fbpx
วิกิพีเดีย

หิรัญนครเงินยางเชียงลาว

หิรัญนครเงินยางเชียงลาว หรือ ชยวรนคร (เมืองเชียงลาว) หรือ เหรัญญนครเงินยางเชียงแสน หรือ นครยางคปุระ หรือเมืองท่าซาย(ท่าทราย)เงินยาง (คำเมือง: ) เป็นอาณาจักรหนึ่งในบริเวณที่เป็นประเทศไทยและประเทศลาวปัจจุบัน

หิรัญเงินยางเชียงแสน

พ.ศ. 1181–พ.ศ. 1805
เมืองหลวงหิรัญ (จนถึง พ.ศ. 1393)
เงินยาง (ตั้งแต่ พ.ศ. 1393)
ภาษาทั่วไปภาษาคำเมือง
ศาสนา
พุทธเถรวาท
การปกครองราชาธิปไตย
พระมหากษัตริย์ 
• พ.ศ. 1181–?
ลาวจังกราช(ลาวจง)
• พ.ศ. 1666–1709
ลาวเจือง
• พ.ศ. 1802–1805
พญามังราย
ยุคประวัติศาสตร์ยุคกลาง
• ลาวจังกราช(ลาวจง)ได้ขึ้นครองราชย์
พ.ศ. 1181
พ.ศ. 1805

เหตุการณ์

หลังจากการล่มสลายของโยนกนครไชยบุรีราชธานีศรีช้างแส่น จนถึงช่วงปลายพุทธศตวรรษที่ 17 ลาวจังราช หรือ ลาวจง (ซึ่งตามตำนานว่าเกิดโดยโอปปาติกใต้ต้นพุทรา หรือบางตำนานว่าไต่บันไดเงินและทองคำลงมาบริเวณดอยตุง) ได้สถาปนาตนเองขึ้นเป็นกษัตริย์ เรียกราชวงศ์ใหม่นี้ว่าราชวงศ์ลาว

ลาวจังกราช ครองราชย์ในเมืองหิรัญนครเงินยาง เชื่อว่าอยู่บริเวณเมืองโบราณที่เรียกว่า เวียงพานคำ ในอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย สอดคล้องกับที่ตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่ (ฉบับวัดพระงาม)และตำนานเมืองพะเยา ว่า บริเวณเมืองหิรัญนครเงินยาง อยู่แถวๆแถบแม่น้ำสาย และดอยตุง ในเขตอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย (ตำนานพื้นเมืองเชียงแสนเป็นหลักฐานเดียวที่กล่าวว่าหิรัญนครเงินยางอยู่บริเวณเดียวกับเมืองเชียงแสน ซึ่งมีความน่าเชื่อถือน้อย เพราะหลายๆตำนานระบุว่าพญาแสนพูสร้างเมืองเชียงแสนทับเวียงรอย)

หลังจากนั้นในสมัยลาวเคียง พระองค์ได้ทำการปรับปรุงขยายเขตแนวคูเมืองหิรัญนครเงินยางเพื่อให้เป็นเวียงใหม่ใกล้แม่น้ำละว้า และขนานนามเวียงที่ขยายใหม่นี้ว่า ยางสาย (พื้นเมืองเชียงใหม่ว่าตั้งชื่อเมืองยางเงิน) และทำการเปลี่ยนชื่อแม่น้ำละว้า เป็น แม่น้ำสาย แสดงให้เห็นว่าสถานที่ตั้งของเมืองหิรัญนครเงินยางควรอยู่ติดน้ำแม่สายเชิงดอยตุง ไม่ได้อยู่บริเวณเมืองเชียงแสนดังที่เชื่อถือกันในปัจจุบัน ซึ่งสอดคล้องกับการวิจัยสำรวจพื้นที่ “เวียงพางคำ” ของ วรสิทธิ์ โอภาพ ที่พบว่าเวียงพางคำมีแนวคันดินแบ่งเป็น 2 เวียง โดยมีเมืองอยู่แล้ว แนวคันดินเพิ่งสร้างทีหลังเพื่อขยายเขตตัวเมือง (เวียงพางคำจึงควรเป็นหิรัญนครเงินยาง ไม่ควรเป็นเวียงสี่ตวง-เวียงพานคำของพระเจ้าพรหม)

ความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เกิดขึ้นเมื่อ พญามังรายขึ้นครองราชเป็นกษัตริย์ พระองค์ที่ 25 ของหิรัญนครเงินยางเชียงลาวในปี พ.ศ. 1805 พระองค์ทรงมีแนวพระราชดำริจะรวบรวมแคว้นน้อยใหญ่ในอาณาบริเวณเดียวกันให้เป็นปึกแผ่น

เมื่อพระองค์ได้ทรงขึ้นครองราช พระองค์ได้สร้างเมืองเชียงรายและประทับที่นั่น เป็นราชธานีแห่งใหม่ ถือเป็นการสิ้นสุดราชวงศ์ลาว แห่งหิรัญนครเงินยางเชียงลาว เริ่มต้น ราชวงศ์มังราย แห่งอาณาจักรล้านนา

ลาวจังกราช

ลาวจังกราช หรือ ลาวจง พระองค์ มีราชบุตร 3 พระองค์ ได้แก่ ลาวครอบ ลาวช้าง และ ลาวเกล้าแก้วมาเมือง ตามตำนานการสร้างวัดพระธาตุดอยปูเข้า ได้ระบุว่าทรงให้บุตรของพระองค์ครองเมืองดังนี้

  • ลาวครอบ ครอง เมืองเชียงของ
  • ลาวช้าง ครองเมืองยอง
  • ลาวเกล้าแก้วมาเมือง ครองเมืองหิรัญนครเชียงลาว สืบต่อมา

กษัตริย์ราชวงศ์นี้มีกษัตริย์สืบต่อมาถึง 24 องค์ ซึ่งล้วนใช้คำนำหน้าว่าลาว ในระหว่างนั้นหลายองค์ได้มีการส่งราชบุตรของตนออกไปครองเมืองต่าง ๆ เช่น พะเยา เชียงของ เชียงคำ ล้านช้าง น่าน ฯลฯ ดังนั้น เมืองทั้งหลายเหล่านี้จึงเป็นเครือญาติกัน

อนึ่ง ลาวจังกราช หรือ ลาวจง ปฐมกษัตริย์หิรัญนครเงินยางเชียงลาว เป็นคนละคนกับ ลาวจักราช ปู่เจ้าลาวจก หรือ ลาวจก หัวหน้าชาวลัวะบนดอยดินแดง ที่พระเจ้าอชุตราช กษัตริย์โยนกไชยบุรีศรีช้างแส่น ขอซื้อที่ดินดอยดินแดงเพื่อสร้างพระธาตุดอยตุง และตั้งลาวจกให้อุปัฏฐากรักษาพระธาตุดอยตุง ซึ่งคนส่วนใหญ่มักสับสนว่าเป็นคนเดียวกัน

รายพระนามกษัตริย์ผู้ครองเมืองหิรัญนครเงินยางเชียงลาว

ยุคเมืองหิรัญนครเงินยาง

  1. ลาวจังกราช(ลาวจง)
  2. ลาวเกล้าแก้วมาเมือง
  3. ลาวเสา
  4. ลาวตั้ง
  5. ลาวกม
  6. ลาวแหลว
  7. ลาวกับ
  8. ลาวกืน

ยุคขยายเมืองยางสาย(ยางเงิน)

  1. ลาวเครียง(ลาวเคียง)
  2. ลาวกิน(ลาวคริว)
  3. ลาวทึง
  4. ลาวเทิง
  5. ลาวตน
  6. ลาวโฉม
  7. ลาวกวัก
  8. ลาวกวิน
  9. ลาวจง (คนละคนกับลาวจังกราชหรือลาวจง ต้นราชวงศ์ลาว)
  10. ลาวชื่น (มีน้องชื่อ จอมผาเรือง(ขุนจอมธรรม) ซึ่งได้ไปสร้างเมืองพูกามยาว (พะเยา) และมีลูกชื่อลาวเจือง)
  11. ลาวเจือง (พญาเจือง) (ขุนเจือง) (พญาเจืองหาญ) (ท้าวฮุ่ง ท้าวเจือง) (ທ້າວຮຸ່ງ ທ້າວເຈືອງ) ได้รับการยกย่องว่าเป็นวีรบุรุษในตำนานสองฝั่งโขง เป็นกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ ตีได้ดินแดนมากมาย รบชนะแกว(เวียดนาม) พญาเจืองได้รับการราชาภิเษกจากพญาห้อลุ่มฟ้าเพาพิมาน ชาวไทลื้อ ชาวลาวเทิงล้านช้าง ชาวไทยวนล้านนา ต่างอ้างว่าพญาเจืองเป็นบรรพบุรุษของพวกตน มีวรรณกรรมกล่าวขานถึงมากมาย เช่น มหากาพย์โคลงท้าวฮุ่งท้าวเจือง มีความยาวกว่าเกือบ 5,000 บท
  12. ลาวเงินเรือง
  13. ลาวชื่น
  14. ลาวมิ่ง
  15. ลาวเมิง
  16. ลาวเมง
  17. พญามังราย สิ้นสุดราชวงศ์ลาว สถาปนาอาณาจักรล้านนา เริ่ม ราชวงศ์มังราย

(หมายเหตุ รายชื่อกษัตริย์ราชวงศ์ลาว รวมทั้งหมด 25 พระองค์ อ้างอิงจากตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่เป็นหลัก)

ดูเพิ่ม

อ้างอิง

  1. ศูนย์วัฒนธรรมจังหวัดเชียงใหม่และศูนย์ศิลปวัฒนธรรม.(2538).ตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่.
  2. สรัสวดี อ๋องสกุล.(2546).พื้นเมืองเชียงแสน.
  3. พระรัตนปัญญาเถระ.( 2558).ชินกาลมาลีปกรณ์.
  4. สรัสวดี อ๋องสกุล.(2539).พื้นเมืองน่าน ฉบับวัดพระเกิด.
  5. เฉลิมวุฒิ ต๊ะคำมี.(2554).ตำนานเมืองพะเยา.
  6. อภิชิต ศิริชัย. วิเคราะห์ตำนานจากเอกสารพื้นถิ่น ว่าด้วย โยนกนคร เวียงสี่ตวง เวียงพานคำ เมืองเงินยาง และ ประวัติวัดพระธาตุจอมกิตติ ตำบลเวียง อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย. พิมพ์ครั้งที่ 1. เชียงราย:ล้อล้านนา, 2560.

ญนครเง, นยางเช, ยงลาว, บทความน, ได, บแจ, งให, ปร, บปร, งหลายข, กร, ณาช, วยปร, บปร, งบทความ, หร, ออภ, ปรายป, ญหาท, หน, าอภ, ปราย, บทความน, องการจ, ดร, ปแบบข, อความ, การจ, ดหน, การแบ, งห, วข, การจ, ดล, งก, ภายใน, และอ, บทความน, งขาดแหล, งอ, างอ, งเพ, อพ, จน, ควา. bthkhwamniidrbaecngihprbprunghlaykhx krunachwyprbprungbthkhwam hruxxphipraypyhathihnaxphipray bthkhwamnitxngkarcdrupaebbkhxkhwam karcdhna karaebnghwkhx karcdlingkphayin aelaxun bthkhwamniyngkhadaehlngxangxingephuxphisucnkhwamthuktxng bthkhwamnitxngkarsrupenuxhabthkhwamiwinyxhnaaerksudhirynkhrenginyangechiynglaw hrux chywrnkhr emuxngechiynglaw 1 hrux ehryynkhrenginyangechiyngaesn 2 hrux nkhryangkhpura 3 hruxemuxngthasay thathray enginyang 4 khaemuxng epnxanackrhnunginbriewnthiepnpraethsithyaelapraethslawpccubnhiryenginyangechiyngaesnph s 1181 ph s 1805emuxnghlwnghiry cnthung ph s 1393 enginyang tngaet ph s 1393 phasathwipphasakhaemuxngsasnaphuththethrwathkarpkkhrxngrachathipityphramhakstriy ph s 1181 lawcngkrach lawcng ph s 1666 1709lawecuxng ph s 1802 1805phyamngrayyukhprawtisastryukhklang lawcngkrach lawcng idkhunkhrxngrachyph s 1181 yudxanackrhriphuychyph s 1805kxnhna thdipoynknkhrichyburirachthanisrichangaesn xanackrlanna enuxha 1 ehtukarn 2 lawcngkrach 3 rayphranamkstriyphukhrxngemuxnghirynkhrenginyangechiynglaw 3 1 yukhemuxnghirynkhrenginyang 3 2 yukhkhyayemuxngyangsay yangengin 4 duephim 5 xangxingehtukarn aekikhhlngcakkarlmslaykhxngoynknkhrichyburirachthanisrichangaesn cnthungchwngplayphuththstwrrsthi 17 lawcngrach hrux lawcng sungtamtananwaekidodyoxppatikittnphuthra hruxbangtananwaitbnidenginaelathxngkhalngmabriewndxytung idsthapnatnexngkhunepnkstriy eriykrachwngsihmniwarachwngslawlawcngkrach khrxngrachyinemuxnghirynkhrenginyang echuxwaxyubriewnemuxngobranthieriykwa ewiyngphankha inxaephxaemsay cnghwdechiyngray sxdkhlxngkbthitananphunemuxngechiyngihm chbbwdphrangam aelatananemuxngphaeya wa briewnemuxnghirynkhrenginyang xyuaethwaethbaemnasay aeladxytung inekhtxaephxaemsay cnghwdechiyngray tananphunemuxngechiyngaesnepnhlkthanediywthiklawwahirynkhrenginyangxyubriewnediywkbemuxngechiyngaesn sungmikhwamnaechuxthuxnxy ephraahlaytananrabuwaphyaaesnphusrangemuxngechiyngaesnthbewiyngrxy hlngcaknninsmylawekhiyng phraxngkhidthakarprbprungkhyayekhtaenwkhuemuxnghirynkhrenginyangephuxihepnewiyngihmiklaemnalawa aelakhnannamewiyngthikhyayihmniwa yangsay phunemuxngechiyngihmwatngchuxemuxngyangengin aelathakarepliynchuxaemnalawa epn aemnasay aesdngihehnwasthanthitngkhxngemuxnghirynkhrenginyangkhwrxyutidnaaemsayechingdxytung imidxyubriewnemuxngechiyngaesndngthiechuxthuxkninpccubn 5 sungsxdkhlxngkbkarwicysarwcphunthi ewiyngphangkha khxng wrsiththi oxphaph thiphbwaewiyngphangkhamiaenwkhndinaebngepn 2 ewiyng odymiemuxngxyuaelw aenwkhndinephingsrangthihlngephuxkhyayekhttwemuxng ewiyngphangkhacungkhwrepnhirynkhrenginyang imkhwrepnewiyngsitwng ewiyngphankhakhxngphraecaphrhm 6 khwamepliynaeplngkhrngihy ekidkhunemux phyamngraykhunkhrxngrachepnkstriy phraxngkhthi 25 khxnghirynkhrenginyangechiynglawinpi ph s 1805 phraxngkhthrngmiaenwphrarachdaricarwbrwmaekhwnnxyihyinxanabriewnediywknihepnpukaephnemuxphraxngkhidthrngkhunkhrxngrach phraxngkhidsrangemuxngechiyngrayaelaprathbthinn epnrachthaniaehngihm thuxepnkarsinsudrachwngslaw aehnghirynkhrenginyangechiynglaw erimtn rachwngsmngray aehngxanackrlanna mikaresnxwa bthkhwamnihruxswnnikhwraeykepnbthkhwamihmchux lawcngrach xphipray lawcngkrach aekikhlawcngkrach hrux lawcng phraxngkh mirachbutr 3 phraxngkh idaek lawkhrxb lawchang aela laweklaaekwmaemuxng tamtanankarsrangwdphrathatudxypuekha idrabuwathrngihbutrkhxngphraxngkhkhrxngemuxngdngni lawkhrxb khrxng emuxngechiyngkhxng lawchang khrxngemuxngyxng laweklaaekwmaemuxng khrxngemuxnghirynkhrechiynglaw subtxmakstriyrachwngsnimikstriysubtxmathung 24 xngkh sunglwnichkhanahnawalaw inrahwangnnhlayxngkhidmikarsngrachbutrkhxngtnxxkipkhrxngemuxngtang echn phaeya echiyngkhxng echiyngkha lanchang nan l dngnn emuxngthnghlayehlanicungepnekhruxyatiknxnung lawcngkrach hrux lawcng pthmkstriyhirynkhrenginyangechiynglaw epnkhnlakhnkb lawckrach puecalawck hrux lawck hwhnachawlwabndxydinaedng thiphraecaxchutrach kstriyoynkichyburisrichangaesn khxsuxthidindxydinaedngephuxsrangphrathatudxytung aelatnglawckihxuptthakrksaphrathatudxytung sungkhnswnihymksbsnwaepnkhnediywknrayphranamkstriyphukhrxngemuxnghirynkhrenginyangechiynglaw aekikhyukhemuxnghirynkhrenginyang aekikh lawcngkrach lawcng laweklaaekwmaemuxng lawesa lawtng lawkm lawaehlw lawkb lawkunyukhkhyayemuxngyangsay yangengin aekikh lawekhriyng lawekhiyng lawkin lawkhriw lawthung lawething lawtn lawochm lawkwk lawkwin lawcng khnlakhnkblawcngkrachhruxlawcng tnrachwngslaw lawchun minxngchux cxmphaeruxng khuncxmthrrm sungidipsrangemuxngphukamyaw phaeya aelamilukchuxlawecuxng lawecuxng phyaecuxng khunecuxng phyaecuxnghay thawhung thawecuxng ທ າວຮ ງ ທ າວເຈ ອງ idrbkarykyxngwaepnwirburusintanansxngfngokhng epnkstriythiyingihy tiiddinaednmakmay rbchnaaekw ewiydnam phyaecuxngidrbkarrachaphieskcakphyahxlumfaephaphiman chawithlux chawlawethinglanchang chawithywnlanna tangxangwaphyaecuxngepnbrrphburuskhxngphwktn miwrrnkrrmklawkhanthungmakmay echn mhakaphyokhlngthawhungthawecuxng mikhwamyawkwaekuxb 5 000 bth lawengineruxng lawchun lawming laweming lawemng phyamngray sinsudrachwngslaw sthapnaxanackrlanna erim rachwngsmngray hmayehtu raychuxkstriyrachwngslaw rwmthnghmd 25 phraxngkh xangxingcaktananphunemuxngechiyngihmepnhlk duephim aekikhxanackrlannaxangxing aekikh sunywthnthrrmcnghwdechiyngihmaelasunysilpwthnthrrm 2538 tananphunemuxngechiyngihm srswdi xxngskul 2546 phunemuxngechiyngaesn phrartnpyyaethra 2558 chinkalmalipkrn srswdi xxngskul 2539 phunemuxngnan chbbwdphraekid echlimwuthi takhami 2554 tananemuxngphaeya xphichit sirichy wiekhraahtanancakexksarphunthin wadwy oynknkhr ewiyngsitwng ewiyngphankha emuxngenginyang aela prawtiwdphrathatucxmkitti tablewiyng xaephxechiyngaesn cnghwdechiyngray phimphkhrngthi 1 echiyngray lxlanna 2560 ekhathungcak https th wikipedia org w index php title hirynkhrenginyangechiynglaw amp oldid 9401291, wikipedia, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด,

บทความ

, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม