ประเทศเช็กเกีย
เช็กเกีย (อังกฤษ: Czechia; เช็ก: Česko) หรือชื่ออย่างเป็นทางการว่า สาธารณรัฐเช็ก (อังกฤษ: Czech Republic; เช็ก: Česká republika) เป็นประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล อยู่ในภูมิภาคยุโรปกลาง พรมแดนทางตอนเหนือจรดประเทศโปแลนด์ ทางตะวันตกและตะวันตกเฉียงเหนือจรดเยอรมนี ทางใต้จรดออสเตรีย และทางตะวันออกจรดสโลวาเกีย
สาธารณรัฐเช็ก Česká republika (เช็ก) | |
---|---|
ที่ตั้งของ เช็กเกีย (สีเขียวเข้ม) – ในทวีปยุโรป (สีเขียว & สีเทาเข้ม) | |
เมืองหลวง และ ใหญ่สุด | ปราก |
ภาษาราชการ | ภาษาเช็ก |
การปกครอง | รัฐเดี่ยว ระบบรัฐสภา สาธารณรัฐรัฐธรรมนูญ |
• ประธานาธิบดี | ไมลอส ซีแมน |
• นายกรัฐมนตรี | อันเดรจ บาบิส |
เอกราช | |
• ประกาศ | 28 ตุลาคม พ.ศ. 2461 |
• การสลายตัว1 | 1 มกราคม พ.ศ. 2536 |
พื้นที่ | |
• รวม | 78,866 ตารางกิโลเมตร (30,450 ตารางไมล์) (115) |
2 | |
ประชากร | |
• พ.ศ. 2560 ประมาณ | 10,610,947 (84) |
• สำมะโนประชากร พ.ศ. 2554 | 10,436,560 |
134 ต่อตารางกิโลเมตร (347.1 ต่อตารางไมล์) (87) | |
จีดีพี (อำนาจซื้อ) | 2560 (ประมาณ) |
• รวม | $ 372.617 พันล้าน |
• ต่อหัว | $ 35,223 |
จีดีพี (ราคาตลาด) | 2560 (ประมาณ) |
• รวม | $ 209.652 พันล้าน |
• ต่อหัว | $ 19,818 |
จีนี (2562) | 24.0 ต่ำ · อันดับที่ 5 |
HDI (2562) | 0.900 สูงมาก · อันดับที่ 27 |
สกุลเงิน | โครูนาเช็ก (CZK) |
เขตเวลา | UTC+1 (CET) |
• ฤดูร้อน (DST) | UTC+2 (CEST) |
รหัสโทรศัพท์ | 4202 |
โดเมนบนสุด | .cz |
เช็กเกียประกอบด้วยภูมิภาคที่เก่าแก่สองส่วน คือ โบฮีเมียและมอเรเวีย และส่วนหนึ่งของภูมิภาคที่สาม เรียกว่า ไซลีเซีย ประเทศนี้ได้เข้าเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2547 เมืองหลวงของประเทศคือ ปราก เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ และเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศด้วย เมืองสำคัญอื่น ๆ ของประเทศ ได้แก่ เบอร์โน, ออสตราวา, เปิลเซน, ฮราเดตส์กราลอเว, เชสเกบุดเยยอวีตเซ และอูสตีนัดลาเบม
นับตั้งแต่การยุบเลิกประเทศเชโกสโลวาเกียเมื่อปลายปี พ.ศ. 2535 กระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงศึกษาธิการของสาธารณรัฐเช็กได้สนับสนุนให้ใช้ชื่อประเทศแบบสั้นเป็นภาษาอังกฤษว่า "เช็กเกีย" (Czechia) แต่ก็ยังไม่เป็นที่แพร่หลายนัก จนกระทั่งในวันที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 คณะรัฐมนตรีสาธารณรัฐเช็กได้มีมติเห็นชอบให้ใช้ชื่อ "เช็กเกีย" เป็นชื่อเรียกประเทศแบบสั้นอย่างเป็นทางการ
ภูมิศาสตร์
เช็กเกียเป็นดินแดนที่ประกอบด้วย ที่ราบสูง พื้นที่ส่วนใหญ่อยู่สูงกว่าน้ำทะเล 200 เมตร นอกจากนั้นยังประกอบด้วย เนินเขา แม่น้ำรวมถึงทะเลสาบขนาดเล็ก ๆ อยู่ทั่วไป เช็กเกียเช็กเป็นแหล่งเพาะปลูกพืชหลายชนิด เพราะมีดินที่อุดมสมบูรณ์ มีอากาศแบบอบอุ่นภาคพื้นทวีป มีแร่ธาตุหลายชนิด แร่ที่สำคัญได้แก่ ถ่านหินและยูเรเนียม
สภาพอากาศ
สภาพอากาศของเช็กเกีย มีอากาศหนาวอยู่ในเขตอบอุ่น หน้าร้อนจะอบอุ่น หน้าหนาวจะหนาว (ยุโรปอยู่ระหว่าง 35 องศาเหนือ - 71 องศาเหนือ)
ประวัติศาสตร์
กลุ่มรัฐสลาฟ
ดินแดนของเช็กเกียในปัจจุบัน มีประวัติศาสตร์ย้อนหลังไปราว 2,000 ปี นับตั้งแต่เมื่อชนเผ่าสลาวอนิก (Slavonic Tribes) หรือชนเผ่าสลาฟ ได้เข้ามาตั้งถิ่นฐานแคว้นโบฮีเมียได้พัฒนาเป็นรัฐอิสระเป็นครั้งแรกในคริสต์ศตวรรษที่ 9 แต่ต่อมาในคริสต์ศตวรรษที่ 13 ชนเผ่าเยอรมันได้อพยพเข้ามายึดดินแดนเช็กในปัจจุบันเป็นอาณานิคม ซึ่งเป็นปัจจัยที่สร้างวัฒนธรรมเช็กให้มีทั้งลักษณะของชนเผ่าเยอรมันและชนเผ่าสลาฟ กรุงปรากจึงเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมอันหลากหลาย อาทิ โรมาเนสก์ กอทิก สมัยฟื้นฟูศิลปวิทยา บาโรก รวมทั้งศิลปะรูปแบบต่าง ๆ ทำให้กรุงปรากเป็นเมืองที่แสดงให้เห็นถึงประวัติความเป็นมาของเช็กเกียได้อย่างดี ตั้งแต่สมัยอาณาจักรโรมัน จนกระทั่งถึงสมัยราชวงศ์ฮับสบูร์ก (ราวศตวรรษที่ 15-18) และองค์การยูเนสโก ได้เลือกให้เป็นมรดกโลกด้านวัฒนธรรม นอกจากนี้ เช็กยังมีชื่อเสียงและประวัติศาสตร์อันยาวนานด้านการผลิตเบียร์ โดยเฉพาะที่เมืองเปิลเซน (Plzen)
กรุงปรากเป็นเมืองที่สำคัญในยุโรปตั้งแต่สมัยอาณาจักรโรมันและยุคกลางของยุโรป จักรพรรดิคาร์ลที่ 4แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ ได้ก่อตั้งมหาวิทยาลัยชาลส์ (Charles University) ขึ้นที่กรุงปรากซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรปตะวันออก ในช่วงยุคกลาง เช็กเกียอยู่ภายใต้การปกครองของคริสตจักรเช่นเดียวกับดินแดนอื่น ๆ ในยุโรป จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2069 เช็กเกียจึงตกอยู่ภายใต้การควบคุมของราชวงศ์ฮับสบูร์ก ในศตวรรษที่ 19 เริ่มมีการฟื้นฟูความตระหนักถึงชนชาติ ซึ่งถึงจุดสูงสุดในปี พ.ศ. 2391 เมื่อกรุงปรากเป็นเมืองแรกในอาณาจักรฮับสบูร์กที่เรียกร้องให้มีการปฏิรูป และต้องการแยกตัวเป็นรัฐอิสระ แต่ไม่ประสบผลสำเร็จ จนกระทั่งภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 1
คริสต์ศตวรรษที่ 20
ภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 สิ้นสุดลง ฝ่ายพันธมิตรได้สนับสนุนให้ชาวเช็กและชาวสโลวักสร้างสหพันธรัฐประชาธิปไตยเชโกสโลวาเกียขึ้น ในปี พ.ศ. 2461 เนื่องจากชาวเช็กและชาวสโลวักมีภาษาคล้ายคลึงกัน แต่แยกจากกันทางการเมือง เนื่องจากสโลวาเกียเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรฮังการี ในช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 เชโกสโลวาเกียเป็นประเทศที่อุตสาหกรรมมีความก้าวหน้าที่สุดจนติดอันดับหนึ่งในสิบของโลก อย่างไรก็ตาม ยังคงมีปัญหาทางการเมืองอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากชาวสโลวักต้องการแยกตัวออกเป็นรัฐอิสระจากชาวเช็กซึ่งมีบทบาทเหนือกว่า
ในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2482 กองทัพเยอรมนีนาซีได้รุกรานแคว้นโบฮีเมียและมอเรเวีย ทำให้เชโกสโลวาเกียสูญเสียความเป็นรัฐเอกราช จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2488 กองทัพโซเวียตได้ปลดปล่อยดินแดนของเชโกสโลวาเกียจากการปกครองของนาซี ทำให้สหภาพโซเวียตมีบทบาทสำคัญต่อพัฒนาการทางการเมืองของเชโกสโลวาเกียในเวลาต่อมา และในปี พ.ศ. 2491 พรรคคอมมิวนิสต์ได้ก่อรัฐประหารยึดอำนาจไว้
หลังสงคราม
พรรคคอมมิวนิสต์มีอิทธิพลในเชโกสโลวาเกียมาโดยตลอด จนกระทั่งในช่วงปลายทศวรรษที่ 60 ได้เริ่มมีการเคลื่อนไหวเพื่อการปฏิรูป ที่เรียกว่า ช่วงฤดูใบไม้ผลิแห่งกรุงปราก (Prague Spring) ภายใต้การนำของนายอาเลกซันแดร์ ดุปเชก (Alexander Dubček) เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ สหภาพโซเวียต และประเทศอื่นในกลุ่มกติกาสนธิสัญญาวอร์ซอ (Warsaw Pact) เกรงว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวจะเป็นภัยคุกคามต่อระบบคอมมิวนิสต์ จึงได้ยกกองกำลังเข้าไปในเชโกสโลวาเกียเมื่อปี พ.ศ. 2511 และจัดตั้งระบบคอมมิวนิสต์ที่เข้มงวดขึ้น อย่างไรก็ตาม ยังคงมีแนวคิดต่อต้านระบบคอมมิวนิสต์ในเช็กโกสโลวาเกีย
หลังจากที่สหภาพโซเวียตล่มสลายลง เชโกสโลวาเกียได้เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นระบอบประชาธิปไตยอย่างสันติ โดยผ่านกระบวนการที่เรียกว่า การปฏิวัติกำมะหยี่ (Velvet Revolution) และนายวาตสลัฟ ฮาเวล (Václav Havel) ซึ่งเป็นผู้นำกลุ่มเคลื่อนไหวต่อต้านระบบคอมมิวนิสต์ ได้รับเลือกตั้งให้เป็นประธานาธิบดีเชโกสโลวาเกียในปี พ.ศ. 2532
รัฐบาลเชโกสโลวาเกียได้มีมติเมื่อวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2536 ให้สลายประเทศเชโกสโลวาเกีย และแบ่งออกเป็นสาธารณรัฐเช็ก (เช็กเกีย) และสาธารณรัฐสโลวัก (สโลวาเกีย) ซึ่งเป็นกระบวนการที่เรียกว่า Velvet Divorce ต่อมา นายวาตสลัฟ ฮาเวลได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีคนแรกของเช็กเกียในปี พ.ศ. 2536 และได้รับเลือกตั้งเป็นครั้งที่ 2 ในปี พ.ศ. 2541 จนกระทั่งหมดวาระ (วาระละ 5 ปี) เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2546 และนายวาตสลัฟ เกลาส์ (Vaclav Klaus) ได้เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสืบต่อ เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2546
การเมืองการปกครอง
เช็กเกียปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยแบบมีประธานาธิบดีเป็นประมุข
นิติบัญญัติ
ประชาธิปไตยแบบรัฐสภา ซึ่งเป็นระบบสองสภา (Bicameral Parliament) คือ สภาสูง (Senate) มี 81 ที่นั่ง มาจากการเลือกตั้งโดย popular vote มีวาระ 6 ปี โดยจะมีการเลือก 1 ใน 3 ทุก 2 ปี
ตุลาการ
การแบ่งเขตการปกครอง
เช็กเกียประกอบด้วย 13 เขต (regions - kraje) กับ 1 นครหลวง (capital city - hlavní město) (มีเครื่องหมายดอกจันกำกับ)
เขต | เมืองหลวง | สี |
ปราก* (ปราฮา) | ||
เขตเซ็นทรัลโบฮีเมีย | มีสำนักงานตั้งอยู่ในกรุงปราก (ปราฮา) | |
เขตเซาท์โบฮีเมีย | เชสเกบุดเยยอวีตเซ | |
เขตเปิลเซน | เปิลเซน | |
เขตคาร์ลสแบด | คาร์ลอวีวารี (คาร์ลสแบด) | |
เขตอูสตีนาดลาเบม | อูสตีนาดลาเบม | |
เขตลีเบเรซ | ลีเบเรซ | |
เขตฮราเดตส์กราลอเว | ฮราเดตส์กราลอเว | |
เขตปาร์ดูบีตเซ | ปาร์ดูบีตเซ | |
เขตออลอโมตซ์ | ออลอโมตส์ | |
เขตมอเรเวีย-ไซลีเชีย | ออสตราวา | |
เขตเซาท์มอเรเวีย | เบอร์โน | |
เขตซลีน | ซลีน | |
เขตวีซอชีนา | ยีห์ลาวา |
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
นโยบายต่างประเทศ
ความสัมพันธ์กับสหภาพยุโรป
- บทบาทของเช็กเกียในสหภาพยุโรปและองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ
- การทูตพหุภาคีและการให้ความสนับสนุนบทบาทของสหประชาชาติ
- การต่อต้านการก่อการร้าย การป้องกันการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูงและการต่อต้านอาชญากรรมระหว่างประเทศ
- การดำเนินความสัมพันธ์กับสหรัฐอเมริกาและแคนาดา
- บทบาทของสาธารณรัฐเช็กในกองกำลังรักษาสันติภาพในคอซอวอ อิรัก และอัฟกานิสถาน
- การดำเนินความสัมพันธ์ต่อประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะต่อสโลวาเกีย
- การดำเนินความสัมพันธ์กับรัสเซีย โดยเฉพาะในกรอบระหว่างสหภาพยุโรปกับรัสเซีย
- ความสัมพันธ์กับประเทศในภูมิภาคเอเชีย ลาตินอเมริกา และแอฟริกา
- ประเด็นระหว่างประเทศต่าง ๆ ได้แก่ การต่อสู้กับความยากจน การแพร่กระจายของโรคระบาด การให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและสิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะที่เป็นผลจากเหตุการณ์ธรณีพิบัติในเอเชียและแอฟริกา
กองทัพ
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
กองกำลังกึ่งทหาร
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
เศรษฐกิจ
สถานการณ์เศรษฐกิจเช็กเกีย ภายหลังจาก Velvet Reform ในปี พ.ศ. 2532 เช็กโกสโลวาเกียเริ่มดำเนินการปฏิรูปทางเศรษฐกิจอย่างจริงจัง ในขณะที่รัฐบาลคอมมิวนิสต์ยังคงดำเนินนโยบายเศรษฐกิจมหภาคอย่างระแวดระวัง การปฏิรูปทางเศรษฐกิจดำเนินไปด้วยความรวดเร็ว โดยปล่อยให้ราคาสินค้าเคลื่อนไหวอย่างเสรี การคืนกรรมสิทธิ์ที่ดินให้แก่เจ้าของเดิมในช่วงปี พ.ศ. 2491 และการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ ต่อมา ภายหลังจาก Velvet Divorce ซึ่งแยกเช็กโกสโลวาเกียเป็นเช็กเกียและสโลวาเกีย ในปี พ.ศ. 2546 เช็กเกียมีการพัฒนาการทางเศรษฐกิจที่ก้าวหน้าอย่างมาก โดยมีการแปรรูปรัฐวิสาหกิจที่รวดเร็ว มีอัตราการว่างงานต่ำ และไม่มีอัตราเงินเฟ้อที่สูงเกินไป
รัฐบาลเช็กเกียประสบความสำเร็จในการดึงดูดเงินลงทุนจากต่างประเทศ อาทิ บริษัทโตโยตามอเตอร์ และบริษัทเปอร์โยต์ ซีตรอง โดยได้ก่อตั้งหน่วยงานส่งเสริมการลงทุน ชื่อว่า Czech Invest เพื่อดึงดูดการลงทุนด้านเทคโนโลยีระดับสูง ทั้งนี้ รัฐบาลคาดว่าจะสามารถดึงเงินลงทุนจากต่างประเทศได้เพิ่มขึ้นจาก 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็น 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วงปี พ.ศ. 2548-2550 ส่งผลให้อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจยังคงสูงอย่างต่อเนื่องจากร้อยละ 3.7 ในปี พ.ศ. 2546 เป็นร้อยละ 3.8 ในปี พ.ศ. 2547 และคาดว่าจะสูงถึงร้อยละ 4.4 ในปี พ.ศ. 2548 ทำให้ค่าจ้างแรงงานมีการปรับตัวสูงขึ้นและมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น ช่วยกระตุ้นอุปสงค์ภายในประเทศ ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อได้ลดลงเป็นลำดับ
รัฐบาลเช็กเกียยังคงให้ความสำคัญกับการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ โดยได้ดำเนินการไปแล้วเป็นส่วนใหญ่ และยังคงมีอีกประมาณ 167 บริษัทที่อยู่ระหว่างรอดำเนินการ ได้แก่ Czech Telecom CEZ Power Utility เป็นต้น อย่างไรก็ดี รัฐบาลยังคงมีปัญหาการขาดดุลงบประมาณซึ่งสูงถึงร้อยละ 7 ของ GDP ในปี พ.ศ. 2546 รัฐบาลจึงตั้งเป้าที่จะลดการขาดดุลให้เหลือเพียงร้อยละ 4 ในปี พ.ศ. 2549 ซึ่งเป็นเงื่อนไขหนึ่งที่สหภาพยุโรปเรียกร้องเพื่อรับเช็กเกียเข้าเป็นสมาชิก นอกจากนี้ รัฐบาลเช็กเกียคงจะพยายามผลักดันเพื่อให้สามารถใช้เงินสกุลยูโรได้ภายในปี พ.ศ. 2552-2553 นอกจากนี้ รัฐบาลเช็กเกียจะยังคงมุ่งมั่นปฏิรูประบบกฎหมาย กฎหมายการล้มละลาย และการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ
การท่องเที่ยว
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
โครงสร้างพื้นฐาน
คมนาคมและโทรคมนาคม
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
การศึกษา
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
สาธารณสุข
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
ประชากร
เชื้อชาติ
- ประชากร 10.28 ล้านคน ประกอบด้วยชาวเช็ก (94.4%) ชาวมอเรเวีย (5%) ชาวสโลวัก (1.4%) ชาวโปแลนด์ (0.4%) ชาวฮังการี (0.2%)
- อัตราการเพิ่มประชากร - 0.05 % (ปี 2548)
- กรุงปราก (Prague) มีประชากร 1.21 ล้านคน
- Brno - เมืองศูนย์กลางทางด้านอุตสาหกรรมและพาณิชยกรรมของแคว้นมอเรเวีย มีประชากรประมาณ 3.3 แสนคน
- Ostrava - เมืองอุตสาหกรรม โดยเฉพาะทางด้านการถลุงเหล็ก อยู่ทางตะวันออกของประเทศ มีประชากรประมาณ 3.24 แสนคน
- Plzeň - เมืองอุตสาหกรรมเครื่องจักรกล และเป็นเมืองที่กำเนิดของเบียร์สูตรที่เก่าแก่ที่สุดในโลก อยู่ทางเหนือของประเทศ มีประชากร 1.7 แสนคน
- อัตราการรู้หนังสือของผู้ใหญ่ 99.9%
- อายุเฉลี่ย ชาย : 71 / หญิง : 78
ศาสนา
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
ไม่มีศาสนา 39.8% โรมันคาทอลิก 39.2% โปรเตสแตนต์ 6% ออร์ทอดอกซ์ 3% และอื่น ๆ 13.4%
ภาษา
กีฬา
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
วัฒนธรรม
วรรณกรรม
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
ภาพยนตร์
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
ศิลปะ
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
ดนตรี
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
อาหาร
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
สื่อสารมวลชน
วันหยุด
อ้างอิง
- "การประเมินประชากรโลก พ.ศ. 2560". ESA.UN.org (custom data acquired via website). United Nations Department of Economic and Social Affairs, Population Division. สืบค้นเมื่อ 10 September 2017.
- Census of Population and Housing 2011: Basic final results. Czech Statistical Office 29 มกราคม 2011 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน. Retrieved on 19 December 2012.
- "Gini coefficient of equivalised disposable income - EU-SILC survey". ec.europa.eu. Eurostat. จากแหล่งเดิมเมื่อ 20 March 2019. สืบค้นเมื่อ 3 July 2020.
- "Human Development Report 2020" (PDF) (ภาษาอังกฤษ). United Nations Development Programme. 10 December 2019. สืบค้นเมื่อ 10 December 2019.
- "Vláda schválila doplnení jednoslovného názvu Cesko v cizích jazycích do databází OSN." Last modified May 5, 2016. http://www.mzv.cz/jnp/cz/udalosti_a_media/tiskove_zpravy/x_2016_05_02_vlada_schvalila_czechia.html.
แหล่งข้อมูลอื่น
คุณสามารถหาข้อมูลเกี่ยวกับ ประเทศเช็กเกีย ได้โดยค้นหาจาก โครงการพี่น้องของวิกิพีเดีย : | |
---|---|
หาความหมาย จากวิกิพจนานุกรม | |
หนังสือ จากวิกิตำรา | |
คำคม จากวิกิคำคม | |
ข้อมูลต้นฉบับ จากวิกิซอร์ซ | |
ภาพและสื่อ จากคอมมอนส์ | |
เนื้อหาข่าว จากวิกิข่าว | |
แหล่งเรียนรู้ จากวิกิวิทยาลัย |
- รัฐบาล
- รัฐบาลเช็กเกีย
- ประธานาธิบดีเช็กเกีย
- Portal of the Public Administration
- Chamber of Deputies 2007-10-20 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- วุฒิสภา
- Chief of State and Cabinet Members
- ข้อมูลทั่วไป
- Czechia entry at The World Factbook
- Czech Republic information from the United States Department of State
- Portals to the World from the United States Library of Congress
- Czech Republic at UCB Libraries GovPubs
- ประเทศเช็กเกีย ที่เว็บไซต์ Curlie
- Wikimedia Atlas of the Czech Republic
- ดูข้อมูลทางภูมิศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับ ประเทศเช็กเกีย ที่ OpenStreetMap
- Key Development Forecasts for the Czech Republic from International Futures
- สื่อสารมวลชน
- The Prague Post
- CzechNews
- Czech News Agency News
- Prague Daily Monitor
- Radio Prague
- ยุทธศาสตร์
- Czech Statistical Office
- การท่องเที่ยว
- Czech Tourism Official travel site of the Czech Republic
- ประเทศเช็กเกีย ข้อมูลการท่องเที่ยวจาก วิกิท่องเที่ยว
- Republic/clusters/ รูปภาพเกี่ยวกับประเทศเช็กเกีย ที่ฟลิคเกอร์
- รายละเอียดเช็กเกีย เว็บไซต์กระทรวงต่างประเทศ