รถรางลพบุรี
รถรางลพบุรี เป็นระบบรถรางสายสั้นที่เดินรถจากท่าโพธิ์-เอราวัณ ภายในเขตเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี เปิดให้บริการเดินรถครั้งแรกเมื่อวันที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2498 หากไม่รวมทางรถไฟสายปากน้ำที่ใช้รถรางวิ่งแทนตั้งแต่ปี พ.ศ. 2468 แล้ว ก็ถือว่าลพบุรีเป็นจังหวัดแรกในภูมิภาคและจังหวัดเดียวนอกจากจังหวัดพระนครที่มีระบบรถรางใช้
ข้อมูลทั่วไป | |
---|---|
เจ้าของ | การไฟฟ้ากรุงเทพ |
ที่ตั้ง | เมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี |
ประเภท | รถราง |
จำนวนสาย | 1 |
การให้บริการ | |
เริ่มดำเนินงาน | 31 มกราคม พ.ศ. 2498 |
เลิกให้บริการ | 1 ธันวาคม พ.ศ. 2505 |
ข้อมูลทางเทคนิค | |
ระยะทาง | 6.5 km (4.0 mi) 7.2 km (4.5 mi) |
แต่ในเวลาต่อมา ได้มีรถเมล์ระบบขนส่งมวลชนแบบใหม่คอยรับส่งผู้โดยสารมากขึ้น แม้ราคาจะแพงแต่ก็รวดเร็วกว่ารถราง กอปรกับประชาชนในเมืองลพบุรีใช้รถส่วนตัวเพิ่มขึ้น รถรางลพบุรีจึงประสบสภาวะขาดทุน และงดให้บริการถาวรในวันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2505
ประวัติ
ระบบรถรางเกิดขึ้นที่ลพบุรีเมื่อ 31 มกราคม พ.ศ. 2498 โดยการไฟฟ้ากรุงเทพ และมีจอมพล แปลก พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรีไทยในขณะนั้นเป็นประธานในพิธีเปิด ซึ่งช่วงเวลาการเปิดเดินรถนั้นก็เป็นช่วงเวลาที่จอมพล แปลก พิบูลสงครามพัฒนาเมืองลพบุรีเป็นเมืองทหาร ที่มีหน่วยทหารจำนวนมากเป็นรองเพียงแค่พระนคร จึงได้พัฒนาระบบสาธารณูปโภคภายในเมือง ทั้งนี้ได้ใช้ตู้รถรางเก่าจากพระนครมาให้บริการ แรกเริ่มได้ทำการเดินรถจากศาลพระกาฬถึงสี่แยกเอราวัณใกล้ ร. พัน 6 นอกจากนี้รัฐบาลในขณะนั้นยังมีแนวคิดที่จะขยายระบบรถรางตามหัวเมืองอื่น ๆ ภายในประเทศด้วย แต่ไม่ประสบผลสำเร็จ
ช่วงแรกของการเดินกิจการ ก็มีผู้โดยสารเข้าใช้มากขึ้นจึงขยายเส้นทางเข้าสู่ท่าโพธิ์ซึ่งเป็นย่านตลาดฝั่งเมืองเก่า แต่ระยะหลังก็เริ่มมีรถเมล์วิ่งรับส่งผู้โดยสารจากตลาดลพบุรีไปนอกเมืองมากขึ้นและทับเส้นทางรถราง ดึงผู้โดยสารออกไปเสียมาก ประกอบกับช่วงสงครามโลกครั้งที่สองทำให้หาน้ำมันได้ยาก รถรางหลายสายอย่างในพระนครก็หยุดเดินรถไปชั่วขณะเช่นกัน และเมื่อประชาชนในลพบุรีมีรถส่วนตัวมากขึ้น รถรางแล่นช้ากว่ารถเมล์ และปัญหาการกีดขวางทางจราจร รถรางจึงสิ้นความนิยมและประสบปัญหาขาดทุน อันเป็นผลทำให้ยุติการเดินรถรางถาวรในวันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2505 ปัจจุบันยังหลงเหลืออู่รถรางซึ่งตั้งอยู่ภายในชุมชนอู่รถรางเก่า ในเขตเทศบาลเมืองลพบุรีใกล้สี่แยกเอราวัณเป็นอนุสรณ์
เส้นทาง
ช่วงแรกของการดำเนินกิจการรถรางลพบุรี มีต้นทางเริ่มจากทางด้านหลังของศาลพระกาฬ (วงเวียนศรีสุนทร) ใกล้ด้านหน้าโรงเรียนพิบูลวิทยาลัย วิ่งไปตามถนนนารายณ์มหาราชฝั่งใต้ไปจนถึงวงเวียนศรีสุริโยทัย ข้ามแยกสะพาน 7 เข้าสู่ถนนพหลโยธินตรงวงเวียนเทพสตรีบริเวณด้านหน้าศาลากลางจังหวัดลพบุรี ผ่านโรงพยาบาลลพบุรี จนถึงปลายทางที่สี่แยกเอราวัณใกล้ ร. พัน 6 รวมระยะทาง 4.8 km (3.0 mi)
ต่อมาไม่นานจึงมีการขยายเส้นทางเข้าสู่ย่านเมืองเก่าลพบุรีเพื่อรองรับผู้โดยสาร โดยเริ่มต้นจากท่าโพธิ์บริเวณเชิงสะพานข้ามไปวัดมณีชลขัณฑ์ เลี้ยวเข้าสู่ถนนสุระสงคราม ก่อนเลี้ยวเข้าถนนวิชาเยนทร์และจอดรับผู้โดยสารที่เทวสถานปรางค์แขก ผ่านพระปรางค์สามยอด ตัดทางรถไฟสายเหนือ เรื่อยมาจนถึงศาลพระกาฬ รวมระยะทางจากท่าโพธิ์ถึงเอราวัณ 6.5 km (4.0 mi) บางแห่งว่า 7.2 km (4.5 mi)
ค่าโดยสาร
รถรางลพบุรีมีการเก็บค่าโดยสาร แบ่งออกเป็นสองระยะ ระยะละ 25 สตางค์ ระยะแรกนับจากท่าโพธิ์-วงเวียนศรีสุริโยทัย และระยะที่สองนับจากวงเวียนศรีสุริโยทัย-สี่แยกเอราวัณ หากนั่งตลอดสายจะเสียค่าโดยสาร 40 สตางค์
อ้างอิง
- ↑ "ย้อนอดีตวันวาน ! ชมรถราง ความงามแบบคลาสสิค เมืองไทยสมัยก่อน". โดดเด่นดอตคอม. 31 มีนาคม 2558. สืบค้นเมื่อ 15 พฤษภาคม 2560. Check date values in:
|accessdate=, |date=
(help) - ↑ "The Lopburi Trams". 2Bangkok. 11 มีนาคม 2549. สืบค้นเมื่อ 15 พฤษภาคม 2560. Check date values in:
|accessdate=, |date=
(help) - ↑ สมพงษ์ นิติกุล. ภาพโบราณ ตำนานเมืองลพบุรี. กรุงเทพฯ : พี.เอ.ลีฟวิ่ง, 2456, หน้า 27-28
- ↑ ฉันทฤทธิ์ วิโรจน์ศิริ. สถาปัตยกรรมเมืองเก่าลพบุรี : คู่มือท่องเที่ยวเมืองเก่าลพบุรี. กรุงเทพฯ : อมรินทร์พริ้นติ้งแอนพับลิชชิ่ง, 2556, หน้า 21
- สุนันทา เจริญปัญญายิ่ง. "ทางรถไฟสายปากน้ำ". สถาบันขนส่ง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. สืบค้นเมื่อ 15 พฤษภาคม 2560. Check date values in:
|accessdate=
(help) - โรม บุนนาค (14 มีนาคม 2559). "เปิดตำนานรถไฟของกรุงเทพฯ สายวัดลิงขบ - สายปากน้ำ ทิ้งร่องรอยเป็นทางรถยนต์!!!". ผู้จัดการออนไลน์. สืบค้นเมื่อ 15 พฤษภาคม 2560. Check date values in:
|accessdate=, |date=
(help) - ↑ "กำเนิดรถราง". หอจดหมายเหตุอัครสังฆมณฑลกรุงเทพ. 30 ตุลาคม 2558. สืบค้นเมื่อ 15 พฤษภาคม 2560. Check date values in:
|accessdate=, |date=
(help)