ราฮีม สเตอร์ลิง
ราฮีม ชาควิลล์ สเตอรลิง (อังกฤษ: Raheem Shaquille Sterling; เกิด 8 ธันวาคม ค.ศ. 1994) เป็นนักฟุตบอลอาชีพชาวอังกฤษ ปัจจุบันเล่นได้ทั้งในตำแหน่งปีก และกองกลางตัวรุกให้กับแมนเชสเตอร์ซิตี และทีมชาติอังกฤษ
สเตอร์ลิงขณะเล่นให้กับอังกฤษในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 | |||
ข้อมูลส่วนตัว | |||
---|---|---|---|
ชื่อเต็ม | ราฮีม ชาควิลล์ สเตอร์ลิง | ||
วันเกิด | 8 ธันวาคม ค.ศ. 1994 (26 ปี) | ||
สถานที่เกิด | คิงส์ตัน จาเมกา | ||
ส่วนสูง | 5 ฟุต 7 นิ้ว (1.70 ม.) | ||
ตำแหน่ง | ปีก / กองกลางตัวรุก | ||
ข้อมูลสโมสร | |||
สโมสรปัจจุบัน | แมนเชสเตอร์ซิตี | ||
หมายเลข | 7 | ||
สโมสรเยาวชน | |||
2003–2010 | ควีนส์พาร์กเรนเจอส์ | ||
2010–2012 | ลิเวอร์พูล | ||
สโมสรอาชีพ* | |||
ปี | ทีม | ลงเล่น | (ประตู) |
2012–2015 | ลิเวอร์พูล | 95 | (18) |
2015– | แมนเชสเตอร์ซิตี | 194 | (78) |
ทีมชาติ‡ | |||
2009–2010 | อังกฤษ อายุไม่เกิน 16 ปี | 7 | (1) |
2010–2011 | อังกฤษ อายุไม่เกิน 17 ปี | 13 | (3) |
2012 | อังกฤษ อายุไม่เกิน 19 ปี | 1 | (0) |
2012–2013 | อังกฤษ อายุไม่เกิน 21 ปี | 8 | (3) |
2012– | อังกฤษ | 65 | (17) |
* นัดที่ลงเล่นและประตูที่ยิงให้แก่สโมสรเฉพาะลีกในประเทศเท่านั้น ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 22:22,14 พฤษภาคม 2021 (UTC) ‡ ข้อมูลการลงเล่นและประตูให้แก่ทีมชาติล่าสุด ณ วันที่ 22:22,29 มิถุนายน 2021 (UTC) |
สเตอร์ลิงสร้างชื่อเสียงมากับลิเวอร์พูล โดยได้ลงเล่นเป็นตัวจริงกับลิเวอร์พูล ในปี ค.ศ. 2012 นัดที่เจอกับ วีแกนแอธเลติก โดยเล่นในตำแหน่งปีกซ้าย ด้วยอายุเพียงแค่ 17 ปี
ผลงานในระดับสโมสร
ควีนส์พาร์กเรนเจอร์
สเตอร์ลิงเป็นนักเตะเยาวชนของควีนส์พาร์กเรนเจอร์เป็นเวลาเจ็ดปีก่อนที่จะย้ายไปยังลิเวอร์พูล
ลิเวอร์พูล
ฤดูกาล 2011-12
วันที่ 24 มีนาคม ค.ศ. 2012 สเตอร์ลิง ลงเล่นให้กับ ลิเวอร์พูล ทีมชุดใหญ่ครั้งแรก โดยถูกเปลี่ยนตัวลงสนาม ในนัดที่เปิดสนามแอนฟีลด์เจอกับ วีแกนแอธเลติก ซึ่งลงสนามในวัย 17 ปี กับอีก 107 วัน ต่อมา สเตอร์ลิง ลงเล่นให้กับ ลิเวอร์พูล เป็นนัดที่ 2 โดยถูกเปลี่ยนตัวลงสนาม ในนัดที่แพ้ให้กับ ฟูลัม 0-1 ต่อมา สเตอร์ลิง ลงเล่นให้กับ ลิเวอร์พูล เป็นนัดที่ 3 โดยถูกเปลี่ยนตัวลงสนาม ในนัดที่ถล่ม เชลซี 4-1
ฤดูกาล 2012-13
ในเดือนสิงหาคม 2012 สเตอร์ลิง ได้ลงสนามในเกมยุโรปเป็นนัดแรก โดยลงมาเป็นตัวสำรองแทน โจ โคล ในยูฟ่ายูโรปาลีก รอบคัดเลือก ในนัดที่เอาชนะ โกเมล 1-0 ต่อมา ในวันที่ 26 สิงหาคม ค.ศ. 2012 พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2012–13 สเตอร์ลิง ได้ลงสนามเป็นตัวจริงใน ศึกบิ๊กแมตช์ กับ แมนเชสเตอร์ซิตี โดย สเตอร์ลิง โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมและติดทีมยอดเยี่ยมประจำสัปดาห์ หลังจากนั้น สเตอร์ลิง ก็ได้ลงสนามเป็นตัวจริงอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่ง สเตอร์ลิง ก็ทำประตูแรกให้กับ ลิเวอร์พูล ในนัดที่เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เรดดิง 1-0 ต่อมา ในวันที่ 21 ธันวาคม ค.ศ. 2012 สเตอร์ลิง ได้ตัดสินใจต่อสัญญากับ ลิเวอร์พูล ต่อมา ในวันที่ 2 มกราคม ค.ศ. 2013 สเตอร์ลิง ก็ทำประตูที่ 2 ให้กับ ลิเวอร์พูล ในนัดที่เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ ซันเดอร์แลนด์ 3-0 จบฤดูกาล สเตอร์ลิง ยิงประตูในพรีเมียร์ลีกได้ 2 ประตูจาก 24 นัด
ฤดูกาล 2013-14
ในลีกคัพ รอบ 2 สเตอร์ลิง ได้ทำประตูแรกให้ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ นอตส์เคาน์ตี ในช่วงต่อเวลาพิเศษ 4-2 ต่อมา ในวันที่ 4 ธันวาคม ค.ศ. 2013 สเตอร์ลิง ได้ทำประตูแรกในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ นอริชซิตี 5-1 ต่อมา ในวันที่ 15 ธันวาคม ค.ศ. 2013 สเตอร์ลิง ได้ทำประตูที่ 2 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ ทอตนัมฮอตสเปอร์ ที่ไวต์ฮาร์ตเลน 5-0 ต่อมา ในวันที่ 21 ธันวาคม ค.ศ. 2013 สเตอร์ลิง ได้ทำประตูที่ 3 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ คาร์ดิฟฟ์ซิตี 3-1
ในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2014 สเตอร์ลิง ได้ทำ 2 ประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ อาร์เซนอล 5-1 ต่อมา ในวันที่ 1 มีนาคม ค.ศ. 2014 สเตอร์ลิง ลงมาเป็นตัวสำรองและได้ทำประตูที่ 6 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ เซาแทมป์ตัน ที่เซนต์แมรีส์สเตเดียม 3-0 ต่อมา ในวันที่ 13 เมษายน ค.ศ. 2014 สเตอร์ลิง ได้ทำประตูให้ ลิเวอร์พูล ขึ้นนำ แมนเชสเตอร์ซิตี 1-0 ก่อนที่ ลิเวอร์พูล จะชนะไป 3-2 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ขึ้นนำจ่าฝูงและลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกต่อไป ต่อมา ในวันที่ 20 เมษายน ค.ศ. 2014 สเตอร์ลิง ได้ทำ 2 ประตู และจ่ายให้เพื่อนยิง 1 ประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ นอริชซิตี ที่แคร์โรว์โรด 3-2 ต่อมา สเตอร์ลิง ได้ติด 1 ใน 6 เข้าชิงรางวัลนักฟุตบอลดาวรุ่งยอดเยี่ยมของพีเอฟเอ ในวันที่ 6 พฤษภาคม ค.ศ. 2014 สเตอร์ลิง คว้ารางวัลนักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปี จากการโหวตของแฟนๆ จากงานประกาศรางวัล Players’ Awards Dinner ปี 2014 โดยงานประกาศรางวัลจัดขึ้นที่ ศูนย์ประชุม Liverpool ACC Conference Centre จบฤดูกาล สเตอร์ลิง ยิงประตูในพรีเมียร์ลีกได้ 9 ประตูจาก 33 นัด และยิงได้ทั้งหมด 10 ประตู จาก 38 นัด รวมทุกรายการ ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ได้อันดับ 2 ทำให้ ลิเวอร์พูล ได้กลับไปเล่นยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก นับตั้งแต่ในปี 2009
ฤดูกาล 2014-15
ในวันที่ 17 สิงหาคม ค.ศ. 2014 พรีเมียร์ลีก นัดเปิดฤดูกาล 2014–15 ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เจอกับ เซาแทมป์ตัน โดย สเตอร์ลิง ได้ทำประตูให้ ลิเวอร์พูล ขึ้นนำ 1-0 ก่อนที่ ลิเวอร์พูล จะชนะไป 2-1 ต่อมา ในวันที่ 31 สิงหาคม ค.ศ. 2014 สเตอร์ลิง ได้ทำประตูที่ 2 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ ทอตนัมฮอตสเปอร์ ที่ไวต์ฮาร์ตเลน 3-0 ต่อมา ในวันที่ 16 กันยายน ค.ศ. 2014 สเตอร์ลิง ได้ลงเล่น ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก นัดแรก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ ลูโดโกเร็ตส์ ราซกราด จาก บัลแกเรีย 2-1 ต่อมา ในวันที่ 20 กันยายน ค.ศ. 2014 สเตอร์ลิง ได้ทำประตูที่ 3 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล พ่ายแพ้ เวสต์แฮมยูไนเต็ด ที่บุลินกราวนด์ 1-3 ต่อมา ในวันที่ 14 ธันวาคม ค.ศ. 2014 สเตอร์ลิง ได้ลงสนามนัดที่ 100 ในนัดที่พ่ายแพ้ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ที่โอลด์แทรฟฟอร์ด 0-3 ต่อมา ในวันที่ 17 ธันวาคม ค.ศ. 2014 แคปปิตอล วัน คัพ รอบก่อนรองชนะเลิศ สเตอร์ลิง ได้ทำ 2 ประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ บอร์นมัธ 3-1 ต่อมา ในวันที่ 20 ธันวาคม ค.ศ. 2014 สเตอร์ลิง คว้ารางวัลโกลเด้น บอย (นักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปี) ของ Tuttosport หนังสือพิมพ์สัญชาติอิตาลี ต่อมา ในวันที่ 26 ธันวาคม ค.ศ. 2014 สเตอร์ลิง ได้ทำประตูที่ 4 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ เบิร์นลีย์ ที่เทิร์ฟมัวร์ 1-0
ในวันที่ 20 มกราคม ค.ศ. 2015 แคปปิตอล วัน คัพ รอบรองชนะเลิศ นัดแรก สเตอร์ลิง ได้ทำประตูตีเสมอ ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เสมอกับ เชลซี 1-1 ต่อมา ในวันที่ 31 มกราคม ค.ศ. 2015 สเตอร์ลิง ได้ทำประตูที่ 5 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เวสต์แฮมยูไนเต็ด 2-0 ต่อมา ในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2015 เอฟเอคัพ รอบสี่ นัดรีเพลย์ สเตอร์ลิง ได้ทำประตูตีเสมอ ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ โบลตันวอนเดอเรอส์ ที่มาครอน สเตเดียม 2-1 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ผ่านเข้ารอบ 5 เอฟเอคัพ ได้สำเร็จ ต่อมา ในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2015 สเตอร์ลิง ได้ทำประตูที่ 6 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ เซาแทมป์ตัน ที่เซนต์แมรีส์สเตเดียม 2-0
ในเดือนเมษายน 2015 สเตอร์ลิง ไม่ยอมต่อสัญญาใหม่กับสโมสร พร้อมปฏิเสธค่าเหนื่อยจำนวนกว่า 180,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ (ประมาณ 6,300,000 บาท) ซึ่งจะทำให้ดาวรุ่งรายนี้ มีรายได้เป็นสถิติสโมสร และยังแซงหน้าค่าเหนื่อยที่ สตีเวน เจอร์ราร์ด กัปตันทีมคนปัจจุบันที่ได้จากสโมสร อย่างไรก็ตาม สเตอร์ลิง ได้ออกมากล่าวหลังจบเกมทีมชาติกับลิทัวเนียว่า ยังไม่ต้องการคุยเรื่องสัญญาฉบับใหม่ในตอนนี้ เนื่องจากต้องการมุ่งสมาธิไปที่การเล่นให้กับสโมสร และจะมีการเจรจากันอีกครั้งหลังสิ้นสุดฤดูกาลนี้เท่านั้น
ในวันที่ 13 เมษายน ค.ศ. 2015 สเตอร์ลิง ได้ทำประตูที่ 7 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ นิวคาสเซิลยูไนเต็ด 2-0 ต่อมา สเตอร์ลิง ได้ติด 1 ใน 6 เข้าชิงรางวัลนักฟุตบอลดาวรุ่งยอดเยี่ยมของพีเอฟเอ ต่อมา ในวันที่ 19 พฤษภาคม ค.ศ. 2015 สเตอร์ลิง คว้ารางวัลนักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปี จากการโหวตของแฟนๆ ในงานประกาศรางวัล Players' Awards 2015 ก่อนจะได้รับรางวัลพร้อมกับท่ามกลางเสียงโห่ของแฟนบอลบางส่วน โดยงานประกาศรางวัลจัดขึ้นที่ เอ็คโค่ อารีน่า จบฤดูกาล สเตอร์ลิง ยิงประตูในพรีเมียร์ลีกได้ 7 ประตูจาก 35 นัด
ในเดือนกรกฎาคม 2015 สเตอร์ลิง เข้าแจ้งขอย้ายทีมกับ เบรนดัน ร็อดเจอส์ ผู้จัดการทีมลิเวอร์พูล รวมถึงเจ้าตัวไม่โผล่ไปที่สนามซ้อม โดยอ้างว่าป่วย ซึ่งทำให้สถานการณ์ระหว่างปีกวัย 20 ปี กับสโมสรกลับมาตึงเครียดอีกครั้ง นอกจากนี้ สเตอร์ลิง แจ้งกับต้นสังกัดว่าตัวเขาจะไม่เข้าร่วมทัวร์ปรีซีซันกับลิเวอร์พูล และหวังว่าการเจรจาย้ายทีมไป แมนเชสเตอร์ซิตี จะจบสิ้นลงก่อนเริ่มโปรแกรมทัวร์ที่ประเทศไทย ต่อมา ในวันที่ 13 กรกฎาคม ค.ศ. 2015 สโมสรลิเวอร์พูล เดินทางมาปรีซีซันที่ประเทศไทย โดย สเตอร์ลิง ไม่ได้เดินทางมาด้วย
และหลังจากนั้นเพียงไม่กี่วัน สเตอร์ลิงก็ได้ย้ายเข้าไปสังกัดแมนเชสเตอร์ซิตี เป็นที่เรียบร้อยด้วยค่าตัวสูงถึง 49 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2.45 พันล้านบาท) ด้วยระยะเวลาสัญญานาน 5 ปี
แมนเชสเตอร์ซิตี
ฤดูกาล 2015-16
ก่อนเริ่มฤดูกาล 2015–16 สเตอร์ลิงได้ย้ายเข้าสังกัดแมนเชสเตอร์ซิตี ด้วยค่าตัวสูงถึง 49 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2.45 พันล้านบาท) ด้วยระยะเวลาสัญญานาน 5 ปี ซึ่งมูลค่าที่สูงถึงขนาดนี้ บรรดาผู้สนับสนุนลิเวอร์พูลต่างมองว่าเป็นการขายที่สโมสรคุ้มค่ามากที่สุด โดยสเตอร์ลิงยังได้ทำสถิติเป็นผู้เล่นอายุไม่เกิน 21 ปีที่แพงที่สุด และเป็นผู้เล่นของแมนเชสเตอร์ซิตีที่มีค่าตัวแพงที่สุดของสโมสร และเป็นผู้เล่นที่มีค่าตัวแพงที่สุดเป็นอันดับที่ 13 ของโลก และเป็นสถิติอันดับ 3 ของพรีเมียร์ลีก
สเตอร์ลิงยิงให้กับแมนเชสเตอร์ซิตีลูกแรกได้ทันทีที่ลงเล่นนัดแรก ในรายการอินเตอร์เนชันแนลแชมเปียนส์คัพ 2015 ในนาทีที่ 3 ที่พบกับ โรมา ในการแข่งขันที่ออสเตรเลีย
ทีมชาติอังกฤษ
ราฮีม สเตอร์ลิง ติดทีมชาติอังกฤษ ชุดใหญ่ นัดแรก ในวันที่ 14 พฤศจิกายน ค.ศ. 2012 ในนัดที่อุ่นเครื่องกระชับมิตร กับ สวีเดน ในวันที่ 5 มีนาคม ค.ศ. 2014 สเตอร์ลิง ได้ลงเล่นนัดที่สองให้กับทีมชาติและโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม ในนัดที่ อังกฤษ เอาชนะ เดนมาร์ก 1-0 ในเกมอุ่นเครื่องกระชับมิตร ที่สนามกีฬาเวมบลีย์
ฟุตบอลโลก 2014
ในวันที่ 12 พฤษภาคม ค.ศ. 2014 ทีมชาติอังกฤษได้เรียกตัว ราฮีม สเตอร์ลิง ติดรายชื่อ 23 คน ชุดลุยศึก ฟุตบอลโลก 2014 ที่บราซิล โดย อังกฤษ ได้อยู่กลุ่ม D ร่วมกับ อุรุกวัย, คอสตาริกา และ อิตาลี ในวันที่ 14 มิถุนายน ค.ศ. 2014 สเตอร์ลิง ได้ลงสนามเป็นตัวจริงในฟุตบอลโลก กลุ่ม D นัดแรก ในนัดที่แพ้ให้กับ อิตาลี 1-2 สุดท้าย อังกฤษ ก็ต้องตกรอบแรก ได้อันดับสุดท้ายของกลุ่ม D เสมอ 1 แพ้ 2 (แพ้ อิตาลี 1-2, แพ้ อุรุกวัย 1-2 และ เสมอ คอสตาริกา 0-0) ทำให้ทีมชาติอังกฤษต้องจบเส้นทางฟุตบอลโลกที่บราซิลเพียงรอบแรกเท่านั้น และเป็นครั้งแรกในรอบ 56 ปีที่อังกฤษตกรอบแรกฟุตบอลโลก
ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2016 รอบคัดเลือก
ในวันที่ 27 มีนาคม ค.ศ. 2015 สเตอร์ลิง ได้ทำประตูแรกในนามทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่ ในนัดที่ อังกฤษ เปิดสนามกีฬาเวมบลีย์เอาชนะ ลิทัวเนีย 4-0
ประตูในนามทีมชาติ
No. | วันที่ | สนาม | คู่แข่งขัน | ประตู | ผล | การแข่งขัน |
---|---|---|---|---|---|---|
1. | 27 มีนาคม 2015 | สนามกีฬาเวมบลีย์, ลอนดอน | ลิทัวเนีย | ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2016 รอบคัดเลือก |
สถิติ
สโมสร
- ลงเล่นใน ยูฟ่ายูโรปาลีก
- ลงเล่นใน ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก
ทีมชาติ
- ณ วันที่ 13 มิถุนายน 2021
สโมสร | ฤดูกาล | ลีก | เอฟเอคัพ | ลีกคัพ | ยุโรป | รวม | ||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ดิวิชัน | ลงเล่น | ประตู | ลงเล่น | ประตู | ลงเล่น | ประตู | ลงเล่น | ประตู | ลงเล่น | ประตู | ||
ลิเวอร์พูล | 2011–12 | พรีเมียร์ลีก | 3 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 3 | 0 |
2012–13 | 24 | 2 | 1 | 0 | 1 | 0 | 10 | 0 | 36 | 2 | ||
2013–14 | 33 | 9 | 3 | 0 | 2 | 1 | 0 | 0 | 38 | 10 | ||
2014–15 | 35 | 7 | 5 | 1 | 4 | 3 | 8 | 0 | 52 | 11 | ||
รวม | 95 | 18 | 9 | 1 | 7 | 4 | 18 | 0 | 129 | 23 | ||
แมนเชสเตอร์ซิตี | 2015–16 | พรีเมียร์ลีก | 31 | 6 | 2 | 1 | 4 | 1 | 10 | 3 | 47 | 11 |
ทีมชาติ | ปี | ลงเล่น | ประตู | |||||||||
อังกฤษ | 2012 | 1 | 0 | |||||||||
2013 | 0 | 0 | ||||||||||
2014 | 12 | 0 | ||||||||||
2015 | 7 | 2 | ||||||||||
2016 | 9 | 0 | ||||||||||
2017 | 6 | 0 | ||||||||||
2018 | 12 | 2 | ||||||||||
2019 | 9 | 8 | ||||||||||
2020 | 2 | 1 | ||||||||||
2021 | 4 | 2 | ||||||||||
รวม | 62 | 15 |
เกียรติประวัติ
รางวัลส่วนตัว
- นักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปีของลิเวอร์พูล (2): 2013–14, 2014–15
- Golden Boy Award (1): 2014
- Standard Chartered Liverpool Player of the Month (2): เมษายน 2014, สิงหาคม 2014
- ประตูยอดเยี่ยมประจำเดือนของอีเอ สปอร์ตส์ (2): เมษายน 2014, มกราคม 2015
อ้างอิง
- "Squads for 2017/18 Premier League confirmed". Premier League. 1 September 2017. สืบค้นเมื่อ 5 December 2017.
- แม่แบบ:Hugman
- "R. Sterling: Summary". Soccerway. Perform Group. สืบค้นเมื่อ 15 May 2018.
- "Liverpool 0-1 Fulham" BBC Sport. 1 May 2012. Retrieved 10 June 2012.
- "Liverpool 4-1 Chelsea" BBC Sport. 8 May 2012. Retrieved 10 June 2012.
- "Liverpool 2-2 Man City" BBC Sport. 26 August 2012. Retrieved 26 August 2012.
- "Liverpool 1-0 Reading" BBC Sport. 20 October 2012. Retrieved 20 October 2012.
- "Liverpool 3-0 Sunderland" BBC Sport. 2 January 2013. Retrieved 6 January 2013.
- ภาพการแข่งขันลิเวอร์พูลพบสเปอร์ส
- ลิเวอร์พูลยกพลคว้าชัยถึงถิ่นสเปอร์สในเกมระดับห้าดาว
- ภาพการแข่งขันลิเวอร์พูลพบคาร์ดิฟฟ์ ซิตี้
- ความยอดเยี่ยมของซัวเรซส่งลิเวอร์พูลสู่ตำแหน่งจ่าฝูง
- ภาพการแข่งขันลิเวอร์พูลพบอาร์เซนอล
- ลิเวอร์พูลเปิดแอนฟิลด์ถล่มอาร์เซนอล 5-1
- ภาพการแข่งขันลิเวอร์พูลเยือนเซาท์แฮมป์ตัน
- ลิเวอร์พูลเอาชนะเซาท์แฮมป์ตันขยับขึ้นอันดับ 2
- ภาพการแข่งขันลิเวอร์พูลพบแมนเชสเตอร์ซิตี
- คูตินโญ่ยิงประตูชัยเอาชนะแมนฯ ซิตี้ 3-2 รั้งจ่าฝูงพรีเมียร์ลีก
- ซัวเรซกวาด 3 รางวัล ในงานประกาศรางวัลสโมสรลิเวอร์พูล
- ลูกยิงของสเตอร์ริดจ์ช่วยให้ลิเวอร์พูลเฉือนชนะทีมนักบุญ
- ลิเวอร์พูลบุกไปยิงสามประตูถึงไวท์ ฮาร์ต เลน
- เจอร์ราร์ดยิงจุดโทษท้ายเกมให้ลิเวอร์พูลคว้าชัยสุดดราม่า
- ลิเวอร์พูลบุกไปพ่ายเวสต์แฮม 1-3
- ความเฉียบขาดของสเตอร์ลิงส่งให้ลิเวอร์พูลทะลุเข้ารอบรองชนะเลิศ
- ราฮีม สเตอร์ลิงคว้ารางวัล โกลเด้น บอย
- ประตูของสเตอร์ลิงคว้าชัยชนะให้ลิเวอร์พูลในวันบ็อกซิ่งเดย์
- ลิเวอร์พูลเปิดแอนฟิลด์เสมอเชลซี 1-1
- สเตอร์ริดจ์ยิงในเกมที่หงส์แดงเอาชนะขุนค้อน
- ลูกยิงท้ายเกมของคูตินโญ่ส่งลิเวอร์พูลผ่านเข้ารอบเอฟเอ คัพ
- ลิเวอร์พูลขยับขึ้นอันดับ 6 หลังเอาชนะทีมนักบุญ
- ลิเวอร์พูลลดช่องว่างท็อปโฟร์หลังชนะนิวคาสเซิล
- 5 ข้อเท็จจริงจากเกมลิเวอร์พูลชนะนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด
- คูตินโญ่กวาด 4 รางวัล ในงานประกาศรางวัล Players' Awards
- สุดแสบ! “สเตอร์ลิง” อ้างป่วย โดดซ้อมทัพ “หงส์”
- “ราฮีม” ออกลายปัดทัวร์ปรีซีซันกับ “หงส์” หวังชิ่งไป “เรือใบ”
- จบมหากาพย์ “เรือใบ” ปิดดีลเซ็น สเตอร์ลิงเข้ารัง
- หน้า 20 กีฬา, ราฮีม สเตอร์ลิง อดีต 'หงส์' อนาคต 'เรือ' โดย หมึกบอล. เดลินิวส์ฉบับที่ 24,016: วันพุธที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 แรม 15 ค่ำ เดือน 8 ปีมะแม
- หน้า 19 ต่อจากหน้า 17 กีฬา, ฟานกัลแย้ม'ผี'ล่าหัวหอก. "เรือใบสีฟ้าดวลเป้าดับโรมา". เดลินิวส์ฉบับที่ 24,023: วันพุธที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 ขึ้น 7 ค่ำ เดือน 8-8 ปีมะแม
- ประตูของสเตอร์ลิง และความยอดเยี่ยมของสเคอร์เทล
- "Games played by Raheem Sterling in 2015/2016". Soccerbase. สืบค้นเมื่อ 15 July 2015.
- Sterling, Raheem ที่ National-Football-Teams.com
"England vs. Croatia 1–0: Summary". Soccerway. Perform Group. สืบค้นเมื่อ 13 June 2021. - รายชื่อผู้ได้รับรางวัล Players' Awards Dinner 2014
- "คูตี้"กวาดรางวัลในงาน LFC Players Award 2015
- ประกาศรายชื่อนักเตะยอดเยี่ยมประจำเดือนเมษายน
- ประกาศรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำเดือนสิงหาคม
- ลูกโยกหลอกของสเตอร์ลิงคว้าประตูยอดเยี่ยมประจำเดือนเมษายน
- สเตอร์ลิงคว้ารางวัลประตูยอดเยี่ยมประจำเดือนมกราคม
แหล่งข้อมูลอื่น
- Profile at liverpoolfc.tv
- ราฮีม สเตอร์ลิง – สถิติการลงแข่งจากสหภาพสมาคมฟุตบอลยุโรป (UEFA) (อังกฤษ)
- สถิติของ ราฮีม สเตอร์ลิง ที่ Soccerbase
- Raheem Sterling – สถิติการลงแข่งจากสหพันธ์ฟุตบอลระหว่างประเทศ (FIFA) (อังกฤษ)
คอมมอนส์ มีภาพและสื่อเกี่ยวกับ: ราฮีม สเตอร์ลิง |