fbpx
วิกิพีเดีย

โปงลาง


โปงลาง ดนตรีพื้นเมืองอีสานถือว่าจังหวะสำคัญมาก เครื่องดนตรีประเภทตีใช้ดำเนินทำนองอย่างเดียวคือ โปงลาง โปงลางมีวิวัฒนาการมาจากระฆังแขวนคอสัตว์เพื่อให้เกิดเสียงโปงลางที่ใช้บรรเลงอยู่ในภาคอีสานมี2 ชนิด คือ โปงลางไม้และโปงลางเหล็ก ภาพที่แสดงคือ โปงลางไม้ซึ่งประกอบด้วยลูกโปงลางประมาณสิบสองลูกเรียงตามลำดับเสียงสูง ต่ำ ใช้เชือกร้อยเป็นแผงระนาด แต่โปงลางไม่ใช้รางเพราะเห็นว่าเสียงดังอยู่แล้ว แต่นำมาแขวนกับที่แขวน ซึ่งยึดส่วนปลายกับส่วนโคนให้แผงโปงลางทำมุมกับพื้น 45องศา ไม้ตีโปงลางทำด้วยแก่นไม้มีหัวงอนคล้ายค้อนสำหรับผู้บรรเลงใช้ตีดำเนินทำนอง1 คู่ และอีก 1 คู่สำหรับผู้ช่วยใช้เคาะทำให้เกิดเสียงประสานและจังหวะตามลักษณะของดนตรีพื้นเมืองอีสานที่มีเสียงประสานรำ

ส่วนประกอบโปงลาง

ผู้พัฒน

นายเปลื้อง ฉายรัศมี ศิลปินแห่งชาติสาขาศิลปะการแสดง (ดนตรีพื้นบ้าน) ประจำปี พ.ศ. 2529 ชาวจังหวัดกาฬสินธุ์ได้ทำการพัฒนาโปงลางจนมีลักษณะเช่นในปัจจุบัน โดยได้พัฒนาโปงลางขึ้นจากเกราะลอ ซึ่งใช้เคาะส่งสัญญาณใท้องนา

พระมหากรุณาธิคุณ

เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2533 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จพระราชดำเนินมาทรงโปงลางที่วิทยาลัยนาฏศิลปกาฬสินธุ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งสร้างความปลื้มปิติแก่พสกนิกรชาวกาฬสินธุ์เป็นอย่างมากที่ได้มีโอกาสเฝ้าชมบารมี ขณะที่ทรงโปงลางอันเป็นสัญลักษณ์ของชาวกาฬสินธุ์

ลายเดี่ยว

  • ลายกาเต้นก้อน (ครูเปลื้อง ฉายรัศมี เป็นผู้แต่ง)
  • ลายลายนกไซบินข้ามทุ่ง

วิธีทำ

โปงลาง นิยมทำจากไม้มะหาด หรือไม้หมากเหลื้อม เพราะเป็นไม้ที่มีความอยู่ตัวมากกว่าไม้อื่นๆ วิธีการทำเอาไม้ที่แห้งแล้ว มาถากเหลาให้ได้ขนาดลดหลั่นกันตามเสียง ที่ต้องการในระบบ 5 เสียง โปงลาง 1 ชุดจะมีจำนวนประมาณ 12 ลูก ใช้เชือกร้อยรวมกันเป็นผืน เวลาตีต้องนำปลายเชือกด้านหนึ่งไปผูกแขวนไว้กับเสาในลักษณะห้อยลงมา ส่วนปลายเชือกด้านล่างจะผูกไว้กับหลัก หรือเอวของผู้ตี วิธีการเทียบเสียง โปงลาง ทำโดยการเหลาไม้ให้ได้ขนาด และเสียงตามต้องการ ยิ่งเหลาให้ไม้เล็กลงเท่าใดเสียงก็จะยิ่งสูงขึ้น ในสมัยอดีตโปงลางนั้นมีด้วยกัน 5เสียง คือ โด เร มี ซอล ลา แต่ในปัจจุบัน ได้มีการพัฒนาโดย นาย เปลื้อง ฉายรัศมี โปงลางที่ได้มาตรฐานจะต้องมี 6 เสียง 13 ลูก คือ โด เร มี ฟา ซอล ลา (ต่อมามีเสียง ที ด้วย) ซึ่งแตกต่างจากระนาดซึ่งมีเจ็ดเสียง และมีการปรับแต่งเทียบเสียงด้วยการใช้ ตะกั่วผสมขี้ผึ้ง ถ่วงใต้ผืนระนาด เพื่อให้ได้ระดับเสียงตามที่ต้องการ

การตี

การบรรเลงหมากกลิ้งกล่อม หรือโปงลาง นิยมใช้ผู้บรรเลงสองคนต่อเครื่องดนตรีหนึ่งชิ้น แต่ละคนใช้ไม้ตี 2 อัน มี หมอเคาะกับหมอเสิฟ หมอเคาะ คือผู้ที่ตีทำนองของเพลงหรือลายนั้น ส่วนหมอเสิฟ คือผู้ที่ตีประสานจะตี 2 ลูก เช่น ตี ลา-มี หรือ ซอล-เร เป็นต้น การเรียกชื่อเพลงที่บรรเลงด้วยโปงลางมักจะเรียกตามลักษณะและลีลาของเพลงโดย การสังเกตจากสภาพของธรรมชาติที่อยู่รอบ ๆ ตัว เช่น เพลง "ลายนกไซบินข้ามทุ่ง" เพลง "ลายกาเต้นก้อน" เพลง "ลายแมลงภู่ตอมดอกไม้" เป็นต้น

วิวัฒนาการของวงโปงลาง

แต่เดิมเครื่องดนตรีพื้นบ้าน ยังไม่มีการผสมวงกันแต่อย่างใดใช้เล่นเป็นเครื่องเดี่ยวตามความถนัดของนักดนตรีที่มีอยู่ตามท้องถิ่นต่างๆ โอกาสที่จะมาร่วมเล่นด้วยกันได้ก็ต่อเมื่อมีงานบุญหรืองานประเพณีต่างๆ เช่น บุญเผวด จะมีการแห่กันหลอนของแต่ละคุ้มหรือแต่ละหมู่บ้านมาที่วัดคุ้มไหนหรือหมู่บ้านไหนมีนักดนตรีอะไรก็จะใช้บรรเลงและแห่ต้นกันหลอนมาที่วัด พอมาถึงวัดก็จะมีการผสมผสานกันของแต่ละเครื่องมือ เช่น พิณ แคน ซอ กลองเป็นต้น หลังจากผสมผสานกันโดยไม่ได้ตั้งใจแล้ว ก็จะแลกเปลี่ยนและถ่ายทอดเชื่อมเข้าหากันโดยเฉพาะนักดนตรีจะไปมาหาสู่กันร่วมกันเล่น ร่วมกันสร้าง ในที่สุดก็กลายเป็นวงดนตรีและมีการพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ เช่น วงโปงลาง ปี พ.ศ. 2505 หลังจากอาจารย์เปลื้อง ฉายรัศมี ซึ่งเป็นผู้ที่สนใจและศึกษาพัฒนา การตีและการทำเกราะลอจนเปลี่ยนชื่อมาเป็นโปงลางและได้รับความนิยมจากชาวบ้านโดยทั่วไป จากนั้นอาจารย์เปลื้องได้เกิดแนวความคิด ในการนำเอาเครื่องดนตรีอีสานชนิดอื่นๆ มาบรรเลงรวมกันกับโปงลาง จึงได้รวบรวมสมัครพรรพวกที่ชอบเล่นดนตรี มาบรรเลงรวมกัน ปรากฏว่าเป็นที่แตกตื่นของชาวบ้าน พอตกเย็นก็จะมีคนมามุงดูขอให้บรรเลงให้ฟัง แต่ละวันหมดยาเส้น ไปหลายหีบ ทำให้ได้รับความนิยม และเป็นที่สนใจของชาวบ้านเป็นอย่างมาก จนมีผู้ว่าจ้างไปบรรเลงเป็นครั้งแรกเนื่องในงานอุปสมบท ณ บ้านปอแดง ตำบลอุ่นเม่า อำเภอเมือง จังหวัดกาฬสินธุ์ ในราคา 40 บาท เป็นที่ชื่นชอบของของผู้ที่พบเห็นและได้ฟังจากงานอุปสมบทของบ้านปอแดง และได้รับการติดต่อให้ไปแสดงอีกในหลายๆ ที่ ปี พ.ศ. 2511 อาจารย์เปลื้อง ฉายรัศมี ได้นำคณะโปงลางไปร่วมแสดงเพื่อเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในวันเฉลิมพรรษา 5 ธันวามหาราช จึงมีโอกาสที่ทำให้ได้พบกับนายประชุม อิทรตุล ป่าไม้อำเภอยางตลาด ซึ่งนายประชุมได้นำวงดนตรีสากลมาร่วมบรรเลงประกอบลีลาศ มหรสพที่แสดงในคืนนั้นมีคณะหมอลำหมู่ ซึ่งหัวหน้าหมอลำเป็นเพื่อนอาจารย์เปลื้อง ทั้งสองจึงไปขอยืมกลองชุดสากล เพื่อนำไปเล่นเข้ากับหมอลำ นายประชุมจึงไม่ขัดข้องแต่ต้องให้วงลีลาศเลิกก่อน หมอลำก็ทำการแสดงไปก่อนได้ครึ่งคืนก็ต้องพักทานข้าวตอนดึกจึงทำให้เกิดช่องว่างของเวทีผู้คนก็ยังไม่กลับยังรอดูหมอลำต่อ อาจารย์เปลื้อง ฉายรัศมี จึงได้นำเอาโปงลางที่ตนนำมาขึ้นแขวนบนต้นเสาของเวที ในขณะนั้นหัวหน้าหมอลำก็ยังไม่รู้จัก และไม่เคยเห็น โปงลางมาก่อน ทุกคนก็เกิดความสงสัยว่าอาจารย์เปลื้องนำอะไรขึ้นมาแขวนกับต้นเสาบนเวที แต่พอคณะโปงลางบรรเลงขึ้น ทุกคนต่างตกตะลึง และสงสัยว่าสิ่งที่กำลังตีอยู่ในขณะนั้นคืออะไร หลังจากหมอลำกินข้าวเสร็จผู้ชมก็ยังไม่ยอมให้เลิกเล่น ขอให้เล่นต่อแทนหมอลำไปเลยก็ได้ จากการแสดงในครั้งนั้นนี่เอง นายประชุม ได้ชวนอาจารย์เปลื้อง ไปอยู่ด้วยโดยฝากให้เข้าทำงานที่โรงเลื่อยยางตลาด นายประชุม อินทรตุล จึงได้สนับสนุนและตั้งวงโปงลางขึ้น ชื่อว่าวงโปงลางกาฬสินธุ์ โดยมอบหมายให้อาจารย์เปลื้อง เป็นหัวหน้าวง จากผลงานการแสดงที่หลังจากตั้งวงแล้วไม่นาน นายบุรี พรหมลักขโนผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้ติดต่อให้นำโปงลางไปแสดงออกรายการทีวีช่อง 5 จังหวัดขอนแก่น เพื่อเป็นการเผยแพร่ และท่านได้แนะนำว่าน่าจะมีชุดฟ้อนรำไปด้วยจะน่าดูยิ่งขึ้น นายประชุม อิทรตุล จึงมอบหมายให้คุณเกียง บ้านสูงเนิน คุณลดาวัลย์ สิงห์เรือง (ผู้ช่วยผู้อำนวยการวิทยาลัยนาฏศิลปะกาฬสินธุ์ในขณะนั้น) และภรรยาของนายประชุมเองฝึกชุดฟ้อน ชุดแรก คือ รำซวยมือ ชุดที่สอง คือ ชุดเซิ้งภูไท ชุดเซิ้งสวิง ชุดบายศรีสู่ขวัญ และไทภูเขา ต่อมาคณะโปงลางกาฬสินธุ์ได้มีโอกาสไปแสดง ณ วังสวนจิตลดา วังละโว้ วังสวนผักกาด วังสราญรมย์ และแสดงเผยแพร่ในมหาลัยต่างๆ http://www.youtube.com/watch?v=wm9AJSz39CY&feature=share

การเล่นเป็นคณะ

โปงลางนั้นนอกจากจะใช้บรรเลงตามลำพังแล้ว ยังนิยมใช้บรรเลงเป็นวงร่วมกับ เครื่องดนตรีอื่น ๆ เช่น พิณ แคน กลอง เพื่อการฟังและใช้บรรเลงประกอบการฟ้อนพื้น บ้านอีสานได้เป็นอย่างดี ต่อมาภายหลัง อาจารย์เปลื้อง ฉายรัศมี ซึ่งเป็นศิลปินแห่งชาติ ได้ประยุกต์วงโปงลางขึ้นใหม่ โดยนำกระดึงผูกคอวัวที่เป็นโลหะมาแขวนเรียงแทนลูกโปงลางเดิมที่ทำด้วยไม้ ทำให้เกิดมิติของเสียงที่แตกต่างจากการบรรเลงโปงลางแบบเดิม นับเป็นต้นแบบของ การพัฒนาโปงลางในระยะต่อมา เช่น การทำลูกโปงลางด้วยแผ่นทองเหลืองขนาดต่าง ๆ เรียกว่า "หมากกะโหล่ง" รวมถึงการนำเอาไม้ไผ่มาเหลาให้มีขนาดลดหลั่นกัน เรียกว่า "โปงลางไม้ไผ่" และการนำเอาท่อเหล็กมาทำเป็น"โปงลางเหล็ก"ด้วย ทำให้เสียงมีความแตกต่างมากขึ้นและได้นำมาเล่นผสมวงกัน เกิดเป็นวง หมากกะโหล่งโปงลาง โดย วิทยาลัยนาฏศิลปกาฬสินธุ์

การประกวด

เป็นการจัดประกวดตามเทศกาลต่างๆ หรือจัดการประกวดตามสถานที่ต่างๆ เช่น

สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี (ประเภท ข.นักเรียนมัธยม)

พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ (ประเภท ค.นักเรียนประถม) ในงานประจำปีจังหวัดกาฬสินธุ์ "มหกรรมโปงลาง แพรวาและงานกาชาดจังหวัดกาฬสินธุ์"

แหล่งข้อมูลอื่น

  • http://www.youtube.com/watch?v=wm9AJSz39CY&feature=share
  • IsanGate.com รายละเอียดโปงลาง
  • สารานุกรมสำหรับเยาวชน เว็บกาญจนาภิเษก การละเล่นโปงลาง
  • อีสาน จุฬาฯ ความรู้ทั่วไปเรื่องโปงลาง
  • LiveKalasin.comนายเปลื้อง ฉายรัศมี

อ้างอิง

  1. จากเว็บไซต์ศิลปินแห่งชาติ
  2. หนังสือเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เรื่อง วัฒนธรรม พัฒนาการทางประวัติศาสตร์ เอกลักษณ์และภูมิปัญญา จังหวัดกาฬสินธุ์. กรมศิลปากร กระทรวงศึกษาธิการ. 2542
  3. จากบทความของเว็บ ชมไพร ชมทุ่ง ที่สัมภาษณ์ ครูเปลื้อง
  4. [1] จากเว็บไซต์ prapanyeethai.com


โปงลาง, ดนตร, นเม, องอ, สานถ, อว, าจ, งหวะสำค, ญมาก, เคร, องดนตร, ประเภทต, ใช, ดำเน, นทำนองอย, างเด, ยวค, ฒนาการมาจากระฆ, งแขวนคอส, ตว, เพ, อให, เก, ดเส, ยงท, ใช, บรรเลงอย, ในภาคอ, สานม, ชน, ไม, และเหล, ภาพท, แสดงค, ไม, งประกอบด, วยล, กประมาณส, บสองล, กเร, ยงต. opnglang dntriphunemuxngxisanthuxwacnghwasakhymak ekhruxngdntripraephthtiichdaeninthanxngxyangediywkhux opnglang opnglangmiwiwthnakarmacakrakhngaekhwnkhxstwephuxihekidesiyngopnglangthiichbrrelngxyuinphakhxisanmi2 chnid khux opnglangimaelaopnglangehlk phaphthiaesdngkhux opnglangimsungprakxbdwylukopnglangpramansibsxnglukeriyngtamladbesiyngsung ta ichechuxkrxyepnaephngranad aetopnglangimichrangephraaehnwaesiyngdngxyuaelw aetnamaaekhwnkbthiaekhwn sungyudswnplaykbswnokhnihaephngopnglangthamumkbphun 45xngsa imtiopnglangthadwyaeknimmihwngxnkhlaykhxnsahrbphubrrelngichtidaeninthanxng1 khu aelaxik 1 khusahrbphuchwyichekhaathaihekidesiyngprasanaelacnghwatamlksnakhxngdntriphunemuxngxisanthimiesiyngprasanraswnprakxbopnglang enuxha 1 phuphthna 2 phramhakrunathikhun 3 layediyw 4 withitha 5 karti 6 wiwthnakarkhxngwngopnglang 7 karelnepnkhna 8 karprakwd 9 aehlngkhxmulxun 10 xangxingphuphthna aekikhnayepluxng chayrsmi silpinaehngchatisakhasilpakaraesdng dntriphunban pracapi ph s 2529 chawcnghwdkalsinthuidthakarphthnaopnglangcnmilksnaechninpccubn odyidphthnaopnglangkhuncakekraalx sungichekhaasngsyyaninthxngna 1 phramhakrunathikhun aekikhemuxwnthi 26 kumphaphnth ph s 2533 smedcphraethphrtnrachsuda syambrmrachkumari idesdcphrarachdaeninmathrngopnglangthiwithyalynatsilpkalsinthu cnghwdkalsinthu sungsrangkhwamplumpitiaekphsknikrchawkalsinthuepnxyangmakthiidmioxkasefachmbarmi khnathithrngopnglangxnepnsylksnkhxngchawkalsinthu 2 layediyw aekikhlaykaetnkxn khruepluxng chayrsmi epnphuaetng 3 laylaynkisbinkhamthungwithitha aekikhopnglang niymthacakimmahad hruximhmakehluxm ephraaepnimthimikhwamxyutwmakkwaimxun withikarthaexaimthiaehngaelw mathakehlaihidkhnadldhlnkntamesiyng thitxngkarinrabb 5 esiyng opnglang 1 chudcamicanwnpraman 12 luk ichechuxkrxyrwmknepnphun ewlatitxngnaplayechuxkdanhnungipphukaekhwniwkbesainlksnahxylngma swnplayechuxkdanlangcaphukiwkbhlk hruxexwkhxngphuti withikarethiybesiyng opnglang thaodykarehlaimihidkhnad aelaesiyngtamtxngkar yingehlaihimelklngethaidesiyngkcayingsungkhun insmyxditopnglangnnmidwykn 5esiyng khux od er mi sxl la aetinpccubn idmikarphthnaody nay epluxng chayrsmi opnglangthiidmatrthancatxngmi 6 esiyng 13 luk khux od er mi fa sxl la txmamiesiyng thi dwy sungaetktangcakranadsungmiecdesiyng aelamikarprbaetngethiybesiyngdwykarich takwphsmkhiphung thwngitphunranad ephuxihidradbesiyngtamthitxngkarkarti aekikhkarbrrelnghmakklingklxm hruxopnglang niymichphubrrelngsxngkhntxekhruxngdntrihnungchin aetlakhnichimti 2 xn mi hmxekhaakbhmxesif hmxekhaa khuxphuthitithanxngkhxngephlnghruxlaynn swnhmxesif khuxphuthitiprasancati 2 luk echn ti la mi hrux sxl er epntn kareriykchuxephlngthibrrelngdwyopnglangmkcaeriyktamlksnaaelalilakhxngephlngody karsngektcaksphaphkhxngthrrmchatithixyurxb tw echn ephlng laynkisbinkhamthung ephlng laykaetnkxn ephlng layaemlngphutxmdxkim epntnwiwthnakarkhxngwngopnglang aekikhaetedimekhruxngdntriphunban yngimmikarphsmwngknaetxyangidichelnepnekhruxngediywtamkhwamthndkhxngnkdntrithimixyutamthxngthintang oxkasthicamarwmelndwyknidktxemuxminganbuyhruxnganpraephnitang echn buyephwd camikaraehknhlxnkhxngaetlakhumhruxaetlahmubanmathiwdkhumihnhruxhmubanihnminkdntrixairkcaichbrrelngaelaaehtnknhlxnmathiwd phxmathungwdkcamikarphsmphsanknkhxngaetlaekhruxngmux echn phin aekhn sx klxngepntn hlngcakphsmphsanknodyimidtngicaelw kcaaelkepliynaelathaythxdechuxmekhahaknodyechphaankdntricaipmahasuknrwmkneln rwmknsrang inthisudkklayepnwngdntriaelamikarphthnakhuneruxy echn wngopnglang pi ph s 2505 hlngcakxacaryepluxng chayrsmi sungepnphuthisnicaelasuksaphthna kartiaelakarthaekraalxcnepliynchuxmaepnopnglangaelaidrbkhwamniymcakchawbanodythwip caknnxacaryepluxngidekidaenwkhwamkhid inkarnaexaekhruxngdntrixisanchnidxun mabrrelngrwmknkbopnglang cungidrwbrwmsmkhrphrrphwkthichxbelndntri mabrrelngrwmkn praktwaepnthiaetktunkhxngchawban phxtkeynkcamikhnmamungdukhxihbrrelngihfng aetlawnhmdyaesn iphlayhib thaihidrbkhwamniym aelaepnthisnickhxngchawbanepnxyangmak cnmiphuwacangipbrrelngepnkhrngaerkenuxnginnganxupsmbth n banpxaedng tablxunema xaephxemuxng cnghwdkalsinthu inrakha 40 bath epnthichunchxbkhxngkhxngphuthiphbehnaelaidfngcaknganxupsmbthkhxngbanpxaedng aelaidrbkartidtxihipaesdngxikinhlay thi pi ph s 2511 xacaryepluxng chayrsmi idnakhnaopnglangiprwmaesdngephuxechlimphraekiyrti enuxnginwnechlimphrrsa 5 thnwamharach cungmioxkasthithaihidphbkbnayprachum xithrtul paimxaephxyangtlad sungnayprachumidnawngdntrisaklmarwmbrrelngprakxblilas mhrsphthiaesdnginkhunnnmikhnahmxlahmu sunghwhnahmxlaepnephuxnxacaryepluxng thngsxngcungipkhxyumklxngchudsakl ephuxnaipelnekhakbhmxla nayprachumcungimkhdkhxngaettxngihwnglilaselikkxn hmxlakthakaraesdngipkxnidkhrungkhunktxngphkthankhawtxndukcungthaihekidchxngwangkhxngewthiphukhnkyngimklbyngrxduhmxlatx xacaryepluxng chayrsmi cungidnaexaopnglangthitnnamakhunaekhwnbntnesakhxngewthi inkhnannhwhnahmxlakyngimruck aelaimekhyehn opnglangmakxn thukkhnkekidkhwamsngsywaxacaryepluxngnaxairkhunmaaekhwnkbtnesabnewthi aetphxkhnaopnglangbrrelngkhun thukkhntangtktalung aelasngsywasingthikalngtixyuinkhnannkhuxxair hlngcakhmxlakinkhawesrcphuchmkyngimyxmihelikeln khxihelntxaethnhmxlaipelykid cakkaraesdnginkhrngnnniexng nayprachum idchwnxacaryepluxng ipxyudwyodyfakihekhathanganthiorngeluxyyangtlad nayprachum xinthrtul cungidsnbsnunaelatngwngopnglangkhun chuxwawngopnglangkalsinthu odymxbhmayihxacaryepluxng epnhwhnawng cakphlngankaraesdngthihlngcaktngwngaelwimnan nayburi phrhmlkkhonphuwarachkarcnghwdkalsinthu idtidtxihnaopnglangipaesdngxxkraykarthiwichxng 5 cnghwdkhxnaekn ephuxepnkarephyaephr aelathanidaenanawanacamichudfxnraipdwycanaduyingkhun nayprachum xithrtul cungmxbhmayihkhunekiyng bansungenin khunldawly singheruxng phuchwyphuxanwykarwithyalynatsilpakalsinthuinkhnann aelaphrryakhxngnayprachumexngfukchudfxn chudaerk khux raswymux chudthisxng khux chudesingphuith chudesingswing chudbaysrisukhwy aelaithphuekha txmakhnaopnglangkalsinthuidmioxkasipaesdng n wngswncitlda wnglaow wngswnphkkad wngsrayrmy aelaaesdngephyaephrinmhalytang http www youtube com watch v wm9AJSz39CY amp feature sharekarelnepnkhna aekikhopnglangnnnxkcakcaichbrrelngtamlaphngaelw yngniymichbrrelngepnwngrwmkb ekhruxngdntrixun echn phin aekhn klxng ephuxkarfngaelaichbrrelngprakxbkarfxnphun banxisanidepnxyangdi txmaphayhlng xacaryepluxng chayrsmi sungepnsilpinaehngchati idprayuktwngopnglangkhunihm odynakradungphukkhxwwthiepnolhamaaekhwneriyngaethnlukopnglangedimthithadwyim thaihekidmitikhxngesiyngthiaetktangcakkarbrrelngopnglangaebbedim nbepntnaebbkhxng karphthnaopnglanginrayatxma echn karthalukopnglangdwyaephnthxngehluxngkhnadtang eriykwa hmakkaohlng rwmthungkarnaexaimiphmaehlaihmikhnadldhlnkn eriykwa opnglangimiph aelakarnaexathxehlkmathaepn opnglangehlk dwy thaihesiyngmikhwamaetktangmakkhunaelaidnamaelnphsmwngkn ekidepnwng hmakkaohlngopnglang ody withyalynatsilpkalsinthukarprakwd aekikhepnkarcdprakwdtamethskaltang hruxcdkarprakwdtamsthanthitang echn karprakwdchingthwyphrarachthansmedcphraethphrtnrachsuda syambrmrachkumari praephth k prachachnthwip smedcphraecalukethx ecafaculaphrnwlylksn xkhrrachkumari praephth kh nkeriynmthym phraecawrwngsethx phraxngkhecaosmswli phrawrrachathinddamatu praephth kh nkeriynprathm innganpracapicnghwdkalsinthu mhkrrmopnglang aephrwaaelangankachadcnghwdkalsinthu 4 aehlngkhxmulxun aekikhhttp www youtube com watch v wm9AJSz39CY amp feature share IsanGate com raylaexiydopnglang saranukrmsahrbeyawchn ewbkaycnaphiesk karlaelnopnglang xisan cula khwamruthwiperuxngopnglang LiveKalasin comnayepluxng chayrsmixangxing aekikh cakewbistsilpinaehngchati hnngsuxechlimphraekiyrtiphrabathsmedcphraecaxyuhw eruxng wthnthrrm phthnakarthangprawtisastr exklksnaelaphumipyya cnghwdkalsinthu krmsilpakr krathrwngsuksathikar 2542 cakbthkhwamkhxngewb chmiphr chmthung thismphasn khruepluxng 1 cakewbist prapanyeethai com bthkhwamekiywkbephlng dntri hrux ekhruxngdntriniyngepnokhrng khunsamarthchwywikiphiediyidodyephimkhxmul duephimthi sthaniyxy dntriekhathungcak https th wikipedia org w index php title opnglang amp oldid 8648117, wikipedia, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด,

บทความ

, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม