จารึกพ่อขุนรามคำแหง หรือ จารึกหลักที่ 1 เป็นศิลาจารึก ที่บันทึกเหตุการณ์ ประวัติศาสตร์ สมัยกรุงสุโขทัย ศิลาจารึกนี้ เจ้าฟ้ามงกุฎฯ (ต่อมาคือพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ) ขณะผนวชอยู่เป็นผู้ทรงค้นพบเมื่อวันกาบสี ขึ้น 8 ค่ำ เดือน 3 จ.ศ. 1214 ตรงกับวันศุกร์ที่ 17 มกราคม ค.ศ. 1834 หรือ พ.ศ. 2376 ณ เนินปราสาทเมืองเก่าสุโขทัย อำเภอเมืองสุโขทัย จังหวัดสุโขทัย มีลักษณะเป็นหลักสี่เหลี่ยมด้านเท่า ทรงกระโจม สูง 111 เซนติเมตร หนา 35 เซนติเมตร เป็นหินทรายแป้งเนื้อละเอียด มีจารึกทั้งสี่ด้าน ปัจจุบันเก็บอยู่ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร กรุงเทพมหานคร
ลักษณะอักษรไทยที่ใช้ในจารึก
เนื้อหาของจารึกแบ่งได้เป็นสามตอน ตอนที่หนึ่ง บรรทัดที่ 1 ถึง 18 เป็นการเล่าพระราชประวัติพ่อขุนรามคำแหงมหาราช ตั้งแต่ประสูติจนเสวยราชย์ ใช้คำว่า "กู" เป็นหลัก ตอนที่ 2 ไม่ใช้คำว่า "กู" แต่ใช้ว่า "พ่อขุนรามคำแหง" เล่าถึงเหตุการณ์และธรรมเนียมในกรุงสุโขทัย และตอนที่สาม ตั้งแต่ด้านที่ 4 บรรทัดที่ 12 ถึงบรรทัดสุดท้าย มีตัวหนังสือต่างจากตอนที่ 1 และ 2 จึงน่าจะจารึกขึ้นภายหลัง เป็นการสรรเสริญและยอพระเกียรติพ่อขุนรามคำแหง และกล่าวถึงอาณาเขตราชอาณาจักรสุโขทัย
จารึกได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกความทรงจำแห่งโลก เมื่อปี พ.ศ. 2546 โดยยูเนสโก บรรยายว่า "[จารึกนี้] นับเป็นมรดกเอกสารชิ้นหลักซึ่งมีความสำคัญระดับโลก เพราะให้ข้อมูลอันทรงค่าว่าด้วยแก่นหลักหลายประการเกี่ยวกับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมโลก ไม่เพียงแต่บันทึกการประดิษฐ์อักษรไทยซึ่งเป็นรากฐานแห่งอักษรที่ผู้คนหกสิบล้านคนใช้อยู่ในประเทศไทยปัจจุบัน การพรรณนาสุโขทัยรัฐไทยสมัยศตวรรษที่ 13 ไว้โดยละเอียดและหาได้ยากนั้นยังสะท้อนถึงคุณค่าสากลที่รัฐทั้งหลายในโลกทุกวันนี้ร่วมยึดถือ"
มีการตั้งคำถามเกี่ยวกับความเชื่อถือได้ของบางส่วนหรือทั้งหมดของศิลาจารึกดังกล่าว พิริยะ ไกรฤกษ์ นักวิชาการที่สถาบันไทยคดีศึกษา ออกความเห็นว่า การใช้สระในศิลาจารึกนี้แนะว่าผู้สร้างได้รับอิทธิพลมาจากระบบพยัญชนะยุโรป เขาสรุปว่าศิลาจารึกนี้ถูกบางคนแต่งขึ้นในรัชกาลที่ 4 หรือไม่นานก่อนหน้านั้น นักวิชาการเห็นต่างกันในประเด็นว่าด้วยความน่าเชื่อถือของศิลาจารึกนี้ ผู้ประพันธ์บางคนอ้างว่ารอยจารึกนั้นเป็นการแต่งขึ้นในคริสต์ศตวรรษที่ 19 ทั้งหมด บ้างอ้างว่า 17 บรรทัดแรกนั้นเป็นจริง บ้างอ้างว่ารอยจารึกนั้นพระยาลือไทย ทรงแต่งขึ้น นักวิชาการไทยส่วนใหญ่ยังยึดถือความน่าเชื่อถือของศิลาจารึกนี้ รอยจารึกดังกล่าวและภาพลักษณ์ของสังคมสุโขทัยในจินตนาการยังเป็นหัวใจของชาตินิยมไทย และไมเคิล ไรท์ นักวิชาการชาวอังกฤษ เสนอแนะว่าศิลาจารึกดังกล่าวอาจถูกปลอมขึ้น ทำให้เขาถูกขู่ด้วยการเนรเทศภายใต้กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ของไทย
ส่วนจิราภรณ์ อรัณยะนาค เขียนบทความแสดงทัศนะว่า ศิลาจารึกหลักที่ 1 ได้ผ่านกระบวนการสึกกร่อนผุสลายมาเป็นเวลานานหลายร้อยปี ใกล้เคียงกับศิลาจารึกหลักที่ 3 หลักที่ 45 และหลักที่กล่าวถึงชีผ้าขาวเพสสันดร ไม่ได้ทำขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 4
อ้างอิง ↑ จารึกพ่อขุนรามคำแหง. ฐานข้อมูลจารึกในประเทศไทย ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน). สืบค้น 10 เมษายน 2557. "17 มกราคม วันพ่อขุนรามคำแหงมหาราช". มหาวิทยาลัยรามคำแหง. สืบค้นเมื่อ 17 มกราคม 2555 . ↑ The King Ram Khamhaeng Inscription. UNESCO Centuries-old stone set in controversy, The Nation The Ramkhamhaeng Controversy: Selected Papers . Edited by James F. Chamberlain. The Siam Society, 1991 Intellectual Might and National Myth: A Forensic Investigation of the Ram Khamhaeng Controversy in Thai Society , by Mukhom Wongthes. Matichon Publishing, Ltd. 2003. Seditious Histories: Contesting Thai and Southeast Asian Pasts , by Craig J. Reynolds. University of Washington Press, 2006, p. vii http://www.lib.ru.ac.th/pk/extract3.html จารึกพ่อขุนรามคำแหง "ไม่ปลอม" : จากมุมมองของนักวิทยาศาสตร์
แหล่งข้อมูลอื่น บทความศิลาจารึก เว็บจังหวัดสุโขทัย จารึกในประเทศไทย ศูนย์มานุษวิทยาสิรินธรฯ
จาร, กพ, อข, นรามคำแหง, หร, จาร, กหล, กท, เป, นศ, ลาจาร, กท, นท, กเหต, การณ, ประว, ศาสตร, สม, ยกร, งส, โขท, ลาจาร, กน, เจ, าฟ, ามงก, ฎฯ, อมาค, อพระบาทสมเด, จพระจอมเกล, าเจ, าอย, ขณะผนวชอย, เป, นผ, ทรงค, นพบเม, อว, นกาบส, เด, อน, 1214, ตรงก, บว, นศ, กร, มกราคม,. carukphxkhunramkhaaehng 1 hrux carukhlkthi 1 1 epnsilacarukthibnthukehtukarnprawtisastrsmykrungsuokhthy silacarukni ecafamngkud txmakhuxphrabathsmedcphracxmeklaecaxyuhw khnaphnwchxyuepnphuthrngkhnphbemuxwnkabsi khun 8 kha eduxn 3 c s 1214 trngkbwnsukrthi 17 mkrakhm kh s 1834 hrux ph s 2376 2 n eninprasathemuxngekasuokhthy xaephxemuxngsuokhthy cnghwdsuokhthy milksnaepnhlksiehliymdanetha thrngkraocm sung 111 esntiemtr hna 35 esntiemtr epnhinthrayaepngenuxlaexiyd 1 micarukthngsidan pccubnekbxyuthiphiphithphnthsthanaehngchati phrankhr krungethphmhankhrcarukphxkhunramkhaaehng khwamthrngcaaehngolkodyyuensokcarukphxkhunramkhaaehngthiekbrksaphiphithphnthsthanaehngchati phrankhrpraeths ithyphumiphakh exechiyaelaaepsifikxangxing 1 prawtikarkhunthaebiynkhunthaebiyn2546 chuxtamthiidcdthaebiyninbychimrdkkhwamthrngcaaehngolk phumiphakhthicdaebngodyyuensoklksnaxksrithythiichincaruk enuxhakhxngcarukaebngidepnsamtxn txnthihnung brrthdthi 1 thung 18 epnkarelaphrarachprawtiphxkhunramkhaaehngmharachtngaetprasuticneswyrachy ichkhawa ku epnhlk txnthi 2 imichkhawa ku aetichwa phxkhunramkhaaehng elathungehtukarnaelathrrmeniyminkrungsuokhthy aelatxnthisam tngaetdanthi 4 brrthdthi 12 thungbrrthdsudthay mitwhnngsuxtangcaktxnthi 1 aela 2 cungnacacarukkhunphayhlng epnkarsrresriyaelayxphraekiyrtiphxkhunramkhaaehng aelaklawthungxanaekhtrachxanackrsuokhthy 1 carukidrbkarkhunthaebiynepnmrdkkhwamthrngcaaehngolkemuxpi ph s 2546 3 odyyuensokbrryaywa carukni nbepnmrdkexksarchinhlksungmikhwamsakhyradbolk ephraaihkhxmulxnthrngkhawadwyaeknhlkhlayprakarekiywkbprawtisastraelawthnthrrmolk imephiyngaetbnthukkarpradisthxksrithysungepnrakthanaehngxksrthiphukhnhksiblankhnichxyuinpraethsithypccubn karphrrnnasuokhthyrthithysmystwrrsthi 13 iwodylaexiydaelahaidyaknnyngsathxnthungkhunkhasaklthirththnghlayinolkthukwnnirwmyudthux 3 mikartngkhathamekiywkbkhwamechuxthuxidkhxngbangswnhruxthnghmdkhxngsilacarukdngklaw 4 phiriya ikrvks nkwichakarthisthabnithykhdisuksa xxkkhwamehnwa karichsrainsilacarukniaenawaphusrangidrbxiththiphlmacakrabbphyychnayuorp ekhasrupwasilacaruknithukbangkhnaetngkhuninrchkalthi 4 hruximnankxnhnann 5 nkwichakarehntangkninpraednwadwykhwamnaechuxthuxkhxngsilacarukni phupraphnthbangkhnxangwarxycaruknnepnkaraetngkhuninkhriststwrrsthi 19 thnghmd bangxangwa 17 brrthdaerknnepncring bangxangwarxycaruknnphrayaluxithythrngaetngkhun nkwichakarithyswnihyyngyudthuxkhwamnaechuxthuxkhxngsilacarukni 6 rxycarukdngklawaelaphaphlksnkhxngsngkhmsuokhthyincintnakaryngepnhwickhxngchatiniymithy aelaimekhil irth nkwichakarchawxngkvs esnxaenawasilacarukdngklawxacthukplxmkhun thaihekhathukkhudwykarenrethsphayitkdhmayhminphrabrmedchanuphaphkhxngithy 7 swnciraphrn xrnyanakh ekhiynbthkhwamaesdngthsnawa silacarukhlkthi 1 idphankrabwnkarsukkrxnphuslaymaepnewlananhlayrxypi iklekhiyngkbsilacarukhlkthi 3 hlkthi 45 aelahlkthiklawthungchiphakhawephssndr imidthakhuninsmyrchkalthi 4 8 xangxing aekikh 1 0 1 1 1 2 1 3 carukphxkhunramkhaaehng thankhxmulcarukinpraethsithy sunymanusywithyasirinthr xngkhkarmhachn subkhn 10 emsayn 2557 17 mkrakhm wnphxkhunramkhaaehngmharach mhawithyalyramkhaaehng subkhnemux 17 mkrakhm 2555 Check date values in accessdate help 3 0 3 1 The King Ram Khamhaeng Inscription UNESCO Centuries old stone set in controversy The Nation Sep 8 2003 The Ramkhamhaeng Controversy Selected Papers Edited by James F Chamberlain The Siam Society 1991 Intellectual Might and National Myth A Forensic Investigation of the Ram Khamhaeng Controversy in Thai Society by Mukhom Wongthes Matichon Publishing Ltd 2003 Seditious Histories Contesting Thai and Southeast Asian Pasts by Craig J Reynolds University of Washington Press 2006 p vii http www lib ru ac th pk extract3 html carukphxkhunramkhaaehng implxm cakmummxngkhxngnkwithyasastraehlngkhxmulxun aekikhwikisxrs mingantnchbbekiywkb silacaruksuokhithkhxmmxns miphaphaelasuxekiywkb carukphxkhunramkhaaehngbthkhwamsilacaruk ewbcnghwdsuokhthy carukinpraethsithy sunymanuswithyasirinthrekhathungcak https th wikipedia org w index php title carukphxkhunramkhaaehng amp oldid 9528887, wikipedia, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด,
บทความ , อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม
