fbpx
วิกิพีเดีย

สงครามยุทธหัตถี

สงครามยุทธหัตถี เป็นสงครามที่เกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2135 ระหว่างกรุงศรีอยุธยากับกรุงหงสาวดี ผลของสงครามครั้งนั้นปรากฏว่าอยุธยาเป็นฝ่ายชนะถึงแม้จะมีกำลังพลน้อยกว่า

สงครามยุทธหัตถี

ภาพวาดยุทธหัตถีบนผนังพระอุโบสถวัดสุวรรณดาราม
วันที่ เดือนยี่ พ.ศ. 2135
สถานที่ ยังไม่เป็นที่ยุติ มีการสันนิษฐานออก 2 มติใหญ่ ๆ คือ
- ต.หนองสาหร่าย อ.ดอนเจดีย์ จ.สุพรรณบุรี
- ต.ดอนเจดีย์ อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี
ผลลัพธ์ กรุงศรีอยุธยาได้รับชัยชนะ
คู่ขัดแย้ง
กรุงศรีอยุธยา กรุงหงสาวดี
ผู้บัญชาการหรือผู้นำ
สมเด็จพระนเรศวรมหาราช
สมเด็จพระเอกาทศรถ
พระยาสีหราชเดโชชัย
พระยาเทพอรชุน
พระยาพระคลัง
พระยาท้ายน้ำ
พระมหาอุปราชา  
พระเจ้าแปร
พระเจ้าตองอู
เจ้าเมืองจาปะโร  
พระเจ้าเชียงใหม่
กำลัง
100,000 คน 240,000 คน

ประวัติสงคราม

 
จิตรกรรมฝาผนังยุทธหัตถี ณ อนุสรณ์สถานแห่งชาติ

ในปี พ.ศ. 2135 พระเจ้านันทบุเรงโปรดให้พระมหาอุปราชามังสามเกียดนำกองทัพทหารสองแสนสี่หมื่นคน มาตีกรุงศรีอยุธยาหมายจะชนะศึกในครั้งนี้ สมเด็จพระนเรศวรทรงทราบจึงทรงเตรียมไพร่พล มีกำลังหนึ่งแสนคนเดินทางออกจากบ้านป่าโมกไปสุพรรณบุรี ข้ามน้ำตรงท่าท้าวอู่ทอง และตั้งค่ายหลวงบริเวณหนองสาหร่าย

เช้าของวันจันทร์ แรม ๒ ค่ำ เดือนยี่ ปีมะโรง พ.ศ. 2135 สมเด็จพระนเรศวรและสมเด็จพระเอกาทศรถทรงเครื่องพิชัยยุทธ สมเด็จพระนเรศวรทรงช้างนามว่าเจ้าพระยาไชยานุภาพ ส่วนสมเด็จพระเอกาทศรถทรงช้างนามว่าเจ้าพระยาปราบไตรจักร ช้างทรงของทั้งสองพระองค์นั้นเป็นช้างชนะงา คือช้างมีงาที่ได้รับการฝึกให้รู้จักการต่อสู้มาแล้วหรือเคยผ่านสงครามชนช้างชนะช้างตัวอื่นมาแล้ว ซึ่งเป็นช้างที่กำลังตกมัน ในระหว่างการรบจึงวิ่งไล่ตามพม่าหลงเข้าไปในแดนพม่า มีเพียงทหารรักษาพระองค์และจาตุรงค์บาทเท่านั้นที่ติดตามไปทัน

สมเด็จพระนเรศวรทอดพระเนตรเห็นพระมหาอุปราชาทรงพระคชสารอยู่ในร่มไม้กับเหล่าท้าวพระยา จึงทราบได้ว่าช้างทรงของสองพระองค์หลงถลำเข้ามาถึงกลางกองทัพ และตกอยู่ในวงล้อมข้าศึกแล้ว แต่ด้วยพระปฏิภาณไหวพริบของสมเด็จพระนเรศวร ทรงเห็นว่าเป็นการเสียเปรียบข้าศึกจึงไสช้างเข้าไปใกล้ แล้วตรัสถามด้วยคุ้นเคยมาก่อนแต่วัยเยาว์ว่า "พระเจ้า พี่เราจะยืนอยู่ใยในร่มไม้เล่า เชิญออกมาทำยุทธหัตถีด้วยกัน ให้เป็นเกียรติยศไว้ในแผ่นดินเถิด ภายหน้าไปไม่มีพระเจ้าแผ่นดินที่จะได้ยุทธหัตถีแล้ว"

พระมหาอุปราชาได้ยินดังนั้น จึงไสช้างนามว่า พลายพัทธกอเข้าชนเจ้าพระยาไชยานุภาพเสียหลัก พระมหาอุปราชาทรงฟันสมเด็จพระนเรศวรด้วยพระแสงของ้าว แต่สมเด็จพระนเรศวรทรงเบี่ยงหลบทัน จึงฟันถูกพระมาลาหนังขาด จากนั้นเจ้าพระยาไชยานุภาพชนพลายพัทธกอเสียหลัก สมเด็จพระนเรศวรทรงฟันด้วยพระแสงของ้าวถูกพระมหาอุปราชาเข้าที่อังสะขวา สิ้นพระชนม์อยู่บนคอช้าง

ส่วน สมเด็จพระเอกาทศรถทรงฟันเจ้าเมืองจาปะโรเสียชีวิตเช่นกัน ทหารพม่าเห็นว่าแพ้แน่แล้ว จึงใช้ปืนระดมยิงใส่สมเด็จพระนเรศวรได้รับบาดเจ็บ ทันใดนั้น ทัพหลวงไทยตามมาช่วยทัน จึงรับทั้งสองพระองค์กลับพระนคร พม่าจึงยกทัพกลับกรุงหงสาวดีไป นับแต่นั้นมาก็ไม่มีกองทัพใดกล้ายกมากล้ำกรายกรุงศรีอยุธยาอีกเป็นระยะเวลาอีกยาวนาน

แต่ในมหาราชวงศ์ระบุว่าการยุทธหัตถีครั้งนี้ ช้างทรงของสมเด็จพระนเรศวรบุกเข้าไปในวงล้อมของฝ่ายพม่า ฝ่ายพม่าก็มีการยืนช้างเรียงเป็นหน้ากระดาน มีทั้งช้างของพระมหาอุปราชา ช้างของเจ้าเมืองชามะโรง ทหารฝ่ายสมเด็จพระนเรศวรก็ระดมยิงปืนใส่ฝ่ายพม่า เจ้าเมืองชามะโรงสั่งเปิดผ้าหน้าราหูช้างของตน เพื่อไสช้างเข้ากระทำยุทธหัตถีกับสมเด็จพระนเรศวรเพื่อป้องกันพระมหาอุปราชา แต่ปรากฏว่าช้างของเจ้าของชามะโรงเกิดวิ่งเข้าใส่ช้างของพระมหาอุปราชาเกิดชุลมุนวุ่นวาย กระสุนปืนลูกหนึ่งของทหารฝ่ายสมเด็จพระนเรศวรก็ยิงถูกพระมหาอุปราชาสิ้นพระชนม์

ผลกระทบ

การตีเมืองทะวายและตะนาวศรี

ศึก ทะวายและตะนาวศรีนั้น เป็นการรบในระหว่างคนต้องโทษกับคนต้องโทษด้วยกัน กล่าวคือ ทางกรุงศรีอยุธยพาพวกนายทัพที่ตามเสด็จไม่ทันในวันยุทธหัตถีนั้น มีถึง 6 คนคือ พระยาพิชัยสงคราม พระยารามกำแหง เจ้าพระยาจักรี พระยาพระคลัง และพระยาศรีไสยณรงค์ สมเด็จพระนเรศวรรับสั่งให้ปรึกษาโทษ ลูกขุนปรึกษาโทษให้ประหารชีวิต สมเด็จพระพนรัตน์ป่าแก้วมาถวายพระพรว่าการที่แม่ทัพเหล่านั้นตามเสด็จไม่ทัน ก็เพราะบุญญาภินิหารของพระองค์ ที่จะได้รับเกียรติคุณเป็นวีรบุรุษที่แท้จริง ด้วยเหตุว่าถ้าพวกนั้นตามไปทันแล้วถึงจะชนะก็ไม่เป็นชื่อเสียงใหญ่หลวง เหมือนที่เสด็จไปโดยลำพัง เมื่อเห็นว่าสมเด็จพระนเรศวรทรงเลื่อมใสในคำบรรยายข้อนี้แล้ว ก็ทูลขอโทษพวกแม่ทัพเหล่านี้ไว้ สมเด็จพระนเรศวรก็โปรดประทานให้ แต่พวกนี้จะต้องไปตีทะวายและตะนาวศรีเป็นการแก้ตัว จึงให้เจ้าพระยาจักรีเป็นแม่ทัพคุมพลห้าหมื่นไปตีตะนาวศรี พระยาพระคลังคุมกำลังพลหมื่นเหมือนกันไปตีทะวาย ส่วนแม่ทัพอื่นๆ ที่ต้องโทษก็แบ่งกันไปในสองกองทัพนี้คือพระยาพิชัยสงครามกับพระยารามคำแหงไป ตีเมืองทะวายกับพระยาพระคลัง และให้พระยาเทพอรชุนกับพระยาศรีไสยณรงค์ไปตีเมืองตะนาวศรีกับเจ้าพระยาจักรี

ส่วนทางหงสาวดีเมื่อพระเจ้านันทบุเรงเสียพระโอรสรัชทายาทแล้วก็โทมนัส ให้ขังแม่ทัพนายกองไว้ทั้งหมด แต่ภายหลังทรงดำริว่าไทยชนะพม่าในครั้งนี้แล้วก็จะต้องมาตีพม่าโดยไม่ต้องสงสัย ก่อนที่ไทยไปรบพม่าก็จะต้องดำเนินการอย่างเดียวกันกับที่พม่ารบกับไทย กล่าวคือ จะต้องเอามอญไว้ในอำนาจเสียก่อนและเป็นการแน่นอนว่าไทยจะต้องเข้ามาตีทะวาย และตะนาวศรี ด้วยเหตุนี้จึงให้แม่ทัพนายกองที่ไปแพ้สงครามครั้งนี้ไปทำการแก้ตัวรักษา เมืองตะนาวศรีและเมืองทะวาย เป็นอันว่าทั้งผู้รบและผู้รับทั้งสองฝ่าย ตกอยู่ในฐานคนผิดที่จะต้องทำการแก้ตัวทั้งสิ้น

ในการรบทวายและตะนาวศรีครั้ง นี้แม่ทัพทั้งสองคือ เจ้าพระยาจักรีและพระยาคลัง ทำการกลมเกลียวกันเป็นอย่างยิ่ง ถึงแม้สมเด็จพระนเรศวรจะได้แบ่งหน้าที่ให้ตีคนละเมือง ก็ยังมีการติดต่อช่วยเหลือกันและกัน ในที่สุดแม่ทัพทั้งสองก็รบชนะทั้งสองเมืองและบอกเข้ามายังกรุงศรีอยุธยา สมเด็จพระนเรศวรได้โปรดเกล้าฯ ให้พระยาศรีไสยณรงค์อยู่ครองเมืองตะนาวศรี ส่วนทางเมืองทะวายนั้นให้เจ้าเมืองทะวายคนเก่าครองต่อไป ชัยชนะครั้งนี้เป็นอันทำให้แม่ทัพทั้งหลายพ้นโทษ แต่ทางพม่าแม่ทัพกลับถูกทำโทษประการใดไม่ปรากฏ แต่อย่างไรก็ดี การที่ชัยชนะทะวายและตะนาวศรีครั้งนี้ ทำให้อำนาจของไทยแผ่ลงไปทางใต้เท่ากับในรัชสมัยพ่อขุนรามคำแหงมหาราช

การจัดลำดับทัพ

กองทัพพม่า แบ่งออกเป็นสี่กองทัพ คือ

  • กองทัพเมืองแปร อุปราชเมืองแปรเป็นนายทัพ
  • กองทัพเมืองตองอู อุปราชเมืองตองอูเป็นนายทัพ
  • กองทัพหงสาวดี มังกะยอชวาเป็นนายทัพ และเป็นทัพหลวง
  • กองทัพเมืองเชียงใหม่

ส่วน กองทัพอยุธยา พระนเรศวรทรงจัดทัพเป็นขบวนเบญจเสนา 5 ทัพ ดังนี้

  • ทัพที่ 1 เป็นกองหน้า
    • พระยาสีหราชเดโชชัย เป็นนายทัพ
    • พระยาพิชัยรณฤทธิ์ เป็นปีกขวา
    • พระยาวิชิตณรงค์ เป็นปีกซ้าย
  • ทัพที่ 2 เป็นกองเกียกกาย
    • พระยาเทพอรชุน เป็นนายทัพ
    • พระยาพิชัยสงคราม เป็นปีกขวา
    • พระยารามคำแหง เป็นปีกซ้าย
  • ทัพที่ 4 เป็นกองยกกระบัตร
    • พระยาพระคลัง เป็นนายทัพ
    • พระราชสงคราม เป็นปีกขวา
    • พระรามรณภพ เป็นปีกซ้าย
  • ทัพที่ 5 เป็นกองหลัง
    • พระยาท้ายน้ำ เป็นนายทัพ
    • หลวงหฤทัย เป็นปีกขวา
    • หลวงอภัยสุรินทร์ เป็นปีกซ้าย

ดูเพิ่ม

อ้างอิง

  1. "เจดีย์ยุทธหัตถี ตั้งอยู่ที่ไหนกันแน่?". ธนาคารสมอง. 17 June 2008. สืบค้นเมื่อ 22 June 2014.
  2. พระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา ฉบับหมอบรัดเล, หน้า 141-142
  3. พระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา ฉบับหมอบรัดเล, หน้า 144-145
  4. พระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา ฉบับหมอบรัดเล, หน้า 144
  5. พระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา ฉบับหมอบรัดเล, หน้า 145-146
  6. "คุณพระช่วย". ช่อง 9. 21 June 2014. สืบค้นเมื่อ 22 June 2014.
  7. สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ, หน้า 118-121
  8. พระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา ฉบับหมอบรัดเล, หน้า 147
  9. สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ, หน้า 121
  10. สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ, หน้า 121-123
  11. พระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา ฉบับหมอบรัดเล, หน้า 153-155

สงครามย, ทธห, ตถ, เป, นสงครามท, เก, ดข, นในป, 2135, ระหว, างกร, งศร, อย, ธยาก, บกร, งหงสาวด, ผลของสงครามคร, งน, นปรากฏว, าอย, ธยาเป, นฝ, ายชนะถ, งแม, จะม, กำล, งพลน, อยกว, าภาพวาดย, ทธห, ตถ, บนผน, งพระอ, โบสถว, ดส, วรรณดารามว, นท, เด, อนย, 2135สถานท, งไม, เป, . sngkhramyuththhtthi epnsngkhramthiekidkhuninpi ph s 2135 rahwangkrungsrixyuthyakbkrunghngsawdi phlkhxngsngkhramkhrngnnpraktwaxyuthyaepnfaychnathungaemcamikalngphlnxykwasngkhramyuththhtthiphaphwadyuththhtthibnphnngphraxuobsthwdsuwrrndaramwnthi eduxnyi ph s 2135sthanthi yngimepnthiyuti mikarsnnisthanxxk 2 mtiihy khux t hnxngsahray x dxnecdiy c suphrrnburi t dxnecdiy x phnmthwn c kaycnburi 1 phllphth krungsrixyuthyaidrbchychnakhukhdaeyngkrungsrixyuthya krunghngsawdiphubychakarhruxphunasmedcphranerswrmharachsmedcphraexkathsrthphrayasihrachedochchyphrayaethphxrchunphrayaphrakhlngphrayathayna phramhaxupracha phraecaaeprphraecatxngxuecaemuxngcapaor phraecaechiyngihmkalng100 000 khn 240 000 khntrapracacnghwdsuphrrnburiinpccubn aesdngthungsngkhramyuththhtthirahwangsmedcphranerswrmharachkbphramhaxuprachmngkayxchwa enuxha 1 prawtisngkhram 2 phlkrathb 2 1 kartiemuxngthawayaelatanawsri 3 karcdladbthph 4 duephim 5 xangxingprawtisngkhram aekikh citrkrrmfaphnngyuththhtthi n xnusrnsthanaehngchati inpi ph s 2135 phraecannthbuerngoprdihphramhaxuprachamngsamekiydnakxngthphthharsxngaesnsihmunkhn matikrungsrixyuthyahmaycachnasukinkhrngni smedcphranerswrthrngthrabcungthrngetriymiphrphl mikalnghnungaesnkhnedinthangxxkcakbanpaomkipsuphrrnburi khamnatrngthathawxuthxng aelatngkhayhlwngbriewnhnxngsahray 2 echakhxngwncnthr aerm 2 kha eduxnyi pimaorng ph s 2135 smedcphranerswraelasmedcphraexkathsrththrngekhruxngphichyyuthth smedcphranerswrthrngchangnamwaecaphrayaichyanuphaph swnsmedcphraexkathsrththrngchangnamwaecaphrayaprabitrckr changthrngkhxngthngsxngphraxngkhnnepnchangchnanga khuxchangmingathiidrbkarfukihruckkartxsumaaelwhruxekhyphansngkhramchnchangchnachangtwxunmaaelw sungepnchangthikalngtkmn inrahwangkarrbcungwingiltamphmahlngekhaipinaednphma miephiyngthharrksaphraxngkhaelacaturngkhbathethannthitidtamipthn 3 smedcphranerswrthxdphraentrehnphramhaxuprachathrngphrakhchsarxyuinrmimkbehlathawphraya cungthrabidwachangthrngkhxngsxngphraxngkhhlngthlaekhamathungklangkxngthph aelatkxyuinwnglxmkhasukaelw aetdwyphraptiphanihwphribkhxngsmedcphranerswr thrngehnwaepnkaresiyepriybkhasukcungischangekhaipikl aelwtrsthamdwykhunekhymakxnaetwyeyawwa phraeca phieracayunxyuiyinrmimela echiyxxkmathayuththhtthidwykn ihepnekiyrtiysiwinaephndinethid phayhnaipimmiphraecaaephndinthicaidyuththhtthiaelw 4 phramhaxuprachaidyindngnn cungischangnamwa phlayphththkxekhachnecaphrayaichyanuphaphesiyhlk phramhaxuprachathrngfnsmedcphranerswrdwyphraaesngkhxngaw aetsmedcphranerswrthrngebiynghlbthn cungfnthukphramalahnngkhad caknnecaphrayaichyanuphaphchnphlayphththkxesiyhlk smedcphranerswrthrngfndwyphraaesngkhxngawthukphramhaxuprachaekhathixngsakhwa sinphrachnmxyubnkhxchang 5 swn smedcphraexkathsrththrngfnecaemuxngcapaoresiychiwitechnkn thharphmaehnwaaephaenaelw cungichpunradmyingissmedcphranerswridrbbadecb thnidnn thphhlwngithytammachwythn cungrbthngsxngphraxngkhklbphrankhr phmacungykthphklbkrunghngsawdiip nbaetnnmakimmikxngthphidklaykmaklakraykrungsrixyuthyaxikepnrayaewlaxikyawnan 5 aetinmharachwngsrabuwakaryuththhtthikhrngni changthrngkhxngsmedcphranerswrbukekhaipinwnglxmkhxngfayphma fayphmakmikaryunchangeriyngepnhnakradan mithngchangkhxngphramhaxupracha changkhxngecaemuxngchamaorng thharfaysmedcphranerswrkradmyingpunisfayphma ecaemuxngchamaorngsngepidphahnarahuchangkhxngtn ephuxischangekhakrathayuththhtthikbsmedcphranerswrephuxpxngknphramhaxupracha aetpraktwachangkhxngecakhxngchamaorngekidwingekhaischangkhxngphramhaxuprachaekidchulmunwunway krasunpunlukhnungkhxngthharfaysmedcphranerswrkyingthukphramhaxuprachasinphrachnm 6 phlkrathb aekikhkartiemuxngthawayaelatanawsri aekikh suk thawayaelatanawsrinn epnkarrbinrahwangkhntxngothskbkhntxngothsdwykn klawkhux thangkrungsrixyuthyphaphwknaythphthitamesdcimthninwnyuththhtthinn mithung 6 khnkhux phrayaphichysngkhram phrayaramkaaehng ecaphrayackri phrayaphrakhlng aelaphrayasriisynrngkh smedcphranerswrrbsngihpruksaoths lukkhunpruksaothsihpraharchiwit smedcphraphnrtnpaaekwmathwayphraphrwakarthiaemthphehlanntamesdcimthn kephraabuyyaphiniharkhxngphraxngkh thicaidrbekiyrtikhunepnwirburusthiaethcring dwyehtuwathaphwknntamipthnaelwthungcachnakimepnchuxesiyngihyhlwng ehmuxnthiesdcipodylaphng emuxehnwasmedcphranerswrthrngeluxmisinkhabrryaykhxniaelw kthulkhxothsphwkaemthphehlaniiw smedcphranerswrkoprdprathanih aetphwknicatxngiptithawayaelatanawsriepnkaraektw cungihecaphrayackriepnaemthphkhumphlhahmuniptitanawsri phrayaphrakhlngkhumkalngphlhmunehmuxnkniptithaway swnaemthphxun thitxngothskaebngknipinsxngkxngthphnikhuxphrayaphichysngkhramkbphrayaramkhaaehngip tiemuxngthawaykbphrayaphrakhlng aelaihphrayaethphxrchunkbphrayasriisynrngkhiptiemuxngtanawsrikbecaphrayackri 7 8 swnthanghngsawdiemuxphraecannthbuerngesiyphraoxrsrchthayathaelwkothmns ihkhngaemthphnaykxngiwthnghmd aetphayhlngthrngdariwaithychnaphmainkhrngniaelwkcatxngmatiphmaodyimtxngsngsy kxnthiithyiprbphmakcatxngdaeninkarxyangediywknkbthiphmarbkbithy klawkhux catxngexamxyiwinxanacesiykxnaelaepnkaraennxnwaithycatxngekhamatithaway aelatanawsri dwyehtunicungihaemthphnaykxngthiipaephsngkhramkhrngniipthakaraektwrksa emuxngtanawsriaelaemuxngthaway epnxnwathngphurbaelaphurbthngsxngfay tkxyuinthankhnphidthicatxngthakaraektwthngsin 9 inkarrbthwayaelatanawsrikhrng niaemthphthngsxngkhux ecaphrayackriaelaphrayakhlng thakarklmekliywknepnxyangying thungaemsmedcphranerswrcaidaebnghnathiihtikhnlaemuxng kyngmikartidtxchwyehluxknaelakn inthisudaemthphthngsxngkrbchnathngsxngemuxngaelabxkekhamayngkrungsrixyuthya smedcphranerswridoprdekla ihphrayasriisynrngkhxyukhrxngemuxngtanawsri swnthangemuxngthawaynnihecaemuxngthawaykhnekakhrxngtxip chychnakhrngniepnxnthaihaemthphthnghlayphnoths aetthangphmaaemthphklbthukthaothsprakaridimprakt aetxyangirkdi karthichychnathawayaelatanawsrikhrngni thaihxanackhxngithyaephlngipthangitethakbinrchsmyphxkhunramkhaaehngmharach 10 11 karcdladbthph aekikhkxngthphphma aebngxxkepnsikxngthph khux kxngthphemuxngaepr xuprachemuxngaeprepnnaythph kxngthphemuxngtxngxu xuprachemuxngtxngxuepnnaythph kxngthphhngsawdi mngkayxchwaepnnaythph aelaepnthphhlwng kxngthphemuxngechiyngihmswn kxngthphxyuthya phranerswrthrngcdthphepnkhbwnebycesna 5 thph dngni thphthi 1 epnkxnghna phrayasihrachedochchy epnnaythph phrayaphichyrnvththi epnpikkhwa phrayawichitnrngkh epnpiksaythphthi 2 epnkxngekiykkay phrayaethphxrchun epnnaythph phrayaphichysngkhram epnpikkhwa phrayaramkhaaehng epnpiksaythphthi 3 epnkxnghlwng smedcphranerswrmharach epncxmthph smedcphraexkathsrth ecaphrayamhaesna epnpikkhwa ecaphrayackri epnpiksaythphthi 4 epnkxngykkrabtr phrayaphrakhlng epnnaythph phrarachsngkhram epnpikkhwa phraramrnphph epnpiksaythphthi 5 epnkxnghlng phrayathayna epnnaythph hlwnghvthy epnpikkhwa hlwngxphysurinthr epnpiksayduephim aekikhsmedcphranerswrmharach mngkayxchwa ecaphrayaprabhngsawdi phraecannthbuerng yuththhtthixangxing aekikh ecdiyyuththhtthi tngxyuthiihnknaen thnakharsmxng 17 June 2008 subkhnemux 22 June 2014 phrarachphngsawdarkrungsrixyuthya chbbhmxbrdel hna 141 142 phrarachphngsawdarkrungsrixyuthya chbbhmxbrdel hna 144 145 phrarachphngsawdarkrungsrixyuthya chbbhmxbrdel hna 144 5 0 5 1 phrarachphngsawdarkrungsrixyuthya chbbhmxbrdel hna 145 146 khunphrachwy chxng 9 21 June 2014 subkhnemux 22 June 2014 smedc krmphrayadarngrachanuphaph hna 118 121 phrarachphngsawdarkrungsrixyuthya chbbhmxbrdel hna 147 smedc krmphrayadarngrachanuphaph hna 121 smedc krmphrayadarngrachanuphaph hna 121 123 phrarachphngsawdarkrungsrixyuthya chbbhmxbrdel hna 153 155ekhathungcak https th wikipedia org w index php title sngkhramyuththhtthi amp oldid 9423175, wikipedia, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด,

บทความ

, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม