ชวลิต ยงใจยุทธ
พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ (เกิด 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2475) เป็นนักการเมืองและทหารบกชาวไทย นายกรัฐมนตรีของประเทศไทย คนที่ 22 ทั้งเคยดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีหลายกระทรวง ผู้บัญชาการทหารบก และรักษาการผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้รับสมญา "ขงเบ้งแห่งกองทัพบก" เคยได้รับการแต่งตั้งให้เป็นสมาชิกวุฒิสภา ขณะดำรงตำแหน่งทางทหาร เป็นผู้ก่อตั้งและหัวหน้าพรรคความหวังใหม่คนแรก และเป็น ส.ส.หลายสมัย
พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ ม.ป.ช., ม.ว.ม., ป.ภ., ท.จ.ว., ม.ร. | |
---|---|
ชวลิต ยงใจยุทธ ใน พ.ศ. 2561 | |
นายกรัฐมนตรีไทย คนที่ 22 | |
ดำรงตำแหน่ง 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2539 – 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2540 (0 ปี 349 วัน) | |
กษัตริย์ | พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร |
รองนายกรัฐมนตรี | สุขวิช รังสิตพล อำนวย วีรวรรณ กร ทัพพะรังสี มนตรี พงษ์พานิช สมัคร สุนทรเวช ทักษิณ ชินวัตร วีรพงษ์ รามางกูร สุวิทย์ คุณกิตติ |
ก่อนหน้า | บรรหาร ศิลปอาชา |
ถัดไป | ชวน หลีกภัย |
ผู้บัญชาการทหารบก | |
ดำรงตำแหน่ง 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2529 – 31 มีนาคม พ.ศ. 2533 (3 ปี 308 วัน) | |
ก่อนหน้า | อาทิตย์ กำลังเอก |
ถัดไป | สุจินดา คราประยูร |
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน | |
ดำรงตำแหน่ง 23 กันยายน พ.ศ. 2536 – 7 มกราคม พ.ศ. 2537 | |
นายกรัฐมนตรี | ชวน หลีกภัย |
ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (รักษาราชการ) | |
ดำรงตำแหน่ง 1 ตุลาคม พ.ศ. 2530 – 31 มีนาคม พ.ศ. 2533 (2 ปี 181 วัน) | |
ก่อนหน้า | สุภา คชเสนี |
ถัดไป | สุนทร คงสมพงษ์ |
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม | |
ดำรงตำแหน่ง 30 มีนาคม พ.ศ. 2533 – 10 มิถุนายน พ.ศ. 2533 | |
ดำรงตำแหน่ง 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2538 – 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2539 | |
ดำรงตำแหน่ง 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2539 – 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2540 | |
ดำรงตำแหน่ง 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2544 – 3 ตุลาคม พ.ศ. 2545 | |
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2475 (89 ปี) จังหวัดนนทบุรี ประเทศสยาม |
พรรคการเมือง | เพื่อไทย (2552–2554) ไทยรักไทย (2545–2548) ความหวังใหม่ (2533–2545) |
คู่สมรส | 4 คน |
ลายมือชื่อ | |
การเข้าเป็นทหาร | |
สังกัด | กองทัพไทย |
ประจำการ | พ.ศ. 2503–2533 |
ยศ | พลเอก พลเรือเอก พลอากาศเอก |
บังคับบัญชา | กองบัญชาการกองทัพไทย |
ประวัติ
พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ (ชื่อเล่น: ตึ๋ง) เกิดวันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2475 ที่จังหวัดนนทบุรี เป็นบุตรของร้อยเอก ชั้น ยงใจยุทธ และนางสุรีย์ศรี (นามเดิม: ละมุน) ยงใจยุทธ มีพี่สาวต่างบิดาชื่อ สุมน สมสาร และน้องชายต่างมารดาชื่อธรรมนูญ ยงใจยุทธ สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย จากนั้น จึงไปสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า เมื่อ พ.ศ. 2496 และ โรงเรียนเสนาธิการทหารบก เมื่อ พ.ศ. 2507
ชวลิตสมรสครั้งแรกกับวิภา ครั้งที่สองกับพิมพ์นิภา มนตรีอาภรณ์ (นามเดิม: ประเสริฐศรี จันทน์อาภรณ์) และสมรสครั้งที่สามกับคุณหญิงพันธุ์เครือ ยงใจยุทธ (ลิมปภมร) ชวลิตมีบุตร 3 คนกับภรรยาคนแรก คือ นายคฤกพล ยงใจยุทธ นางอรพิณ นพวงศ์ (ถึงแก่กรรม) และพันตำรวจตรีหญิง ศรีสุภางค์ โสมกุล
ชวลิตเป็นพระภาดา (ลูกพี่ลูกน้อง) ในพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าพีรพงศ์ภาณุเดชทางพระมารดา โดยหม่อมเล็ก ภาณุพันธุ์ ณ อยุธยา มีศักดิ์เป็นป้าแท้ ๆ ของเขา
การทำงาน
ราชการทหารช่วงสงครามเย็น
ภายหลังสงครามเวียดนามสิ้นสุดลงในพ.ศ. 2518 ด้วยชัยชนะของฝ่ายเวียดนามเหนือ และกองทัพสหรัฐอเมริกาได้ถอนกำลังออกจากภูมิภาคอินโดจีน ทำให้กองทัพเวียดนามเริ่มรุกรานประเทศกัมพูชา จนเกิดเป็นสงครามกัมพูชา–เวียดนามขึ้นและทำให้รัฐบาลเขมรแดงซึ่งมีจีนคอมมิวนิสต์หนุนหลังอยู่หมดอำนาจลง แต่กองกำลังของเขมรแดงนี้ได้ถอยร่นมาอยู่บริเวณภาคตะวันตกของกัมพูชา นอกจากนี้กองทัพเวียดนามยังมีการประกาศว่ามีศักยภาพที่จะยึดกรุงเทพได้ภายใน 2 ชั่วโมง ทำให้ไทยต้องตรึงกำลังทหารตลอดชายแดนไทย-กัมพูชา จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2528 กองทัพเวียดนามส่งทหารเข้าโจมตีกองกำลังเขมรแดงจนลึกเข้ามาถึงในอาณาเขตของไทย ทำให้เกิดการปะทะกับทหารไทยเป็นระยะ ๆ ประกอบกับกองทัพสหรัฐได้ถอนกำลังจากประเทศไทยไปแล้ว ทำให้รัฐบาลไทยมีความวิตกกังวลในเรื่องการรับมือเวียดนามเป็นอันมาก
ในระหว่างนั้นรัฐบาลไทยได้ส่งคณะนายทหารจำนวนสามนายปฏิบัติราชการลับ ซึ่งประกอบด้วย พลโทผิน เกสร, พันเอกชวลิต ยงใจยุทธ และ พันเอกพัฒน์ อัคนิบุตร เดินทางไปเจรจาความกับเติ้ง เสี่ยวผิง ที่ประเทศจีน โดยจีนได้ตกลงที่จะเลิกให้ที่พักพิงกับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย และยังได้สนันสนุนยุทโธปกรณ์จำนวนหนึ่งให้แก่กองทัพไทยและตัดสินใจก่อสงครามกับเวียดนาม โดยพันเอกชวลิต ยงใจยุทธได้รับเกียรติจากกองทัพจีนให้ยิงปืนใหญ่นัดแรกจากกว่างซีเข้าสู่ดินแดนเวียดนาม ทำให้เวียดนามต้องถอนกำลังจากกัมพูชาเพื่อไปต้านการรุกรานจากจีน
งานการเมือง
พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ ลาออกจากตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบกและผู้บัญชาการทหารสูงสุด แล้วเข้าสู่การเมือง ก่อตั้งพรรคความหวังใหม่ ในเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ ปี พ.ศ. 2535 พล.อ.ชวลิต เป็นหนึ่งในผู้ที่ปราศรัยขับไล่ พลเอกสุจินดา คราประยูร ที่สนามหลวง เป็นคนแรกด้วย การเมืองหลังจากนั้น พรรคความหวังใหม่กลายเป็นพรรคที่มีผู้สนับสนุนมากที่สุดในภาคอีสาน
ต่อมาเมื่อพรรคความหวังใหม่ชนะในการเลือกตั้งเมื่อปลายปี พ.ศ. 2539 พล.อ.ชวลิต ซึ่งเป็นหัวหน้าพรรคจึงขึ้นดำรงตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี แต่ต่อมาได้ลาออกเนื่องจากเกิดวิกฤตการณ์เศรษฐกิจในปี พ.ศ. 2540 ก่อนที่จะย้ายพรรคมาสังกัดพรรคไทยรักไทย ในปี พ.ศ. 2544 และ พลเอก ดร.ชวลิต ก็รับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีในรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร สมัยแรกด้วย
หลังเหตุการณ์รัฐประหารในปี พ.ศ. 2549 พล.อ.ชวลิต พยายามจะเป็นผู้เสนอตัวไกล่เกลี่ยทำความเข้าใจระหว่างกลุ่มผู้ที่ขับไล่ทักษิณ และกลุ่มผู้ที่สนับสนุนทักษิณ ให้ "สมานฉันท์" กัน โดยเรียกบทบาทตัวเองว่า "โซ่ข้อกลาง" รวมทั้งมีการข่าวว่าอาจจะเข้ารับตำแหน่งหัวหน้าพรรคพลังประชาชน แต่แล้วตำแหน่งนี้ในที่สุดก็ตกเป็นของสมัคร สุนทรเวช
ในรัฐบาลสมชาย วงศ์สวัสดิ์ พล.อ.ชวลิตได้เข้ารับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีเพื่อทำหน้าที่เจรจากับฝ่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยโดยเฉพาะ แต่หลังจากรับตำแหน่งเพียงไม่กี่วัน ก็เกิดเหตุการณ์นองเลือดเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ที่หน้าอาคารรัฐสภา พล.อ.ชวลิตก็ขอลาออกทันที
ในกลางปี พ.ศ. 2552 หลังจากถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดในกรณีเหตุการณ์นองเลือดเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม แล้วนั้น พลเอกชวลิตก็ได้สมัครเข้าสู่พรรคเพื่อไทย โดยให้เหตุผลว่าต้องการเข้ามาเพื่อสมานฉันท์ โดยไม่ต้องการเป็นคู่ขัดแย้งกับใคร และหลังจากนั้นทางพรรคเพื่อไทยก็ได้มีมติให้เขาดำรงตำแหน่งประธานพรรค
ในวันที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2553 พลเอกชวลิต ขึ้นเวทีของแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ โดยประกาศตอนหนึ่งว่า ว่า นายวีระ นายแน่มาก และไม่เคยเห็นมหาชนที่ประกอบภารกิจที่ศักดิ์สิทธิ์ของแผ่นดิน และทำสำเร็จแล้ววันนี้ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะทำอะไรอย่าไปสนใจ
ในวันที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2553 พลเอกชวลิต และสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ได้ออกแถลงการณ์ขอร้องให้ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงหยุดวิกฤตการเมือง
ต่อมาในวันที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2554 ท่ามกลางข่าวลือที่มีมาช่วงระยะหนึ่ง พล.อ.ชวลิตก็ได้ลาออกจากทุกตำแหน่งในพรรคเพื่อไทย ทั้งนี้ คนใกล้ชิดของ พล.อ.ชวลิตอ้างว่า พล.อ.ชวลิตไม่พอใจที่มีสมาชิกพรรคเพื่อไทยบางคนที่เข้าทำกิจกรรมร่วมกับทางแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือ กลุ่มคนเสื้อแดง และมีพฤติกรรมจาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์ก่อนหน้านั้นไม่นาน
ภายหลังรัฐประหารในประเทศไทย พ.ศ. 2557 วันที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2557 เขากล่าวให้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ระวังเกิดปฏิวัติซ้ำ ต่อมาในวันที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 เขากล่าวตอนนึงว่า การบริหารงานของรัฐบาลชุดนี้ทำให้เศรษฐกิจดีหรือไม่นั้นต้องไปถามประชาชนว่ากินอิ่ม นอนหลับหรือไม่ ถ้าหากประชาชนยังไม่มีกินก็ต้องไปแก้ปัญหาตรงนี้ ซึ่งนับเป็นปัญหาของทุกรัฐบาล ในขณะที่ คุณหญิง พันธุ์เครือ ยงใจยุทธ แสดงความเห็นว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่มีความเคารพ พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ
งานการศาสนา
สนับสนุนให้มีการผลักดันพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยขึ้นเป็นการเฉพาะ การศึกษาของคณะสงฆ์ไทยที่จัดการศึกษาในรูปแบบมหาวิทยาลัยพระพุทธศาสนา เป็นสถาบันการศึกษาทางพระพุทธศาสนา ในปี พ.ศ. 2540 สุขวิช รังสิตพล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการได้เสนอให้รัฐสภาตราพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย พ.ศ. 2540 ของคณะสงฆ์ไทย (ฝ่ายธรรมยุตินิกาย) และพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย พ.ศ. 2540 ของคณะสงฆ์ไทย (ฝ่ายมหานิกาย) ส่งผลให้มหาวิทยาลัยของคณะสงฆ์ไทยทั้งสองแห่ง มีพระราชบัญญัติรับรองสถานภาพเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ และเป็นนิติบุคคลที่ไม่เป็นส่วนราชการและไม่เป็นรัฐวิสาหกิจ เน้นจัดการศึกษาวิชาการด้านพระพุทธศาสนาและศาสตร์แขนงอื่น ๆ[ต้องการอ้างอิง]
วิกฤตการณ์ทางการเงินในเอเชีย พ.ศ. 2540
รัฐบาลของพลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ เป็นรัฐบาลที่มีส่วนรับผิดชอบต่อวิกฤตการณ์ทางการเงิน เมื่อปี พ.ศ. 2540 (ค.ศ. 1997) ที่ทำให้ประเทศไทยล้มละลาย และลุกลามไปทั่วโลกและส่งผลต่อสหรัฐอเมริกา ในวันที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2540 เนื่องจากดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปรับตัวลดลงถึง 554.26 จุด ไปปิดที่ 7161.15. จุด คิดเป็นร้อยละ 7.18 ด้วยการทำเงินคงคลังทั้งหมดของประเทศเข้าไปอุ้มค่าเงินบาท ซึ่งถูกปล่อยขายในขณะนั้น ธุรกิจของเหล่าแกนหลักของรัฐบาลชุดนี้ ยังถูกตั้งข้อสังเกตว่า ไม่ได้รับผลกระทบต่อวิกฤตการณ์แต่อย่างใด ในขณะที่ธุรกิจของบุคคลโดยทั่วไปที่ไม่มีความเกี่ยวข้อง กับคนในรัฐบาลนั้น ได้รับผลกระทบถึงขั้นล้มละลายเป็นจำนวนมาก จนมีการประท้วงโดยประชาชนส่งผลทำให้พลเอกชวลิตต้องพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในวันที่ 8 พฤศจิกายน 2540[ต้องการอ้างอิง]
ยศกองอาสารักษาดินแดน
พลเอก พลเรือเอก พลอากาศเอก ชวลิต ยงใจยุทธ ได้รับพระราชทานยศนายกองใหญ่แห่งกองอาสารักษาดินแดนเป็น พลเอก พลเรือเอก พลอากาศเอก นายกองใหญ่ ชวลิต ยงใจยุทธ
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ดังนี้
- พ.ศ. 2527 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นสูงสุด มหาปรมาภรณ์ช้างเผือก (ม.ป.ช.)
- พ.ศ. 2526 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นสูงสุด มหาวชิรมงกุฎ (ม.ว.ม.)
- พ.ศ. 2539 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ ชั้นที่ 1 ปฐมดิเรกคุณาภรณ์ (ป.ภ.)
- พ.ศ. 2530 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้นที่ 2 ทุติยจุลจอมเกล้าวิเศษ (ท.จ.ว.) (ฝ่ายหน้า)
- พ.ศ. 2533 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีศักดิ์รามาธิบดี ชั้นที่ 2 มหาโยธิน (ม.ร.)
- พ.ศ. 2533 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นสิริยิ่งรามกีรติ ลูกเสือสดุดีชั้นพิเศษ
- พ.ศ. 2511 – เหรียญชัยสมรภูมิ การรบ ณ สาธารณรัฐเวียดนาม (ช.ส.)
- พ.ศ. 2511 – เหรียญชัยสมรภูมิ การรบ ณ สาธารณรัฐเวียดนาม (ช.ส.) (ประดับเปลวระเบิด)
- พ.ศ. 2529 – เหรียญพิทักษ์เสรีชน ชั้นที่ 1 (ส.ช.)
- พ.ศ. 2510 – เหรียญราชการชายแดน (ช.ด.)
- พ.ศ. 2509 – เหรียญจักรมาลา (ร.จ.ม.)
- พ.ศ. 2513 – เหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลที่ 9 ชั้นที่ 4 (ภ.ป.ร.4)
อ้างอิง
- พระราชทานผู้บัญชาการทหารบก
- พระราชทานยศพลเอก
- พระราชทานยศพลอากาศเอก
- ฉายา ชวลิต ยงใจยุทธ
- “พระเจ้าแผ่นดินประเทศนี้ไม่มีวันหยุด”-เรื่องเล่าเมื่อ-“ขงเบ้งแห่งกองทัพบก”-รับตำแหน่งนายกฯ[ลิงก์เสีย]
- ↑ "ชวลิต ยงใจยุทธ". ไทยรัฐ. สืบค้นเมื่อ 31 สิงหาคม 2557. Check date values in:
|accessdate=
(help) - แฟ้มบุคคลในทำเนียบ สมาคมดนตรีไทย. คุณ พิมพ์นิภา มนตรีอาภรณ์ (ประเสริฐศรี จันทน์อาภรณ์) [กรรมการ-ฝ่ายต่างประเทศและดนตรีนานาชาติ]. เรียกดูเมื่อ 17 กุมภาพันธ์ 2556
- "มูลนิธิมิราเคิลฯ รับดูแลเมียเก่า "บิ๊กจิ๋ว"" (Press release). เดลินิวส์. 12 กุมภาพันธ์ 2556. สืบค้นเมื่อ 17 กุมภาพันธ์ 2556. Check date values in:
|accessdate=, |date=
(help) - "ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนฯ ทรงรับอดีตภรรยาบิ๊กจิ๋วเป็นคนไข้ในพระอนุเคราะห์" (Press release). ASTVผู้จัดการออนไลน์. 12 กุมภาพันธ์ 2556. สืบค้นเมื่อ 17 กุมภาพันธ์ 2556. Check date values in:
|accessdate=, |date=
(help) - พระบรมราชโองการ ประกาศ แต่งตั้งนายกรัฐมนตรี (พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ)
- 'บิ๊กจิ๋ว'มาแล้ว ปธ.เพื่อไทย ปัด'ทักษิณ'ทาบ
- พลเอกชวลิต ขึ้นเวทีของแนวร่วม
- แถลงการณ์ขอร้องให้ กษัตริย์ ทรงหยุดวิกฤตการเมือง
- อึดอัดแดงจาบจ้วง! 'จิ๋ว' ชี้เหตุทิ้งเพื่อไทยเตรียมแจงใหญ่ 2 วันนี้ จากประชาทรรศน์
- ประยุทธ์ จันทร์โอชา รัฐประหาร ปี 2557
- การบริหารงานของรัฐบาลชุดนี้ทำให้เศรษฐกิจดีหรือไม่
- แสดงความเห็นว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่มีความเคารพ พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ
- ได้รับพระราชทานยศนายกองใหญ่แห่งกองอาสารักษาดินแดน
- แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์
- แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ (เครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นสายสะพาย) เล่ม ๑๐๐ ตอน ๒๐๗ ฉบับพิเศษ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๒๖
- ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์, เล่ม ๑๑๓, ตอน ๒๒ ข เล่ม ๐๐๓, ๔ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๓๙, หน้า ๒ ลำดับที่ ๒
- ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ (พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ จุลจอมเกล้า เนื่องในวโรกาสพระราชพิธีฉัตรมงคล วันที่ ๕ พฤษภาคม ๒๕๓๐), เล่ม ๑๐๔ ตอน ๘๖ ง ฉบับพิเศษ ๕ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๓๐
- ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีศักดิ์รามาธิบดี เล่ม ๑๐๗ ตอน ๕๕ ง ๕ เมษายน พ.ศ. ๒๕๓๓ หน้า ๒๖๕๙
- ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นสิริยิ่งรามกีรติ ลูกเสือสดุดีชั้นพิเศษ เล่ม ๑๐๗ ตอน ๒๐๐ ง ๔ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๓๓ หน้า ๘๑๕๓
- แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเหรียญชัยสมรภูมิ
- แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องหมายเปลวระเบิด สำหรับประดับแพรแถบเหรียญชัยสมรภูมิ
- ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเหรียญพิทักษ์เสรีชน
- แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเหรียญราชการชายแดน
- ราชกิจจานุเบกษา,แจ้งสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องพระราชทานเหรียญจักรมาลา ฉบับพิเศษ หน้า ๖๕๗ เล่ม ๘๓ ตอน ๑๑๔, ๑๙ ธันวาคม ๒๕๐๙
- ราชกิจจานุเบกษา,แจ้งสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องพระราชทานเหรียญรัตนาภรณ์ ฉบับพิเศษ หน้า ๒๐ เล่ม ๘๗ ตอนที่ ๒๑, ๑๓ มีนาคม ๒๕๑๓
แหล่งข้อมูลอื่น
คอมมอนส์ มีภาพและสื่อเกี่ยวกับ: ชวลิต ยงใจยุทธ |
- ประวัติจากเว็บทำเนียบรัฐบาล
- ประวัติจากเว็บกองทัพบก
ก่อนหน้า | ชวลิต ยงใจยุทธ | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
บรรหาร ศิลปอาชา | นายกรัฐมนตรีของประเทศไทย (ครม.52) (25 พฤศจิกายน 2539 – 9 พฤศจิกายน 2540) | ชวน หลีกภัย | ||
ประมาณ อดิเรกสาร | ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรไทย (15 พฤษภาคม 2535 – 16 มิถุนายน 2535) | ประมาณ อดิเรกสาร | ||
ชวน หลีกภัย | ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรไทย (26 พฤศจิกายน 2540 – 2 มิถุนายน 2541) (2 กันยายน 2541 – 27 เมษายน 2542) (12 พฤษภาคม 2542 – 30 เมษายน 2543)) | ชวน หลีกภัย | ||
พลเรือเอก สุภา คชเสนี | ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (รักษาราชการ) (1 ตุลาคม 2530 – 31 มีนาคม 2533) | พลเอก สุนทร คงสมพงษ์ | ||
พลเอก อาทิตย์ กำลังเอก | ผู้บัญชาการทหารบก (27 พฤษภาคม 2529 – 28 มีนาคม 2533) | พลเอก สุจินดา คราประยูร |