กฎอัยการศึก
กฎอัยการศึก (อังกฤษ: martial law) เป็นกฎหมายซึ่งได้ตราขึ้นไว้สำหรับประกาศใช้เมื่อมีเหตุจำเป็นเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยในบ้านเมือง โดยเฉพาะในดินแดนที่มีกองกำลังพลเรือนล้นหลาม หรือในดินแดนที่ถูกยึดครอง
การใช้งาน
กฎอัยการศึกมักกำหนดเป็นการชั่วคราวเมื่อรัฐบาลหรือข้าราชการพลเรือนไม่อาจทำหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น ในการรักษาความสงบเรียบร้อยและความมั่นคง หรือให้บริการที่สำคัญ ในกฎอัยการศึกเต็มขั้น นายทหารยศสูงสุดจะยึด หรือได้รับแต่งตั้ง เป็นผู้ว่าการทหารหรือเป็นหัวหน้ารัฐบาล ฉะนั้น จึงเป็นการถอดอำนาจทั้งหมดทั้งฝ่ายนิติบัญญัติ บริหารและตุลาการของรัฐบาล
กฎอัยการศึกเป็นกฎหมายที่มีอยู่ในเวลาปกติ แต่ไม่ได้ใช้บังคับ โดยเมื่อจะใช้บังคับจะต้องประกาศ และกำหนดเขตพื้นที่ที่จะใช้บังคับ ในหลายประเทศจะไม่มีการตราเป็นกฎหมายชัดเจน เช่น สหรัฐอเมริกา อังกฤษ ในบางประเทศจะตราเป็นกฎหมายชัดเจน เช่น ฝรั่งเศส ไทย
รัฐบาลอาจใช้กฎอัยการศึกเพื่อควบคุมสาธารณะ เหตุการณ์นี้อาจเกิดขึ้นหลังรัฐประหาร (เช่น ประเทศไทยใน พ.ศ. 2549) เมื่อถูกการประท้วงของประชาชนคุกคาม (เช่น การประท้วงที่จัตุรัสเทียนอันเหมินในประเทศจีน พ.ศ. 2532) เพื่อปราบปรามคู่แข่งทางการเมือง (เช่น ประเทศโปแลนด์ในปี พ.ศ. 2524) หรือเพื่อกำราบการก่อการกบฏ (เช่น วิกฤตการณ์เดือนตุลาคม พ.ศ. 2513 ในประเทศแคนาดา) อาจมีประกาศกฎอัยการศึกในกรณีภัยพิบัติธรรมชาติใหญ่ ทว่า ประเทศส่วนมากประกาศเป็นสถานการณ์ฉุกเฉินแทน
นอกจากนี้ ยังมีการกำหนดกฎอัยการศึกระหว่างความขัดแย้งหรือในกรณีการยึดครอง เมื่อไม่มีการจัดรัฐบาลพลเรือนอื่นใดให้กับประชากรที่ไม่มีเสถียรภาพ ตัวอย่างเช่น การบูรณะประเทศเยอรมนีและญี่ปุ่นหลังสงครามโลกครั้งที่สอง ตลอดจนการบูรณะตอนใต้หลังสงครามกลางเมืองอเมริกา
ตามแบบ การกำหนดกฎอัยการศึกจะประกอบกับการห้ามออกจากเคหสถานเวลาค่ำคืน การระงับกฎหมายแพ่ง สิทธิพลเมือง หมายสั่งให้ส่งตัวผู้ถูกคุมขังมาศาล และการใช้หรือขยายกฎหมายทหารหรือการศาลทหารกับพลเรือน
ในประเทศไทย
กฎอัยการศึกของไทย มีศักดิ์เทียบเท่ากับ พระราชบัญญัติ ตราขึ้นครั้งแรกในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อ พ.ศ. 2450 เรียกว่า กฎอัยการศึก ร.ศ. 126 มีทั้งสิ้น 9 มาตรา โดยถอดแบบมาจากกฎอัยการศึกของประเทศฝรั่งเศส ต่อมาใน พ.ศ. 2457 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเห็นว่าอำนาจของทหารตามกฎอัยการศึก ร.ศ. 126 นั้นยึดตามแบบฝรั่งเศส แต่ไทยใช้ตำราพิชัยสงครามตามแบบอินเดีย ซึ่งไม่สอดคล้องกัน จึงทรงยกเลิกกฎอัยการศึก ร.ศ. 126 และตรา กฎอัยการศึก พ.ศ. 2457 ขึ้นใช้แทน มีทั้งสิ้น 17 มาตรา มีการแก้ไขเพิ่มเติมรวม 5 ครั้ง
จากการศึกษาข้อมูลทางหลักฐานทางประวัติศาสตร์ประเทศไทยได้มีการประกาศใช้กฎอัยการศึก ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน จํานวน ๑๔ ครั้ง ดังนี้
ครั้งที่ ๑ ในสมัยพระยาพหลพลพยุหเสนาเป็นนายกรัฐมนตรีและผู้บัญชาการทหารบกได้ประกาศใช้กฎอัยการศึกในพื้นที่จังหวัดทหารบกกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ ๑๒ ตุลาคม ๒๔๗๖ อันเนื่องมาจากเหตุการณ์กบฏบวรเดช
ครั้งที่ ๒ พระบรมราชโองการประกาศใช้กฎอัยการศึกในพื้นที่ ๒๔ จังหวัด ได้แก่ เชียงราย น่าน อุตรดิตถ์เลย ชัยภูมิ อุดรธานี หนองคาย ขอนแก่น นครพนม ร้อยเอ็ด มหาสารคาม สกลนคร นครราชสีมา อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา นครนายก ระยอง ชลบุรี จันทบุรี และตราด เมื่อวันที่ ๗ มกราคม ๒๔๘๔ อันเนื่องมาจากเหตุการณ์สงครามอินโดจีน
ครั้งที่ ๓ พระบรมราชโองการประกาศใช้กฎอัยการศึกทั่วราชอาณาจักร เมื่อวันที่ ๑๐ ธันวาคม ๒๔๘๔ อันเนื่องมาจากเหตุการณ์สงครามเอเชียบูรพาในสมัยที่จอมพล ป. พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรี
ครั้งที่ ๔ พระบรมราชโองการประกาศใช้กฎอัยการศึกในพื้นที่จังหวัดพระนครและจังหวัดธนบุรี เมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๔๙๔ อันเนื่องมาจากเหตุการณ์กบฏแมนฮัตตันในสมัยที่จอมพล ป. พิบูลสงครามเป็นนายกรัฐมนตรี
ครั้งที่ ๕ พระบรมราชโองการประกาศใช้กฎอัยการศึกทั่วราชอาณาจักร เมื่อวันที่ ๑๖ กันยายน ๒๕๐๐ อันเนื่องมาจากเหตุการณ์ที่จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ทําการรัฐประหารรัฐบาลของจอมพล ป. พิบูลสงคราม
ครั้งที่ ๖ ประกาศใช้กฎอัยการศึกทั่วราชอาณาจักร เมื่อวันที่ ๒๐ ตุลาคม ๒๕๐๑ อันเนื่องมาจากเหตุการณ์จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ทําการรัฐประหารรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งในขณะนั้น
ครั้งที่ ๗ ประกาศคณะปฏิวัติฉบับที่ ๒ ให้ใช้กฎอัยการศึกทั่วราชอาณาจักรเมื่อวันที่ ๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๑๔ อันเนื่องมาจากเหตุการณ์จอมพลถนอม กิตติขจร ทําการรัฐประหารยึดอํานาจตนเอง
ครั้งที่ ๘ คําสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ ๑ ให้ใช้กฎอัยการศึกทั่วราชอาณาจักร เมื่อวันที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๑๙ อันเนื่องมาจากเหตุการณ์ที่พลเรือเอกสงัด ชะลออยู่ ได้ดําเนินการปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน
ครั้งที่ ๙ ประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ ๒ ให้คงใช้กฎอัยการศึกตามประกาศของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ ๑ อยู่ต่อไป เมื่อวันที่ ๒๐ ตุลาคม ๒๕๒๐ อันเนื่องมาจากเหตุการณ์พลเรือเอกสงัด ชะลออยู่ ทําการรัฐประหารรัฐบาลในขณะนั้น
ครั้งที่ ๑๐ ประกาศคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติฉบับที่ ๔ เรื่อง การใช้กฎอัยการศึกทั่วราชอาณาจักร เมื่อวันที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๓๔ อันเนื่องมาจากเหตุการณ์พลเอกสุนทร คงสมพงษ์ทําการรัฐประหารยึดอํานาจจากรัฐบาลพลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ
ครั้งที่ ๑๑ ประกาศกองทัพภาคที่ ๔ เรื่อง การใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่ของจังหวัดนราธิวาส เฉพาะอําเภอบาเจาะ อําเภอรือเสาะ อําเภอตากใบ อําเภอสุไหงปาดี อําเภอยี่งอ และอําเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดปัตตานี เฉพาะอําเภอกะพ้อ และจังหวัดยะลา เฉพาะอําเภอรามัน เมื่อวันที่ ๕ มกราคม ๒๕๔๗
ครั้งที่ ๑๒ ประกาศกองทัพภาคที่ ๔ เรื่อง การใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่อําเภอเมืองจังหวัดนราธิวาส อําเภอเมือง อําเภอควนโดน อําเภอลละงู อําเภอท่าแพ จังหวัดสตูล อําเภอเมือง อําเภอหนองจิก อําเภอยะหริ่ง อําเภอมายอ อําเภอยะรัง อําเภอแม่ลาน อําเภอสายบุรี อําเภอทุ่งยางแดง อําเภอโคกโพธิ์ อําเภอไม้แก่น และอําเภอปะนาแระ จังหวัดปัตตานี อําเภอเมือง และกิ่งอําเภอกรงปินัง จังหวัดยะลา เมื่อวันที่ ๒๖ มกราคม ๒๕๔๗
ครั้งที่ ๑๓ ประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขให้ใช้กฎอัยการศึกทั่วราชอาณาจักร เมื่อวันที่ ๑๙ กันยายน ๒๕๔๙ อันเนื่องมาจากเหตุการณ์พลเอกสนธิบุญยรัตกลิน ทําการรัฐประหารรัฐบาล พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร
ครั้งที่ ๑๔ ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติฉบับที่ ๒/๒๕๕๗ เรื่องการประกาศใช้กฎอัยการศึกทั่วราชอาณาจักร โดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติได้ดําเนินการเข้าควบคุมอํานาจการปกครองประเทศ เมื่อวันที่ ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๕๗
สถิติที่น่าสนใจมีดังต่อไปนี้
พื้นที่ที่ใช้กฎอัยการศึกยาวนานที่สุดของประเทศไทยคือ จังหวัดสงขลา เฉพาะอำเภอสะเดา โดยประกาศใช้ตั้งแต่วันที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2534 ถึงวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2558 ยาวนานถึง 24 ปี 1 เดือน 8 วัน (ส่วนอำเภอนาทวี อำเภอสะบ้าย้อย ประกาศใช้ตั้งแต่วันที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2534 ถึงวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2543)
รองลงมาคือ จังหวัดและอำเภอที่มีการประกาศกฎอัยการศึกตั้งแต่วันที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2534 ถึงวันที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2548 เป็นระยะเวลา 14 ปี 4 เดือน 26 วัน ดังต่อไปนี้
จังหวัดนราธิวาส เฉพาะอำเภอจะแนะ อำเภอระแงะ อำเภอแว้ง อำเภอศรีสาคร และอำเภอสุคิริน
(จ.นราธิวาส เฉพาะอำเภอเจาะไอร้อง ประกาศกฎอัยการศึกตั้งแต่วันที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2541 ถึงวันที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2548)
(จ.นราธิวาส เฉพาะอําเภอบาเจาะ อําเภอรือเสาะ อําเภอตากใบ อําเภอสุไหงปาดี อําเภอยี่งอ และอําเภอสุไหงโกลก ประกาศกฎอัยการศึกตั้งแต่วันที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2547 ถึงวันที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2548)
จังหวัดยะลา เฉพาะอำเภอธารโต อำเภอบันนังสตา อำเภอเบตง และอำเภอยะหา
