ความตกลงเพิร์ธ
ความตกลงเพิร์ธ (อังกฤษ: Perth Agreement) คือความตกลงระหว่างนายกรัฐมนตรีของสิบหกประเทศในเครือจักรภพแห่งประชาชาติ ซึ่งใช้การปกครองระบอบราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญแบบเวสต์มินสเตอร์ ("กลุ่มประเทศราชอาณาจักรเครือจักรภพ") และดังนั้นจึงมีพระมหากษัตริย์ร่วมกัน เอกสารความตกลงนั้นระบุว่ารัฐบาลในกลุ่มประเทศฯ จะผ่านการแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวกับการสืบราชสันตติวงศ์แห่งสหราชอาณาจักร และประเด็นที่เกี่ยวข้องกัน โดยหลักการตามรัฐธรรมนูญของราชอาณาจักรเครือจักรภพนั้นใช้ร่วมกันอย่างเท่าเทียมตามธรรมนูญเวสต์มินสเตอร์ ค.ศ. 1931 โดยผลการประชุมมีการเปลี่ยนแปลงต่างๆ โดยสังเขปดังนี้
- แทนที่สิทธิของบุตรหัวปีแบบบุรุษมาก่อน (Male-preference premogeniture) ซึ่งเพศชายจะมีสิทธิเหนือกว่าเพศหญิงในการสืบสันตติวงศ์ด้วยสิทธิของบุตรหัวปี (Absolute premogeniture) ซึ่งไม่แบ่งเพศเป็นเกณฑ์ในการสืบสันตติวงศ์
- ยกเลิกการตัดสิทธิพระบรมวงศานุวงศ์พระองค์ใดที่สมรสกับผู้นับถือนิกายโรมันคาทอลิกในลำดับการสืบสันตติวงศ์
- กำหนดให้มีเพียงพระบรมวงศานุวงศ์เพียงหกลำดับในการสืบสันตติวงศ์เท่านั้นที่ต้องได้รับพระบรมราชานุญาตในการเสกสมรส
การประชุมผู้นำรัฐบาลในเครือจักรภพแห่งประชาชาติ ครั้งที่ 22 | |
---|---|
วันที่ | 28–30 ตุลาคม ค.ศ. 2011 |
สถานที่จัดงาน | คิงส์ ปาร์ค |
เมือง | เพิร์ธ, ออสเตรเลียตะวันตก |
ประมุข หรือผู้นำรัฐบาล | 36 |
ประธาน | จูเลีย กิลลาร์ด (นายกรัฐมนตรี) |
ก่อนหน้า | ค.ศ. 2009 |
ถัดไป | ค.ศ. 2013 |
ประเด็นสำคัญ | |
|
ประเด็นการห้ามมิให้ผู้ที่จะขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์นับถือนิกายอื่นนอกจากโปรเตสแตนท์ และข้อกำหนดให้ผู้นั้นได้รับศีลมหาสนิทกับคริสตจักรอังกฤษนั้นไม่ได้รับการพิจารณาแก้ไข
ความตกลงเพิร์ธได้รับการลงนามเมื่อวันที่ 11 ตุลาคม ค.ศ. 2011 ที่เพิร์ธ ประเทศออสเตรเลีย ซึ่งเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมผู้นำรัฐบาลในเครือจักรภพแห่งประชาชาติ (CHOGM) โดยในระหว่างการประชุมได้ตกลงกันในวาระรองเนื่องจากประเทศสมาชิกส่วนใหญ่นั้นไม่ได้ใช้การปกครองระบอบราชาธิปไตย โดยปกติแล้วบทบาทหน้าที่ของผู้นำเครือจักรภพนั้นคือการเรียกทุกประเทศในเครือเพื่อประชุมกันและเฉลิมฉลองแผนการ โครงการ ความตกลง และความริเริ่มต่างๆ ระหว่างประเทศสมาชิก
ภายในเดือนธันวาคม ค.ศ. 2012 รัฐบาลทุกประเทศในเครือจักรภพแห่งประชาชาติได้ตกลงร่วมกันในตรากฎหมายรับรอง โดยนิวซีแลนด์เป็นประธานคณะทำงานเพื่อตกลงในขั้นตอน ราชอาณาจักรเครือจักรภพ ซึ่งประกอบด้วย สหราชอาณาจักร แคนาดา ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ จาไมกา บาร์เบโดส บาฮามาส เกรนาดา ปาปัวนิวกินี หมู่เกาะโซโลมอน ตูวาลู เซนต์ลูเชีย เซนต์วินเซนต์และเกรนาดีนส์ เบลีซ แอนติกาและบาร์บูดา และเซนต์คิตส์และเนวิส โดยทุกประเทศนั้นเป็นเอกราชมีอิสระต่อกันแต่มีพระมหากษัตริย์พระองค์เดียวกันตามรัฐธรรมนูญอย่างเท่าเทียมกัน โดยคณะทำงานยืนยันว่าโดยรวมทุกประเทศแล้ว กฎหมายสำคัญได้ถูกผ่านอย่างถูกต้องและบังคับใช้ได้แล้ว ซึ่งรองนายกรัฐมนตรีแห่งสหราชอาณาจักรก็ได้ย้ำอีกครั้งหนึ่งเมื่อ 26 มีนาคม ค.ศ. 2015 ในขณะที่กฎหมายในแคนาดานั้นถูกนำเข้ากระบวนการยุติธรรมเพราะถูกกล่าวหาว่าผิดรัฐธรรมนูญโดยถูกยกฟ้องในที่สุด
ในวันที่พระราชบัญญัติมีผลบังคับใช้เมื่อเดือนมีนาคม ค.ศ. 2015 ผู้ได้รับผลกระทบกลุ่มแรกคือบุตรและธิดาในเลดีดาวีนา วินด์เซอร์ โดยลำดับในสันตติวงศ์ของบุตรชาย (เทน) เกิดในปีค.ศ. 2012 และธิดา (เซนนา) เกิดในปีค.ศ. 2010 สลับตำแหน่งกันโดยเทนกลายเป็นลำดับที่ 29 และเซนนาปรับขึ้นมาลำดับ 28 ในสันตติวงศ์
หกลำดับแรกในการสืบสันตติวงศ์
กฎการสืบสันตติวงศ์ใหม่กำหนดให้มีเพียงพระบรมวงศานุวงศ์แค่หกลำดับแรกจะต้องได้รับพระบรมราชานุญาตในการเสกสมรส ณ ปีค.ศ. 2020 โดยหกพระองค์นั้นประกอบด้วย
- เจ้าชายชาลส์ เจ้าชายแห่งเวลส์ พระราชโอรสพระองค์ใหญ่ในสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 (เสกสมรสแล้ว)
- เจ้าชายวิลเลียม ดยุกแห่งเคมบริดจ์ พระโอรสพระองค์ใหญ่ในเจ้าชายชาลส์ เจ้าชายแห่งเวลส์ (เสกสมรสแล้ว)
- เจ้าชายจอร์จแห่งเคมบริดจ์ พระโอรสพระองค์ใหญ่ในเจ้าชายวิลเลียม ดยุกแห่งเคมบริดจ์ (ยังทรงพระเยาว์)
- เจ้าหญิงชาร์ลอตต์แห่งเคมบริดจ์ พระธิดาพระองค์ที่สองในเจ้าชายวิลเลียม ดยุกแห่งเคมบริดจ์ (ยังทรงพระเยาว์)
- เจ้าชายหลุยส์แห่งเคมบริดจ์ พระโอรสพระองค์เล็กในเจ้าชายวิลเลียม ดยุกแห่งเคมบริดจ์ (ยังทรงพระเยาว์)
- เจ้าชายแฮร์รี ดยุกแห่งซัสเซกซ์ พระโอรสพระองค์เล็กในเจ้าชายชาลส์ เจ้าชายแห่งเวลส์ (เสกสมรสแล้ว)
อ้างอิง
- Statement by Nick Clegg MP, UK parliament website, 26 March 2015 (retrieved on same date).
- "UK commencement order" (PDF).
- Statement by Prime Minister Stephen Harper on Canada Providing Assent to Amendments to Rules Governing the Line of Succession 3 เมษายน 2015 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, 26 March 2015[ต้องการอ้างอิงเต็มรูปแบบ]
- "Deux profs de l'Université Laval déboutés dans la cause du "bébé royal"". Le Soleil. 16 February 2016. สืบค้นเมื่อ 16 February 2016.
- "Royal succession law not subject to charter challenge: court". CTV News. 26 August 2014. สืบค้นเมื่อ 29 August 2014.
- "What do the new royal succession changes mean?". Royal Central. 26 March 2015. สืบค้นเมื่อ 30 March 2015.
แหล่งข้อมูลอื่น
- House of Commons Political and Constitutional Reform Committee: Rules of Royal Succession
- "Statement" of Friday 28 October 2011 issued at Perth, as published in the United Kingdom, Annex 1, page 10