคนถูกขับออกจากชุมชนผู้มีแนวคิดปฏิเสธเอดส์หลังจากที่มีอาการของเอดส์และเข้ารับการรักษาด้วยยาต้านไวรัส
ในปีพ.ศ. 2551 Christine Maggiore นักเคลื่อนไหวคนหนึ่งเสียชีวิตลงด้วยวัย 52 ปี ขณะที่รับการรักษาจากแพทย์ด้วยโรคปอดบวม โดย Maggiore มีบุตรสองคน เธอเป็นผู้ก่อตั้งองค์กรเพื่อช่วยเหลือให้แม่ที่มีเชื้อเอชไอวีหลีกเลี่ยงการรับยาต้านไวรัสที่ลดความเสี่ยงของการถ่ายทอดเชื้อจากแม่สู่ลูก หลักจากบุตรสาวอายุ 3 ปีได้เสียชีวิตลงจากโรคปอดบวมที่เกิดจากเอดส์ในปี พ.ศ. 2548 แล้ว Maggiore ก็ยังเชื่ออยู่ว่าเอชไอวีไม่ใช่สาเหตุของเอดส์ และเธอกับสามีคือ Robin Scovil ฟ้อง Los Angeles County ร่วมกับคนอื่นในนามของบุตรสาวเรื่องการละเมิดสิทธิของบุตรสาวของเธอด้วยการเปิดเผยผลการชันสูตรศพที่ระบุว่าบุตรสาวเสียชีวิตจากโรคที่เกี่ยวข้องกับเอดส์ ผลการฟ้องศาลทำให้เขตปกครองต้องจ่าย Scovill เป็นเงิน 15,000 เหรียญในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2552 โดยไม่ยอมรับผิด คำตัดสินของเจ้าหน้าที่ชันสูตรศพของลอสแอลเจลิสว่า Eliza Jane Scovill เสียชีวิตจากโรคเอดส์ยังคงได้รับการยอมรับจากคณะลูกขุนอยู่
ข้ออ้างของผู้มีแนวคิดปฏิเสธเอดส์
แม้สมาชิกชุมชนผู้มีแนวคิดปฏิเสธเอดส์จะรวมตัวกันด้วยความเข้าใจร่วมกันคือการไม่เห็นด้วยว่าเอชไอวีเป็นสาเหตุของโรคเอดส์ รายละเอียดของแนวคิดก็มีความแตกต่างกันอยู่มาก ผู้มีแนวปฏิเสธปฏิเสธจะอ้างข้อมูลหลายอย่าง เช่น เอชไอวีไม่มีจริง เอชไอวีไม่เคยได้รับการเพาะเชื้ออย่างเหมาะสม เอชไอวีไม่เป็นไปตามสมมติฐานของโคช การตรวจเอชไอวีไม่มีความแม่นยำ และแอนติบอดีต่อเอชไอวีสามารถป้องกันไวรัสไม่ให้เป็นอันตรายต่อร่างกายได้ สาเหตุอื่นของโรคเอดส์ที่มีการเสนอไว้มีหลายอย่างเช่น การใช้ยาเสพติด ภาวะทุพโภชนาการ รวมถึงตัวยาต้านไวรัสที่ใช้รักษาโรคเองด้วย
ข้ออ้างเช่นนี้ได้รับการตรวจสอบอย่างละเอียดแล้วในบทความทางวิทยาศาสตร์และการแพทย์ชนิดที่มีการตรวจสอบโดยผู้เสมอกัน เกิดเป็นข้อสรุปทางวิทยาศาสตร์ที่ล้มล้างข้ออ้างของแนวคิดนี้อย่างชัดเจน และเชื้อเอชไอวีเป็นสาเหตุของเอดส์จริงๆ สำหรับกรณีที่ดูสเบิร์กอ้างอิงว่ายังไม่สามารถ "แยก" เชื้อเอชไอวีออกมาได้นั้น การทำปฏิกิริยาลูกโซ่พอลิเมอเรส (PCR) หรือเทคนิกอื่นๆ สามารถแสดงให้เห็นการมีอยู่ของเชื้อไวรัสได้ และคำอ้างของแนวคิดปฏิเสธที่ว่าการตรวจเอชไอวีไม่มีความแม่นยำนั้นมาจากความเข้าใจที่ผิดหรือไม่เป็นปัจจุบันเกี่ยวกับวิธีการตรวจแอนติบอดีต่อเอชไอวีและการแปลผล ส่วนเรื่องของ Koch's postulate นั้น วารสาร New Scientist กล่าวว่า "ควรมีการถกเถียงตั้งแต่ความเหมาะสมของการมุ่งเอาหลักการที่คิดขึ้นสำหรับพิจารณาการติดเชื้อแบคทีเรียตั้งแต่ศตวรรษที่ยังไม่มีการค้นพบไวรัสมาใช้ในการนี้ อย่างไรก็ดี เชื้อ HIV นั้นเป็นไปตาม Koch's postulate ทุกประการ ตราบเท่าที่ไม่มีการนำหลักการนั้นไปใช้อย่างบิดเบือนจนไม่เหลือความเป็นเหตุเป็นผล" บทความเดียวกันนี้ได้อธิบายไว้ชัดเจนว่าเชื้อ HIV ตรงตาม postulate แต่ละข้ออย่างไร
ในช่วงแรกนั้นผู้มีแนวคิดปฏิเสธยกคำอ้างขึ้นว่าแนวคิดเรื่อง HIV/AIDS มีจุดอ่อนตรงที่ไม่สามารถสร้างวิธีการรักษาที่ได้ผลดีตามแนวคิดนี้ได้ อย่างไรก็ดี หลังจากมีการนำการรักษาด้วยยาต้านรีโทรไวรัสแบบได้ผลสูง (HAART) มาใช้ในช่วงกลางทศวรรษ 1990 แล้วผลปรากฏว่าจำนวนผู้รอดชีวิตจากการป่วยติดเชื้อ HIV/AIDS เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนก็ทำให้คำอ้างนี้ตกไป เพราะวิธีการรักษานี้พัฒนามาจากแนวคิดว่าด้วย HIV/AIDS โดยตรง การพัฒนาการรักษา AIDS ด้วยยาต้าน HIV ที่ได้ผลดีนี้เป็นปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งที่ทำให้นักวิทยาศาสตร์ที่เคยมีแนวคิดปฏิเสธหลายคนยอมรับว่า HIV เป็นสาเหตุของ AIDS
ในบทความปี ค.ศ. 2010 ว่าด้วยทฤษฎีสมคบคิดทางวิทยาศาสตร์ Ted Goertzel ได้ลงรายชื่อของผู้มีแนวคิดปฏิเสธเอดส์เอาไว้เป็นตัวอย่างของการที่ผลการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ถูกปฏิเสธด้วยแนวคิดที่ไม่มีเหตุผล เขากล่าวว่าผู้ค้านทั้งหลายอาศัยแต่เพียงข้ออ้างที่เรียกร้องความเท่าเทียม และสิทธิในการเสนอความคิดเห็น มากกว่าที่จะเสนอหลักฐานโต้แย้ง ผู้คัดค้านเหล่านี้มักยกเอาเรื่องราวของนักวิทยาศาสตร์อิสระผู้กล้าหาญต่อต้านกระแสความคิดหลักดั้งเดิม โดยยกชื่อนักดาราศาสตร์และนักฟิสิกส์ชื่อดังในอดีตอย่างกาลิเลโอขึ้นมาเปรียบเทียบ Goertzel กล่าวถึงการยกเปรียบเทียบนี้เอาไว้ว่า
...การมีแนวคิดต่อต่อต้านความคิดดั้งเดิมนั้นไม่ใช่เรื่องยาก ส่วนที่ยากคือการหาทฤษฎีที่ดีกว่ามาเสนอแทนแนวคิดเก่า การตีพิมพ์ทฤษฎีใหม่ที่คัดค้านทฤษฎีเดิมนั้นจะมีความสำคัญก็ต่อเมื่อมีหลักฐานที่น่าเชื่อถือมารองรับ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าต้องให้คนอ่านใช้เวลาเท่ากันมาวิจารณ์ทฤษฎีที่คัดค้านทฤษฎีเก่าๆ ทุกทฤษฎี
ผลกระทบนอกชุมชนวิทยาศาสตร์
คำอ้างของกลุ่มผู้มีแนวคิดปฏิเสธเอดส์ไม่ได้รับการสนับสนุนจากชุมชมวิทยาศาสตร์เนื่องจากหลักฐานว่าด้วยการเป็นเชื้อก่อโรคของ HIV ต่อ AIDS นั้นถือว่าชัดเจนเป็นที่สรุปแล้ว แต่การเคลื่อนไหวของกลุ่มฯ ก็ยังมีผลกระทบในวงการการเมือง ทำให้อดีตประธานาธิบดีประเทศแอฟริกาใต้อย่าง Thabo Mbeki ถึงกับยอมรับคำกล่าวอ้างของกลุ่มฯ ผลที่ตามมาทำให้รัฐบาลปฏิเสธที่จะสนับสนุนการให้การรักษาด้วยการใช้ยาต้าน HIV จนมีผู้เสียชีวิตจากเอดส์ก่อนเวลาอันควรในประเทศแอฟริกาใต้มากถึงหลายแสนคน
ผลกระทบในอเมริกาเหนือและยุโรป
ความสงสัยเรื่อง HIV เป็นสาเหตุของ AIDS จริงหรือไม่เริ่มมีขึ้นแทบจะทันทีที่มีการประกาศการค้นพบ HIV ผู้ตั้งข้อสงสัยคนแรกๆ ที่มีบทบาทสำคัญคือนักข่าว John Lauritsen ซึ่งโต้แย้งเอาไว้ในบทความที่เขียนลง New York Native ว่า AIDS นั้น จริงๆ แล้ว เกิดจากเครื่องดื่มบำรุงกำลังที่มีส่วนผสมของ amyl nitrite และรัฐบาลกำลังวางแผนสมคบคิดเพื่อปิดบังเรื่องนี้
ในบทความวิชาการ
ในข่าวทั่วไปและอินเทอร์เน็ต
ผลกระทบในอเมริกาใต้
คำประกาศดูร์บาน
คำวิจารณ์ต่อการตอบสนองของรัฐบาล
"ยุคของแนวคิดปฏิเสธหมดไปแล้ว"
แหล่งข้อมูลอื่น
- National Institute of Allergy and Infectious Diseases (NIAID) Focus on the HIV-AIDS Connection: Resources and Links
- Series of articles in Science magazine examining denialist claims
- HIV Denial in the Internet Era, from PLoS Medicine, August 2007
- Avert.org: Evidence that HIV causes AIDS
- AEGIS: News and Views on AIDS Causality
- AidsTruth.org, an organization that advocates against AIDS denialism
- How to spot an AIDS denialist, from New Humanist
อ้างอิง
- Kalichman, 2009, p.205.
- อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อiomreport
- ↑ "The Evidence that HIV Causes AIDS". National Institute of Allergy and Infectious Disease. 2009-09-04. สืบค้นเมื่อ 2009-10-14. อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่สมเหตุสมผล มีนิยามชื่อ "niaid" หลายครั้งด้วยเนื้อหาต่างกัน - "Denying science". Nat. Med. 12 (4): 369. 2006. doi:10.1038/nm0406-369. PMID 16598265.
To support their ideas, some AIDS denialists have also misappropriated a scientific review in Nature Medicine which opens with this reasonable statement: "Despite considerable advances in HIV science in the past 20 years, the reason why HIV-1 infection is pathogenic is still debated."
More than one of|pages=
และ|page=
specified (help) - ↑ อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อSmithNovella
- Steinberg, J (2009-06-17). "AIDS denial: A lethal delusion". New Scientist. 2713. สืบค้นเมื่อ 2009-10-14.
- Watson J. (2006). "Scientists, activists sue South Africa's AIDS 'denialists'". Nat Med. 12 (1): 6. doi:10.1038/nm0106-6a. PMID 16397537. More than one of
|pages=
และ|page=
specified (help) - Boseley, S (2005-05-14). "Discredited doctor's 'cure' for Aids ignites life-and-death struggle in South Africa". The Guardian. สืบค้นเมื่อ 2009-10-14.
- Cohen J (1994). "The Duesberg phenomenon" (PDF). Science. 266 (5191): 1642–4. doi:10.1126/science.7992043. PMID 7992043. สืบค้นเมื่อ 2009-06-22. Unknown parameter
|month=
ignored (help) - , (2000). "The Durban Declaration". Nature. 406 (6791): 15–6. doi:10.1038/35017662. PMID 10894520.CS1 maint: extra punctuation (link) CS1 maint: numeric names: authors list (link)
- Chigwedere P, Seage GR, Gruskin S, Lee TH, Essex M (2008). "Estimating the Lost Benefits of Antiretroviral Drug Use in South Africa". Journal of acquired immune deficiency syndromes (1999). 49: 410. doi:10.1097/QAI.0b013e31818a6cd5. PMID 18931626. Unknown parameter
|laysummary=
ignored (help); Unknown parameter|month=
ignored (help)CS1 maint: multiple names: authors list (link) - Nattrass N (2008). "Estimating the Lost Benefits of Antiretroviral Drug Use in South Africa". African Affairs. 107 (427): 157–76. doi:10.1093/afraf/adm087. Unknown parameter
|month=
ignored (help) - Barré-Sinoussi F, Chermann J, Rey F, Nugeyre M, Chamaret S, Gruest J, Dauguet C, Axler-Blin C, Vézinet-Brun F, Rouzioux C, Rozenbaum W, Montagnier L (1983). "Isolation of a T-lymphotropic retrovirus from a patient at risk for acquired immune deficiency syndrome (AIDS)". Science. 220 (4599): 868–71. doi:10.1126/science.6189183. PMID 6189183.CS1 maint: multiple names: authors list (link)
- Cohen J (2007). "HIV/AIDS. AIDSTruth.org Web site takes aim at 'denialists'". Science. 316 (5831): 1554. doi:10.1126/science.316.5831.1554. PMID 17569834.
- อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อdenialists-who-have-died
- ↑ อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อjme
- Bad science: They once thought HIV was harmless. Now, they say, AIDS has forced them to reconsider, by Bruce Mirken. Published in the San Francisco Bay Guardian on February 2, 2000; accessed May 9, 2008.
- Ornstein, Charles (2005-09-24). "A Mother's Denial, a Daughter's Death". Los Angeles Times. สืบค้นเมื่อ 2008-12-29. Unknown parameter
|coauthors=
ignored (|author=
suggested) (help) - อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อLATdeath
- [[http://mobile.latimes.com/inf/infomo?view=page7&feed:a=latimes_1min&feed:c=localnews&feed:i=45424461&nopaging=1
- Turner V. (1999) E-Mail Correspondence Between Val Turner and Robin Weiss
- Duesberg P (1989). "Human immunodeficiency virus and acquired immunodeficiency syndrome: correlation but not causation". Proc Natl Acad Sci USA. 86 (3): 755–64. doi:10.1073/pnas.86.3.755. PMC 286556. PMID 2644642.
- Papadopulos-Eleopulos E, Turner V, Papadimitriou J (1993). "Is a positive western blot proof of HIV infection?". Biotechnology (N Y). 11 (6): 696–707. doi:10.1038/nbt0693-696. PMID 7763673.CS1 maint: multiple names: authors list (link)
- HealToronto.com, dissident website, claiming to provide 10 reasons why HIV cannot cause AIDS. Retrieved 28 September 2006.
- Duesberg P, Koehnlein C, Rasnick D (2003). "The chemical bases of the various AIDS epidemics: recreational drugs, anti-viral chemotherapy and malnutrition". J Biosci. 28 (4): 383–412. doi:10.1007/BF02705115. PMID 12799487.CS1 maint: multiple names: authors list (link)
- Fact Sheets on HIV/AIDS, from the Centers for Disease Control. Accessed 26 Feb 2007.
- World Health Organization HIV and AIDS Programme, จากเว็บไซต์ World Health Organization เรียกข้อมูลเมื่อ 26 ก.พ. 2550
- O'Brien SJ, Goedert JJ. (1996). "HIV causes AIDS: Koch's postulates fulfilled". Curr Opin Immunol. 8 (5): 613–618. doi:10.1016/S0952-7915(96)80075-6. PMID 8902385.
- "HIV Science and Responsible Journalism" (PDF). XVI International AIDS Conference. 2006-08-13. สืบค้นเมื่อ 2008-12-17.
- Moore, John (2008-05-16). "How Immunoassays Work: The Curious Case of AIDS Denialist Roberto Giraldo and his Ignorance of the Basics". Aidstruth.org. สืบค้นเมื่อ 2008-12-17.
- Steinberg, J (23 June 2009). "Five myths about HIV and AIDS". New Scientist. สืบค้นเมื่อ 4 February 2011.
- Major studies confirming the benefits and effectiveness of modern anti-HIV therapy include, but are not limited to:
- Lima V, Hogg R, Harrigan P, Moore D, Yip B, Wood E, Montaner J (2007). "Continued improvement in survival among HIV-infected individuals with newer forms of highly active antiretroviral therapy". AIDS. 21 (6): 685–92. doi:10.1097/QAD.0b013e32802ef30c. PMID 17413689.CS1 maint: multiple names: authors list (link)
- Jordan R, Gold L, Cummins C, Hyde C (2002). "Systematic review and meta-analysis of evidence for increasing numbers of drugs in antiretroviral combination therapy". BMJ. 324 (7340): 757. doi:10.1136/bmj.324.7340.757. PMC 100314. PMID 11923157.CS1 maint: multiple names: authors list (link)
- Ivers L, Kendrick D, Doucette K (2005). "Efficacy of antiretroviral therapy programs in resource-poor settings: a meta-analysis of the published literature". Clin Infect Dis. 41 (2): 217–24. doi:10.1086/431199. PMID 15983918.CS1 maint: multiple names: authors list (link)
- Mocroft A, Ledergerber B, Katlama C, Kirk O, Reiss P, d'Arminio Monforte A, Knysz B, Dietrich M, Phillips A, Lundgren J (2003). "Decline in the AIDS and death rates in the EuroSIDA study: an observational study". Lancet. 362 (9377): 22–9. doi:10.1016/S0140-6736(03)13802-0. PMID 12853195.CS1 maint: multiple names: authors list (link)
- Sterne J, Hernán M, Ledergerber B, Tilling K, Weber R, Sendi P, Rickenbach M, Robins J, Egger M (2005). "Long-term effectiveness of potent antiretroviral therapy in preventing AIDS and death: a prospective cohort study". Lancet. 366 (9483): 378–84. doi:10.1016/S0140-6736(05)67022-5. PMID 16054937.CS1 maint: multiple names: authors list (link)
- ↑ PMID 20539311 (PMID 20539311)
Citation will be completed automatically in a few minutes. Jump the queue or expand by hand - ...being a dissenter from orthodoxy is not difficult; the hard part is actually having a better theory. Publishing dissenting theories is important when they are backed by plausible evidence, but this does not mean giving critics ‘equal time’ to dissent from every finding by a mainstream scientist.| Goertzel, 2010
- Dugger, Celia (25 November 2008). "Study Cites Toll of AIDS Policy in South Africa". New York Times. สืบค้นเมื่อ 17 December 2008.
- Biography of John Lauritsen at Virusmyth.com, a dissident website. Retrieved 7 Sep 2006.