บัมแบร์ค
บัมแบร์ค(เยอรมัน: Bamberg) เป็นเมืองในรัฐบาวาเรีย ประเทศเยอรมนี ที่ตั้งอยู่ในส่วนภูมิภาคโอเบอร์ฟรังเคินบนฝั่งแม่น้ำเรกนิทซ์ไม่ไกลจากจุดที่บรรจบกับแม่น้ำไมน์ บัมแบร์คเป็นเมืองเพียงไม่กี่แห่งในเยอรมนีที่รอดพ้นจากการถูกทำลายโดยการทิ้งระเบิดทางอากาศในสงครามโลกครั้งที่สอง บัมแบร์คเป็นที่พำนักของชาวต่างประเทศเกือบ 7,000 คนรวมทั้งกว่า 4,100 คนที่เป็นทหารจากสหรัฐอเมริกา ชื่อเมือง “บัมแบร์ค” เชื่อว่ามีที่มาจากตระกูลบาเบินแบร์ค
บัมแบร์ค | |
---|---|
ศาลาเมืองหลังเก่า | |
พิกัด: 49°54′N 10°54′E / 49.900°N 10.900°Eพิกัดภูมิศาสตร์: 49°54′N 10°54′E / 49.900°N 10.900°E | |
ประเทศ | เยอรมนี |
รัฐ | ไบเอิร์น |
ส่วนภูมิภาค | โอเบอร์ฟรังเคิน |
อำเภอ | Urban |
พื้นที่ | |
• ทั้งหมด | 54.62 ตร.กม. (21.09 ตร.ไมล์) |
ประชากร (2016-12-31) | |
• ทั้งหมด | 75,743 คน |
• ความหนาแน่น | 1,400 คน/ตร.กม. (3,600 คน/ตร.ไมล์) |
เขตเวลา | CET/CEST (UTC+1/+2) |
รหัสไปรษณีย์ | 96047, 96049, 96050, 96051, 96052 |
รหัสโทรศัพท์ | 0951 |
ทะเบียนพาหนะ | BA |
เว็บไซต์ | www.stadt.bamberg.de |
เมืองบัมแบร์ค * | |
---|---|
แหล่งมรดกโลกโดยยูเนสโก | |
เกณฑ์พิจารณา | มรดกโลกทางวัฒนธรรม: ii, iv |
อ้างอิง | 624 |
ประวัติการขึ้นทะเบียน | |
ขึ้นทะเบียน | 1993 (คณะกรรมการสมัยที่ 17) |
พื้นที่ | 142 ha |
พื้นที่กันชน | 444 ha |
* ชื่อตามที่ได้ขึ้นทะเบียนในบัญชีแหล่งมรดกโลก ** ภูมิภาคที่จัดแบ่งโดยยูเนสโก |
ภูมิศาสตร์
ภูมิอากาศ
ข้อมูลภูมิอากาศของบัมแบร์ค | |||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
เดือน | ม.ค. | ก.พ. | มี.ค. | เม.ย. | พ.ค. | มิ.ย. | ก.ค. | ส.ค. | ก.ย. | ต.ค. | พ.ย. | ธ.ค. | ทั้งปี |
อุณหภูมิสูงสุดที่เคยบันทึก °C (°F) | 15.8 (60.4) | 18.1 (64.6) | 24.1 (75.4) | 31.8 (89.2) | 32.9 (91.2) | 35.5 (95.9) | 37.5 (99.5) | 37.8 (100) | 32.2 (90) | 27.6 (81.7) | 19.0 (66.2) | 14.8 (58.6) | 37.8 (100) |
อุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ย °C (°F) | 3.0 (37.4) | 4.9 (40.8) | 9.9 (49.8) | 14.9 (58.8) | 19.8 (67.6) | 22.6 (72.7) | 24.8 (76.6) | 24.6 (76.3) | 19.9 (67.8) | 14.2 (57.6) | 7.5 (45.5) | 4.0 (39.2) | 14.2 (57.6) |
อุณหภูมิเฉลี่ยแต่ละวัน °C (°F) | 0.0 (32) | 1.0 (33.8) | 5.0 (41) | 8.8 (47.8) | 13.6 (56.5) | 16.6 (61.9) | 18.7 (65.7) | 18.3 (64.9) | 14.2 (57.6) | 9.5 (49.1) | 4.3 (39.7) | 1.3 (34.3) | 9.3 (48.7) |
อุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ย °C (°F) | -3.1 (26.4) | -2.9 (26.8) | 0.0 (32) | 2.8 (37) | 7.3 (45.1) | 10.6 (51.1) | 12.6 (54.7) | 12.0 (53.6) | 8.5 (47.3) | 4.8 (40.6) | 1.1 (34) | -1.5 (29.3) | 4.4 (39.9) |
อุณหภูมิต่ำสุดที่เคยบันทึก °C (°F) | -26.4 (-15.5) | -23.4 (-10.1) | -18.2 (-0.8) | -8.5 (16.7) | -3.4 (25.9) | 2.4 (36.3) | 3.9 (39) | 2.4 (36.3) | -0.3 (31.5) | -7.4 (18.7) | -16.8 (1.8) | -21.6 (-6.9) | −26.4 (−15.5) |
หยาดน้ำฟ้า มม (นิ้ว) | 47.9 (1.886) | 37.4 (1.472) | 45.6 (1.795) | 40.0 (1.575) | 64.6 (2.543) | 63.4 (2.496) | 77.6 (3.055) | 56.9 (2.24) | 56.3 (2.217) | 49.8 (1.961) | 52.5 (2.067) | 55.1 (2.169) | 647.1 (25.476) |
แหล่งที่มา: Weather and climate in Bamberg |
ประวัติ
หลังจากที่จักรวรรดิโรมันเสื่อมโทรมลง ยุโรปก็เข้าสู่สมัยของการโยกย้ายและการตั้งถิ่นฐานของชนกลุ่มต่าง ๆ ที่รวมทั้งชนเจอร์มานิค บริเวณนี้ก็ไปรวมอยู่ในมุขมณฑลบัมแบร์คและกลายมาเป็นที่ตั้งถิ่นฐานของผู้คนส่วนใหญ่ที่เป็นชาวสลาฟ
ชื่อเมืองบัมแบร์คที่กล่าวถึงเป็นครั้งแรกในปี ค.ศ. 902 เจริญขึ้นใกล้ ๆ ปราสาทบาเบนเบิร์ค (Babenberch) ที่แผลงมาเป็นชื่อของตระกูลบาเบินแบร์ค หลังจากตระกูลบาเบินแบร์คสิ้นสุดลง บัมแบร์คก็ตกไปเป็นของตระกูลชาวซัคเซิน แคว้นนี้มาเปลี่ยนไปนับถือศาสนาคริสต์โดยการเผยแพร่ศาสนาของนักพรตคณะเบเนดิกตินจากอารามฟุลดา บัมแบร์คขณะนั้นเป็นส่วนหนึ่งของมุขมณฑลเวือทซ์บวร์ค
ในปี ค.ศ. 1007 จักรพรรดิไฮน์ริชที่ 2 แห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ ก็ทรงย้ายมาตั้งราชสำนักที่บัมแบร์คและทรงก่อตั้งให้เป็นมุขมณฑลอิสระจากมุชมณฑลเวือทซ์บวร์ค เพื่อเป็นการริดอำนาจของมุขมณฑลเวือทซ์บวร์คลงบ้าง และยังเป็นการสร้างฐานในการเผยแพร่ศาสนาคริสต์ให้ไกลยิ่งขึ้นไปในบริเวณทางตะวันออกของบัมแบร์ค ในปี ค.ศ. 1008 หลังจากการเจรจาต่อรองกับทั้งมุขนายกแห่งเวือทซ์บวร์คและไอคชเสตทท์ผู้ต้องเสียดินแดนบางส่วนให้กับมุขมณฑลใหม่
หลังจากการกำหนดอาณาเขตของมุขมณฑลใหม่ได้แล้วสมเด็จพระสันตะปาปาจอห์นที่ 8 ก็พระราชทานพระราชานุมัติในปีเดียวกัน จักรพรรดิไฮน์ริชที่ 2 ก็ทรงจัดให้มีการก่อสร้างอาสนวิหารบัมแบร์คที่ได้รับการสถาปนาเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม ค.ศ. 1012 อาสนวิหารได้รับของขวัญต่าง ๆ จากสมเด็จพระสันตะปาปา
ในปี ค.ศ. 1017 จักรพรรดิไฮน์ริชที่ 2 ก็ทรงก่อตั้งอารามคณะเบเนดิกตินชื่ออารามนักบุญมีคาเอล บน “ไมเคิลสแบร์ก” (Michaelsberg--เนินไมเคิล) เพื่อเป็นสถานที่สำหรับฝึกหัดนักพรต จักรพรรดิและจักรพรรดินีคูนีกุนเดอแห่งลักเซมเบิร์ก (Cunigunde of Luxemburg) ทรงอุทิศพระราชทรัพย์เป็นจำนวนมากให้แก่มุขมณฑลใหม่และทรงมอบอภิสิทธิ์ต่าง ๆ ซึ่งทำให้เป็นการเพิ่มอำนาจการปกครองทางอาณาจักรให้แก่มุขนายกนอกไปจากอำนาจทางคริสตจักรที่มีอยู่ เมื่อสมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 8 ประพาสบัมแบร์คในปี ค.ศ. 1020 พระองค์ก็ทรงยกให้บัมแบร์คเป็นมุขมณฑลที่ขึ้นตรงต่อสันตะสำนัก ฉะนั้นบัมแบร์คจึงกลายเป็นศูนย์กลางของจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์อยู่ชั่วระยะหนึ่ง ร่างของจักรพรรดิไฮน์ริชที่ 2 และจักรพรรดินีคูนีกุนเดอยังคงฝังอยู่ที่อาสนวิหารที่มีอนุสาวรีย์ตั้งเด่นอยู่กลางโบสถ์
ตั้งแต่กลางคริสต์ศวคคษที่ 13 เป็นต้นมา มุขนายกแห่งบัมแบร์คก็ได้ยศเป็น "เจ้าชายมุขนายก" แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ มีหน้าที่ปกครองเมืองบัมแบร์คที่รวมทั้งการดูแลการก่อสร้างขนาดใหญ่ต่าง ๆ ระหว่างปี ค.ศ. 1248 ถึงปี ค.ศ. 1260 มุขมณฑลก็ได้ที่ดินของเคานต์แห่งเมรันส่วนหนึ่งเป็นการซื้อขายแต่ส่วนหนึ่งเป็นการเวนคืนเพราะตระกูลที่ปกครองบริเวณนั้นมาสิ้นสุดลง ราชรัฐมุขนายกบัมแบร์คเดิมประกอบด้วยดินแดนที่ติดต่อกัน (บางรัฐไม่ติดต่อ) ตั้งแต่ชลึสเซลเฟลด์ (Schlüsselfeld) ไปจนถึงทางตะวันออกเฉียงเหนือทางป่าฟรังโกเนีย และยังเป็นเจ้าของดัชชีที่รวมทั้งดัชชีคารินเทียและซัลทซ์บวร์ค ในนอร์ดเกา (ปัจจุบันคือโอเบิร์พฟัลทซ์) ในรัฐทือริงเงิน และบนฝั่งแม่น้ำดานูบ แต่หลังจากการปฏิรูปศาสนามุขมณฑลบัมแบร์คก็ลดลงเหลือเพียงครึ่งหนึ่งของที่มีอยู่
สถานที่น่าสนใจ
ตัวเมืองเก่าของบัมแบร์คได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกโดยยูเนสโกในปีค.ศ. 1993 ในฐานะมรดกทางวัฒนธรรม เพราะความมีคุณค่าที่ยังคงรักษาคุณลักษณะของเมืองในยุคกลางไว้อย่างเพียบพร้อม สถานที่น่าสนใจบางแห่งก็ได้แก่:
- อาสนวิหารบัมแบร์ค (ค.ศ. 1237) ที่เป็นที่ตั้งของอนุสรณ์ของจักรพรรดิไฮน์ริชที่ 2 แห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์และพระอัครมเหสีและอนุสรณ์ของสมเด็จพระสันตะปาปาเคลเมนต์ที่ 2
- ทำเนียบมุขนายกหลังเดิม (Alte Hofhaltung) ที่ประทับของมุขนายกแห่งบัมแบร์คระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 16 และ 17
- ที่พำนักมุขนายกหลังใหม่ (Neue Residenz) ที่ประทับของมุขนายกแห่งบัมแบร์คหลังจากคริสต์ศตวรรษที่ 17
- อารามนักบุญมีคาเอล (คริสต์ศตวรรษที่ 12) บนเนินหนึ่งของ “เนินเจ็ดยอด” ของบัมแบร์ค
- ตึกเทศบาลเมืองเก่า (ค.ศ. 1386) สร้างคร่อมแม่น้ำเรกนิทซ์ที่เข้าได้จากสะพานสองข้าง
- เวนิสน้อย (Klein-Venedig) กลุ่มบ้านของคนหาปลาที่น่าดูจากคริสต์ศตวรรษที่ 19 ตามฝั่งแม่น้ำเรกนิทซ์
- ตัวเมืองเก่า
อ้างอิง
- "Fortschreibung des Bevölkerungsstandes". Bayerisches Landesamt für Statistik und Datenverarbeitung (ภาษาเยอรมัน). January 2018.
ดูเพิ่ม
แหล่งข้อมูลอื่น
วิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อเกี่ยวกับ บัมแบร์ค