(จ.ยะลา เฉพาะอำเภอกาบัง ประกาศกฎอัยการศึกตั้งแต่วันที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2541 ถึงวันที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2548)
(จ.ยะลา เฉพาะอำเภอรามัน ประกาศกฎอัยการศึกตั้งแต่วันที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2547 ถึงวันที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2548)
(จ.ยะลา เฉพาะอำเภอเมือง และกิ่งอำเภอกรงปินัง ประกาศกฎอัยการศึกตั้งแต่วันที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2547 ถึงวันที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2548)
ดูเพิ่ม
- เดฟคอน
- กองตำรวจภูธร (Gendarmerie)
- การประกาศกฎอัยการศึก 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2557
- สเตรโตเครซี รูปแบบรัฐบาลที่นำโดยนายพลทหาร
- รัฐตำรวจ รัฐที่บริหารผ่านอำนาจของกลุ่มตำรวจ
- คณะผู้ยึดอำนาจการปกครอง รัฐบาลที่นำโดยคณะผู้นำทหาร
- เผด็จการทหาร รูปแบบเอกาธิปไตยที่ปกครองด้วยทหาร
- ลัทธิอำนาจนิยม รูปแบบรัฐบาลที่มีอำนาจกลางมากและมีเสรีภาพจำกัด
อ้างอิง
- Anonymous (19 August 2010). "Martial Law". LII / Legal Information Institute.
- "Martial law". britannica.com.
- พระราชบัญญัติกฎอัยการศึก พระพุทธศักราช ๒๔๕๗
- ข้อมูลทางหลักฐานทางประวัติศาสตร์ประเทศไทยได้มีการประกาศใช้กฎอัยการศึก
- พื้นที่ที่ใช้กฎอัยการศึกยาวนานที่สุดของประเทศไทย
อ่านเพิ่ม
- วรชัย แสนสีระ, “จุดต่างแห่งอํานาจตามพระราชบัญญัติกฎอัยการศึก, พระราชกําหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ และพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายใจราชอาณาจักร พ.ศ. ๒๕๕๗”, จุลนิติ พ.ค. – มิ.ย. ๒๕๕๓, หน้า ๑๒๙ – ๑๓๑
- Macomb, Alexander, Major General of the United States Army, The Practice of Courts Martial, (New York: Harper & Brothers, 1841) 154 pages.
- Macomb, Alexander, Major General of the United States Army, A Treatise on Martial Law, and Courts-Martial as Practiced in the United States. (Charleston: J. Hoff, 1809), republished (New York: Lawbook Exchange, 2007). ISBN 978-1-58477-709-0.
- Rehnquist, William H. (1998). All the Laws but One: Civil Liberties in Wartime. New York: William Morrow & Co. ISBN 0-688-05142-1.
- The Concise Oxford Dictionary of Politics. Edited by Iain McLean and Alistair McMillan, Oxford University Press, 2004. แม่แบบ:ISBN?
- Black's Law Dictionary: Definitions of the Terms and Phrases of American and English Jurisprudence, Ancient and Modern. Henry Campbell Black. St. Paul: West Pub. Co., 1979. แม่แบบ:ISBN?
แหล่งข้อมูลอื่น
วิกิซอร์ซ มีงานต้นฉบับเกี่ยวกับ: กฎอัยการศึก |
คอมมอนส์ มีภาพและสื่อเกี่ยวกับ: กฎอัยการศึก |
- 'Martial law' in the Encyclopædia Britannica
- Martial law in Thailand in 2005
- NSPD-51
- Emergency Rule of 3rd Nov. 2007 Pakistan 2019-09-16 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน