พระอัสสชิ หรือ พระอัสสชิเถระ เป็นพระภิกษุสาวกของพระพุทธเจ้า เป็นหนึ่งในปัญจวัคคีย์ และพระอสีติมหาสาวก
พระอัสสชิ เมื่อได้ตรัสรู้ธรรมแล้ว มีบทบาทสำคัญในการช่วยเผยแพร่พระพุทธศาสนาในช่วงต้นพุทธกาล ด้วยความเป็นผู้มีมารยาทน่าเลื่อมใสของท่าน ทำให้ท่านเป็นภิกษุรูปแรกที่ทำให้อุปติสสมาณพ ซึ่งต่อมาคือพระสารีบุตร เลื่อมใสในพระพุทธศาสนา ท่านเป็นผู้กล่าวคาถาสำคัญยิ่งคาถาหนึ่งในพระพุทธศาสนาคือพระคาถา เย ธมฺมา เหตุปฺปภวา ... พระคาถานี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นพระคาถาสำคัญบทหนึ่งในพระพุทธศาสนา เพราะกล่าวถึงความเป็นเหตุผลและจุดมุ่งหมายในพระพุทธศาสนาไว้ในคาถาเดียว ท่านดำรงอายุพอสมควรแก่กาลก็ดับขันธปรินิพพาน
พระอัสสชิะ เกิดในตระกูลพราหมณ์ในกรุงกบิลพัสดุ์ เดิมชื่อ “อัสสชิพราหมณ์”
เมื่อเจริญเติบโตขึ้น ท่านได้ศึกษาศิลปะวิทยาจนจบไตรเพทในสำนักพราหมณ์แห่งเมืองกบิลพัสดุ์
สาเหตุที่ออกบวช เนื่องด้วยพราหมณ์ผู้เป็นบิดาของท่าน เคยเป็นพราหมณ์ 1 ใน 8 คนที่ได้รับนิมนต์เข้ารับภัตตาหารในพระราชวังกรุงกบิลพัสดุ์ในวันขนานพระนามเจ้าชายสิทธัตถะ และได้ทำนายว่าเจ้าชายสิทธัตถะหากออกผนวชจะได้บรรลุธรรมเป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า บิดาของท่านจึงตั้งใจว่าหากเจ้าชายออกผนวชตนจะออกบวชตาม แต่ด้วยบิดาของท่านมีอายุมากแล้ว และเกรงว่าตนอาจจะอยู่ไม่ถึงวันที่เจ้าชายบรรลุเป็นพระอรหันต์ ท่านจึงสั่งเสียให้ลูกชายคืออัสสชิพราหมณ์ออกบวชหากเจ้าชายออกผนวชตามคำทำนาย โดยเมื่อเจ้าชายออกบวชท่านได้ตามโกณฑัญญพราหมณ์และบุตรพราหมณ์ 108 จำนวน 3 คนออกบวชด้วย
ประวัติของท่านหลังจากนี้คล้ายคลึงกับประวัติท่านพระอัญญาโกณฑัญญะ
ดูเพิ่มได้ที่ พระอัญญาโกณฑัญญะ และ พระสารีบุตรเถระ
บุพกรรมในอดีตชาติ ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
ท่านก็ถือว่าเป็นผู้มีส่วนสำคัญในการช่วยพระพุทธเจ้าเผยแพร่พระพุทธศาสนาในช่วงต้นพุทธกาล เป็นพระสงฆ์กลุ่มแรกที่พระพุทธเจ้าทรงส่งออกไปประกาศพระพุทธศาสนา ท่านเป็นผู้มีกิริยามารยาทน่าเลื่อมใสมาก จนทำให้อุปติสสะมาณพ บุตรแห่งนายบ้านนาลันทาเกิดความเลื่อมใสและยอมตนบวชในพระพุทธศาสนา ท่านเป็นผู้กล่าวพระคาถาสำคัญในพระพุทธศาสนาคือพระคาถาที่รู้จักกันดีว่าคือพระคาถา "เย ธมฺมา" พระคาถานี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นพระคาถาสำคัญบทหนึ่งในพระพุทธศาสนา เพราะกล่าวถึงความเป็นเหตุผลและจุดมุ่งหมายในพระพุทธศาสนาไว้ในคาถาเดียว คาถานี้ได้รับการยอมรับมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสมัยทวารวดี พระคาถาจำนวน 4 บาทนี้ได้ถูกนำมาจารึกลงและบรรจุไว้ในพระเจดีย์ในฐานะองค์แทนแห่งพระพุทธศาสนา พระคาถาของท่านมีดังนี้
- เย ธมฺมา เหตุปฺปภวา เตสํ เหตุ ตถาคโต
- เตสญฺจ โย นิโรโธ จ เอวํ วาที มหาสมโณ
"ธรรมเหล่าใด เกิดแต่เหตุ พระตถาคต กล่าวเหตุแห่งธรรมเหล่านั้น และความดับของธรรมเหล่านั้น พระมหาสมณะมีวาทะอย่างนี้"— พระอัสสชิเถระคาถา
บั้นปลายชีวิต ในคัมภีร์ทางพระพุทธศาสนาไม่ระบุว่าท่านดับขันธปรินิพพานเมื่อใดและที่ใด แต่ท่านคงดำรงขันธ์อยู่พอสมควรแก่กาลจึงปรินิพพาน
อ้างอิง - วารสาร เมืองโบราณ MuangBoran Journal. พระพิมพ์เม็ดกระดุม (ซุ้มศรีวิชัย) กรุเขาศรีวิชัย. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก [1]. เข้าถึงเมื่อ 3-9-52
- สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส. (2525). ธรรมวิภาคปริเฉทที่ 2. พิมพ์ครั้งที่ 23. กรุงเทพฯ: คณะกรรมการแผนกตำรา มหามกุฏราชวิทยาลัย.
ดูเพิ่มแหล่งข้อมูลอื่น - เว็บไซต์ 84000
- เว็บไชต ธรรมะ เกตเวย์
พระอ, สสช, เถระ, พระอ, สสช, หร, เป, นพระภ, กษ, สาวกของพระพ, ทธเจ, เป, นหน, งในป, ญจว, คค, และพระอส, มหาสาวกภาพวาดพระป, ญจว, คค, สด, บพระปฐมเทศนาในว, นอาสาฬหบ, ชาข, อม, ลท, วไปช, อเด, มอ, สสช, พราหมณ, ออ, นสถานท, เก, ดเม, องกบ, ลพ, สด, สถานท, บวชป, าอ, ปตนมฤคทา. phraxsschi hrux phraxsschiethra epnphraphiksusawkkhxngphraphuththeca epnhnunginpycwkhkhiy aelaphraxsitimhasawkphraxsschiethraphaphwadphrapycwkhkhiythng 5 sdbphrapthmethsnainwnxasalhbuchakhxmulthwipchuxedimxsschiphrahmnchuxxunphraxsschiethrasthanthiekidemuxngkbilphsdusthanthibwchpaxisiptnmvkhthaywn wnaerm 4 kha eduxn 8 withibwchexhiphikkhuxupsmpthasthanthibrrluthrrmpaxisiptnmvkhthaywnbrrluphraxrhntphrxmkbpycwkhkhiydwyxnttlkkhnsutrthanaedimchawemuxngemuxngkbilphsdu aekhwnskkanambidabidathanepnphrahmn 1 in 8 khnthithanaylksnaecachaysiththttha inwnkhnanphranamhlngecachayprasutiid 5 wnwrrnaedimphrahmnkarsuksacbitrephthsthanthiraluksthanthithrrmemkkhsthup thrrmrachiksthup sthanthibrrluphraxrhnt phayinpaxisiptnmvkhthaywn hruxsarnathinpccubnswnhnungkhxngsaranukrmphraphuththsasnaphraxsschi emuxidtrsruthrrmaelw mibthbathsakhyinkarchwyephyaephrphraphuththsasnainchwngtnphuththkal dwykhwamepnphumimaryathnaeluxmiskhxngthan thaihthanepnphiksurupaerkthithaihxuptissmanph sungtxmakhuxphrasaributr eluxmisinphraphuththsasna thanepnphuklawkhathasakhyyingkhathahnunginphraphuththsasnakhuxphrakhatha ey thm ma ehtup pphwa phrakhathaniidrbkarykyxngwaepnphrakhathasakhybthhnunginphraphuththsasna ephraaklawthungkhwamepnehtuphlaelacudmunghmayinphraphuththsasnaiwinkhathaediyw thandarngxayuphxsmkhwraekkalkdbkhnthpriniphphan enuxha 1 chatikaenid 2 karsuksa 3 saehtuthixxkbwch 4 buphkrrminxditchati 5 khwamsakhyinphraphuththsasna 6 bnplaychiwit 7 xangxing 8 duephim 9 aehlngkhxmulxunchatikaenid aekikhphraxsschia ekidintrakulphrahmninkrungkbilphsdu edimchux xsschiphrahmn karsuksa aekikhemuxecriyetibotkhun thanidsuksasilpawithyacncbitrephthinsankphrahmnaehngemuxngkbilphsdusaehtuthixxkbwch aekikhenuxngdwyphrahmnphuepnbidakhxngthan ekhyepnphrahmn 1 in 8 khnthiidrbnimntekharbphttaharinphrarachwngkrungkbilphsduinwnkhnanphranamecachaysiththttha aelaidthanaywaecachaysiththtthahakxxkphnwchcaidbrrluthrrmepnphraxrhntsmmasmphuththeca bidakhxngthancungtngicwahakecachayxxkphnwchtncaxxkbwchtam aetdwybidakhxngthanmixayumakaelw aelaekrngwatnxaccaxyuimthungwnthiecachaybrrluepnphraxrhnt thancungsngesiyihlukchaykhuxxsschiphrahmnxxkbwchhakecachayxxkphnwchtamkhathanay odyemuxecachayxxkbwchthanidtamoknthyyphrahmnaelabutrphrahmn 108 canwn 3 khnxxkbwchdwyprawtikhxngthanhlngcaknikhlaykhlungkbprawtithanphraxyyaoknthyyaduephimidthi phraxyyaoknthyya aela phrasaributrethrabuphkrrminxditchati aekikhswnnirxephimetimkhxmul khunsamarthchwyephimkhxmulswnniidkhwamsakhyinphraphuththsasna aekikhthankthuxwaepnphumiswnsakhyinkarchwyphraphuththecaephyaephrphraphuththsasnainchwngtnphuththkal epnphrasngkhklumaerkthiphraphuththecathrngsngxxkipprakasphraphuththsasna thanepnphumikiriyamaryathnaeluxmismak cnthaihxuptissamanph butraehngnaybannalnthaekidkhwameluxmisaelayxmtnbwchinphraphuththsasna thanepnphuklawphrakhathasakhyinphraphuththsasnakhuxphrakhathathiruckkndiwakhuxphrakhatha ey thm ma phrakhathaniidrbkarykyxngwaepnphrakhathasakhybthhnunginphraphuththsasna ephraaklawthungkhwamepnehtuphlaelacudmunghmayinphraphuththsasnaiwinkhathaediyw khathaniidrbkaryxmrbmak odyechphaaxyangyinginsmythwarwdi phrakhathacanwn 4 bathniidthuknamacaruklngaelabrrcuiwinphraecdiyinthanaxngkhaethnaehngphraphuththsasna 1 phrakhathakhxngthanmidngni ey thm ma ehtup pphwa ets ehtu tthakhot etsy c oy nioroth c exw wathi mhasmon thrrmehlaid ekidaetehtu phratthakht klawehtuaehngthrrmehlann aelakhwamdbkhxngthrrmehlann phramhasmnamiwathaxyangni phraxsschiethrakhathabnplaychiwit aekikhinkhmphirthangphraphuththsasnaimrabuwathandbkhnthpriniphphanemuxidaelathiid aetthankhngdarngkhnthxyuphxsmkhwraekkalcungpriniphphanxangxing aekikh warsar emuxngobran MuangBoran Journal phraphimphemdkradum sumsriwichy kruekhasriwichy xxniln ekhathungidcak 1 ekhathungemux 3 9 52 smedcphramhasmneca krmphrayawchiryanworrs 2525 thrrmwiphakhpriechththi 2 phimphkhrngthi 23 krungethph khnakrrmkaraephnktara mhamkutrachwithyaly duephim aekikhphraxyyaoknthyya pycwkhkhiy phrasaributrethraaehlngkhxmulxun aekikhewbist 84000 ewbicht thrrma ektewyekhathungcak https th wikipedia org w index php title phraxsschiethra amp oldid 9325185, wikipedia, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด,
บทความ
, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม
