fbpx
วิกิพีเดีย

ดงมรณะ

ดงมรณะ เป็นตอนที่สองของเพชรพระอุมาจำนวน 4 เล่ม ได้แก่ดงมรณะ เล่ม 1 - 4

ดงมรณะ
ภาพปกเพชรพระอุมา ตอนดงมรณะ เล่ม 1
รายละเอียด
ผู้ประพันธ์นายฉัตรชัย วิเศษสุวรรณภูมิ
จำนวนเล่ม4 เล่ม
ความยาว1,692 หน้า
ออกแบบปกสามารถ จงเจษฎากุล
ภาพประกอบปกสมชาย ปานประชา
ศิลปกรรมฝ่ายศิลปกรรม
ณ บ้านวรรณกรรม กรุ๊ป
บรรณาธิการรักษ์ชนก นามทอน
สำนักพิมพ์สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม
ปีที่พิมพ์ครั้งที่ 1 พ.ศ. 2538
ครั้งที่ 2 พ.ศ. 2541
ครั้งที่ 3 พ.ศ. 2544
ครั้งที่ 4 พ.ศ. 2547
เล่มก่อนหน้าไพรมหากาฬ
เล่มถัดไปจอมผีดิบมันตรัย

เนื้อเรื่องย่อ

ดงมรณะ เล่ม 1

ภายหลังจากรพินทร์นำคณะนายจ้างผ่านดงทากมาถึงยังแม่น้ำใหญ่ ในขณะที่กำลังหาวิธีข้ามก็พบกับอุปสรรคในการเดินทาง เนื่องจากในแม่น้ำมีจระเข้ขนาดใหญ่จำนวนมาก รพินทร์จึงหาวิธีข้ามแม่น้ำ บริเวณที่แคบที่สุดด้วยการยิงตัวสมเสร็จเพื่อใช้เป็นเหยื่อล่อความสนใจจนสามารถข้ามได้สำเร็จ และหยุดพักค้างแรมในหุบเขากลางดงกล้วย ในตอนเย็นรพินทร์แสดงฝีมือการทำอาหาร คือลูกหมูหันบ้านป่า ยัดไส้ด้วยใบกล้วยให้คณะนายจ้างได้ลองชิม คืนนั้นระหว่างพักผ่อน เกิดอาถรรพณ์ป่ากับปางพักของคณะนายจ้าง ขณะที่ไชยยันต์อยู่ยามเกิดตาฝาดมองเห็นเสือดาวขนาดใหญ่กลายเป็นหญิงสาวแรกรุ่น นั่งห้อยเท้าอยู่บนเถาวัลย์ใหญ่ที่มีลักษณะคล้ายชิงช้า ไชยยันต์คิดว่าตนเองไม่สบาย จึงปลุกเชษฐามาอยู่ยามต่อ และเล่าเหตุการณืที่เกิดขึ้นให้เชษฐาฟัง เมื่อเชษฐาอยู่ยา เชษฐาได้พบเห็นหญิงสาวเช่นเดียวกับไชยันต์เช่นกัน โดยหญิงสาวได้เดินเข้ามาหาเกือบจะถึงบริเวณเขตที่พัก แต่สิ่งที่ทำให้เชษฐาตกใจคือ หญิงสาวมีหน้าตาถอดแบบดารินออกมาทุกกระเบียดนิ้ว รพินทร์ที่เฝ้าดูเหตุการณ์ตลอดเข้าช่วยเหลือด้วยการยิงแสกหน้าเสือดาวด้วยปืน.458

เมื่อเชษฐาได้สติ จึงได้เห็นหญิงสาวแรกรุ่นที่มีใบหน้าเหมือนดารินกลายเป็นเสือดาวขนาดใหญ่ก็ตกใจ รพินทร์พยายามจะโน้มน้าวใจให้คณะนายจ้างคิดว่าเป็นเพียงตาฝาดเท่านั้น ส่วนพรานเกิดเชื่อว่าเป็น "เสือสมิง" ที่เกิดจากการฆ่าและกินมนุษย์เป็นอาหาร ทำให้วิญญาณสิงสู่อยู่ในร่างของเสือดาวและสามารถสร้างภาพมายาหลอกล่อให้มนุษย์ติดกับดักได้เช่นเดียวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ เมื่อถึงเวลาเช้าทุกคนตื่นมาดูเสือดาวที่ถูกยิงตาย พรานเกิดได้ทำการกรีดบริเวณหนังตรงหน้าผาก ให้เป็นชิ้นเท่าฝ่ามือแล้วชโลมด้วยขี้เถ้าเก็บไว้ ก่อนออกเดินทางต่อในวันรุ่งขึ้น รพินทร์นำคณะนายจ้างไต่สันเขาดอยนางขึ้นไปจนถึงเวลาประมาณเที่ยง ก็เริ่มมองเห็นบริเวณของป่าหวายอยู่เบื้องล่าง ก่อนหยุดพักผ่อนชั่วครู่และลงจากดอยนางในช่วงเวลาประมาณบ่ายเศษ ๆ และพบเจอกับร่องรอยเกวียนที่รพินทร์ให้พรานบุญคำเป็นผู้ควบคุมและมอบหมายให้เดินทางล่วงหน้ามาก่อน

คณะเดินทางทั้งหมดพบซากควายที่ใช้ในการเทียมเกวียนนอนตายเนื่องจากถูกงูจงอางกัด รพินทร์นำคณะนายจ้างและลูกหาบเดินทางต่อจนเข้าใกล้เขตป่าหวายในตอนค่ำ แต่เกิดปะทะกับโขลงช้างของไอ้แหว่ง พญาช้างสารเกเรที่เคยมาป้วนเปี้ยนแถวปางพัก รพินทร์มีโอกาสเผชิญหน้ากับไอ้แหว่งซึ่ง ๆ หน้า แต่ในขณะที่เหนี่ยวไกปืนเพื่อเล็งบริเวณเนินน้ำเต้า แต่กระสุนในปืนไรเฟิลของรพินทร์หมด ทำให้เสียโอกาสในการพิชิตพญาคชสารและเป็นการเปิดโอกาสให้ไอ้แหว่งและเหล่าบริวารหนีรอดไปได้ คณะนายจ้างทุกคนปลอดภัยไม่ได้รับอันตรายจากการปะทะในครั้งนี้ แต่ต้องสูญเสียลูกหาบจำนวน 3 คนและเกวียนจำนวน 3 เล่ม ที่ถูกโขลงช้างของไอ้แหว่งถล่มเสียราบคาบ ทำให้ลูกหาบที่ติดตามคณะเดินทางสูญเสียขวัญและกำลังใจ เชษฐาในฐานะหัวหน้าคณะเดินทาง ปลุกปลอบขวัญของบรรดาลูกหาบที่ขวัญหนีดีฝ่อจากการปะทะกับไอ้แหว่ง ด้วยการให้สัญญาจะจ่ายเงินค่าคำขวัญให้แก่ลูกหาบที่เสียชีวิต รายละหนึ่งหมื่นบาทเมื่อเดินทางกลับพร้อมด้วยพรานชดและถึงหมู่บ้านหนองน้ำแห้ง โดยจะฝากหนังสือลายมือของเชษฐาไปถึงคุณอำพล เมื่อคณะเดินทางแยกทางกับลูกหาบตามสัญญาว่าจ้างที่หมู่บ้านหล่มช้าง

รพินทร์และคณะนายจ้างตั้งใจจะหยุดพักการเดินทางหนึ่งวัน เพื่อพักผ่อนตามอัธญาศัย และในวันมะรืนจะบ่ายหน้ามุ่งไปทางทิศเหนือระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร เพื่อพักแรมและสร้างปางพักถาวรบริเวณไหล่เขาริมหน้าผา เชษฐานำปืนไรเฟิลที่เตรียมไว้สำหรับในการเดินทาง ออกมาแจกจ่ายให้แก่ลูกหาบเพื่อใช้ในการป้องกันตัวจากอันตราย ดารินเปลี่ยนปืนที่ใช้จากเดิมคือ .470 มาเป็นบีเวอร์ .300 แม็กนั่มแทน เพราะปืนขนาดเล็กอานุภาพในการยิงน้อยไม่สามารถใช้ต่อสู้กับสัตว์ใหญ่ได้ ตกดึกดารินฝันว่าเจ้าป่านุ่งขาวห่มขาว หนวดเครายาวมาทวงคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้ ดารินจึงแก้บนตามที่ขอไว้ด้วยสก็อตวิสกี้ ตกดึกประมาณตีสอง ปางพักของคณะเดินทางได้ถูกล้อมด้วยโขลงช้างบริวารของไอ้แหว่ง รพินทร์นำคณะนายจ้างและลูกหาบหลบหนีการโจมตีขึ้นไปตั้งหลักบนเนินเขา ไชยยันต์และแงซายช่วยกันฝังระเบิดไนโตรกลีเซอรีนบริเวณเนินเขาทั้ง 4 ด้าน ผลจากการปะทะครั้งใหญ่กลางดึกนี้ ทำให้ลูกหาบเสียชีวิตจากการถูกหินที่เกิดจากแรงระเบิดหนึ่งคน แต่ที่ร้ายแรงมากที่สุดคือเชษฐา ที่ได้รับบาดเจ็บที่ขาอ่อนเหนือเข่าด้านซ้ายขึ้นไปเล็กน้อย เป็นแผลฉกรรจ์ ลึกและยาว ศีรษะแตกอีกสองแห่ง สูญเสียเลือดเป็นจำนวนมาก ชีพจรเต้นอ่อนและหมดสติ

ดารินทำการผ่าตัดฉุกเฉินเพื่อช่วยชีวิต แต่เชษฐาสูญเสียเลือดเป็นจำนวนมากต้องให้เลือดโดยด่วน ดารินต้องการเลือดกรุ๊ป เอ เนกาทีฟที่หายากและไม่มีในกรุ๊ปเลือดที่นำติดตัวมา แงซายเสนอตัวเข้าช่วยเหลือด้วยการให้เลือดแก่เชษฐา ซึ่งเป็นกรุ๊ปเดียวกัน ภายหลังจากการผ่าตัดเสร็จสิ้น เชษฐาหลับด้วยฤทธิ์ยาจนค่ำถึงรู้สึกตัว และรับรู้ถึงอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับตนเองจนไม่สามารถเดินได้ชั่วคราว แต่ขวัญและกำลังใจของเชษฐากลับดีเยี่ยม ไม่หวั่นแม้แต่น้อยในการเตรียมวางแผนออกตามไล่ล่าไอ้แหว่งในวันรุ่งขึ้น รพินทร์นำคณะนายจ้างเดินทางต่อไปอีกเป็นระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตรจนถึงเนินเขาแห่งหนึ่งจึงหยุดพัก และจัดตั้งเป็นกองบัญชาการชั่วคราวในการโจมตีกับโขลงช้างของไอ้แหว่งหากเกิดการปะทะกันโดยไม่คาดฝัน ในขณะพรานพื้นเมือง แงซายและลูกหาบช่วยกันสร้างปางพัก รพินทร์ออกเดินสำรวจรอบบริเวณปาง พบร่องรอยของไอ้แหว่งที่ขาหลังด้านซ้ายหักและมุ่งหน้าพาร่างที่บาดเจ็บของมันกลับไปยังเขานาง รพินทร์ ไชยยันต์และแงซาย ออกติดตามร่องรอยของไอ้แหว่งตามที่มันทิ้งไว้ มุ่งหน้าไปทางเขานาง รพินทร์ติดตามไอ้แหว่งอยู่ 6 วันก็ไม่พบเจอตัวแม้แต่เงา จึงย้อนกลับมาเพราะพบร่องรอยของไอ้แหว่งที่หวนย้อนกลับมาปางพัก พร้อมกับวางแผนในการออกติดตามใหม่ เชษฐาที่อาการดีขึ้นมากพร้อมที่จะออกตามล่าไอ้แหว่งกับรพินทร์โดยมีดารินขอติดตามไปด้วย

รพินทร์และคณะนายจ้างแกะรอยไอ้แหว่งประมาณ 5 - 6 ชั่วโมงจากป่าหวาย เกิดปะทะกับโขลงของไอ้แหว่ง ดารินยิงสุ่มสี่สุ่มห้าใส่โขลงช้างที่ดาหน้าเข้าหาอย่างประสงค์ร้ายด้วย .300 เวเธอร์บี แม็กนั่ม ผลปรากฏว่ากระสุนนัดนั้นโดนไอ้แหว่งเข้าที่ท้องอย่างจัง เป็นบาดแผลฉกรรจ์หลบหนีไป รพินทร์ติดตามรอยไอ้แหว่งไปจนถึงน้ำตกใหญ่และค้นพบด่านทางลับเข้าหุบหมาหอน ซึ่งซ่อนเร้นอยู่ภายหลังน้ำตก

ดงมรณะ เล่ม 2

แงซายเป็นคนนำพาทั้งหมดผ่านเข้ามาภายในถ้ำโดยอ้างว่าเป็นการบอกกล่าวจากพระธุดงค์ที่เลี้ยงดูมา ดารินพบซากพญาคชสารยืนตายอย่างสมศักดิ์ศรีที่บริเวณช่องแคบภายในถ้ำ ก่อนจะอโหสิกรรมทุกสิ่งทุกอย่างให้ ภายหลังจากปราบไอ้แหว่งสำเร็จ รพินทร์นำคณะนายจ้างออกเดินทางจากป่าหวายมุ่งหน้าหมู่บ้านหล่นช้างไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ใช้ระยะเวลา 3 วันในการเดินทางด้วยเกวียน แต่ถ้าตัดทางขึ้นเขาก็จะร่นระยะเวลาเหลือเพียง 2 วัน ระหว่างการเดินทางพบเจอโขลงของแม่แปรก แต่ไม่เกิดเหตุร้ายใด ๆ ก่อนถึงหมู่บ้านพุเตยในเวลาเย็นและหยุดพักแรมหนึ่งคืน รพินทร์พบความผิดปกติของหมู่บ้านพุเตยที่ปราศจากผู้คน กลายเป็นหมู่บ้านร้าง

เชษฐารู้สึกถึงความผิดปกติรอบนอกบริเวณปางพักและหมู่บ้านพุเตย ยิ่งตกดึกเสียงหมาเห่าและหอนที่โหยหวนสร้างความหวาดกลัวให้แก่บรรดาลูกหาบและดาริน ดังไปทั่วราวกับเห็นสิ่งที่มองไม่เห็น รพินทร์อธิบายถึงสาเหตุของหมู่บ้านพุเตยที่ร้างเพราะอหิวาต์ ทำให้ผู้คนในหมู่บ้านต้องพากันอพยพย้ายถิ่นที่อยู่อาศัย และซากศพของผู้ที่เสียชีวิตถูกห่อด้วยเสื่อตามหน้าบ้านและขั้นบันได รวมถึงยะขิ่น ลูกสาวของผาเอิงที่เสียชีวิตด้วย ก่อนจะวางเวรยามกำหนดในแต่ละจุดเพื่อดูแลความปลอดภัยแก่คณะนายจ้าง พรานเกิดกับพรานเส่ยเป็นเวรยามผลัดแรก ในขณะทำหน้าที่เวรยามพรานเส่ยเห็นยะขิ่น หญิงสาวชาวกะเหรี่ยงคู่รักของตนเองมาหา พร้อมกับชักชวนให้ไปด้วยกัน พรานเส่ยพยายามจะตามยะขิ่นไปแต่ถูกพรานเกิดขัดขวางเนื่องจากมองไม่เห็นยะขิ่น จึงออกอุบายหลอกล่อพรานเกิดจนสำเร็จและหนียามไปพรอดรักกับยะขิ่น รพินทร์ที่ตรวจสอบความเรียบร้อยรอบปางพักพบว่าพรานเส่ยหายตัวไปในขณะเข้าเวรยาม จากการสอบถามพรานเกิดทำให้รู้ว่าพรานเส่ยถูกผียะขิ่นพาตัวไป จึงออกติดตามค้นหาเพื่อนำตัวกลับ ก่อนจะเกิดอันตรายถึงแก่ชีวิตของพรานเส่ย โดยมีคณะนายจ้างและพรานพื้นเมืองคู่ใจอีก 3 คนติดตามไปด้วย

ตลอดเส้นทางการเดินทางจากปางพักมุ่งหน้าเข้าภายในหมู่บ้านพุเตย เต็มไปด้วยกลิ่นเหม็นของซากศพที่นอนเกลื่อนกลาด เสียงนกแสกและเสียงเห่าหอนยังคงดังต่อเนื่อง ไชยยันต์หวาดผวากับสภาพโดยรอบของหมู่บ้านพุเตยและถูกเหล่าวิญญาณผู้ตายภายในหมู่บ้านหลอกหลอน ทำให้ขวัญเสียขลาดกลัวขาดสติยั้งคิดถึงกับยิงปืนเข้าใส่ลูกมะพร้าวที่เต็มไปด้วยขนรุงรังเนื่องจากมองเห็นเป็นศีรษะมนุษย์ รพินทร์มาหยุดที่หน้าบ้านของผาเอิง ก่อนก้าวขึ้นเรือนก็พบกับพรานเส่ยที่ถูกผียะขิ่นสิงสู่ และพยายามต่อสู้ขัดขวางทุกวิถีทางเพื่อไม่ให้นำตัวพรานเส่ยจากไป รพินทร์พยายามหว่านล้อมให้ยะขิ่นปล่อยตัวพรานเส่ยแต่ก็ไร้ผล เพราะต้องการเอาตัวพรานเส่ยไปอยู่ด้วยกัน พร้อมกับแสดงอิทธิฤทธิ์จนรพินทร์ต้องเผาหมู่บ้านพุเตยเพื่อช่วยเหลือพรานเส่ยออกมา วันรุ่งขึ้นรพินทร์นำคณะนายจ้างเดินทางมาประมาณชั่วโมงเศษ ๆ ก็เริ่มขึ้นเนิน การเดินทางเริ่มลำบากขึ้นตามลำดับจนรพินทร์รู้สึกตัวว่านำพาคณะนายจ้างมาผิดทาง จึงย้อนกลับไปอ้อมเขาอีโก้และหยุดพักแรม แต่คืนนั้นเกิดเหตุการณ์ประหลาดแก่ปางพัก งูขนาดใหญ่มีหงอนได้ปรากฏตัวขึ้น ควายที่ใช้เทียมเกวียนในการเดินทางถูกงูใหญ่คาบหายไปหนึ่งตัว

รพินทร์และคณะนายจ้างออกเดินทางต่อในวันรุ่งขึ้น ถึงหมู่บ้านหล่มช้างในตอนสาย ๆ และพบกับเจ้ามุ ลูกชายของคะหยิ่นหัวหน้ากะเหรี่ยงหมู่บ้านหล่มช้างที่ถูกหมูขวิดจนไส้ไหล ดารินช่วยปฐมพยาบาลและเย็บบาดแผลที่ท้องให้แก่เจ้ามุ ก่อนเดินทางถึงหมู่บ้านหล่มช้างในตอนเที่ยง ภายหลังรพินทร์และเชษฐาได้ทราบจากแงซายถึงเรื่องราวเมื่อครึ่งปีก่อน ที่มีหมอสอนศาสนามิชชันนารีสองสามีภรรยาถูกคะหยิ่นฆ่าตาย เนื่องจากรับคำท้าในการรักษาโรคให้หายภายใน 3 วันแต่กลับรักษาไม่หาย ภายหลังพบกับคะหยิ่น ดารินรู้สึกหมั่นไส้ในคำโอ้อวด จึงท้าด้วยการยิงมะขวิดด้วยปืน .300 จนคะหยิ่นยอมรับในฝีมือของดารินและยกย่องให้เป็นแม่มด ที่หมู่บ้านหล่มช้าง รพินทร์และคณะนายจ้างพบเกวียนของพรานชด ที่ฝากไว้กับคะหยิ่นก่อนออกเดินทางต่อเพื่อค้นหาขุมทรัพย์เพชรพระอุมา จอดไว้ใต้ต้นตะแบกบริเวณลานหน้าบ้านของคะหยิ่น คะหยิ่นช่วยเหลือคณะเดินทางของเชษฐาที่ยังบาดเจ็บด้วยการเกณฑ์ลูกบ้านไปตัดไม้สร้างบ้านให้พักชั่วคราว ระหว่างการก่อสร้าง ลูกบ้านของคะหยิ่นถูกงูใหญ่มีหงอนจำนวนสองตัวออกอาละวาด รพินทร์และคณะนายจ้างอาสาช่วยปราบงูใหญ่ให้เป็นการตอนแทน โดยวางแผนการโจมตีด้วยการใช้ธนูติดระเบิด

แงซายใช้ไม่ไผ่ทั้งลำมาทำธนู ขึ้นสายด้วยริ้วหนังวัว หางสำหรับตัดลมใช้หางนกเงือก ลูกธนูที่ใช้ยาวหนึ่งหลา ติดระเบิดไนโตรกลีเซอรีนประมาณ 7 นิ้ว วัดจากหัวธนูเข้ามา ก่อนใช้งานจริงได้ทดลองยิงก่อนหนึ่งดอก ผลออกมาเป็นที่น่าพอใจ รุ่งขึ้นงูใหญ่มีหงอนทั้งสองตัวออกอาละวาด ตัวหนึ่งถูกเชษฐายิงด้วย .458 กระสุนเข้าที่ตาซ้ายบอดสนิททันที ได้เลื้อยหลบหนีไป รพินทร์ ดาริน ไชยยันต์ แงซาย พรานบุญคำและคะหยิ่นออกติดตามร่องรอยของหยดเลือดที่ไหลจากบาดแผลไป คะหยิ่นนำทั้งหมดลัดเลาะไปตามแนวเขา และพบกับเหวซึ่งเบื้องล่างเป็นบ่อโคลน คะหยิ่นจึงใช้วิธีการเลื้อยเหมือนงูไปบนผิวใบไม้จำนวนมากที่ปกคลุมพื้นโคลนนั้นเข้าไปขึงเชือกกับต้นไม้และให้ทุกคนไต่เชือกตามไป

ดงมรณะ เล่ม 3

คะหยิ่นนำคณะไปจนเจองูใหญ่ โดยลอดเข้าไปในระหว่างช่องเขาซึ่งงูใหญ่ตัวนั้นนอนพาดขวางอยู่ เกิดการปะทะกันขึ้นกับงูใหญ่ทั้งสองตัว แงซายปะทะกับงูใหญ่มีหงอนตัวผู้ด้วยการยิงธนูติดระเบิดจำนวน 2 ดอก ดอกแรกเข้าที่บริเวณกลางลำตัว ดอกที่สองปักติดแน่นที่เพดานปากด้านบน ส่วนงูใหญ่ตัวเมียโดนที่บริเวณกลางลำตัวและใกล้กับส่วนคอ แหลกละเอียดตายคาที่ทั้งสองตัว ไชยยันต์เก็บเกล็ดงูใหญ่ซึงมีขนาดเกือบเท่ากระด้งกลับมาฝากเชษฐา เพื่อเป็นเครื่องหมายว่าสามารถปราบงูยักษ์ทั้งสองตัวได้สำเร็จ

ภายหลังจากปราบงูใหญ่ได้สำเร็จตามสัญญา คณะเดินทางทั้งหมดพักอยู่ที่หมู่บ้านหล่มช้างราวหนึ่งเดือน รอจนกระทั่งอาการของเชษฐาดีขึ้นจนเกือบปกติ จึงออกเดินทางต่อโดยมีแต่รพินทร์ คณะนายจ้าง แงซายและพรานพื้นเมืองคู่ใจอีก 4 คนเท่านั้น ส่วนพวกลูกหาบให้เดินทางกลับหนองน้ำแห้ง ฝ่ายคะหยิ่นนั้นขอสวามิภักดิ์และติดตามไปกับคณะเดินทางด้วยด้วยความสำนึกในบุญคุณและความสามารถ เชษฐาจึงมอบปืนลูกซองเรมิงตัน โมเดล 870 แบบปั๊มแอคชั่นให้คะหยิ่นเป็นปืนคู่มือ

หลังจากส่งคณะลูกหาบกลับหนองน้ำแห้ง ราว 7 โมงเช้าของวันรุ่งขึ้น รพินทร์ก็นำคณะนายจ้างออกเดินทางจากหล่มช้าง บ่ายหน้าสู่เขาหัวแร้งทางตะวันตกเฉียงเหนือ ระยะทางราว 20 กิโลเมตร โดยตั้งใจจะให้ถึงในเที่ยงของวันรุ่งขึ้น แงซายบอกว่าตนได้เคยผ่านเขาหัวแร้งเข้าไปในป่านรกดำแล้ว ราวเที่ยงวัน พบหลักฐานการเดินทางผ่านมาของพรานชดและหนานอิน และบทกลอนตัดพ้อชีวิตที่พรานชดเขียนไว้ที่แผ่นหินด้วยถ่าน พร้อมชื่อ วันเวลาที่พรานชดแวะพักแรม เช้าของวันต่อมาก็พบร่องรอยของมนุษย์ที่ไม่รู้ว่ามาจากไหนและเป็นใคร จนในที่สุด รพินทร์ แงซาย และพรานบุญคำก็ลงความเห็นว่าเป็นชนเผ่าสางเขียว คนป่าเผ่าดุร้ายหลงสำรวจ

นอกจากนี้คณะเดินทางยังได้พบร่องรอยการตั้งที่พักของมะราบรี (ชนเผ่าตองเหลือง) และการปะทะกันระหว่างสางเขียวและมราบรีในบริเวณใกล้ๆกัน และยังได้ปะทะกับกลุ่มสางเขียวซึ่งกำลังรุมฆ่ามราบรีสองคนอีกขนานใหญ่ ซึ่งรพินทร์สามารถช่วยชีวิตมราบรีคนหนึ่งไว้ได้ ส่วนลูกสาวของมราบรีคนนั้นถูกฆ่าตาย

ระหว่างออกเดินทางต่อ รพินทร์และคณะนายจ้างพบกับส่างปา พรานต่องสูผู้นำทางและคนรับใช้ของฝรั่งผิวขาว ที่หลงทางและกำลังหาทางเข้าประเทศไทย โดยเดินทางตัดผ่านทางแม่ฮ่องสอน และพบฝรั่งสองสามีภรรยา มาเรีย ฮอฟมัน และ ดร.สเตเกล ฮอฟมัน นักสำรวจสมุนไพร ฝ่ายรพินทร์เตือนดร.ฮอฟมันถึงเผ่าสางเขียว แต่ดร.ฮอฟมันไม่สู้จะใส่ใจนัก ทั้งสองคณะตกลงกันว่าจะพักอยู่ร่วมกันวันหนึ่ง แล้ววันมะรืนค่อยแยกทางกันต่อไป แต่แล้วในราวเที่ยงของวันถัดมานั่นเองก็เกิดเหตุร้ายขึ้น ขณะที่ดร.ฮอฟมันและมาเรียลงไปอาบน้ำที่ลำธาร และคณะเดินทางของเชษฐาพักผ่อนอยู่บนที่พัก ก็เกิดเสียงปืนดังขึ้นมาจากลำธารสองนัด

ดงมรณะ เล่ม 4

รพินทร์และคณะนายจ้างพุ่งลงไปที่ลำธารทันที และพบว่า ดร.ฮอฟมันถูกสางเขียวฆ่าด้วยหอกที่ลำธาร และมาเรียผู้เป็นภรรยาถูกจับตัวไป ส่างปาเข้าต่อสู้เพื่อช่วยเหลือนายสาวแต่ถูกธนูอาบยาพิษจากเผ่าสางเขียว ได้คะหยิ่นช่วยแก้พิษให้ คณะเดินทางปะทะกับเผ่าสางเขียวจนกระทั่งแงซายยิงธนูติดระเบิดขึ้น ขับไล่สางเขียวแตกหนีไป รพินทร์และคณะนายจ้างต่างมีความเห็นตรงกันในการออกติดตามช่วยเหลือและชิงตัวมาเรียกลับมาจากพวกสางเขียว พร้อมกับฆ่าสางเขียวตายเป็นจำนวนมาก ตกดึกคืนนั้น ปางพักของเชษฐาได้ถูกเจ้าลู ลูกชายของหัวหน้าเผ่าสางเขียวใช้ยารมด้วยหนังคางคกตากแห้งเพื่อทำให้สลบ แต่รพินทร์และเชษฐาคอยระวังตัวอยู่แล้วจากแผนการที่เจ้าเกอะ มราบรีที่รพินทร์ช่วยชีวิตเอาไว้ และเป็นพ่อของนางเที๊ยะ ที่ถูกสางเขียวฆ่าตายพร้อมกับกินหัวใจ

รพินทร์จับเจ้าลูเป็นตัวประกันโดยติดต่อสื่อสารด้วยภาษาว้า และบังคับให้พาไปยังถิ่นของสางเขียว เพื่อเจรจาต่อรองแลกเปลี่ยนตัวกับมาเรีย แต่การเจรจาไม่เป็นผลสำเร็จ ซูซูผู้พ่อของเจ้าลูยอมแลกตัวกับมาเรีย แต่มุมบาหมอผีประจำเผ่าสางเขียวไม่ยอม จึงเกิดเหตุการณ์นองเลือดขึ้นระหว่างรพินทร์ คณะนายจ้างและเผ่าสางเขียว รพินทร์บุกเข้าชิงตัวมาเรียจากแท่นบูชายัญ มุมบาโดนเจ้าเกอะเอาหอกแทงตายแต่เจ้าเกอะก็โดนสางเขียวตัดหัวในทันทีเช่นกัน แงซายพลาดท่าโดนหอกของสาวเขียวที่สะบัก ทั้งหมดพากันหลบหนีจากถิ่นของสางเขียวเมื่อได้ตัวมาเรียกลับคืนมาแล้ว รพินทร์และคณะนายจ้างพากันถอยกลับอย่างเร่งด่วน แต่ไม่ทันการเพราะฝ่ายสางเขียวยิงตอบโต้ด้วยธนูเพลิง เผาสะพานเชือกข้ามเหว เชษฐา ไชยยันต์และคนอื่นข้ามฝั่งมาได้อย่างปลอดภัย เหลือเพียงรพินทร์และดารินที่ข้ามมาไม่ทัน

รพินทร์เกิดเป็นไข้จับสั่น แต่ก็พยายามพาดารินหลบหนีฝูงหมาในจำนวนมากที่ตามไล่ล่า ดารินเห็นผีนางเที๊ยะมาช่วยเหลือด้วยการนำทางไปหลบในถ้ำที่หน้าผาแห่งหนึ่ง ตลอดทั้งคืนดารินคอยดูแลรพินทร์และคอยระวังตัวจากฝูงหมาไน เจ้าลูพาสางเขาพยายามปีนขึ้นไปยังถ้ำแต่ก็ถูกดารินยิงเสียชีวิตด้วยปืนและกระสุนที่เหลือติดตัว รุ่งขึ้น แงซาย ไชยยันต์และคะหยิ่นข้ามฝั่งมาเพื่อช่วยเหลือและถล่มหมู่บ้านสางเขียวจนราบเป็นหน้ากลองด้วยธนูติดระเบิด ซูซูหัวหน้าเผ่าโดนระเบิดตาย สางเขียวที่เหลือขอยอมแพ้จึงเป็นการยุติการต่อสู้โดยสิ้นเชิง แงซายช่วยเหลือรพินทร์และดารินจากถ้ำที่หลบซ่อนตัวอย่างปลอดภัย ก่อนเดินทางกลับไปยังเขาหัวแร้ง

เมื่อกลับถึงปางพัก มาเรียขอติดตามร่วมเดินทางไปกับคณะเดินทางด้วย เชษฐามอบปืน .460 เวเธอร์บี แมกนั่มของ ดร.ฮอฟมันให้แงซายเป็นผู้ถือแทนปืน .375 เอฟเอ็น พร้อมกับให้ทดลองทางปืน (ขณะนั้นเหลือกระสุน 35 นัด) ส่วน .375 ของดารินมอบให้ส่างปาเป็นผู้ถือแทน แงซายทดลองทางปืนกับต้นไม้ใหญ่ ซึ่งรู้ภายหลังจากยิงกระสุนนัดแรกว่าเป็นต้นตะเคียน ตกตอนเย็นพรานพรานบุญคำที่ออกไปปลดทุกข์บริเวณนั้น วิ่งกระหืดกระหอบมาแจ้งแก่รพินทร์ถึงรอยปืนที่ต้นตะเคียน มียางไหลซึมออกมาสีแดงคล้ายเลือด

อ้างอิง

  1. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนดงมรณะ เล่ม 1 หน้า 1703, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 1703
  2. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนดงมรณะ เล่ม 1 หน้า 1929, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 1929
  3. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนดงมรณะ เล่ม 1 หน้า 1730 - 1731, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 1730 - 1731
  4. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนดงมรณะ เล่ม 1 หน้า 1738, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 1738
  5. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนดงมรณะ เล่ม 1 หน้า 1741, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 1741
  6. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนดงมรณะ เล่ม 1 หน้า 1766, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 1766
  7. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนดงมรณะ เล่ม 1 หน้า 1767, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 1767
  8. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนดงมรณะ เล่ม 1 หน้า 1788, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 1788
  9. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนดงมรณะ เล่ม 1 หน้า 1814, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 1814
  10. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนดงมรณะ เล่ม 1 หน้า 1828, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 1828
  11. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนดงมรณะ เล่ม 1 หน้า 1845 - 1846, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 1845 - 1846
  12. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนดงมรณะ เล่ม 1 หน้า 1858, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 1858
  13. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนดงมรณะ เล่ม 1 หน้า 1926, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 1926
  14. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนดงมรณะ เล่ม 1 หน้า 1931, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 1931
  15. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนดงมรณะ เล่ม 1 หน้า 2031, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 2031
  16. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนดงมรณะ เล่ม 1 หน้า 2075, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 2075
  17. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนดงมรณะ เล่ม 1 หน้า 2091, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 2091
  18. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนดงมรณะ เล่ม 2 หน้า 2144, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 2144
  19. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนดงมรณะ เล่ม 2 หน้า 2174, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 2174
  20. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนดงมรณะ เล่ม 2 หน้า 2210, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 2210
  21. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนดงมรณะ เล่ม 2 หน้า 2295, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 2295
  22. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนดงมรณะ เล่ม 2 หน้า 2322, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 2322
  23. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนดงมรณะ เล่ม 2 หน้า 2345, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 2345
  24. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนดงมรณะ เล่ม 2 หน้า 2373, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 2544,
  25. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนดงมรณะ เล่ม 2 หน้า 2388, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 2388
  26. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนดงมรณะ เล่ม 2 หน้า 2527, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 2527
  27. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนดงมรณะ เล่ม 2 หน้า 2559, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 2559
  28. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนดงมรณะ เล่ม 3 หน้า 2549, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 2549
  29. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนดงมรณะ เล่ม 3 หน้า 2595, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 2595
  30. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนดงมรณะ เล่ม 3 หน้า 2644, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 2644
  31. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนดงมรณะ เล่ม 3 หน้า 2686, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 2686
  32. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนดงมรณะ เล่ม 4 หน้า 2975, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 2975
  33. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนดงมรณะ เล่ม 4 หน้า 3022, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 3022
  34. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนดงมรณะ เล่ม 4 หน้า 3040, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 3040
  35. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนดงมรณะ เล่ม 4 หน้า 3362, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 3362

ดงมรณะ, เป, นตอนท, สองของเพชรพระอ, มาจำนวน, เล, ได, แก, เล, 4ภาพปกเพชรพระอ, มา, ตอน, เล, 1รายละเอ, ยดผ, ประพ, นธ, นายฉ, ตรช, เศษส, วรรณภ, จำนวนเล, ม4, เล, มความยาว1, หน, าออกแบบปกสามารถ, จงเจษฎาก, ลภาพประกอบปกสมชาย, ปานประชาศ, ลปกรรมฝ, ายศ, ลปกรรม, านวรรณกรรม,. dngmrna epntxnthisxngkhxngephchrphraxumacanwn 4 elm idaekdngmrna elm 1 4dngmrnaphaphpkephchrphraxuma txndngmrna elm 1raylaexiydphupraphnthnaychtrchy wiesssuwrrnphumicanwnelm4 elmkhwamyaw1 692 hnaxxkaebbpksamarth cngecsdakulphaphprakxbpksmchay panprachasilpkrrmfaysilpkrrm n banwrrnkrrm krupbrrnathikarrkschnk namthxnsankphimphsankphimph n banwrrnkrrmpithiphimphkhrngthi 1 ph s 2538khrngthi 2 ph s 2541khrngthi 3 ph s 2544khrngthi 4 ph s 2547elmkxnhnaiphrmhakalelmthdipcxmphidibmntrydkhk enuxha 1 enuxeruxngyx 1 1 dngmrna elm 1 1 2 dngmrna elm 2 1 3 dngmrna elm 3 1 4 dngmrna elm 4 2 xangxingenuxeruxngyx aekikhdngmrna elm 1 aekikh phayhlngcakrphinthrnakhnanaycangphandngthakmathungyngaemnaihy inkhnathikalnghawithikhamkphbkbxupsrrkhinkaredinthang enuxngcakinaemnamicraekhkhnadihycanwnmak rphinthrcunghawithikhamaemna briewnthiaekhbthisuddwykaryingtwsmesrcephuxichepnehyuxlxkhwamsnic 1 cnsamarthkhamidsaerc aelahyudphkkhangaerminhubekhaklangdngklwy 2 intxneynrphinthraesdngfimuxkarthaxahar khuxlukhmuhnbanpa ydisdwyibklwyihkhnanaycangidlxngchim 3 khunnnrahwangphkphxn ekidxathrrphnpakbpangphkkhxngkhnanaycang khnathiichyyntxyuyamekidtafadmxngehnesuxdawkhnadihyklayepnhyingsawaerkrun nnghxyethaxyubnethawlyihythimilksnakhlaychingcha ichyyntkhidwatnexngimsbay cungplukechsthamaxyuyamtx aelaelaehtukarnuthiekidkhunihechsthafng emuxechsthaxyuya echsthaidphbehnhyingsawechnediywkbichyntechnkn odyhyingsawidedinekhamahaekuxbcathungbriewnekhtthiphk aetsingthithaihechsthatkickhux hyingsawmihnatathxdaebbdarinxxkmathukkraebiydniw 4 5 rphinthrthiefaduehtukarntlxdekhachwyehluxdwykaryingaeskhnaesuxdawdwypun 458emuxechsthaidsti cungidehnhyingsawaerkrunthimiibhnaehmuxndarinklayepnesuxdawkhnadihyktkic rphinthrphyayamcaonmnawicihkhnanaycangkhidwaepnephiyngtafadethann swnphranekidechuxwaepn esuxsming thiekidcakkarkhaaelakinmnusyepnxahar thaihwiyyansingsuxyuinrangkhxngesuxdawaelasamarthsrangphaphmayahlxklxihmnusytidkbdkidechnediywkbehtukarnthiekidkhunemuxkhru emuxthungewlaechathukkhntunmaduesuxdawthithukyingtay phranekididthakarkridbriewnhnngtrnghnaphak ihepnchinethafamuxaelwcholmdwykhiethaekbiw 6 kxnxxkedinthangtxinwnrungkhun rphinthrnakhnanaycangitsnekhadxynangkhunipcnthungewlapramanethiyng kerimmxngehnbriewnkhxngpahwayxyuebuxnglang 7 kxnhyudphkphxnchwkhruaelalngcakdxynanginchwngewlapramanbayess aelaphbecxkbrxngrxyekwiynthirphinthrihphranbuykhaepnphukhwbkhumaelamxbhmayihedinthanglwnghnamakxnkhnaedinthangthnghmdphbsakkhwaythiichinkarethiymekwiynnxntayenuxngcakthukngucngxangkd 8 rphinthrnakhnanaycangaelalukhabedinthangtxcnekhaiklekhtpahwayintxnkha aetekidpathakbokhlngchangkhxngixaehwng phyachangsarekerthiekhymapwnepiynaethwpangphk rphinthrmioxkasephchiyhnakbixaehwngsung hna aetinkhnathiehniywikpunephuxelngbriewneninnaeta aetkrasuninpunirefilkhxngrphinthrhmd thaihesiyoxkasinkarphichitphyakhchsaraelaepnkarepidoxkasihixaehwngaelaehlabriwarhnirxdipid khnanaycangthukkhnplxdphyimidrbxntraycakkarpathainkhrngni aettxngsuyesiylukhabcanwn 3 khn 9 aelaekwiyncanwn 3 elm thithukokhlngchangkhxngixaehwngthlmesiyrabkhab thaihlukhabthitidtamkhnaedinthangsuyesiykhwyaelakalngic echsthainthanahwhnakhnaedinthang plukplxbkhwykhxngbrrdalukhabthikhwyhnidifxcakkarpathakbixaehwng dwykarihsyyacacayenginkhakhakhwyihaeklukhabthiesiychiwit raylahnunghmunbathemuxedinthangklbphrxmdwyphranchdaelathunghmubanhnxngnaaehng odycafakhnngsuxlaymuxkhxngechsthaipthungkhunxaphl emuxkhnaedinthangaeykthangkblukhabtamsyyawacangthihmubanhlmchang 10 rphinthraelakhnanaycangtngiccahyudphkkaredinthanghnungwn ephuxphkphxntamxthyasy aelainwnmaruncabayhnamungipthangthisehnuxrayathangpraman 5 kiolemtr ephuxphkaermaelasrangpangphkthawrbriewnihlekharimhnapha echsthanapunirefilthietriymiwsahrbinkaredinthang xxkmaaeckcayihaeklukhabephuxichinkarpxngkntwcakxntray darinepliynpunthiichcakedimkhux 470 maepnbiewxr 300 aemknmaethn ephraapunkhnadelkxanuphaphinkaryingnxyimsamarthichtxsukbstwihyid tkdukdarinfnwaecapanungkhawhmkhaw hnwdekhrayawmathwngkhamnsyyathiihiw darincungaekbntamthikhxiwdwyskxtwiski 11 tkdukpramantisxng pangphkkhxngkhnaedinthangidthuklxmdwyokhlngchangbriwarkhxngixaehwng rphinthrnakhnanaycangaelalukhabhlbhnikarocmtikhuniptnghlkbneninekha ichyyntaelaaengsaychwyknfngraebidinotrkliesxrinbriewneninekhathng 4 dan 12 phlcakkarpathakhrngihyklangdukni thaihlukhabesiychiwitcakkarthukhinthiekidcakaerngraebidhnungkhn aetthirayaerngmakthisudkhuxechstha thiidrbbadecbthikhaxxnehnuxekhadansaykhunipelknxy epnaephlchkrrc lukaelayaw sirsaaetkxiksxngaehng suyesiyeluxdepncanwnmak chiphcretnxxnaelahmdstidarinthakarphatdchukechinephuxchwychiwit aetechsthasuyesiyeluxdepncanwnmaktxngiheluxdodydwn darintxngkareluxdkrup ex enkathifthihayakaelaimmiinkrupeluxdthinatidtwma aengsayesnxtwekhachwyehluxdwykariheluxdaekechstha sungepnkrupediywkn phayhlngcakkarphatdesrcsin echsthahlbdwyvththiyacnkhathungrusuktw aelarbruthungxubtiehtuthiekidkhunkbtnexngcnimsamarthedinidchwkhraw aetkhwyaelakalngickhxngechsthaklbdieyiym imhwnaemaetnxyinkaretriymwangaephnxxktamillaixaehwnginwnrungkhun rphinthrnakhnanaycangedinthangtxipxikepnrayathangpraman 5 kiolemtrcnthungeninekhaaehnghnungcunghyudphk aelacdtngepnkxngbychakarchwkhrawinkarocmtikbokhlngchangkhxngixaehwnghakekidkarpathaknodyimkhadfn 13 inkhnaphranphunemuxng aengsayaelalukhabchwyknsrangpangphk rphinthrxxkedinsarwcrxbbriewnpang phbrxngrxykhxngixaehwngthikhahlngdansayhkaelamunghnapharangthibadecbkhxngmnklbipyngekhanang 14 rphinthr ichyyntaelaaengsay xxktidtamrxngrxykhxngixaehwngtamthimnthingiw munghnaipthangekhanang rphinthrtidtamixaehwngxyu 6 wnkimphbecxtwaemaetenga cungyxnklbmaephraaphbrxngrxykhxngixaehwngthihwnyxnklbmapangphk phrxmkbwangaephninkarxxktidtamihm echsthathixakardikhunmakphrxmthicaxxktamlaixaehwngkbrphinthrodymidarinkhxtidtamipdwyrphinthraelakhnanaycangaekarxyixaehwngpraman 5 6 chwomngcakpahway 15 ekidpathakbokhlngkhxngixaehwng darinyingsumsisumhaisokhlngchangthidahnaekhahaxyangprasngkhraydwy 300 ewethxrbi aemknm phlpraktwakrasunndnnodnixaehwngekhathithxngxyangcng epnbadaephlchkrrchlbhniip 16 rphinthrtidtamrxyixaehwngipcnthungnatkihyaelakhnphbdanthanglbekhahubhmahxn sungsxnernxyuphayhlngnatk 17 dngmrna elm 2 aekikh aengsayepnkhnnaphathnghmdphanekhamaphayinthaodyxangwaepnkarbxkklawcakphrathudngkhthieliyngduma darinphbsakphyakhchsaryuntayxyangsmskdisrithibriewnchxngaekhbphayintha 18 kxncaxohsikrrmthuksingthukxyangih phayhlngcakprabixaehwngsaerc rphinthrnakhnanaycangxxkedinthangcakpahwaymunghnahmubanhlnchangipthangthistawnxxkechiyngehnux ichrayaewla 3 wninkaredinthangdwyekwiyn aetthatdthangkhunekhakcarnrayaewlaehluxephiyng 2 wn 19 rahwangkaredinthangphbecxokhlngkhxngaemaeprk aetimekidehturayid kxnthunghmubanphuetyinewlaeynaelahyudphkaermhnungkhun rphinthrphbkhwamphidpktikhxnghmubanphuetythiprascakphukhn klayepnhmubanrangechstharusukthungkhwamphidpktirxbnxkbriewnpangphkaelahmubanphuety yingtkdukesiynghmaehaaelahxnthiohyhwnsrangkhwamhwadklwihaekbrrdalukhabaeladarin dngipthwrawkbehnsingthimxngimehn rphinthrxthibaythungsaehtukhxnghmubanphuetythirangephraaxhiwat thaihphukhninhmubantxngphaknxphyphyaythinthixyuxasy aelasaksphkhxngphuthiesiychiwitthukhxdwyesuxtamhnabanaelakhnbnid rwmthungyakhin luksawkhxngphaexingthiesiychiwitdwy kxncawangewryamkahndinaetlacudephuxduaelkhwamplxdphyaekkhnanaycang phranekidkbphranesyepnewryamphldaerk inkhnathahnathiewryamphranesyehnyakhin hyingsawchawkaehriyngkhurkkhxngtnexngmaha phrxmkbchkchwnihipdwykn phranesyphyayamcatamyakhinipaetthukphranekidkhdkhwangenuxngcakmxngimehnyakhin cungxxkxubayhlxklxphranekidcnsaercaelahniyamipphrxdrkkbyakhin 20 rphinthrthitrwcsxbkhwameriybrxyrxbpangphkphbwaphranesyhaytwipinkhnaekhaewryam cakkarsxbthamphranekidthaihruwaphranesythukphiyakhinphatwip cungxxktidtamkhnhaephuxnatwklb kxncaekidxntraythungaekchiwitkhxngphranesy odymikhnanaycangaelaphranphunemuxngkhuicxik 3 khntidtamipdwytlxdesnthangkaredinthangcakpangphkmunghnaekhaphayinhmubanphuety etmipdwyklinehmnkhxngsaksphthinxnekluxnklad esiyngnkaeskaelaesiyngehahxnyngkhngdngtxenuxng ichyynthwadphwakbsphaphodyrxbkhxnghmubanphuetyaelathukehlawiyyanphutayphayinhmubanhlxkhlxn thaihkhwyesiykhladklwkhadstiyngkhidthungkbyingpunekhaislukmaphrawthietmipdwykhnrungrngenuxngcakmxngehnepnsirsamnusy rphinthrmahyudthihnabankhxngphaexing kxnkawkhuneruxnkphbkbphranesythithukphiyakhinsingsu aelaphyayamtxsukhdkhwangthukwithithangephuximihnatwphranesycakip rphinthrphyayamhwanlxmihyakhinplxytwphranesyaetkirphl ephraatxngkarexatwphranesyipxyudwykn phrxmkbaesdngxiththivththicnrphinthrtxngephahmubanphuetyephuxchwyehluxphranesyxxkma wnrungkhunrphinthrnakhnanaycangedinthangmapramanchwomngess kerimkhunenin karedinthangerimlabakkhuntamladbcnrphinthrrusuktwwanaphakhnanaycangmaphidthang cungyxnklbipxxmekhaxiokaelahyudphkaerm aetkhunnnekidehtukarnprahladaekpangphk ngukhnadihymihngxnidprakttwkhun khwaythiichethiymekwiyninkaredinthangthuknguihykhabhayiphnungtw 21 rphinthraelakhnanaycangxxkedinthangtxinwnrungkhun thunghmubanhlmchangintxnsay aelaphbkbecamu lukchaykhxngkhahyinhwhnakaehriynghmubanhlmchangthithukhmukhwidcnisihl 22 darinchwypthmphyabalaelaeybbadaephlthithxngihaekecamu kxnedinthangthunghmubanhlmchangintxnethiyng phayhlngrphinthraelaechsthaidthrabcakaengsaythungeruxngrawemuxkhrungpikxn thimihmxsxnsasnamichchnnarisxngsamiphrryathukkhahyinkhatay enuxngcakrbkhathainkarrksaorkhihhayphayin 3 wnaetklbrksaimhay 23 phayhlngphbkbkhahyin darinrusukhmnisinkhaoxxwd cungthadwykaryingmakhwiddwypun 300 24 cnkhahyinyxmrbinfimuxkhxngdarinaelaykyxngihepnaemmd thihmubanhlmchang rphinthraelakhnanaycangphbekwiynkhxngphranchd thifakiwkbkhahyinkxnxxkedinthangtxephuxkhnhakhumthrphyephchrphraxuma cxdiwittntaaebkbriewnlanhnabankhxngkhahyin 25 khahyinchwyehluxkhnaedinthangkhxngechsthathiyngbadecbdwykareknthlukbaniptdimsrangbanihphkchwkhraw rahwangkarkxsrang lukbankhxngkhahyinthuknguihymihngxncanwnsxngtwxxkxalawad rphinthraelakhnanaycangxasachwyprabnguihyihepnkartxnaethn odywangaephnkarocmtidwykarichthnutidraebidaengsayichimiphthnglamathathnu khunsaydwyriwhnngww hangsahrbtdlmichhangnkenguxk lukthnuthiichyawhnunghla tidraebidinotrkliesxrinpraman 7 niw wdcakhwthnuekhama kxnichngancringidthdlxngyingkxnhnungdxk phlxxkmaepnthinaphxic rungkhunnguihymihngxnthngsxngtwxxkxalawad twhnungthukechsthayingdwy 458 krasunekhathitasaybxdsniththnthi 26 ideluxyhlbhniip rphinthr darin ichyynt aengsay phranbuykhaaelakhahyinxxktidtamrxngrxykhxnghydeluxdthiihlcakbadaephlip khahyinnathnghmdldelaaiptamaenwekha aelaphbkbehwsungebuxnglangepnbxokhln khahyincungichwithikareluxyehmuxnnguipbnphiwibimcanwnmakthipkkhlumphunokhlnnnekhaipkhungechuxkkbtnimaelaihthukkhnitechuxktamip 27 dngmrna elm 3 aekikh khahyinnakhnaipcnecxnguihy odylxdekhaipinrahwangchxngekhasungnguihytwnnnxnphadkhwangxyu ekidkarpathaknkhunkbnguihythngsxngtw aengsaypathakbnguihymihngxntwphudwykaryingthnutidraebidcanwn 2 dxk dxkaerkekhathibriewnklanglatw 28 dxkthisxngpktidaennthiephdanpakdanbn 29 swnnguihytwemiyodnthibriewnklanglatwaelaiklkbswnkhx aehlklaexiydtaykhathithngsxngtw ichyyntekbekldnguihysungmikhnadekuxbethakradngklbmafakechstha ephuxepnekhruxnghmaywasamarthprabnguyksthngsxngtwidsaercphayhlngcakprabnguihyidsaerctamsyya khnaedinthangthnghmdphkxyuthihmubanhlmchangrawhnungeduxn rxcnkrathngxakarkhxngechsthadikhuncnekuxbpkti cungxxkedinthangtxodymiaetrphinthr khnanaycang aengsayaelaphranphunemuxngkhuicxik 4 khnethann swnphwklukhabihedinthangklbhnxngnaaehng faykhahyinnnkhxswamiphkdiaelatidtamipkbkhnaedinthangdwydwykhwamsanukinbuykhunaelakhwamsamarth echsthacungmxbpunluksxngermingtn omedl 870 aebbpmaexkhchnihkhahyinepnpunkhumux 30 hlngcaksngkhnalukhabklbhnxngnaaehng raw 7 omngechakhxngwnrungkhun rphinthrknakhnanaycangxxkedinthangcakhlmchang bayhnasuekhahwaerngthangtawntkechiyngehnux rayathangraw 20 kiolemtr odytngiccaihthunginethiyngkhxngwnrungkhun 31 aengsaybxkwatnidekhyphanekhahwaerngekhaipinpanrkdaaelw rawethiyngwn phbhlkthankaredinthangphanmakhxngphranchdaelahnanxin aelabthklxntdphxchiwitthiphranchdekhiyniwthiaephnhindwythan phrxmchux wnewlathiphranchdaewaphkaerm echakhxngwntxmakphbrxngrxykhxngmnusythiimruwamacakihnaelaepnikhr cninthisud rphinthr aengsay aelaphranbuykhaklngkhwamehnwaepnchnephasangekhiyw khnpaephadurayhlngsarwcnxkcaknikhnaedinthangyngidphbrxngrxykartngthiphkkhxngmarabri chnephatxngehluxng aelakarpathaknrahwangsangekhiywaelamrabriinbriewniklkn aelayngidpathakbklumsangekhiywsungkalngrumkhamrabrisxngkhnxikkhnanihy sungrphinthrsamarthchwychiwitmrabrikhnhnungiwid swnluksawkhxngmrabrikhnnnthukkhatayrahwangxxkedinthangtx rphinthraelakhnanaycangphbkbsangpa phrantxngsuphunathangaelakhnrbichkhxngfrngphiwkhaw thihlngthangaelakalnghathangekhapraethsithy odyedinthangtdphanthangaemhxngsxn aelaphbfrngsxngsamiphrrya maeriy hxfmn aela dr setekl hxfmn nksarwcsmuniphr fayrphinthretuxndr hxfmnthungephasangekhiyw aetdr hxfmnimsucaisicnk thngsxngkhnatklngknwacaphkxyurwmknwnhnung aelwwnmarunkhxyaeykthangkntxip aetaelwinrawethiyngkhxngwnthdmannexngkekidehturaykhun khnathidr hxfmnaelamaeriylngipxabnathilathar aelakhnaedinthangkhxngechsthaphkphxnxyubnthiphk kekidesiyngpundngkhunmacaklatharsxngnd dngmrna elm 4 aekikh rphinthraelakhnanaycangphunglngipthilatharthnthi aelaphbwa dr hxfmnthuksangekhiywkhadwyhxkthilathar aelamaeriyphuepnphrryathukcbtwip sangpaekhatxsuephuxchwyehluxnaysawaetthukthnuxabyaphiscakephasangekhiyw idkhahyinchwyaekphisih 32 khnaedinthangpathakbephasangekhiywcnkrathngaengsayyingthnutidraebidkhun khbilsangekhiywaetkhniip rphinthraelakhnanaycangtangmikhwamehntrngkninkarxxktidtamchwyehluxaelachingtwmaeriyklbmacakphwksangekhiyw phrxmkbkhasangekhiywtayepncanwnmak tkdukkhunnn pangphkkhxngechsthaidthukecalu lukchaykhxnghwhnaephasangekhiywichyarmdwyhnngkhangkhktakaehngephuxthaihslb aetrphinthraelaechsthakhxyrawngtwxyuaelwcakaephnkarthiecaekxa mrabrithirphinthrchwychiwitexaiw aelaepnphxkhxngnangethiya thithuksangekhiywkhatayphrxmkbkinhwic 33 rphinthrcbecaluepntwpraknodytidtxsuxsardwyphasawa 34 aelabngkhbihphaipyngthinkhxngsangekhiyw ephuxecrcatxrxngaelkepliyntwkbmaeriy aetkarecrcaimepnphlsaerc susuphuphxkhxngecaluyxmaelktwkbmaeriy aetmumbahmxphipracaephasangekhiywimyxm cungekidehtukarnnxngeluxdkhunrahwangrphinthr khnanaycangaelaephasangekhiyw rphinthrbukekhachingtwmaeriycakaethnbuchayy mumbaodnecaekxaexahxkaethngtayaetecaekxakodnsangekhiywtdhwinthnthiechnkn aengsayphladthaodnhxkkhxngsawekhiywthisabk thnghmdphaknhlbhnicakthinkhxngsangekhiywemuxidtwmaeriyklbkhunmaaelw rphinthraelakhnanaycangphaknthxyklbxyangerngdwn aetimthnkarephraafaysangekhiywyingtxbotdwythnuephling ephasaphanechuxkkhamehw echstha ichyyntaelakhnxunkhamfngmaidxyangplxdphy ehluxephiyngrphinthraeladarinthikhammaimthnrphinthrekidepnikhcbsn aetkphyayamphadarinhlbhnifunghmaincanwnmakthitamilla darinehnphinangethiyamachwyehluxdwykarnathangiphlbinthathihnaphaaehnghnung tlxdthngkhundarinkhxyduaelrphinthraelakhxyrawngtwcakfunghmain ecaluphasangekhaphyayampinkhunipyngthaaetkthukdarinyingesiychiwitdwypunaelakrasunthiehluxtidtw rungkhun aengsay ichyyntaelakhahyinkhamfngmaephuxchwyehluxaelathlmhmubansangekhiywcnrabepnhnaklxngdwythnutidraebid susuhwhnaephaodnraebidtay sangekhiywthiehluxkhxyxmaephcungepnkaryutikartxsuodysineching aengsaychwyehluxrphinthraeladarincakthathihlbsxntwxyangplxdphy kxnedinthangklbipyngekhahwaerngemuxklbthungpangphk maeriykhxtidtamrwmedinthangipkbkhnaedinthangdwy echsthamxbpun 460 ewethxrbi aemknmkhxng dr hxfmnihaengsayepnphuthuxaethnpun 375 exfexn phrxmkbihthdlxngthangpun khnannehluxkrasun 35 nd swn 375 khxngdarinmxbihsangpaepnphuthuxaethn aengsaythdlxngthangpunkbtnimihy sungruphayhlngcakyingkrasunndaerkwaepntntaekhiyn 35 tktxneynphranphranbuykhathixxkippldthukkhbriewnnn wingkrahudkrahxbmaaecngaekrphinthrthungrxypunthitntaekhiyn miyangihlsumxxkmasiaedngkhlayeluxdxangxing aekikh phnmethiyn ephchrphraxuma txndngmrna elm 1 hna 1703 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 1703 phnmethiyn ephchrphraxuma txndngmrna elm 1 hna 1929 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 1929 phnmethiyn ephchrphraxuma txndngmrna elm 1 hna 1730 1731 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 1730 1731 phnmethiyn ephchrphraxuma txndngmrna elm 1 hna 1738 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 1738 phnmethiyn ephchrphraxuma txndngmrna elm 1 hna 1741 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 1741 phnmethiyn ephchrphraxuma txndngmrna elm 1 hna 1766 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 1766 phnmethiyn ephchrphraxuma txndngmrna elm 1 hna 1767 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 1767 phnmethiyn ephchrphraxuma txndngmrna elm 1 hna 1788 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 1788 phnmethiyn ephchrphraxuma txndngmrna elm 1 hna 1814 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 1814 phnmethiyn ephchrphraxuma txndngmrna elm 1 hna 1828 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 1828 phnmethiyn ephchrphraxuma txndngmrna elm 1 hna 1845 1846 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 1845 1846 phnmethiyn ephchrphraxuma txndngmrna elm 1 hna 1858 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 1858 phnmethiyn ephchrphraxuma txndngmrna elm 1 hna 1926 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 1926 phnmethiyn ephchrphraxuma txndngmrna elm 1 hna 1931 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 1931 phnmethiyn ephchrphraxuma txndngmrna elm 1 hna 2031 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 2031 phnmethiyn ephchrphraxuma txndngmrna elm 1 hna 2075 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 2075 phnmethiyn ephchrphraxuma txndngmrna elm 1 hna 2091 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 2091 phnmethiyn ephchrphraxuma txndngmrna elm 2 hna 2144 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 2144 phnmethiyn ephchrphraxuma txndngmrna elm 2 hna 2174 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 2174 phnmethiyn ephchrphraxuma txndngmrna elm 2 hna 2210 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 2210 phnmethiyn ephchrphraxuma txndngmrna elm 2 hna 2295 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 2295 phnmethiyn ephchrphraxuma txndngmrna elm 2 hna 2322 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 2322 phnmethiyn ephchrphraxuma txndngmrna elm 2 hna 2345 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 2345 phnmethiyn ephchrphraxuma txndngmrna elm 2 hna 2373 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 2544 phnmethiyn ephchrphraxuma txndngmrna elm 2 hna 2388 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 2388 phnmethiyn ephchrphraxuma txndngmrna elm 2 hna 2527 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 2527 phnmethiyn ephchrphraxuma txndngmrna elm 2 hna 2559 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 2559 phnmethiyn ephchrphraxuma txndngmrna elm 3 hna 2549 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 2549 phnmethiyn ephchrphraxuma txndngmrna elm 3 hna 2595 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 2595 phnmethiyn ephchrphraxuma txndngmrna elm 3 hna 2644 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 2644 phnmethiyn ephchrphraxuma txndngmrna elm 3 hna 2686 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 2686 phnmethiyn ephchrphraxuma txndngmrna elm 4 hna 2975 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 2975 phnmethiyn ephchrphraxuma txndngmrna elm 4 hna 3022 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 3022 phnmethiyn ephchrphraxuma txndngmrna elm 4 hna 3040 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 3040 phnmethiyn ephchrphraxuma txndngmrna elm 4 hna 3362 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 3362ekhathungcak https th wikipedia org w index php title dngmrna amp oldid 7456533, wikipedia, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด,

บทความ

, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม