เพลย์สเตชัน (เครื่องเล่นวิดีโอเกม)
เพลย์สเตชัน (อังกฤษ: PlayStation ญี่ปุ่น: プレイステーション) เป็นเครื่องเล่นวิดีโอเกม ระบบ 32 บิต ผลิตโดยโซนี่คอมพิวเตอร์เอนเตอร์เทนเมนท์ โดยได้มีออกมาหลายรุ่นในลักษณะหลักเดียวกันในช่วงปลายคริสต์ทศวรรษ 1990 หลังจากที่ประสบความสำเร็จทางโซนี่ได้ออกเครื่องเล่นเกมในรุ่นต่อมาซึ่งได้แก่ เพลย์สเตชัน 2, เพลย์สเตชันพอร์เทเบิล และ เพลย์สเตชัน 3 ที่ออกจำหน่ายไปแล้วเมื่อปลาย ค.ศ. 2006
ผู้ผลิต | โซนี่คอมพิวเตอร์เอ็นเตอร์เทนเมนต์ |
---|---|
ชนิด | เครื่องเล่นวิดีโอเกม |
ยุค | ยุคที่ห้า ยุคที่หก |
วางจำหน่าย | 3 ธันวาคม ค.ศ. 1994 1 กันยายน ค.ศ. 1995 29 กันยายน ค.ศ. 1995 1 พฤศจิกายน ค.ศ. 1995 7 กรกฎาคม ค.ศ. 2000 19 กันยายน ค.ศ. 2000 29 กันยายน ค.ศ. 2000 |
ยกเลิก | 31 ธันวาคม ค.ศ. 2004 23 มีนาคม ค.ศ. 2006 |
ยอดจำหน่าย | 102.49 ล้านเครื่อง |
สื่อ | ซีดีรอม |
ซีพียู | ซีพียูแบบ MIPS ตระกูล R3000A รุ่น R3051 ความเร็ว 33.8688 เมกะเฮิร์ซ |
สื่อบันทึกข้อมูล | เมโมรีการ์ด |
เกมที่ขายดีที่สุด | แกรนทัวริสโม 10.85 ล้านชิ้น |
รุ่นถัดไป | เพลย์สเตชัน 2 |
ประวัติ
ในช่วงท้ายของยุคเครื่องเกมซูเปอร์แฟมิคอม (SFC, ทางฝั่งตะวันตกเรียก SNES) บริษัทนินเทนโดมีความสนใจในตัวสื่อบันทึกรูปแบบใหม่ที่เรียกว่า CD-ROM ซึ่งพัฒนาโดยบริษัทโซนี่และฟิลิป ทางนินเทนโดจึงติดต่อกับทางโซนี่ ในข้อเสนอร่วมกันผลิตอุปกรณ์เสริมแบบใหม่ให้กับเครื่องSFC โดยอุปกรณ์เสริมที่ว่าจะทำให้เครื่องเกมSFCสามารถเล่นเกมจากแผ่น CD-ROM ได้ โดยใช้ชื่อว่า SNES-CD นอกจากนั้นแล้ว ทางโซนี่ยังสนใจที่จะผลิตเครื่องเกมชนิดใหม่ ที่สามารถเล่นเกมจากทั้งตลับของ SFC และจากแผ่น CD-ROM ทั้งสองบริษัทจึงตกลงเซ็นสัญญาร่วมกัน
โครงการผลิตเครื่อง SNES-CD ได้มีการประกาศต่อสาธารณชนครั้งแรกในงานแสดงสิค้าอิเล็กทรอนิกส์ Consumer Electronics Show (CES) ปี 1991 แต่เหตุการณ์พลิกผัน เมื่อประธานบริษัทนินเทนโดในขณะนั้นเกิดไม่พอใจในเนื้อหาของข้อตกลงในสัญญาฉบับเก่าที่ทำกับโซนี่ เนื่องจากเห็นว่าทางโซนี่จะได้สิทธิในเกมทุกเกมที่ผลิตออกมาในรูปแบบ CD-ROM ทางนินเทนโดจึงได้ยกเลิกข้อตกลงการพัฒนาร่วมกับโซนี่ทั้งหมดกลางงาน CES และได้เปลี่ยนไปเซ็นสัญญากับทางฟิลิปแทน
การถูกยกเลิกสัญญากะทันหันแบบตั้งตัวไม่ทันนี้ สร้างความลำบากให้กับทางโซนี่ ผลงานวิจัยและพัฒนาถูกยกเลิกกลางอากาศ ทางบริษัทโซนี่จึงตัดสินใจนำสิ่งที่เหลือจากโครงการที่ยุบไปแล้วมาพัฒนาต่อเป็นเครื่องเกมคอนโซลแบบเดี่ยว ทางนินเทนโดได้ฟ้องร้องขอให้ศาลสั่งให้โซนี่ระงับการพัฒนา แต่ศาลไม่รับฟ้อง ในที่สุดในปี 1991 เครื่องเพลย์สเตชันรุ่นต้นแบบก็ถูกผลิตออกมา
การเปิดตัว
เครื่องเพลย์สเตชันเปิดตัวครั้งแรกในประเทศญี่ปุ่นในวันที่ 3 ธันวาคม 1994 เปิดตัวครั้งแรกในประเทศสหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 9 กันยายน 1995 เปิดตัวครั้งแรกในยุโรปในวันที่ 29 กันยายน 1995 โดยราคาเปิดตัวครั้งแรกในอเมริกาอยู่ที่ 299 ดอลลาร์สหรัฐต่อเครื่อง และการเปิดตัวดังกล่าวประสบความสำเร็จอย่างสูง
สายการผลิต
การผลิตเครื่องเพลย์สเตชันนั้นยาวนานต่อเนื่องถึง 11 ปี เป็นเครื่องเกมคอนโซลที่มีสายการผลิตยาวนานที่สุด จนเมื่อวันที่ 23 มีนาคม ปี2006 ทางโซนี่ประกาศยุติสายการผลิต
ความสำเร็จและผลกระทบต่อวงการเกม
มีหลายคนเชื่อว่า ความสำเร็จของเครื่องเพลย์สเตชันเป็นปัจจัยหนึ่งที่มีผลต่อการสิ้นสุดของยุคเกมแบบใช้ตลับ และเป็นเครื่องเกมแบบใช้แผ่นซีดีเครื่องแรกที่ประสบความสำเร็จ (แต่เครื่องเพลย์สเตชันไม่ใช่เครื่องเกมคอนโซลเครื่องแรกที่ใช้ซีดี) เครื่องเพลย์สเตชันสามารถเอาชนะเครื่องเกมแบบใช้ตลับเครื่องสุดท้ายของนินเทนโด นั่นคือเครื่องนินเทนโด 64
ปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ซีดีเป็นที่นิยมในหมู่ผู้พัฒนาเกม อันเนื่องมาจากรูปแบบของเกมได้มีการพัฒนาขึ้น และซับซ้อนมากกว่าเกมยุคก่อน ในขณะที่ตลับเกมมีเนื้อที่จำกัด แต่ซีดีรอมมีความจุมากกว่า ความจุที่มากกว่านี้ช่วยให้ผู้พัฒนาเกมสามารถสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ลงในเกมได้มากขึ้น เช่น การใส่ภาพยนตร์สั้น ๆ ลงในเกม คุณภาพเสียงที่ดีขึ้น รวมทั้งซีดีรอมนั้นผลิตได้ง่ายกว่าและถูกกว่าตลับเกม
เครื่องเพลย์สเตชันเป็นเครื่องเกมคอนโซลเครื่องแรกที่ขายได้มากกว่า 100 ล้านเครื่องทั่วโลก ในปี 2008 มีการประมาณการกันว่าเครื่องเพลย์สเตชันสามารถขายได้ถึง 102 ล้านเครื่อง
อ้างอิง
- ↑ Business Development/North America
- "PLAYSTATION 2 BREAKS RECORD" (PDF). คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม (PDF) เมื่อ 2009-12-23. สืบค้นเมื่อ 2009-02-22.
แหล่งข้อมูลอื่น
- เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ ของเพลย์สเตชันในสหรัฐอเมริกา
- ข้อมูลผลิตภัณฑ์จาก Sony Computer Entertainment 2006-09-08 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน