fbpx
วิกิพีเดีย

ฝุ่น

ฝุ่น เป็นอนุภาคในอากาศที่มีแหล่งที่มาจากหลาย ๆ ที่ เช่น ฝุ่นจากดินที่ถูกลมพัดขึ้นมา ฝุ่นจากการระเบิดของภูเขาไฟ หรือจากมลภาวะต่างๆ ฝุ่นในที่พักอาศัย สำนักงาน หรือแม้แต่ ละอองเกสรของพืช เส้นผมหรือขนของคนและสัตว์ สิ่งทอ เส้นใย เศษผิวหนังของมนุษย์ สิ่งหลงเหลือจากอุกกาบาต และจากอีกหลายอย่าง หลายวัตถุ ในสภาพแวดล้อมทั่วไป

พายุฝุ่นที่พัดถล่มในรัฐหนึ่งของสหรัฐอเมริกา ในปี 1935

แหล่งที่มา

แหล่งที่มาของฝุ่นละอองในบรรยากาศ โดยทั่วไปจะแบ่งเป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ คือ

ฝุ่นละอองที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ (Natural Particle)

ฝุ่นละอองที่เกิดจากกิจกรรมที่มนุษย์ (Man-made Particle)

การคมนาคมขนส่ง

รถบรรทุกหิน ดิน ทราย ซีเมนต์หรือวัตถุที่ทำให้เกิดฝุ่น หรือดินโคลนที่ติดอยู่ที่ล้อรถ ขณะแล่นจะมีฝุ่นตกอยู่บนถนน แล้วกระจายตัวอยู่ในอากาศ ไอเสียจากรถยนต์ เครื่องยนต์ดีเซลปล่อยเขม่า ฝุ่น ควันดำ ออกมา ถนนที่สกปรก มีดินทรายตกค้างอยู่มาก หรือมีกองวัสดุข้างถนนเมื่อรถแล่นจะทำให้เกิดฝุ่นปลิวอยู่ในอากาศ การก่อสร้างถนนใหม่ หรือการปรับปรุงผิวจราจร ทำให้เกิดฝุ่นมาก ฝุ่นที่เกิดจากยางรถยนต์ และผ้าเบรก

การก่อสร้าง

การก่อสร้างหลายชนิด มักมีการเปิดหน้าดินก่อนการก่อสร้าง ซึ่งทำให้เกิดฝุ่นได้ง่าย เช่น อาคาร สิ่งก่อสร้าง การปรับปรุงสาธารณูปโภค การก่อสร้างอาคารสูง ทำให้ฝุ่นปูนซีเมนต์ถูกลมพัดออกมาจากอาคารการรื้อถอน ทำลาย อาคารหรือสิ่งก่อสร้าง

โรงงานอุตสาหกรรม

การเผาไหม้เชื้อเพลิง เช่น น้ำมันเตา ถ่านหิน ฟืน แกลบ เพื่อนำพลังงานไปใช้ในการผลิต กระบวนการผลิตที่มีฝุ่นออกมา เช่น การปั่นฝ้าย การเจียรโลหะ การเคลื่อนย้ายวัตถุดิบ

ผลกระทบ

ต่อมนุษย์

ฝุ่นที่มีอนุภาคขนาดใหญ่มักจะไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์มากนัก เนื่องจากจมูกของคนเราสามารถกรองฝุ่นที่มีขนาดใหญ่ประมาณ 10 ไมครอนขึ้นไป ส่วนฝุ่นที่มีขนาดเล็กสามารถผ่านเข้าสู่ปอดได้ มีผลงานวิจัยในสหรัฐอเมริการะบุว่า ผู้ที่อาศัยในบริเวณที่มีฝุ่นขนาดเล็กกว่า 10 ไมครอน อยู่ในปริมาณมากจะทำให้มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ เช่น โรคหอบหืด นอกจากนี้ฝุ่นที่มีขนาดเล็กในทุกปริมาณ 10 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร จะทำให้อัตราการเสียชีวิตจากโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจเพิ่มขึ้นร้อยละ 3 อาการกำเริบของโรคหอบหืดก็เพิ่มขึ้นร้อยละ 3 เช่นกัน นอกจากฝุ่นละอองจะทำให้เกิดอาการระคายเคืองตาแล้ว ยังทำอันตรายต่อระบบหายใจเมื่อเราสูดเอาอากาศที่มีฝุ่นละอองเข้าไป โดยอาการระคายเคืองนั้นจะเกิดขึ้นตามส่วนต่างๆ ของระบบทางเดินหายใจขึ้นอยู่กับขนาดของฝุ่นละออง โดยฝุ่นที่มีขนาดใหญ่ร่างกายจะดักไว้ได้ที่ขนจมูก ส่วนฝุ่นที่มีขนาดเล็กนั้นสามารถเล็ดลอดเข้าไปในระบบหายใจ ทำให้ระคายเคืองแสบจมูก ไอ จาม มีเสมหะ หรือมีการสะสมของฝุ่นในถุงลมปอด ทำให้การทำงานของปอดเสื่อมลง

ต่อสิ่งแวดล้อม

ฝุ่นละอองจะลดความสามารถในการมองเห็น ทำให้ทัศนวิสัยไม่ดี เนื่องจากฝุ่นละอองในบรรยากาศเป็นอนุภาคของแข็งที่ดูดซับและทำให้เกิดหักเหแสงได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับขนาดและความหนาแน่น และองค์ประกอบของฝุ่นละออง ฝุ่นละอองที่ตกลงมา นอกจากจะทำให้เกิดความสกปรกเลอะเทอะแก่บ้านเรือน อาคาร สิ่งก่อสร้างแล้ว ยังทำให้เกิดการทำลายและกัดกร่อนผิวหน้าของโลหะ หินอ่อน หรือวัตถุอื่นๆ เช่น รั้วเหล็ก หลังคาสังกะสี รูปปั้น

ในกรุงเทพมหานครของไทยมีการตรวจวัดคุณภาพอากาศมาตั้งแต่ พ.ศ. 2531 มีฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 10 ไมครอน สูงกว่ามาตรฐานที่กำหนดไว้ที่ 50 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ในการสำรวจ 1,692 ครั้ง มีปริมาณเกินกว่าค่ามาตรฐาน 108 ครั้ง

อ้างอิง

  1. Kathleen Hess-Kosa, (2002), Indoor Air Quality: sampling methodologies, page 216. CRC Press.
  2. มลภาวะทางอากาศ
  3. ความรู้เกี่ยวกับฝุ่นละออง
  4. ฝุ่น
  5. ฝุ่นกับการเกิดภูมิแพ้ โรคหืดหอบ

เป, นอน, ภาคในอากาศท, แหล, งท, มาจากหลาย, เช, จากด, นท, กลมพ, ดข, นมา, จากการระเบ, ดของภ, เขาไฟ, หร, อจากมลภาวะต, างๆ, ในท, กอาศ, สำน, กงาน, หร, อแม, แต, ละอองเกสรของพ, เส, นผมหร, อขนของคนและส, ตว, งทอ, เส, นใย, เศษผ, วหน, งของมน, ษย, งหลงเหล, อจากอ, กกาบาต, แ. fun epnxnuphakhinxakasthimiaehlngthimacakhlay thi echn funcakdinthithuklmphdkhunma funcakkarraebidkhxngphuekhaif hruxcakmlphawatang funinthiphkxasy sankngan hruxaemaet laxxngeksrkhxngphuch esnphmhruxkhnkhxngkhnaelastw singthx esniy essphiwhnngkhxngmnusy singhlngehluxcakxukkabat aelacakxikhlayxyang hlaywtthu insphaphaewdlxmthwip 1 2 phayufunthiphdthlminrthhnungkhxngshrthxemrika inpi 1935 enuxha 1 aehlngthima 2 funlaxxngthiekidkhuntamthrrmchati Natural Particle 2 1 funlaxxngthiekidcakkickrrmthimnusy Man made Particle 3 phlkrathb 4 xangxingaehlngthima aekikhaehlngthimakhxngfunlaxxnginbrryakas odythwipcaaebngepn 2 praephthihy khuxfunlaxxngthiekidkhuntamthrrmchati Natural Particle aekikhfunlaxxngthiekidcakkickrrmthimnusy Man made Particle aekikh karkhmnakhmkhnsngrthbrrthukhin din thray siemnthruxwtthuthithaihekidfun hruxdinokhlnthitidxyuthilxrth khnaaelncamifuntkxyubnthnn aelwkracaytwxyuinxakas ixesiycakrthynt ekhruxngyntdieslplxyekhma fun khwnda xxkma thnnthiskprk midinthraytkkhangxyumak hruxmikxngwsdukhangthnnemuxrthaelncathaihekidfunpliwxyuinxakas karkxsrangthnnihm hruxkarprbprungphiwcracr thaihekidfunmak funthiekidcakyangrthynt aelaphaebrk karkxsrangkarkxsranghlaychnid mkmikarepidhnadinkxnkarkxsrang sungthaihekidfunidngay echn xakhar singkxsrang karprbprungsatharnupophkh karkxsrangxakharsung thaihfunpunsiemntthuklmphdxxkmacakxakharkarruxthxn thalay xakharhruxsingkxsrang orngnganxutsahkrrmkarephaihmechuxephling echn namneta thanhin fun aeklb ephuxnaphlngnganipichinkarphlit krabwnkarphlitthimifunxxkma echn karpnfay kareciyrolha karekhluxnyaywtthudib 3 phlkrathb aekikhtxmnusyfunthimixnuphakhkhnadihymkcaimepnxntraytxmnusymaknk enuxngcakcmukkhxngkhnerasamarthkrxngfunthimikhnadihypraman 10 imkhrxnkhunip swnfunthimikhnadelksamarthphanekhasupxdid miphlnganwicyinshrthxemrikarabuwa phuthixasyinbriewnthimifunkhnadelkkwa 10 imkhrxn xyuinprimanmakcathaihmikhwamesiyngthicaepnorkhekiywkbrabbthangedinhayic echn orkhhxbhud nxkcaknifunthimikhnadelkinthukpriman 10 imokhrkrm lukbaskemtr cathaihxtrakaresiychiwitcakorkhekiywkbrabbthangedinhayicephimkhunrxyla 3 xakarkaeribkhxngorkhhxbhudkephimkhunrxyla 3 echnkn nxkcakfunlaxxngcathaihekidxakarrakhayekhuxngtaaelw yngthaxntraytxrabbhayicemuxerasudexaxakasthimifunlaxxngekhaip odyxakarrakhayekhuxngnncaekidkhuntamswntang khxngrabbthangedinhayickhunxyukbkhnadkhxngfunlaxxng odyfunthimikhnadihyrangkaycadkiwidthikhncmuk swnfunthimikhnadelknnsamartheldlxdekhaipinrabbhayic thaihrakhayekhuxngaesbcmuk ix cam miesmha hruxmikarsasmkhxngfuninthunglmpxd thaihkarthangankhxngpxdesuxmlng 4 txsingaewdlxmfunlaxxngcaldkhwamsamarthinkarmxngehn thaihthsnwisyimdi enuxngcakfunlaxxnginbrryakasepnxnuphakhkhxngaekhngthidudsbaelathaihekidhkehaesngid thngnikhunxyukbkhnadaelakhwamhnaaenn aelaxngkhprakxbkhxngfunlaxxng funlaxxngthitklngma nxkcakcathaihekidkhwamskprkelxaethxaaekbaneruxn xakhar singkxsrangaelw yngthaihekidkarthalayaelakdkrxnphiwhnakhxngolha hinxxn hruxwtthuxun echn rwehlk hlngkhasngkasi ruppninkrungethphmhankhrkhxngithymikartrwcwdkhunphaphxakasmatngaet ph s 2531 mifunlaxxngkhnadelkkwa 10 imkhrxn sungkwamatrthanthikahndiwthi 50 imokhrkrm lukbaskemtr inkarsarwc 1 692 khrng miprimanekinkwakhamatrthan 108 khrng 5 xangxing aekikh Kathleen Hess Kosa 2002 Indoor Air Quality sampling methodologies page 216 CRC Press mlphawathangxakas khwamruekiywkbfunlaxxng fun funkbkarekidphumiaeph orkhhudhxbekhathungcak https th wikipedia org w index php title fun amp oldid 9210343, wikipedia, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด,

บทความ

, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม