เจ้าพระยานครศรีธรรมราช (หนู)
พระเจ้าขัตติยราชนิคม สมมติมไหสวรรค์ พระเจ้านครศรีธรรมราช เจ้าขัณฑสีมา พระนามเดิม หนู เป็นพระมหากษัตริย์นครศรีธรรมราช ภายหลังการเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่สอง และเป็นพระเจ้าประเทศราชนครศรีธรรมราช ในรัชสมัยสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี
เจ้าพระยานครศรีธรรมราช (หนู) | |
---|---|
พระนามเดิม | หนู |
พระนามเต็ม | พระเจ้าขัตติยราชนิคม สมมติมไหสวรรค์ พระเจ้านครศรีธรรมราช เจ้าขัณฑสีมา |
พระอิสริยยศ | พระเจ้านครศรีธรรมราช |
ครองราชย์ | พ.ศ. 2319 – พ.ศ. 2325 |
บรมราชาภิเษก | 15 กันยายน พ.ศ. 2319 |
รัชกาลก่อน | พระเจ้านราสุริยวงศ์ |
รัชกาลถัดไป | ลดจากประเทศราชลงเป็นหัวเมือง เจ้าพระยานครศรีธรรมราช (พัฒน์)เป็นเจ้าเมืองคนถัดมา |
ข้อมูลส่วนพระองค์ | |
พระชายา | ทองเหนี่ยว |
พระราชบุตร | เจ้าหญิงชุ่ม กรมบริจาภักดีศรีสุดารักษ์ เจ้าจอมมารดาเจ้าหญิงปราง เจ้าจอมมารดาเจ้าหญิงจวน เจ้าหญิงสั้น เจ้าหญิงนวล |
ประวัติ
พระเจ้านครศรีธรรมราช เป็นเชื้อสายขุนนางกรุงศรีอยุธยา มีพี่ชายคนหนึ่งชื่อพระยาวิชิตณรงค์ ต่อมาได้รับราชการมีความชอบจนได้เป็น หลวงสิทธิ์นายเวร มหาดเล็ก ต่อมาพระยาราชสุภาวดีลงไปเป็นเจ้าเมืองนครศรีธรรมราช หลวงสิทธิ์นายเวรจึงได้เป็นปลัดเมืองนครศรีธรรมราชในคราวนั้น ต่อมาเมื่อพระยาราชสุภาวดี เจ้าเมืองนครศรีธรรมราชมีความผิด พระปลัด (หนู) จึงไปเป็นเจ้าเมืองนครศรีธรรมราชแทน
ต่อมาเมื่อเกิดเหตุการเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่สอง พระปลัด (หนู) ผู้รั้งตำแหน่งเจ้าเมืองนครศรีธรรมราช ได้ตั้งตัวขึ้นเป็นเจ้าที่เมืองนครศรีธรรมราช ชาวบ้านเรียกว่า เจ้านคร มีอาณาเขตตั้งแต่เมืองชุมพรจนถึงหัวเมืองมลายู
เมื่อปี พ.ศ. 2312 สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ยกทัพไปปราบชุมนุมเจ้านครศรีธรรมราช โดยมีเจ้าพระยาจักรีเป็นแม่ทัพ กองทัพเจ้านครฯ กับกองทัพกรุงธนบุรีได้สู้รบกันอย่างสามารถ แต่แม่ทัพกรุงธนบุรีที่ยกทัพไปกลับไม่ปรองดองกัน จึงไม่สามารถปราบชุมนุมเจ้านครฯ ได้สำเร็จ สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีจึงต้องทรงลงไปตีด้วยพระองค์เอง แล้วก็ทรงตีได้สำเร็จ เจ้านครศรีธรรมราช เจ้าหนู ต้องหนีละทิ้งเมืองไปอยู่ที่เมืองปัตตานี แต่เจ้าเมืองปัตตานีเกรงกลัวกองทัพสยาม จึงส่งตัวกลับมาให้สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี ตั้งแต่นั้นมาหัวเมืองปักษ์ใต้จึงมาอยู่ภายใต้อำนาจกรุงธนบุรี พระองค์ทรงไม่ประหารเจ้าเมืองนครศรีธรรมราช เพราะเนื่องจาก ในขณะนั้นกรุงศรีอยุธยาแตก ไม่มีเมืองที่ใหญ่กว่ามาปกครอง เมืองนครศรีธรรมราชจึงต้องตั้งตนเป็นอิสระ
หลังจากนั้นทรงโปรดให้พระเจ้านครศรีธรรมราชเข้ามารับราชการในกรุงธนบุรี แล้วแต่งตั้งพระเจ้านราสุริยวงศ์ พระราชนัดดาให้ไปครองนครศรีธรรมราช จนพ.ศ. 2319 เจ้านราสุริยวงศ์สิ้นพระชนม์ สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีจึงโปรดเกล้าฯ ให้พระเจ้านครศรีธรรมราช กลับไปครองนครศรีธรรมราช ทรงได้รับพระราชทานพระสุพรรบัฏเป็น พระเจ้าขัตติยราชนิคม สมมติมไหสวรรค์ พระเจ้านครศรีธรรมราช เจ้าขัณฑสีมา เมื่อวันที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2319 ดำรงพระอิสริยยศที่พระเจ้าประเทศราช
ในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชทรงลดพระอิสริยยศพระเจ้านครศรีธรรมราช ลงเป็นเจ้าพระยานครศรีธรรมราช และให้กลับมารับราชการในพระนคร ทรงแต่งตั้งเจ้าพระยานครศรีธรรมราช (พัฒน์)ไปครองนครศรีธรรมราชแทน พระเจ้านครศรีธรรมราชรับราชราชในกรุงเทพได้ไม่นานก็ถึงแก่อสัญกรรม เจ้าพระยานครศรีธรรมราช (พัฒน์) บุตรเขยได้เข้าไปรับอัฐิทั้งของพระเจ้านครศรีธรรมราชและหม่อมทองเหนี่ยว ซึงถึงแก่กรรมในเวลาไล่เลี่ยกัน ออกไปก่อเจดีย์บรรจุไว้ที่วัดแจ้งวรวิหาร เมืองนครศรีธรรมราช
พระราชธิดา
พระเจ้านครศรีธรรมราช ทรงมีพระราชธิดากับพระชายาทองเหนี่ยว ธิดาจีนปาด 6 พระองค์
- เจ้าหญิงชุ่ม ท่านผู้หญิงใน เจ้าพระยานครศรีธรรมราช (พัฒน์ ณ นคร)
- กรมบริจาภักดีศรีสุดารักษ์ ในสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช มีพระราชโอรสธิดา 4 พระองค์
- เจ้าฟ้าทัศพงษ์
- เจ้าฟ้าทัศไพ
- เจ้าฟ้านเรนทรราชกุมาร
- เจ้าฟ้าหญิงปัญจปาปี
- เจ้าจอมมารดาเจ้าหญิงปราง ในสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ภายหลังโปรดเกล้าฯ พระราชทานให้แก่ เจ้าพระยานครศรีธรรมราช (พัฒน์ ณ นคร) มีพระราชโอรส 1 พระองค์
- เจ้าจอมมารดาเจ้าหญิงจวน ในสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ภายหลังโปรดเกล้าฯ พระราชทานให้แก่ เจ้าพระยานครราชสีมา (ปิ่น ณ ราชสีมา) มีพระราชโอรส 1 พระองค์
- เจ้าหญิงสั้น ภริยาใน พระยาวิเศษสุนทร (นาค นกเล็ก)
- เจ้าหญิงนวล ท่านผู้หญิงใน เจ้าพระยานครศรีธรรมราช (พัฒน์ ณ นคร)
อ้างอิง
- ประวัติความเป็นมา | จังหวัดนครศรีธรรมราช
- บทที่ ๑ พระเจ้านครศรีธรรมราช (หนู) - มูลนิธิสกุล ณ นคร และสายสัมพันธ์
- ประวัติสกุล ณ นคร - Nanagara
- ตำนานเมืองนครศรีธรรมราช ประวัติศาสตร์ในสายหมอก โดย สุนทร ธานีรัตน์, มกราคม 2546