ไฟฟ้ากระแสตรง (อังกฤษ : direct current, อักษรย่อ: DC ) เป็นไฟฟ้ากระแสที่มีทิศทางการเคลื่อนที่ของกระแสไฟฟ้าไปในทิศทางเดียวกันเป็นวงจร ในอดีตไฟฟ้ากระแสตรงเคยถูกเรียกว่า กระแสกัลวานิก (galvanic current) อุปกรณ์ที่สามารถผลิตไฟฟ้ากระแสตรงได้ เช่น เซลล์แสงอาทิตย์ แบตเตอรี่ ทั้งชนิดประจุไฟฟ้าใหม่ได้และชนิดใช้แล้วทิ้ง และเครื่องกำเนิดไฟฟ้ากระแสตรง ไฟฟ้ากระแสตรงสามารถไหลผ่านตัวนำไฟฟ้า เช่น สายไฟ สารกึ่งตัวนำ ฉนวนไฟฟ้า หรือแม้กระทั่งเคลื่อนที่ในภาวะสุญญากาศ ในรูปของลำอิเล็กตรอน หรือลำไอออน
สัญลักษณ์แทนไฟฟ้ากระแสตรง พบได้บนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หลายชนิดที่ผลิตหรือต้องการไฟฟ้ากระแสตรง
ไฟฟ้ากระแสตรง (direct) แสดงเป็นเส้นตรงสีแดง แกนตั้งคือปริมาณกระแส (i) หรือความต่างศักย์ (v) และแกนนอนคือเวลา (t)
pulsating — ไฟฟ้ากระแสตรงชนิดเป็นจังหวะ
variable — ไฟฟ้ากระแสแปรผัน
alternating — ไฟฟ้ากระแสสลับ
ไฟฟ้ากระแสตรงชนิดต่าง ๆ
(บน) ชนิดสมบูรณ์
(กลางและล่าง) ชนิดเป็นจังหวะเกิดจากการเรียงกระแส
เราสามารถใช้ตัวเรียงกระแส เปลี่ยนไฟฟ้ากระแสสลับให้เป็นไฟฟ้ากระแสตรงได้ โดยส่วนประกอบอิเล็กทรอนิกส์ภายในตัวเรียงกระแสจะบังคับให้กระแสไฟฟ้าไหลผ่านได้ในทิศทางเดียว นอกจากนี้ยังสามารถเปลี่ยนไฟฟ้ากระแสตรงเป็นไฟฟ้ากระแสสลับได้โดยใช้อินเวอร์เตอร์หรือชุดไดนามอเตอร์
เครื่องมือวัดทางไฟฟ้าประเภทที่หนึ่งคือ -แอมมิเตอร์ โวลต์มิเตอร์ และโอห์มมิเตอร์ เป็นเครื่องวัดทางไฟฟ้า เพื่อใช้วัดปริมาณต่างๆ ทางไฟฟ้าเครื่องวัดทางไฟฟ้าต่างๆนี้สามารถสร้างขึ้นโดยดัดแปลงมาจาก แกลแวนอมิเตอร์ (Galvanometer) ชนิดขดลวดเคลื่อนที่ ซึ่งประกอบด้วยขดลวดวางระหว่างขั้วแม่เหล็กและประเภทที่สองคือ-แกลแวนอมิเตอร์ (Galvanometer) คือ เครื่องมือวัดพื้นฐานทางไฟฟ้าที่สามารถวัดได้ทั้งกระแสไฟฟ้าและความต่างศักย์ไฟฟ้า แต่จะวัดได้ปริมาณน้อยๆ ดังนั้นจึงนิยมนำไปดัดแปลงใช้วัดกระแสไฟฟ้าความต่างศักย์ไฟฟ้าและความต้านทาน
ประวัติ ครั้งหนึ่งเมื่อ พ.ศ. 2430 ยุคที่ไฟฟ้าเริ่มแพร่หลายสู่ภาคส่วนต่าง ๆ ของสังคม ไฟฟ้ากระแสตรงเคยถูกใช้ส่งไปตามครัวเรือน โดยการผลิตของสถานีผลิตไฟฟ้าจำนวน 121 แห่งทั่วสหรัฐอเมริกา ระบบดังกล่าวพัฒนาโดยทอมัส เอดิสัน (พ.ศ. 2389–2474) แต่ด้วยข้อจำกัดที่ไฟฟ้ากระแสตรงจะสูญเสียพลังงานอย่างรวดเร็ว เมื่อถูกส่งออกจากสถานีผลิตไฟฟ้าไกลเกินหนึ่งไมล์ ทำให้ต่อมาได้มีการคิดค้นไฟฟ้ากระแสสลับขึ้นโดยจอร์จ เวสติงเฮาส์ (พ.ศ. 2389–2457) ซึ่งสามารถส่งไฟฟ้าไปได้ไกลหลายร้อยไมล์โดยสูญเสียพลังงานน้อยมาก การแข่งขันระหว่างบุคคลสองท่านดังกล่าวถูกขนานนามว่าเป็น สงครามกระแสไฟฟ้า
ประเภท ไฟฟ้ากระแสตรงแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่
ไฟฟ้ากระแสตรงประเภทสม่ำเสมอ เป็นไฟฟ้ากระแสตรงที่ไหลอย่างสม่ำเสมอตลอดไปไฟฟ้ากระแสตรงประเภทนี้ได้มาจากแบตเตอรี่ หรือ ถ่านไฟฉาย ไฟฟ้ากระแสตรงประเภทไม่สม่ำเสมอ เป็นไฟฟ้ากระแสตรงที่เป็นช่วงคลื่นไม่สม่ำเสมอ ไฟฟ้ากระแสตรงชนิดนี้ได้มาจากเครื่องไดนาโมหรือ วงจรเรียงกระแส
คุณสมบัติ กระแสไฟฟ้าไหลไปทิศทางเดียวกันตลอด มีค่าแรงดันหรือแรงเคลื่อนเป็นบวกอยู่เสมอ สามารถเก็บประจุไว้ในเซลล์ หรือแบตเตอรีได้
ประโยชน์ ใช้ในการชุบโลหะต่าง ๆ ใช้ในการทดลองทางเคมี ใช้เชื่อมโลหะและตัดแผ่นเหล็ก ทำให้เหล็กมีอำนาจแม่เหล็ก ใช้ในการประจุกระแสไฟฟ้าเข้าแบตเตอรี ใช้ในวงจรอิเล็กทรอนิกส์ ใช้เป็นไฟฟ้าเดินทาง เช่น ไฟฉาย
ดูเพิ่ม
อ้างอิง Andrew J. Robinson, Lynn Snyder-Mackler (2007). Clinical Electrophysiology: Electrotherapy and Electrophysiologic Testing (3rd ed.). Lippincott Williams & Wilkins. p. 10. ISBN 978-0-7817-4484-3 [1] สืบค้นวันที่ 30 เมษายน 2559 General Article: AC/DC: What's the Difference? สืบค้นวันที่ 4 ตุลาคม 2558
ไฟฟ, ากระแสตรง, บทความน, งต, องการเพ, มแหล, งอ, างอ, งเพ, อพ, จน, ความถ, กต, อง, ณสามารถพ, ฒนาบทความน, ได, โดยเพ, มแหล, งอ, างอ, งตามสมควร, เน, อหาท, ขาดแหล, งอ, างอ, งอาจถ, กลบออก, งกฤษ, direct, current, กษรย, เป, นไฟฟ, ากระแสท, ศทางการเคล, อนท, ของกระแสไฟฟ, . bthkhwamniyngtxngkarephimaehlngxangxingephuxphisucnkhwamthuktxng khunsamarthphthnabthkhwamniidodyephimaehlngxangxingtamsmkhwr enuxhathikhadaehlngxangxingxacthuklbxxkiffakraaestrng xngkvs direct current xksryx DC epniffakraaesthimithisthangkarekhluxnthikhxngkraaesiffaipinthisthangediywknepnwngcr inxditiffakraaestrngekhythukeriykwa kraaesklwanik galvanic current 1 xupkrnthisamarthphlitiffakraaestrngid echn esllaesngxathity aebtetxri thngchnidpracuiffaihmidaelachnidichaelwthing aelaekhruxngkaenidiffakraaestrng iffakraaestrngsamarthihlphantwnaiffa echn sayif sarkungtwna chnwniffa hruxaemkrathngekhluxnthiinphawasuyyakasinrupkhxnglaxielktrxnhruxlaixxxnsylksnaethniffakraaestrng phbidbnxupkrnxielkthrxnikshlaychnidthiphlithruxtxngkariffakraaestrng iffakraaestrng direct aesdngepnesntrngsiaedng aekntngkhuxprimankraaes i hruxkhwamtangsky v aelaaeknnxnkhuxewla t pulsating iffakraaestrngchnidepncnghwavariable iffakraaesaeprphnalternating iffakraaesslb iffakraaestrngchnidtang bn chnidsmburn klangaelalang chnidepncnghwaekidcakkareriyngkraaes erasamarthichtweriyngkraaes epliyniffakraaesslbihepniffakraaestrngid odyswnprakxbxielkthrxniksphayintweriyngkraaescabngkhbihkraaesiffaihlphanidinthisthangediyw nxkcakniyngsamarthepliyniffakraaestrngepniffakraaesslbidodyichxinewxretxrhruxchudidnamxetxrekhruxngmuxwdthangiffapraephththihnungkhux aexmmietxr owltmietxr aelaoxhmmietxr epnekhruxngwdthangiffa ephuxichwdprimantang thangiffaekhruxngwdthangiffatangnisamarthsrangkhunodyddaeplngmacak aeklaewnxmietxr Galvanometer chnidkhdlwdekhluxnthi sungprakxbdwykhdlwdwangrahwangkhwaemehlkaelapraephththisxngkhux aeklaewnxmietxr Galvanometer khux ekhruxngmuxwdphunthanthangiffathisamarthwdidthngkraaesiffaaelakhwamtangskyiffa aetcawdidprimannxy dngnncungniymnaipddaeplngichwdkraaesiffakhwamtangskyiffaaelakhwamtanthan 2 enuxha 1 prawti 2 praephth 3 khunsmbti 4 praoychn 5 duephim 6 xangxingprawti aekikhkhrnghnungemux ph s 2430 yukhthiiffaerimaephrhlaysuphakhswntang khxngsngkhm iffakraaestrngekhythukichsngiptamkhrweruxn odykarphlitkhxngsthaniphlitiffacanwn 121 aehngthwshrthxemrika rabbdngklawphthnaodythxms exdisn ph s 2389 2474 aetdwykhxcakdthiiffakraaestrngcasuyesiyphlngnganxyangrwderw emuxthuksngxxkcaksthaniphlitiffaiklekinhnungiml thaihtxmaidmikarkhidkhniffakraaesslbkhunodycxrc ewstingehas ph s 2389 2457 sungsamarthsngiffaipidiklhlayrxyimlodysuyesiyphlngngannxymak karaekhngkhnrahwangbukhkhlsxngthandngklawthukkhnannamwaepn sngkhramkraaesiffa thiinthisudphukhncunghnmaichiffakraaesslbcnthungthukwnni 3 praephth aekikhiffakraaestrngaebngxxkepn 2 praephth idaek iffakraaestrngpraephthsmaesmx epniffakraaestrngthiihlxyangsmaesmxtlxdipiffakraaestrngpraephthniidmacakaebtetxri hrux thanifchay iffakraaestrngpraephthimsmaesmx epniffakraaestrngthiepnchwngkhlunimsmaesmx iffakraaestrngchnidniidmacakekhruxngidnaomhrux wngcreriyngkraaeskhunsmbti aekikhkraaesiffaihlipthisthangediywkntlxd mikhaaerngdnhruxaerngekhluxnepnbwkxyuesmx samarthekbpracuiwinesll hruxaebtetxriid praoychn aekikhichinkarchubolhatang ichinkarthdlxngthangekhmi ichechuxmolhaaelatdaephnehlk thaihehlkmixanacaemehlk ichinkarpracukraaesiffaekhaaebtetxri ichinwngcrxielkthrxniks ichepniffaedinthang echn ifchayduephim aekikhkraaesiffa iffakraaesslb rabbsaysngkraaestrngkhwamdnsungxangxing aekikh Andrew J Robinson Lynn Snyder Mackler 2007 Clinical Electrophysiology Electrotherapy and Electrophysiologic Testing 3rd ed Lippincott Williams amp Wilkins p 10 ISBN 978 0 7817 4484 3 1 subkhnwnthi 30 emsayn 2559 General Article AC DC What s the Difference subkhnwnthi 4 tulakhm 2558ekhathungcak https th wikipedia org w index php title iffakraaestrng amp oldid 8983175, wikipedia, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด,
บทความ , อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม
