การกระจายรายได้ (Income Distribution) หมายถึงการแบ่งสันปันส่วนผลผลิตมวลรวมของประเทศ (GDP) ในหมู่ประชากรของประเทศ โดยใช้เป็นปัจจัยชี้วัดความเท่าเทียมทางสังคม ความเท่าเทียมทางเศรษฐกิจ และการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างสมดุล (Income Distribution, n.d.)
อรรถาธิบาย
การกระจายรายได้เป็นดัชนีตัวหนึ่งที่ใช้ในการวัดค่าความไม่เท่าเทียมทางเศรษฐกิจ ซึ่งมิใช่เรื่องเดียวกันกับความยากจน ความไม่เท่าเทียมในเชิงเศรษฐกิจที่วัดโดยใช้การกระจายรายได้นั้นจะดูจากการแบ่งสันปันส่วนผลผลิตมวลรวมของประเทศโดยแบ่งประชาชนออกเป็นส่วนๆ แล้วดูว่าประชาชนส่วนที่ได้รับรายได้สูงสุดนั้นได้รับรายได้มากกว่าประชาชนส่วนที่ได้รับรายได้น้อยที่สุดเท่าไร แล้วคิดออกมาเป็นสัดส่วนที่บ่งชี้ความไม่เท่าเทียมทางเศรษฐกิจ (Income Inequality Metrics, n.d.)
ดังนั้น แม้จะมีความไม่เท่าเทียมทางเศรษฐกิจก็มิได้หมายความว่าจะมี(ความยากจน) เพราะประชาชนส่วนที่มีรายได้น้อยที่สุดอาจจะมีรายได้เหนือเส้นความยากจน หรือแม้แต่มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีก็ได้ เพียงแต่มีรายได้น้อยกว่าประชาชนที่มีรายได้มากที่สุดของประเทศอย่างมากเท่านั้น โดยวิธีการคิดคำนวณเช่นนี้อาจมิได้คำนึงถึง หรือ ละเลยสิ่งที่เรียกว่า “ช่องว่างระหว่างรายได้” อันเกิดมาจากการกระจายรายได้ที่ไม่เท่าเทียมกัน ซึ่งทำให้ความแตกต่างระหว่างผู้ที่มีรายได้มากที่สุด กับผู้ที่มีรายได้น้อยที่สุดของประเทศไทยมีความแตกต่างกันหลายเท่า เพราะประเทศที่ประชากรส่วนใหญ่อยู่เหนือระดับเส้นความยากจนก็อาจเป็นประเทศที่มีช่องว่างในการกระจายรายได้สูงหลายสิบเท่าได้ด้วยเช่นกัน
วิธีที่นิยมใช้กันในการวัดการกระจายรายได้คือ(ค่าสัมประสิทธิ์จีนี) (Gini Coefficient) ซึ่งเป็นวิธีวัดการกระจายทางสถิติวิธีหนึ่ง ค่านี้จะบ่งชี้การกระจายรายได้โดยคิดออกมาเป็นอัตราส่วนการกระจายรายได้ระหว่าง 0 กับ 1 “0” หมายถึงประชากรทั้งหมดมีรายได้เท่าเทียมกันอย่างแท้จริง และ “1” หมายถึงการเหลื่อมล้ำสมบูรณ์แบบซึ่งมีบุคคลเพียงคนเดียวมีรายได้ทั้งหมดขณะที่คนที่เหลือไม่มีรายได้เลย (องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ)(สัมประสิทธิ์จีนี)จะถูกเปลี่ยนเป็นร้อยละเพื่อคิดเป็นดัชนีจีนีสำหรับวัดการกระจายรายได้ เช่น ประเทศเยอรมนีมี(สัมประสิทธิ์จีนี)จากการกระจายรายได้เท่ากับ 0.283 ดัชนีจีนีของเยอรมนีจะเท่ากับร้อยละ 28.3
(ดัชนีจีนี) จะทำการชี้วัดการกระจายรายได้เพื่อวัดความเท่าเทียมทางเศรษฐกิจของทั้งประเทศ ส่วนอัตราส่วนคนรวยคนจนที่แบ่งประชาชนออกเป็นกลุ่มๆ นั้นจะให้ข้อมูลของความแตกต่างระหว่างคนที่มีรายได้มากที่สุดกับคนที่มีรายได้น้อยที่สุดว่าความไม่เท่าเทียมมีความรุนแรงเพียงใด (โครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ) เมื่อเรานึกถึงรูปภาพแก้วแชมเปญ เราสามารถเห็นภาพของปัญหาการกระจายรายได้และการถือครอง(ทรัพยากร)ของ(ประชากรโลก)ที่ไม่เป็นธรรม กล่าวคือ คนรวยที่สุด 20 เปอร์เซ็นต์ของโลกถือครอง(ทรัพยากร)กว่า 82 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่ คนจนที่สุด 20 เปอร์เซ็นต์ มีส่วนแบ่งในด้านรายได้และ(ทรัพยากร)เพียง 1.4 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ภาพแก้วแชมเปนปากกว้างและก้านเรียวเล็ก สะท้อนความไม่สมดุลในการกระจายรายได้ของประชากรโลกได้เป็นอย่างดี (โปรดดูเพิ่มเติม Champagne Glass Distribution from Conley (2008) You May Ask Yourself)
ตัวอย่างการนำไปใช้ในประเทศไทย
(ดัชนีจีนี)ของประเทศไทย ซึ่งจัดทำโดยสหประชาชาติในปี ค.ศ.2013 อยู่ที่ 0.4 ส่วนสำนักงานข่าวกรองกลางสหรัฐอเมริกาให้ค่าในปีเดียวกันไว้ที่ 0.536 (สำนักข่าวกรองกลาง) ทั้งนี้ค่าความเหลื่อมล้ำในการกระจายรายได้ของประเทศ ถูกตั้งไว้ตั้งแต่ 0 ถึง 1 โดยยิ่งมีค่าเพิ่มจาก 0 มากเท่าไหร่ก็ยิ่งแสดงให้เห็นถึงความเหลื่อมล้ำในการกระจายรายได้มากเท่านั้น
ปัจจัยจำนวนมากสามารถก่อให้เกิดความไม่เท่าเทียมของรายได้ ตั้งแต่โครงสร้างทาง(สังคม) (เพศ) (เชื้อชาติ) วัฒนธรรมการศึกษา ทักษะของแรงงาน จนถึงนโยบายของ(ภาครัฐ) อย่างนโยบายด้านภาษี นโยบายเศรษฐกิจ นโยบายแรงงาน นโยบายการเงิน รวมถึง(ระบบเศรษฐกิจ) เทคโนโลยีและระบบอัตโนมัติในการผลิต จนถึงอิทธิพลจาก(โลกาภิวัตน์) แต่โดยพื้นฐานแล้วการกระจายรายได้ที่ไม่เท่าเทียมกันนั้นมีสาเหตุมาจากธรรมชาติของการสั่งสมต้นทุนทางเศรษฐกิจของผู้เข้าแข่งขันในระบบ(ตลาดเสรี)ที่จะได้เปรียบผู้ที่มีต้นทุนทางเศรษฐกิจที่น้อยกว่าอยู่แล้ว ปัจจัยอื่นๆ จึงเป็นเพียงตัวเร่ง และขยายความไม่เท่าเทียมดังกล่าวนี้ให้มากและรุนแรงมากยิ่งขึ้นไปเท่านั้น สำหรับประเทศไทยนั้น สาเหตุสำคัญที่กระตุ้นให้ความไม่เท่าเทียมดังกล่าวนี้ทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้นก็คือ ความไม่เท่าเทียมในโอกาสทางการศึกษา ซึ่งส่งผลให้ประชากรส่วนใหญ่ต้องกลายเป็นประชาชนผู้มีรายได้ต่ำ และมีโอกาสเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจขนาดใหญ่เพื่อแสวงหาความมั่งคั่ง และความเจริญก้าวหน้าทางเศรษฐกิจได้น้อยกว่าคนอื่นๆ แม้รัฐบาลจะพยายามแก้ไขปัญหาด้วยการจัดให้มี(การศึกษาภาคบังคับ) และโครงการค่าเรียนฟรีแล้วก็ตาม แต่ด้วยข้อจำกัดทางเศรษฐกิจของครอบครัวที่บีบบังคับ ทำให้ผู้คนเหล่านี้ท้ายที่สุดต้องผันตัวมาเป็นแรงงานรับจ้างที่มีรายได้ต่ำปัญหาที่ว่านี้ถูกส่งต่อไปยังบุตรหลานรุ่นต่อๆไปของพวกเขา ในขณะที่ผู้มีรายได้สูงก็จะสามารถเข้าถึงและขยับขยายโอกาสในการแสวงหาความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจได้อยู่เสมอ และส่งต่อโอกาสที่ว่านี้ไปยังลูกหลานได้ด้วยเช่นกัน ความแตกต่างในโอกาสทางการศึกษาผลิตซ้ำความเหลื่อมล้ำดังกล่าวนี้ให้ห่างมากขึ้นเรื่อยๆ หลายคนมองว่าความเหลื่อมล้ำที่ถูกผลิตซ้ำส่วนหนึ่งเพราะรัฐไม่มีการจัดเก็บ(ภาษีที่ดิน) และภาษีมรดกในอัตราก้าวหน้า หากสามารถบังคับใช้กฎหมายภาษีทั้งสองประเภทได้ ช่องว่างในการถือครองทรัพย์สินคือ ที่ดิน และการส่งต่อความมั่งคั่งคือ(มรดก) ก็จะลดลงจากเดิม และจะสามารถตอบโจทย์ที่เป็นพื้นฐานสำคัญของปัญหาการกระจายรายได้ของประเทศไทยได้เป็นอย่างดี
อ้างอิง
- วิกิพีเดีย 1. เข้าถึงวันที่ 30 กันยายน 2555 ใน http://en.wikipedia.org/wiki/Income_distribution.
- วิกิพีเดีย 2. เข้าถึงวันที่ 30 กันยายน 2555 ใน http://en.wikipedia.org/wiki/Income_inequality_metrics.
- องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ. เข้าถึงวันที่ 30 กันยายน 2555 ใน http://www.fao.org/docs/up/easypol/329/gini_index_040en.pdf 2017-07-13 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน.
- โครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ. เข้าถึงวันที่ 30 กันยายน 2555 ใน http://hdr.undp.org/en/media/HDR_2009_EN_[] Complete.pdf. และ http://hdr.undp.org/en/media/HDR_20072008_[] EN_Complete.pdf.
- สำนักข่าวกรองกลาง. เข้าถึงวันที่ 30 กันยายน 2555 ใน http://www.cia.gov/library/publications/the-world-factbook/fields/2172.html 2015-04-14 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน.
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์