มาซูแร็กดอมบรอฟสกีแยกอ
เพลงชาติของสาธารณรัฐโปแลนด์มีชื่อว่า มาซูแร็กดอมบรอฟสกีแยกอ (โปแลนด์: Mazurek Dąbrowskiego, สัทอักษรสากล: [maˈzurɛɡ dɔmbrɔfˈskʲɛɡɔ]) หรือ "บทเพลงมาเซอร์กาของดอมบรอฟสกี" เพลงนี้ยังเป็นที่รู้จักในชื่อ Pieśń Legionów Polskich we Włoszech ([pʲɛɕɲ lɛˈgʲɔnuf ˈpɔlskiɣ vɛˈvwɔʂɛx], "เพลงของกองทหารชาวโปลในอิตาลี") และ Jeszcze Polska nie zginęła ([ˈjɛʂt͡ʂɛ ˈpɔlska ɲɛzɡiˈnɛwa], "โปแลนด์ยังไม่สูญสิ้น") ซึ่งชื่อหลังเป็นการเรียกขานเพลงนี้ตามเนื้อร้องวรรคแรก
Mazurek Dąbrowskiego | |
หนึ่งในโปสต์การ์ดซึ่งออกแบบโดยยูลีอุช คอสซัค (Juliusz Kossak) แสดงเนื้อเพลง "มาซูแร็กดอมบรอฟสกีแยกอ" | |
ชื่ออื่น | เปียชญ์เลกียอนูฟปอลสกิคเวฟวอเชค (Pieśń Legionów Polskich we Włoszech) เยชต์เชปอลสกาเญซกีเนวา (Jeszcze Polska nie zginęła) |
---|---|
เนื้อร้อง | นายพลยูเซฟ วีบิตสกี (Józef Wybicki), ค.ศ. 1797 |
ทำนอง | ไม่ทราบผู้แต่ง |
รับไปใช้ | ค.ศ. 1926 |
ตัวอย่างเสียง | |
มาซูแร็กดอมบรอฟสกีแยกอ (บรรเลง) |
เพลงมาซูแร็กดอมบรอฟสกีแยกอ เป็นบทเพลงซึ่งนำมาจากทำนองของเพลงพื้นเมืองโปแลนด์ประเภทหนึ่งที่เรียกว่า "มาเซอร์กา" ("Mazurka) โดยส่วนของเนื้อร้องนั้นเป็นผลงานการประพันธ์ของนายพลยูเซฟ วีบิตสกี (Józef Wybicki) เพลงนี้ได้แต่งขึ้นที่เมืองเรจโจเนลเลมีเลีย สาธารณรัฐซิแซลไพน์ (ปัจจุบันอยู่ในประเทศอิตาลี) เมื่อประมาณวันที่ 16 กรกฎาคม ค.ศ. 1797 อันเป็นเวลาสองปีภายหลังการแบ่งแยกโปแลนด์ครั้งที่ 3 ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนั้นได้ทำให้ประเทศโปแลนด์ทั้งหมดหายไปจากแผนที่โลก บทเพลงนี้แต่เดิมใช้เป็นเพลงปลุกขวัญของทหารภายใต้การบังคับบัญชาของนายพลยาน เคนริค ดอมบรอฟสกี แห่งกองทหารต่างด้าวชาวโปลในกองทัพปฏิวัติฝรั่งเศสภายใต้การนำของนโปเลียน โบนาปาร์ต ซึ่งได้ยกทัพเข้าพิชิตดินแดนอิตาลีในครั้งนั้น ในเวลาต่อมาไม่นานเพลงนี้ก็ได้กลายเป็นเพลงปลุกใจของชาวโปลเพลงหนึ่งที่ได้รับความนิยมอย่างสูงสุด
เนื้อหาของเพลงมาซูแร็กดอมบรอฟสกีแยกอ แสดงออกถึงความคิดของชาวโปล ซึ่งแม้ว่าจะสูญสิ้นเอกราชทางการเมืองไปก็ตาม แต่โปแลนด์จะยังไม่สูญหายไป ตราบเท่าที่ประชาชนชาวโปลยังมีชีวิตอยู่และร่วมต่อสู้ภายใต้นามนั้น
จากความนิยมอย่างสูงของเพลงนี้ ทำให้ได้เกิดเพลงมาซูแร็กดอมบรอฟสกีแยกอในรูปแบบที่หลากหลาย ซึ่งชาวโปลได้นำไปขับร้องเนื่องในวาระต่าง ๆ ทั้งยังเป็นแรงบันดาลใจสำคัญให้ชนชาติอื่น ๆ ลุกขึ้นสู้เพื่อเรียกร้องเอกราชในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 19 ตัวอย่างหนึ่งที่เห็นได้ชัดก็คือเพลง "เฮ สลาฟ" (Hey Slavs) ซึ่งเป็นเพลงปลุกใจของชาวสลาฟ ได้รับอิทธิพลในการประพันธ์มาจากเพลงมาซูแร็กดอมบรอฟสกีแยกออย่างมาก (ภายหลังได้มีการนำไปใช้เป็นเพลงชาติของอดีตประเทศยูโกสลาเวีย)
เมื่อประเทศโปแลนด์สามารถรวมตัวเป็นประเทศเอกราชได้อีกครั้งในปี ค.ศ. 1918 เพลงมาซูแร็กดอมบรอฟสกีแยกอจึงได้กลายเป็นเพลงชาติโดยพฤตินัยของโปแลนด์ ต่อมาจึงได้มีการรับรองสถานะเป็นเพลงชาติโปลแลนด์อย่างเป็นทางการในปี ค.ศ. 1926
เนื้อร้อง
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
บทร้องฉบับทางการ
Przejdziem Wisłę, przejdziem Wartę,
Jak Czarniecki do Poznania
Już tam ojciec do swej Basi
| คำแปลภาษาอังกฤษ
Cross the Vistula and Warta
Like Czarniecki Poznań regains
Father, in tears
| บทร้องต้นฉบับ
Jak Czarniecki do Poznania
Przejdziem Wisłę, przejdziem Wartę
Niemiec, Moskal nie osiędzie,
Już tam ojciec do swej Basi
Na to wszystkich jedne głosy | คำแปลภาษาอังกฤษ
Like Czarniecki to Poznań
Cross the Vistula and Warta
Germans, Muscovites will not rest
Father, in tears
All exclaim in unison |
เชิงอรรถ
อ้างอิง
- Ustawa z dnia 31 stycznia 1980 r. o godle, barwach i hymnie Rzeczypospolitej Polskiej oraz o pieczęciach państwowych – Dziennik Ustaw z 2005 r. Nr 235, poz. 2000
- ↑ Based on translations from Davies (2005) and Kendall
- อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อkuczyn
Books
| Websites
|
แหล่งข้อมูลอื่น
คอมมอนส์ มีภาพและสื่อเกี่ยวกับ: มาซูแร็กดอมบรอฟสกีแยกอ |
- Museum of the National Anthem at Będominie ด์)
- เพลงชาติโปแลนด์ - The promotional website "Polska"
- Hymn Polski - The website for the Center for Citizenship Education features a page on the anthem than includes vocal and instrumental versions.
- Virtual Library of Polish Literature - A copy of the oldest known recording of the anthem, 1926 by Ignacy Dygas, is available here.