ประวัติ หนังสือ ประวัติวัดทั่วราชอาณาจักร ของกรมการศาสนาระบุว่า วัดสมรโกฏิสร้างขึ้นเมื่อราว พ.ศ. 2294 ในสมัยอยุธยาตอนปลาย ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อ พ.ศ. 2319 สันนิษฐานว่าในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นน่าจะเป็นสำนักเรียนที่สำคัญแห่งหนึ่ง เนื่องจากปรากฏในเอกสารโบราณ เมื่อปีขาล โทศก จ.ศ. 1192 (พ.ศ. 2373) ในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวว่า มีพระสงฆ์รูปหนึ่งจากวัดสมรโกฏิเล่าเรียนคัมภีร์มูลกัจจายน์ได้จนถึงชั้นเอก โดยบันทึกว่าชื่อ "วัดสมรโกษบางลมาศ"
ปี พ.ศ. 2543 เจ้าอาวาสในสมัยนั้นได้ปรับปรุงอุโบสถใหม่โดยใช้แผ่นใยขัดขัดภาพจิตรกรรมฝาผนังออกและปูวอลเปเปอร์แทน
ราวปี พ.ศ. 2546–2547 ชาวบ้านร่วมใจกันบริจาคที่ดินของตนเพื่อตัดถนนจากถนนตัดใหม่คือถนนราชพฤกษ์เข้าสู่ซอยวัดสมรโกฏิและทำซุ้มประตูวัดขึ้นใหม่
อาคารเสนาสนะ อุโบสถเป็นอุโบสถมหาอุด ตั้งขนานไปกับคลองบางระมาด มีหน้าต่างด้านละ 3 ช่อง ประตูด้านหน้า 2 ช่อง ด้านหลังไม่มีประตู ผนังด้านหลังภายนอกติดแผ่นหินอ่อน จารึกการบูรณะใน พ.ศ. 2538 ซึ่งได้เปลี่ยนลวดลายหน้าบัน เดิมเป็นหน้าบันปูนปั้นประดับด้วยถ้วยชาม ในปัจจุบันเป็นรูปธรรมจักร ด้านหน้ามีมุข หน้าบันเป็นปูนปั้นรูปพระนารายณ์ 4 กร ยืนบนนาค เดิมไม่มีมุข เพิ่งสร้างเพิ่มเติมเมื่อ พ.ศ. 2500 ภายในอุโบสถประดิษฐาน พระธนนายก พระพุทธรูปประธานแบบสุโขทัย ปางมารวิชัย ลักษณะพระพักตร์ยิ้มแย้ม อิ่มเอิบ เดิมมีจิตรกรรมฝาผนังแต่ได้ปูวอลเปเปอร์แทน อกเลาประตูเป็นไม้แกะสลักลวดลายต่าง ๆ เช่น พระนารายณ์ พระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ ครุฑ มีภาพจับและรูปสัตว์เล็ก ๆ แทรกอยู่ รูปแบบศิลปะน่าจะเก่าแก่ถึงสมัยอยุธยาตอนปลายหรือต้นรัตนโกสินทร์ ปัจจุบันมีสภาพลบเลือน ทั้งยังถูกทาสีทองทับจนหนา ด้านหลังบานประตูหน้าต่างเขียนภาพจิตรกรรมเป็นรูปเทพทวารบาล ยืนถือพระขรรค์ น่าจะมีอายุราวสมัยรัชกาลที่ 4–5
ภายนอกมีเสมารอบอุโบสถ น่าจะสลักขึ้นจากหิน แต่มาปั้นปูนทับ แล้วทาสีขาวหมดทุกใบ ตั้งอยู่บนฐานเตี้ย ๆ ประดับลวดลายง่าย ๆ เอวเสมาเป็นกระหนกเล็ก ๆ งอนขึ้น ใบเสมาเอกสลักจากหินอ่อนแบบที่นิยมกันในสมัยรัชกาลที่ 3 แต่ถูกปิดประดับด้วยกระจกสีจนหมด
วิหารตั้งอยู่ในกำแพงแก้วข้างอุโบสถ หน้าบันปั้นปูนทาสีเป็นลายธรรมจักร มีหน้าต่างด้านละ 3 ช่อง มีประตูด้านหน้า 1 ช่อง ไม่มีประตูหลัง วิหารได้รับการบูรณะระหว่างปี พ.ศ. 2524–2527 ภายในประดิษฐาน หลวงพ่อดำ น่าจะอายุราวสมัยอยุธยาตอนปลาย เพิ่งมีการลงรักปิดทองหลวงพ่อดำใหม่ทั้งองค์เมื่อ พ.ศ. 2548 ซึ่งคาดว่าลงรักปิดทองเพื่อซ่อมแซมร่องรอยผุพังชำรุด ข้างวิหารมีพระปรางค์ขนาดเล็กประดิษฐานอยู่องค์หนึ่ง
ศาลาการเปรียญเป็นอาคารไม้ทรงไทย สร้างเมื่อ พ.ศ. 2499 บูรณะเมื่อ พ.ศ. 2530 ภายในมีธรรมาสน์ซึ่งมีจารึกอยู่บนพนักพิงหลังว่าสร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2459 หอระฆังได้รับการบูรณะใหม่แต่ยังคงลักษณะเดิมในสมัยอยุธยาตอนปลาย หมู่กุฏิเป็นอาคารไม้เรือนไทย
วัดยังมีโรงเรียนพระปริยัติธรรม เป็นอาคารขนาดเล็ก ตั้งอยู่นอกเขตสังฆาวาส สร้างใน พ.ศ. 2535
รายนามเจ้าอาวาส - พระอธิการเฑียร
- พระอธิการบอน อมโร
- พระมหาลมูล
- พระครูโสภณสาธุวัฒน์ (ทัน ยุตติธมฺโม)
- พระปลัดบุญชู เตชวโร ดำรงตำแหน่งตั้งแต่ พ.ศ. 2541 ถึงปัจจุบัน
อ้างอิง - ศรัณย์ ทองปาน. โครงการสำรวจเพื่อสร้างฐานข้อมูลของวัดในเขตตลิ่งชัน. กรุงเทพฯ : ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน), 2549. หน้า 81.
- วลัยลักษณ์ ทรงศิริ. การศึกษาภูมิหลังและการเปลี่ยนแปลงทางสังคมวัฒนธรรมชุมชนในพื้นที่ตลิ่งชัน. กรุงเทพฯ : ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน), 2552. หน้า 164.
- "วัดสมรโกฏิ". ฐานข้อมูลแหล่งโบราณคดีที่สำคัญในประเทศไทย.
ดสมรโกฏ, กร, งเทพมหานคร, ดสมรโกฏ, สะ, มอ, ระ, โกด, เป, นว, ดราษฎร, งก, ดคณะสงฆ, มหาน, กาย, งอย, มฝ, งเหน, อของคลองบางระมาด, ในแขวงฉ, มพล, เขตตล, งช, กร, งเทพมหานครว, ดสมรโกฏ, งเลขท, ซอยราชพฤกษ, ถนนราชพฤกษ, แขวงฉ, มพล, เขตตล, งช, กร, งเทพมหานคร, 10170ประเภทว, ด. wdsmrokti sa h mx ra okd epnwdrasdrsngkdkhnasngkhmhanikay tngxyurimfngehnuxkhxngkhlxngbangramad inaekhwngchimphli ekhttlingchn krungethphmhankhrwdsmroktithitngelkhthi 12 sxyrachphvks 22 thnnrachphvks aekhwngchimphli ekhttlingchn krungethphmhankhr 10170praephthwdrasdrnikaymhanikayphraprathanphrathnnaykphraphuththrupsakhyhlwngphxdaecaxawasphrapldbuychu etchworswnhnungkhxngsaranukrmphraphuththsasna enuxha 1 prawti 2 xakharesnasna 3 raynamecaxawas 4 xangxingprawti aekikhhnngsux prawtiwdthwrachxanackr khxngkrmkarsasnarabuwa wdsmroktisrangkhunemuxraw ph s 2294 insmyxyuthyatxnplay idrbphrarachthanwisungkhamsimaemux ph s 2319 snnisthanwainsmyrtnoksinthrtxntnnacaepnsankeriynthisakhyaehnghnung enuxngcakpraktinexksarobran emuxpikhal othsk c s 1192 ph s 2373 insmyphrabathsmedcphranngeklaecaxyuhwwa miphrasngkhruphnungcakwdsmroktielaeriynkhmphirmulkccaynidcnthungchnexk odybnthukwachux wdsmroksbanglmas 1 pi ph s 2543 ecaxawasinsmynnidprbprungxuobsthihmodyichaephniykhdkhdphaphcitrkrrmfaphnngxxkaelapuwxlepepxraethn 2 rawpi ph s 2546 2547 chawbanrwmicknbricakhthidinkhxngtnephuxtdthnncakthnntdihmkhuxthnnrachphvksekhasusxywdsmroktiaelathasumpratuwdkhunihmxakharesnasna aekikhxuobsthepnxuobsthmhaxud tngkhnanipkbkhlxngbangramad mihnatangdanla 3 chxng pratudanhna 2 chxng danhlngimmipratu phnngdanhlngphaynxktidaephnhinxxn carukkarburnain ph s 2538 sungidepliynlwdlayhnabn edimepnhnabnpunpnpradbdwythwycham inpccubnepnrupthrrmckr danhnamimukh hnabnepnpunpnrupphranarayn 4 kr yunbnnakh edimimmimukh ephingsrangephimetimemux ph s 2500 phayinxuobsthpradisthan phrathnnayk phraphuththrupprathanaebbsuokhthy pangmarwichy lksnaphraphktryimaeym ximexib edimmicitrkrrmfaphnngaetidpuwxlepepxraethn xkelapratuepnimaekaslklwdlaytang echn phranarayn phraxinthrthrngchangexrawn khruth miphaphcbaelarupstwelk aethrkxyu rupaebbsilpanacaekaaekthungsmyxyuthyatxnplayhruxtnrtnoksinthr pccubnmisphaphlbeluxn thngyngthukthasithxngthbcnhna danhlngbanpratuhnatangekhiynphaphcitrkrrmepnrupethphthwarbal yunthuxphrakhrrkh nacamixayurawsmyrchkalthi 4 5phaynxkmiesmarxbxuobsth nacaslkkhuncakhin aetmapnpunthb aelwthasikhawhmdthukib tngxyubnthanetiy pradblwdlayngay exwesmaepnkrahnkelk ngxnkhun ibesmaexkslkcakhinxxnaebbthiniymkninsmyrchkalthi 3 aetthukpidpradbdwykracksicnhmdwihartngxyuinkaaephngaekwkhangxuobsth hnabnpnpunthasiepnlaythrrmckr mihnatangdanla 3 chxng mipratudanhna 1 chxng immipratuhlng wiharidrbkarburnarahwangpi ph s 2524 2527 phayinpradisthan hlwngphxda nacaxayurawsmyxyuthyatxnplay ephingmikarlngrkpidthxnghlwngphxdaihmthngxngkhemux ph s 2548 sungkhadwalngrkpidthxngephuxsxmaesmrxngrxyphuphngcharud khangwiharmiphraprangkhkhnadelkpradisthanxyuxngkhhnungsalakarepriyyepnxakharimthrngithy srangemux ph s 2499 burnaemux ph s 2530 phayinmithrrmasnsungmicarukxyubnphnkphinghlngwasrangkhunemux ph s 2459 hxrakhngidrbkarburnaihmaetyngkhnglksnaediminsmyxyuthyatxnplay hmukutiepnxakharimeruxnithywdyngmiorngeriynphrapriytithrrm epnxakharkhnadelk tngxyunxkekhtsngkhawas srangin ph s 2535 3 raynamecaxawas aekikhphraxthikarethiyr phraxthikarbxn xmor phramhalmul phrakhruosphnsathuwthn thn yuttithm om phrapldbuychu etchwor darngtaaehnngtngaet ph s 2541 thungpccubnxangxing aekikh srny thxngpan okhrngkarsarwcephuxsrangthankhxmulkhxngwdinekhttlingchn krungethph sunymanusywithyasirinthr xngkhkarmhachn 2549 hna 81 wlylksn thrngsiri karsuksaphumihlngaelakarepliynaeplngthangsngkhmwthnthrrmchumchninphunthitlingchn krungethph sunymanusywithyasirinthr xngkhkarmhachn 2552 hna 164 wdsmrokti thankhxmulaehlngobrankhdithisakhyinpraethsithy ekhathungcak https th wikipedia org w index php title wdsmrokti krungethphmhankhr amp oldid 9304231, wikipedia, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด,
บทความ
, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม
_01.jpg.html){kind=link}