fbpx
วิกิพีเดีย

หวงเฟยหง ภาค 1 ตอน หมัดบินทะลุเหล็ก

หวงเฟยหง ภาค 1 ตอน หมัดบินทะลุเหล็ก (ชื่อไทยเมื่อออกวางจำหน่ายดีวีดี) หรือชื่อเดิมเมื่อตอนออกฉายว่า หวงเฟยหง (อังกฤษ: Once Upon a Time in China) เป็นภาพยนตร์ศิลปะการต่อสู้ สัญชาติฮ่องกง ค.ศ. 1991 เขียนบทและกำกับภาพยนตร์โดยฉีเคอะ นำแสดงโดย หลี่ เหลียนเจี๋ย ,กวน จือหลิน ภาพยนตร์ชุดนี้เป็นภาคแรกของภาพยนตร์ซีรีส์ชุด หวงเฟยหง โดยมีภาคที่ 2 คือ หวงเฟยหง ภาค 2 ตอน ถล่มมารยุทธจักร

หวงเฟยหง ภาค 1 ตอน หมัดบินทะลุเหล็ก
โปสเตอร์ภาพยนตร์ในรูปแบบบลูเรย์
กำกับฉีเคอะ
บทภาพยนตร์ฉีเคอะ
นักแสดงนำหลี่ เหลียนเจี๋ย
กวน จือหลิน
หยวนเปียว
บริษัทผู้สร้าง
โกลเด้นท์ ฮาร์เวสท์
พารากอน ฟิล์มส์
ฟิล์ม เวิร์คชอปส์
ผู้จัดจำหน่ายโกลเด้นท์ ฮาร์เวสท์
สหมงคลฟิล์ม
(ไทย)
วันฉาย15 สิงหาคม ค.ศ. 1991 (1991-08-15)
ความยาว134 นาที
ประเทศฮ่องกง
ภาษาภาษาจีน
รายได้HK$29,672,278.00
ต่อจากนี้หวงเฟยหง ภาค 2 ตอน ถล่มมารยุทธจักร

เนื้อเรื่อง

ที่เมืองฝอซาน มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน ในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 "หลิวหย่งฟู่" แม่ทัพชาวฮั่นแห่ง "หน่วยฮ่อธงดำ" ผู้ซึ่งทางราชสำนักหวาดระแวงว่าจะตั้งตัวเป็นใหญ่ ได้ถูกส่งตัวไปรบที่แคว้นตังเกี๋ยของเวียดนามซึ่งกำลังถูกกองทัพฝรั่งเศสโจมตีเพื่อยึดครองเป็นอาณานิคม เขาจึงฝากฝังให้ "หวงเฟยหง" ครูมวยชื่อดังในท้องถิ่นและเป็นแพทย์ประจำกองทัพฮ่อธงดำ ให้ช่วยดูแลกำลังพลที่ไม่สามารถติดตามไปเวียดนามได้ ก่อนจะจากกัน เขาได้มอบของที่ระลึกให้แก่หวงเฟยหงพัดเป็นกระดาษซึ่งจารึกรายละเอียดของสนธิสัญญาเสียเปรียบที่ประเทศจีนได้ทำกับต่างชาติไว้ และคาดหวังว่าเมื่อตนกลับมาจากแคว้นตังเกี๋ยแล้วคงจะไม่ต้องเห็นสนธิสัญญาอันไม่เป็นธรรมเหล่านั้นอีก

หวงเฟยหงนอกจากจะเป็นครูมวยชื่อดังแล้วยังเป็นเจ้าของร้านขายยา "เป่าจือหลิน" เปิดรับรักษาผู้ป่วยทั่วไป โดยมีศิษย์เอกเป็นผู้ช่วยอยู่ 3 คน คือ "หมูตอนหยง" "อาซูฟันเหยิน" และ "อาไค" เขาได้พบกับ "เส้าจุน" ลูกสาวเพื่อนร่วมสาบานของปู่ของหวงเฟยหง ซึ่งมีรสนิยมในการใช้ชีวิตค่อนไปทางวัฒนธรรมตะวันตก แม้ว่าทั้งเส้าจุนและหวงเฟยหงจะมีอายุไล่เลี่ยกัน แต่หวงเฟยหงก็เรียกเส้าจุนว่า "น้าสิบสาม" ตามลำดับศักดิ์ของญาติ ถึงแม้ทั้งคู่จะมีใจให้แก่กันแต่ความสัมพันธ์ก็ไม่ได้เป็นไปอย่างราบรื่นนัก เพราะการคบหากันเยี่ยงคู่รักในหมู่ญาติเช่นนี้ถือเป็นเรื่องไม่สมควรในสังคมจีนเวลานั้น

"เหลียงควน" ได้เดินทางมาที่ฝอซานพร้อมกับคณะงิ้วคณะหนึ่งเพื่อเปิดการแสดงที่นั่น เขาได้มีโอกาสพบกับน้าสิบสามอยู่ครั้งหนึ่งด้วยความซุ่มซ่ามของตนเองและรู้สึกหลงรักน้าสิบสามแทบจะทันที ด้วยความที่เป็นคนหน้าใหม่ของแถบนั้น ทำให้เขามีเรื่องกับแก๊งอั้งยี่ "ซาเหอ" ซึ่งคอยข่มขู่เรียกค่าคุ้มครองจากคนในเมือง จนบานปลายกลายเป็นการปะทะกันระหว่างแก๊งซาเหอกับหน่วยฮ่อธงดำที่หวงเฟยหงดูแลอยู่ การต่อสู้ได้ลุกลามเข้าไปยังร้านอาหารแห่งหนึ่งซึ่งหวงเฟยหงใช้เป็นที่พบปะสนทนากับ "ผู้ว่าราชการเมืองฝอซาน" และนายทหารเรืออังกฤษ พวกแก๊งซาเหอจึงถอนตัวกลับไปเพราะรู้ดัวว่าสู้หวงเฟยหงไม่ได้ ผู้ว่าราชการเมืองฝอซานซึ่งหวาดระแวงทั้งหวงเฟยหงและหน่วยฮ่อธงดำอยู่แล้วจึงคาดโทษหวงเฟยหง พร้อมทั้งสั่งยุบหน่วยฮ่อธงดำและให้จับกุมพลพรรคหน่วยฮ่อธงดำไปขังทั้งหมด หวงเฟยหงได้เผชิญหน้ากับหัวหน้าแก๊งซาเหอ สามารถเอาชนะและจับตัวส่งให้แก่ทางการเมืองฝอซานได้ แต่ทางการได้ปล่อยตัวหัวหน้าแก๊งซาเหอไป เพราะไม่มีใครกล้าไปเป็นพยานในศาลว่าแก๊งซาเหอกระทำความผิดจริง ในขณะเดียวกัน เหลียงควนได้เห็นการประลองยุทธระหว่างครูมวยชื่อดังในท้องถิ่นกับ "อาจารย์เอี้ยน" จอมยุทธพเนจรจากภาคเหนือ เขาประทับใจในฝีมือของอาจารย์เอี้ยนมากจึงขอฝากตัวเป็นศิษย์ของอาจารย์เอี้ยน อาจารย์เอี้ยนนั้นต้องการพิสูจน์ตัวเองให้คนทั่วไปยอมรับ เพื่อสร้างชื่อเสียงและเปิดสำนักมวยขึ้นในฝอซาน แต่เขาทำไม่สำเร็จ จึงต้องทนอยู่อย่างอดๆ อยากๆ และถูกคนทั่วไปดูถูกดูแคลนอยู่เสมอ

แก๊งซาเหอได้ลอบวางเพลิงร้านเป่าจืนหลินเพื่อแก้แค้นหวงเฟยหง แล้วหนีไปขอความคุ้มครองจาก "แจ็คสัน" เจ้าหน้าที่ชาวอเมริกันในเขตเช่าของสหรัฐอเมริกา โดยแลกกับการทำหน้าที่จัดหาและลักพาตัวผู้หญิงชาวจีนมาขึ้นเรืออเมริกันเพื่อส่งตัวไปขายเป็นโสเภณี เมื่อหวงเฟยหงและผู้ว่าราชการเมืองฝอซานไปชมงิ้ว แก๊งซาเหอและพวกของแจ็คสันได้โจมตีหวงเฟยหงและพยายามสังหารผู้ว่าราชการเมืองฝอซานแต่ไม่สำเร็จ มีผู้บริสุทธิ์ถูกลูกหลงจากการโจมตีครั้งนี้เป็นจำนวนมาก ผู้ว่าราชการเมืองฝอซานจึงโทษหวงเฟยหงว่าเป็นต้นเหตุ และสั่งจับกุมหวงเฟยหงพร้อมทั้งขู่ว่าจะลงโทษประหารชีวิตเสีย แต่อนุญาตให้หวงเฟยหงไปรักษาคนเจ็บที่ร้านเป่าจือหลินก่อนถูกควบคุมตัวไปเรือนจำได้ ระหว่างที่ทำการรักษาคนเจ็บอยู่นั้นเอง หวงเฟยหงได้พบกับแรงงานชาวจีนคนหนึ่งซึ่งหนีมาจากเรือของชาวอเมริกัน เขาได้เล่าเรื่องราวการหลอกลวงชาวจีนไปเป็นแรงงานทาสที่สหรัฐอเมริกาให้หวงเฟยหงได้รับรู้ ขณะเดียวกันอาจารย์เอี้ยนก็ได้เดินทางมาที่ร้านเป่าจือหลินและดึงดันที่จะขอประลองกับหวงเฟยหงเพื่อพิสูจน์ฝีมือตนเองเพียงฝ่ายเดียว หวงเฟยหงเสียสมาธิจากเสียงปืนที่น้าสิบสามทำลั่นขึ้น ทำให้อาจารย์เอี้ยนเอาชนะหวงเฟยหงและทำลายป้ายร้านเป่าจือหลินได้ แม้กระนั้นเขาก็ไม่นับว่าเป็นชัยชนะที่แท้จริง จึงขอท้าประลองกับหวงเฟยหงอีกครั้งในโอกาสหน้าและออกจากร้านเป่าจือหลินไป หลังจากนั้นอาจารย์เอี้ยนได้ไปอาศัยอยู่กับก๊งซาเหอเพื่อหาเงินทุนตั้งสำนักมวยของตนเอง แม้เหลียงควนจะทักท้วงอย่างแข็งขันแล้วว่าการทำเช่นนี้เป็นการขัดต่อคุณธรรมแต่อาจารย์เอี้ยนก็ไม่ฟัง

ผู้ว่าราชการเมืองฝอซานได้นำทหารบุกเข้าไปจับตัวหวงเฟยหงและพรรคพวก หวงเฟยหงกับลูกศิษย์ได้ต่อสู้ถ่วงเวลาจนกระทั่งน้าสิบสาม อาซูฟันเหยิน และแรงงานชาวจีนเหยื่อพวกค้ามนุษย์หนีออกไปจากร้านเป่าจือหลินสำเร็จแล้วจึงยอมให้ทหารจับกุมตัว ทั้งหมดถูกคุมขังรวมกับหน่วยฮ่อธงดำที่ถูกจับกุมก่อนหน้านั้น ด้านน้าสิบสามและคณะได้หนีไปจนถึงเขตเช่าของสหรัฐอเมริกา แก๊งซาเหอได้จับตัวน้าสิบสามไปขายตัวและฆ่าแรงงานจีนที่พยายามขัดขวางพวกตน อาซูฟันเหยินหนีรอดมาได้จึงรีบไปแจ้งข่าวให้พวกหวงเฟยหงซึ่งถูกจองจำอยู่ได้รับทราบ ผู้คุมเรือนจำซึ่งเคารพในตัวหวงเฟยหงและรู้สึกคัดค้านกับการกระทำอย่างไม่เป็นธรรมของผู้ว่าราชการเมืองฝอซานมาหลายครั้งจึงตัดสินใจปล่อยตัวหวงเฟยหงโดยพลการ

หวงเฟยหงและลูกศิษย์แฝงตัวเข้าไปในรังของแจ็คสันที่เขตเช่าของสหรัฐอเมริกาเพื่อค้นหาและช่วยเหลือน้าสิบสาม อาจารย์เอี้ยนได้เข้ามาขัดขวางและปะทะกับหวงเฟยหงแบบตัวต่อตัว ครั้งนี้หวงเฟยหงพบว่าอาจารย์เอี้ยนแอบซ่อนแผ่นเหล็กไว้เป็นเกราะอกและแอบผูกใบมีดขนาดเล็กไว้ที่เปียผมเป็นอาวุธลับ ทว่าเขาสามารถเอาชนะอาจารย์เอี้ยนได้อย่างไร้ข้อกังขา ขณะเดียวกัน เหลียงควนพร้อมด้วยลูกศิษย์ของหวงเฟยหงได้บุกตะลุยแก๊งซาเหอไปจนถึงเรือของแจ็คสันและสามารถช่วยน้าสิบสามและผู้หญิงที่ถูกพวกค้ามนุษย์จับตัวเตรียมส่งไปขายที่สหรัฐอเมริกาออกมาได้สำเร็จ ขณะที่หวงเฟยหงจะขึ้นไปที่เรือของแจ็คสัน อาจารย์เอี้ยนซึ่งพ่ายแพ้อย่างหมดรูปได้วิ่งตามออกมาเพื่อจะทำร้ายหวงเฟยหง แต่ถูกกระสุนปืนลูกหลงจากคนของแจ็คสันเสียก่อน อาจารย์เอี้ยนได้เอ่ยคำสุดท้ายด้วยความเจ็บใจก่อนจะเสียชีวิตไว้ว่า "ถึงอย่างไรเพลงมวยก็สู้ปืนไฟไม่ได้"

ระหว่างการต่อสู้บนเรือของแจ็คสัน หัวหน้าแก๊งซาเหอได้ถูกผู้หญิงที่ตกเป็นเหยื่อช่วยกันจับตัวโยนเข้าเตาเผาของเครื่องยนต์เรือและถูกเผาทั้งเป็นอยู่ในนั้น แจ็คสันซึ่งเข้าตาจนได้ตัดสินใจใช้ปืนจี้จับตัวผู้ว่าราชการเมืองฝอซานไว้เป็นตัวประกัน แต่หวงเฟยหงสังหารแจ็คสันโดยใช้นิ้วดีดลูกกระสุนที่ยังไม่ทันบรรจุลงในปืนเข้ากลางหน้าผากของแจ็คสันและช่วยผู้ว่าราชการเมืองฝอซานได้ หลังเรื่องราวทุกอย่างจบลงและพลพรรคหน่วยฮ่อธงดำได้รับการปล่อยตัวแล้ว หวงเฟยหงจึงรับเหลียงควนเป็นศิษย์เอกคนที่ 4 และสมาชิกของร้านเป่าจืนหลินได้แต่งตัวในชุดตะวันตกถ่ายรูปหมู่ไว้เป็นที่ระลึก

นักแสดงนำ

  • หลี่ เหลียนเจี๋ย รับบท หวง เฟยหง (ผู้แสดงแทน: หง เหยินเหยิน)
  • กวน จือหลิน รับบท น้าสิบสาม/เส้าจุน
  • หยวนเปียว รับบท เหลียงควน
  • จาง เสฺวโย่ว รับบท So Sai-man (อาซูฟันเหยิน)
  • เคนท์ จาง รับบท หลิน ซื่อหรง (หมูตอนหยง)
  • Yuen Kam-fai as Ling Wan-kai (อาไค)
  • โจนาธาน อิสการ์ รับบท แจ๊คสัน
  • Steve Tartalia รับบท ไทเกอร์
  • Mark King รับบท นายพลวิคเกนส์ (นายทหารเรือชาวอังกฤษ)
  • Lau Shun รับบท หลิว หย่งฟู่
  • Yau Kin-kwok รับบท หัวหน้าแก๊งซาเหอ
  • Wong Chi-yeung รับบท ผู้ว่าราชการเมืองฝอซาน
  • Yuen Cheung-yan รับบท คู่ต่อสู้ของอาจารย์เอี้ยน
  • Jimmy Wang รับบท แรงงานจีนเหยื่อพวกค้ามนุษย์
  • Colin George รับบท นักบวชคณะเยสุอิต
  • หง เหยินเหยิน รับบท สมาชิกแก๊งซาเหอ
  • อู๋ หม่า รับบท ท่านปู่ใหญ่เฉิง (ดารารับเชิญ)
  • Shih Kien (ดารารับเชิญ)
  • เยิ่น ต๊ะหัว (ดารารับเชิญ)

รางวัลและผลการตอบรับ

หวงเฟยหง ภาค 1 ภาพยนตร์แนวศิลปะการต่อสู้ บู๊ เรื่องเยี่ยมจากฝีมือกำกับของ ฉีเคอะ(ผู้กำกับและผู้อำนวยการสร้างจาก โปเยโปโลเย เย้ยฟ้าแล้วก็ท้า และ เดชคัมภีร์เทวดา) ที่สร้างชื่อให้กับพระเอกหนังศิลปะการต่อสู้อย่างหลี่ เหลียนเจี๋ย ให้กลายเป็ยยอดนักแสดงที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกและฮอลลีวูด ด้วยบทบาทการต่อสู้วิชากังฟูของจีน ในบท หวงเฟยหง ภาพยนตร์ศิลปะการต่อสู้ที่มีเนื้อหาแนวภาพยนตร์กำลังภายในชุดนี้เป็นแบบฉบับของ ฉีเคอะ จนกลายเป็นงานระดับคลาสสิกของวงการภาพยนตร์ฮ่องกง ซึ่งภาพยนตร์ดังกล่าวได้รับรางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยม ออกแบบฉากบู๊ยอดเยี่ยม ตัดต่อภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม จากงานประกวดรางวัลภาพยนตร์ฮ่องกง ฟิล์ม อวร์อด ประจำปี ค.ศ.1991

หมายเหตุ

  1. หวงเฟยหง ภาค 1 ตอนฉายในโรงภาพยนตร์ในประเทศไทยยุคนั้นไม่มีชื่อตอน พอนำมาออกแผ่นวีซีดี ดีวีดีในยุคหลัง ได้ตั้งชื่อตอนว่า หมัดบินทะลุเหล็ก

แหล่งช้อมูลอื่น

 China
 Hong Kong
 Film

หวงเฟยหง, ภาค, ตอน, หม, ดบ, นทะล, เหล, อไทยเม, อออกวางจำหน, ายด, หร, อช, อเด, มเม, อตอนออกฉายว, หวงเฟยหง, note, งกฤษ, once, upon, time, china, เป, นภาพยนตร, ลปะการต, อส, ญชาต, องกง, 1991, เข, ยนบทและกำก, บภาพยนตร, โดยฉ, เคอะ, นำแสดงโดย, หล, เหล, ยนเจ, กวน, อหล. hwngefyhng phakh 1 txn hmdbinthaluehlk chuxithyemuxxxkwangcahnaydiwidi hruxchuxedimemuxtxnxxkchaywa hwngefyhng note 1 xngkvs Once Upon a Time in China epnphaphyntrsilpakartxsu sychatihxngkng kh s 1991 ekhiynbthaelakakbphaphyntrodychiekhxa naaesdngody hli ehliyneciy kwn cuxhlin phaphyntrchudniepnphakhaerkkhxngphaphyntrsirischud hwngefyhng odymiphakhthi 2 khux hwngefyhng phakh 2 txn thlmmaryuththckrhwngefyhng phakh 1 txn hmdbinthaluehlkopsetxrphaphyntrinrupaebbbluerykakbchiekhxabthphaphyntrchiekhxankaesdngnahli ehliyneciykwn cuxhlinhywnepiywbristhphusrangoklednth harewsthpharakxn filmsfilm ewirkhchxpsphucdcahnayoklednth harewsthshmngkhlfilm ithy wnchay15 singhakhm kh s 1991 1991 08 15 khwamyaw134 nathipraethshxngkngphasaphasacinrayidHK 29 672 278 00txcaknihwngefyhng phakh 2 txn thlmmaryuththckr enuxha 1 enuxeruxng 2 nkaesdngna 3 rangwlaelaphlkartxbrb 4 hmayehtu 5 aehlngchxmulxunenuxeruxng aekikhthiemuxngfxsan mnthlkwangtung praethscin inchwngplaykhriststwrrsthi 19 hliwhyngfu aemthphchawhnaehng hnwyhxthngda phusungthangrachsankhwadraaewngwacatngtwepnihy idthuksngtwiprbthiaekhwntngekiykhxngewiydnamsungkalngthukkxngthphfrngessocmtiephuxyudkhrxngepnxananikhm ekhacungfakfngih hwngefyhng khrumwychuxdnginthxngthinaelaepnaephthypracakxngthphhxthngda ihchwyduaelkalngphlthiimsamarthtidtamipewiydnamid kxncacakkn ekhaidmxbkhxngthiralukihaekhwngefyhngphdepnkradassungcarukraylaexiydkhxngsnthisyyaesiyepriybthipraethscinidthakbtangchatiiw aelakhadhwngwaemuxtnklbmacakaekhwntngekiyaelwkhngcaimtxngehnsnthisyyaxnimepnthrrmehlannxikhwngefyhngnxkcakcaepnkhrumwychuxdngaelwyngepnecakhxngrankhayya epacuxhlin epidrbrksaphupwythwip odymisisyexkepnphuchwyxyu 3 khn khux hmutxnhyng xasufnehyin aela xaikh ekhaidphbkb esacun luksawephuxnrwmsabankhxngpukhxnghwngefyhng sungmirsniyminkarichchiwitkhxnipthangwthnthrrmtawntk aemwathngesacunaelahwngefyhngcamixayuileliykn aethwngefyhngkeriykesacunwa nasibsam tamladbskdikhxngyati thungaemthngkhucamiicihaekknaetkhwamsmphnthkimidepnipxyangrabrunnk ephraakarkhbhakneyiyngkhurkinhmuyatiechnnithuxepneruxngimsmkhwrinsngkhmcinewlann ehliyngkhwn idedinthangmathifxsanphrxmkbkhnangiwkhnahnungephuxepidkaraesdngthinn ekhaidmioxkasphbkbnasibsamxyukhrnghnungdwykhwamsumsamkhxngtnexngaelarusukhlngrknasibsamaethbcathnthi dwykhwamthiepnkhnhnaihmkhxngaethbnn thaihekhamieruxngkbaekngxngyi saehx sungkhxykhmkhueriykkhakhumkhrxngcakkhninemuxng cnbanplayklayepnkarpathaknrahwangaekngsaehxkbhnwyhxthngdathihwngefyhngduaelxyu kartxsuidluklamekhaipyngranxaharaehnghnungsunghwngefyhngichepnthiphbpasnthnakb phuwarachkaremuxngfxsan aelanaythhareruxxngkvs phwkaekngsaehxcungthxntwklbipephraarudwwasuhwngefyhngimid phuwarachkaremuxngfxsansunghwadraaewngthnghwngefyhngaelahnwyhxthngdaxyuaelwcungkhadothshwngefyhng phrxmthngsngyubhnwyhxthngdaaelaihcbkumphlphrrkhhnwyhxthngdaipkhngthnghmd hwngefyhngidephchiyhnakbhwhnaaekngsaehx samarthexachnaaelacbtwsngihaekthangkaremuxngfxsanid aetthangkaridplxytwhwhnaaekngsaehxip ephraaimmiikhrklaipepnphyaninsalwaaekngsaehxkrathakhwamphidcring inkhnaediywkn ehliyngkhwnidehnkarpralxngyuththrahwangkhrumwychuxdnginthxngthinkb xacaryexiyn cxmyuththphencrcakphakhehnux ekhaprathbicinfimuxkhxngxacaryexiynmakcungkhxfaktwepnsisykhxngxacaryexiyn xacaryexiynnntxngkarphisucntwexngihkhnthwipyxmrb ephuxsrangchuxesiyngaelaepidsankmwykhuninfxsan aetekhathaimsaerc cungtxngthnxyuxyangxd xyak aelathukkhnthwipduthukduaekhlnxyuesmxaekngsaehxidlxbwangephlingranepacunhlinephuxaekaekhnhwngefyhng aelwhniipkhxkhwamkhumkhrxngcak aeckhsn ecahnathichawxemrikninekhtechakhxngshrthxemrika odyaelkkbkarthahnathicdhaaelalkphatwphuhyingchawcinmakhuneruxxemriknephuxsngtwipkhayepnosephni emuxhwngefyhngaelaphuwarachkaremuxngfxsanipchmngiw aekngsaehxaelaphwkkhxngaeckhsnidocmtihwngefyhngaelaphyayamsngharphuwarachkaremuxngfxsanaetimsaerc miphubrisuththithuklukhlngcakkarocmtikhrngniepncanwnmak phuwarachkaremuxngfxsancungothshwngefyhngwaepntnehtu aelasngcbkumhwngefyhngphrxmthngkhuwacalngothspraharchiwitesiy aetxnuyatihhwngefyhngiprksakhnecbthiranepacuxhlinkxnthukkhwbkhumtwiperuxncaid rahwangthithakarrksakhnecbxyunnexng hwngefyhngidphbkbaerngnganchawcinkhnhnungsunghnimacakeruxkhxngchawxemrikn ekhaidelaeruxngrawkarhlxklwngchawcinipepnaerngnganthasthishrthxemrikaihhwngefyhngidrbru khnaediywknxacaryexiynkidedinthangmathiranepacuxhlinaeladungdnthicakhxpralxngkbhwngefyhngephuxphisucnfimuxtnexngephiyngfayediyw hwngefyhngesiysmathicakesiyngpunthinasibsamthalnkhun thaihxacaryexiynexachnahwngefyhngaelathalaypayranepacuxhlinid aemkrannekhakimnbwaepnchychnathiaethcring cungkhxthapralxngkbhwngefyhngxikkhrnginoxkashnaaelaxxkcakranepacuxhlinip hlngcaknnxacaryexiynidipxasyxyukbkngsaehxephuxhaenginthuntngsankmwykhxngtnexng aemehliyngkhwncathkthwngxyangaekhngkhnaelwwakarthaechnniepnkarkhdtxkhunthrrmaetxacaryexiynkimfngphuwarachkaremuxngfxsanidnathharbukekhaipcbtwhwngefyhngaelaphrrkhphwk hwngefyhngkbluksisyidtxsuthwngewlacnkrathngnasibsam xasufnehyin aelaaerngnganchawcinehyuxphwkkhamnusyhnixxkipcakranepacuxhlinsaercaelwcungyxmihthharcbkumtw thnghmdthukkhumkhngrwmkbhnwyhxthngdathithukcbkumkxnhnann dannasibsamaelakhnaidhniipcnthungekhtechakhxngshrthxemrika aekngsaehxidcbtwnasibsamipkhaytwaelakhaaerngngancinthiphyayamkhdkhwangphwktn xasufnehyinhnirxdmaidcungribipaecngkhawihphwkhwngefyhngsungthukcxngcaxyuidrbthrab phukhumeruxncasungekharphintwhwngefyhngaelarusukkhdkhankbkarkrathaxyangimepnthrrmkhxngphuwarachkaremuxngfxsanmahlaykhrngcungtdsinicplxytwhwngefyhngodyphlkarhwngefyhngaelaluksisyaefngtwekhaipinrngkhxngaeckhsnthiekhtechakhxngshrthxemrikaephuxkhnhaaelachwyehluxnasibsam xacaryexiynidekhamakhdkhwangaelapathakbhwngefyhngaebbtwtxtw khrngnihwngefyhngphbwaxacaryexiynaexbsxnaephnehlkiwepnekraaxkaelaaexbphukibmidkhnadelkiwthiepiyphmepnxawuthlb thwaekhasamarthexachnaxacaryexiynidxyangirkhxkngkha khnaediywkn ehliyngkhwnphrxmdwyluksisykhxnghwngefyhngidbuktaluyaekngsaehxipcnthungeruxkhxngaeckhsnaelasamarthchwynasibsamaelaphuhyingthithukphwkkhamnusycbtwetriymsngipkhaythishrthxemrikaxxkmaidsaerc khnathihwngefyhngcakhunipthieruxkhxngaeckhsn xacaryexiynsungphayaephxyanghmdrupidwingtamxxkmaephuxcatharayhwngefyhng aetthukkrasunpunlukhlngcakkhnkhxngaeckhsnesiykxn xacaryexiynidexykhasudthaydwykhwamecbickxncaesiychiwitiwwa thungxyangirephlngmwyksupunifimid rahwangkartxsubneruxkhxngaeckhsn hwhnaaekngsaehxidthukphuhyingthitkepnehyuxchwykncbtwoynekhaetaephakhxngekhruxngynteruxaelathukephathngepnxyuinnn aeckhsnsungekhatacnidtdsinicichpuncicbtwphuwarachkaremuxngfxsaniwepntwprakn aethwngefyhngsngharaeckhsnodyichniwdidlukkrasunthiyngimthnbrrculnginpunekhaklanghnaphakkhxngaeckhsnaelachwyphuwarachkaremuxngfxsanid hlngeruxngrawthukxyangcblngaelaphlphrrkhhnwyhxthngdaidrbkarplxytwaelw hwngefyhngcungrbehliyngkhwnepnsisyexkkhnthi 4 aelasmachikkhxngranepacunhlinidaetngtwinchudtawntkthayruphmuiwepnthiraluknkaesdngna aekikhhli ehliyneciy rbbth hwng efyhng phuaesdngaethn hng ehyinehyin kwn cuxhlin rbbth nasibsam esacun hywnepiyw rbbth ehliyngkhwn cang es woyw rbbth So Sai man xasufnehyin ekhnth cang rbbth hlin suxhrng hmutxnhyng Yuen Kam fai as Ling Wan kai xaikh ocnathan xiskar rbbth aeckhsn Steve Tartalia rbbth ithekxr Mark King rbbth nayphlwikhekns naythhareruxchawxngkvs Lau Shun rbbth hliw hyngfu Yau Kin kwok rbbth hwhnaaekngsaehx Wong Chi yeung rbbth phuwarachkaremuxngfxsan Yuen Cheung yan rbbth khutxsukhxngxacaryexiyn Jimmy Wang rbbth aerngngancinehyuxphwkkhamnusy Colin George rbbth nkbwchkhnaeysuxit hng ehyinehyin rbbth smachikaekngsaehx xu hma rbbth thanpuihyeching dararbechiy Shih Kien dararbechiy eyin tahw dararbechiy rangwlaelaphlkartxbrb aekikhhwngefyhng phakh 1 phaphyntraenwsilpakartxsu bu eruxngeyiymcakfimuxkakbkhxng chiekhxa phukakbaelaphuxanwykarsrangcak opeyopoley eyyfaaelwktha aela edchkhmphirethwda thisrangchuxihkbphraexkhnngsilpakartxsuxyanghli ehliyneciy ihklayepyyxdnkaesdngthimichuxesiyngodngdngipthwolkaelahxlliwud dwybthbathkartxsuwichakngfukhxngcin inbth hwngefyhng phaphyntrsilpakartxsuthimienuxhaaenwphaphyntrkalngphayinchudniepnaebbchbbkhxng chiekhxa cnklayepnnganradbkhlassikkhxngwngkarphaphyntrhxngkng sungphaphyntrdngklawidrbrangwlphukakbyxdeyiym xxkaebbchakbuyxdeyiym tdtxphaphyntryxdeyiym aelaephlngprakxbphaphyntryxdeyiym caknganprakwdrangwlphaphyntrhxngkng film xwrxd pracapi kh s 1991hmayehtu aekikh hwngefyhng phakh 1 txnchayinorngphaphyntrinpraethsithyyukhnnimmichuxtxn phxnamaxxkaephnwisidi diwidiinyukhhlng idtngchuxtxnwa hmdbinthaluehlkaehlngchxmulxun aekikh China Hong Kong Filmhwngefyhng phakh 1 txn hmdbinthaluehlk thixxlmuwi hwngefyhng phakh 1 txn hmdbinthaluehlk thixinethxrentmuwiedtaebs hwngefyhng phakh 1 txn hmdbinthaluehlk thirxtethnothemothsekhathungcak https th wikipedia org w index php title hwngefyhng phakh 1 txn hmdbinthaluehlk amp oldid 9523875, wikipedia, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด,

บทความ

, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม