fbpx
วิกิพีเดีย

รายชื่อตัวละครในเพชรพระอุมา

ตัวละครในเพชรพระอุมา เป็นรายละเอียดของตัวละครจากเพชรพระอุมา แยกตามตัวละครหลักและตัวละครรอง ตามแต่ปรากฏในแต่ละภาค ได้แก่ภาคแรกไพรมหากาฬ - แงซายจอมจักรา ในการออกติดตามค้นหาผู้สูญหายและภาคสมบูรณ์จอมพราน - มงกุฎไพร ในการออกติดตามหาเครื่องบิน บี 52 และระเบิดนิวเคลียร์

ตัวละครหลักภาคแรก

พรานนำทาง

รพินทร์ ไพรวัลย์
พรานใหญ่ผู้นำคณะเดินทางของเชษฐา วราฤทธิ์ ออกติดตามค้นหาคุณชายชดและหนานอิน อายุประมาณ 33 ปี รูปร่างเล็กและผอมเกร็ง สูงราว 5 ฟุต 7 นิ้ว ผิวคล้ำและใบหน้าไม่เคยปรากฏรอยยิ้ม มีฝีมือในการยิงปืนแม่นยำ อดีตนักเรียนทหารจากสามประเทศ และนายตำรวจยศร้อยตำรวจเอก มีโรคไข้มาลาเรียเป็นโรคประจำตัว รพินทร์เป็นนายพรานที่ได้รับการยกย่องจากชาวบ้านในแถบหมู่บ้านหนองน้ำแห้ง ในด้านของการเป็นผู้นำหมู่บ้านสู่ความเจริญ และเจริญรอยในฐานะพรานล่าสัตว์ตามผู้เป็นบิดา ที่ฝึกสอนและถ่ายทอดทุกสิ่งทุกอย่างเกี่ยวกับการล่าสัตว์ให้ รวมทั้งวิชาคาถาอาคมต่าง ๆ และเป็นคู่อริขมิ้นกับปูนคู่กับหม่อมราชวงศ์ดาริน วราฤทธิ์ หญิงสาวผู้เป็นนายจ้างและคนรัก
พรานบุญคำ
พรานมือขวาของรพินทร์ ไพรวัลย์ กะเหรี่ยงผู้มากด้วยเวทมนตร์คาถาอาคม อายุประมาณ 55 ปี รูปร่างเล็ก ผอมสูงและเกร็ง มีแผลเป็นบริเวณใบหน้า ผมหยิกขอดติดหนังศีรษะ นิสัยทะลึ่งตึงตังและหยาบโลน สัปดน มีฉายาว่า "ไอ้คำพรานเสือ" เนื่องจากยิงเสือโคร่งได้ถึง 22 ตัว ขึ้นชื่อว่าเป็นพรานอาวุโสที่สุดในบรรดาพรานคู่ใจทั้ง 4 ของรพินทร์ ไพรวัลย์ อดีตเคยดำรงตำแหน่งผู้ใหญ่บ้านหมู่บ้านโปงหอม ติดสอยห้อยตามรพินทร์เนื่องจากเคยได้รับการช่วยชีวิตจากการถูกเสือตะปบ บุญคำเป็นคู่อริกับส่างปา พรานต่องสูคนรับใช้และผู้ติดตามของมาเรีย ฮอฟมัน ที่ภายหลังมาร่วมคณะเดินทางด้วย
พรานจัน
พรานมือซ้ายของรพินทร์ ไพรวัลย์ ผู้มีประสาทสัมผัสและความชำนาญในการได้ยินและดมกลิ่นอย่างดีเยี่ยม รูปร่างเล็ก ลักษณะท่าทางและผิวพรรณบ่งบองถึงชีวิตความเป็นอยู่ที่มีความลำบากตรากตรำ เดินขากระเผลกเนื่องจากโดนงูกะปะกัด จันมีความสามารถพิเศษในการเลื้อยไปบนบกได้เช่นเดียวกับงูเนื่องจากเป็นคนตัวเล็กและน้ำหนักของร่างกายเบา อดีตได้รพินทร์ช่วยชีวิตเอาไว้หลังจากไปเจ้าชู้กับหญิงสาวชาวกะเหรี่ยง เป็นเหตุให้ถูกชายฉกรรจ์ภายในหมู่บ้านกะเหรี่ยงรุมทำร้าย จึงเห็นบุญคุณและติดสอยห้อยตามผู้ที่มีพระคุณตลอดชีวิต
พรานเส่ย
พรานกะเหรี่ยงหนุ่ม 1 ใน 4 พรานคู่ใจของรพินทร์ ไพรวัลย์ อายุประมาณ 20 ปี รูปร่างแข็งแรง ทรหดอดทน เส่ยเป็นลูกชายของพรานเก่าของคุณอำพล ผู้อำนวยการบริษัทไทยไวล์ดไลฟ์ (ผู้แนะนำให้รพินทร์รับจ้างเป็นพรานนำทางให้แก่คณะของเชษฐา) ที่ถูกหมีควายทำร้ายจนพิการ เส่ยเป็นพรานหนุ่มที่มีฝีมือในการยิงปืนจัดว่าพอใช้ แต่ก็ไม่ดีมากนักในยามเกิดเหตุการณ์คับขัน มีหญิงสาวชาวกะเหรี่ยงชื่อยะขิ่น ลูกสาวหัวหน้าหมู่บ้านพุเตยเป็นคนรัก แต่เส่ยก็ไม่สมหวังในความรัก เมื่อยะขิ่นและทุกคนภายในหมู่บ้านพุเตยตายทั้งหมู่บ้านด้วยโรคอหิวาห์
พรานเกิด
พรานกะเหรี่ยงหนุ่ม เพื่อนคู่หูร่วมผจญภัยในการล่าสัตว์และติดตามรพินทร์ ไพรวัลย์ ของเส่ย 1 ใน 4 พรานคู่ใจของรพินทร์ที่มีอายุไล่เลี่ยกัน รูปร่างสูงชะลูด แลดูอ้อนแอ้นแบบผู้หญิงแต่แข็งแกร่งและทรหดอดทนแบบผู้ชาย เกิดอาศัยอยู่กับบิดาตามลำพัง แต่ภายหลังบิดาประสบอุบัติเหตุถูกกระทิงเหยียบตาย ก่อนสิ้นใจได้ฝากฝังเกิดไว้กับรพินทร์ให้ช่วยดูแลต่อไป เกิดจึงมาอยู่กับรพินทร์ในฐานะเด็กภายใต้การปกครอง เป็นพรานหนุ่มที่มีฝีมือในการยิงปืนได้พอใช้ แต่ก็ไม่ค่อยดีนักเช่นเดียวกับเส่ย แต่สามารถควบคุมสติสัมปชัญญะได้ดีกว่าเส่ยในยามเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน

คณะนายจ้าง

พันโท หม่อมราชวงศ์เชษฐา วราฤทธิ์
พี่ชายคนโตของราชสกุลวราฤทธิ์ อดีตทูตทหารบกประจำสหรัฐอเมริกา อายุประมาณ 35 ปี รูปร่างสูงใหญ่และน่าเกรงขราม ผิวขาว ไว้หนวดเหนือบริเวณริมฝีปาก ลักษณะและบุคลิกบ่งบอกถึงฐานะอันเป็นราชนิกูลผู้สูงศักดิ์ ใจดีและรักน้องพร้อมคอยปกป้องเสมอ คุณชายเชษฐาเป็นคนที่มีบุคลิกภายในตัวของตัวเองที่แลดูสง่างาม เยือกเย็นและมีสติสัมปชัญญะครบถ้วนแม้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน และมีลักษณะที่แลดูองอาจ เข็มแข้งบึกบึนสมกับการเป็นนายทหาร ในอดีตเคยเป็นนักกีฬายิงธนู คุณชายเชษฐาเป็นหัวหน้าคณะในการออกติดตามหาพรานชดหรือคุณชายอนุชา น้องชายคนกลางของราชสกุลวราฤทธิ์ และเป็นเพียงคนเดียวที่รพินทร์ ไพรวัลย์ นายพรานผู้นำทางให้ความเคารพและยำเกรงโดยจริงใจ
แพทย์หญิง หม่อมราชวงศ์หญิงดาริน วราฤทธิ์
น้องสาวคนเล็กของราชสกุลวราฤทธิ์ ศัลย์แพทย์เกียรตินิยมและนักมานุษยวิทยา อายุประมาณ 27-28 ปี รูปร่างสูงโปร่งและเพรียว ผิวสีน้ำผึ้ง ใบหน้ารูปไข่ นัยน์ตาโตและคมกริบ จัดเป็นหญิงสาวที่มีความสวยงามทั้งรูปร่างและใบหน้า อารมณ์ร้อนฉุนเฉียวง่ายและเอาแต่ใจตัวเอง เป็นนักกีฬายิงปืนของสมาคมกีฬายิงปืนแห่งประเทศไทยที่มีฝีมือในการยิงปืนเป็นเยี่ยม และนักกีฬาขี่ม้าผาดโผน คุณหญิงดารินเป็นคู่กัดกับรพินทร์ ไพรวัลย์ตั้งแต่ครั้งแรกที่พบกัน และภายหลังได้แปรเปลี่ยนเป็นความรัก เป็นนักเดินป่าที่มีความแข็งแรง อดทนไม่แพ้ชายชาตรี มีน้ำใจเอื้ออารีต่อทุกๆคน
หม่อมราชวงศ์อนุชา วราฤทธิ์ / พรานชด
พี่ชายคนรองของราชสกุลวราฤทธิ์ อายุประมาณ 33-34 ปี รักอิสระ อารมณ์ร้อนและมักเป็นไม้เบื่อไม้เมากับคุณหญิงดาริน น้องสาวคนเล็กเสมอ ไม่มีหน้าที่การงานเป็นหลักเป็นฐาน ในอดีตคุณชายอนุชามีเหตุให้ทะเลาะกับบิดา เนื่องจากน้อยใจและรู้สึกว่าตัวเองนั้นไม่ได้รับความยุติธรรมในการที่ต้องเสียหญิงคนรักให้แก่พี่ชายไป เป็นเหตุให้ละทิ้งฐานะอันเป็นราชนิกูล ชักชวนพรานเดินป่าคู่ใจชื่อ หนานอิน ท่องเที่ยวเร่ร่อนผจญภัยไปในป่ากว้าง และไปค้นหาขุมทรัพย์เพชรพระอุมาอันเป็นตำนานเลื่องลือ คุณชายอนุชาเป็นคนที่มีฝีมือในการล่าสัตว์และแกะรอยเป็นเยี่ยม มีปืน.450 ไนโตรเอ็กเปรส เป็นอาวุธคู่ใจ
พันตรีไชยยันต์ อนันตรัย
เพื่อนชายคนสนิทของดาริน วราฤทธิ์ อายุประมาณ 33-34 ปี รูปร่างแข็งแรง กำยำล่ำสันตามแบบฉบับของนายทหาร อารมณ์ดี ร่าเริง เจ้าสำราญและเป็นนักเสี่ยงโชคชั้นเซียนและมองโลกในแง่ดีอยู่เสมอ แม้จะเผชิญชะตากรรมในหน้าสิ่วหน้าขวาน ไชยยันต์เป็นลูกชายของตระกูลเศรษฐีที่มีฐานะพอสมควร ไม่ร่ำรวยจนล้นฟ้า มีน้องสาวเพียงคนเดียว ภายหลังจากที่บิดามารดาตาย ผู้เป็นลุงรับเอาไชยยันต์มาอุปการะเลี้ยงดูเหมือนลูก สถานภาพโสด เคยเป็นนายทหารปืนใหญ่และผ่านหลักสูตรในการก่อการวินาศกรรม รวมทั้งมีความชำนาญในด้านการใช้วัตถุระเบิดเป็นอย่างดี

คณะผู้ร่วมเดินทาง

แงซาย
กะเหรี่ยงลึกลับ คนรับใช้ในคณะเดินทางและองครักษ์ส่วนตัวของดาริน วราฤทธิ์ อายุประมาณ 24-25 ปี รูปร่างสูงใหญ่แข็งแรง กำยำล่ำสัน ผิวสีทองแดง อดีตนายทหารกองโจรกะเหรี่ยงยศร้อยโทและคู่ปรับตัวฉกาจของรพินทร์ ไพรวัลย์ แงซายเป็นกะเหรี่ยงที่มีลักษณะรูปร่างผิดแปลกไปจากกะเหรี่ยงหรือชาวเขาธรรมดา อาสาสมัครขอเป็นคนรับใช้ในการเดินทางออกติดตามค้นหาพรานชดและหนานอินโดยไม่ขอค่าตอบแทน มีหน้าที่คอยปกป้องพิทักษ์ดาริน เป็นคนร่าเริง อารมณ์ดี มีฝีมือในการต่อสู้และใช้อาวุธปืนอย่างยอดเยี่ยม แงซายร่วมเดินทางไปกับคณะของเชษฐาเพื่อให้ได้ไปถึงเนินพระจันทร์และมรกตนคร สถานที่ซึ่งเป็นการเปิดเผยฐานะที่แท้จริงที่ปกปิดมาตลอดการเดินทาง
มาเรีย ฮอฟมัน
หญิงสาวลูกครึ่งเยอรมัน-ฝรั่งเศส มีถิ่นกำเนิดในทวีปแอฟริกา นักนิรุกติศาสตร์ อายุประมาณ 23 ปี รูปร่างสูงใหญ่ แข็งแรง ร่าเริง เป็นภรรยาของสเตเกล ฮอฟมัน ที่ตายจากการถูกโจมตีของสางเขียวและถูกจับไปเป็นเชลย ภายหลังได้ร่วมเดินทางไปกับคณะของเชษฐาในการออกติดตามหาพรานชดและหนานอิน มีฝีมือในการยิงปืนดีเยี่ยม เป็นพรานล่าสัตว์มาแต่กำเนิดรวมทั้งได้รับการสั่งสอนมาจากผู้เป็นบิดา มาเรียเป็นหญิงสาวที่มีเสน่ห์ดึงดูดใจชาย โดยเฉพาะกับไชยยันต์ อนันตรัย และภายหลังได้ตกลงใจใช้ชีวิตร่วมกันหลังจากเดินทางกลับจากเมืองมรกตนครของแงซาย
ส่างปา
พรานต่องสู พรานฝีมือดีและคนรับใช้ผู้ติดตามของมาเรีย ฮอฟมัน รูปร่างเล็ก ผอมเกร็ง ทั้งชีวิตอยู่ได้ด้วยกัญชา เป็นหมอรักษาอาการบาดเจ็บจากการถูกสัตว์มีพิษกัด มีแท่งยาดูดพิษซึ่งเป็นมรดกตกทอดมาจากบรรพบุรุษ ส่างปาเป็นคนช่วยชีวิตของแงซายเอาไว้หลังจากที่ขุนพลวรมันต์นำร่างของแงซายมาคืนตามสัญญา หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจในอาณาจักรนิทรานคร และถูกตัวหกขากัดจนเกือบตาย ส่างปาเป็นคู่อริกับบุญคำ สมุนมือขวาของรพินทร์ ที่ทะเลาะกันประจำเมื่อพบหน้าซึ่งกันและกัน ส่างปาได้รับตำแหน่งแพทย์หลวงประจำเมืองมรกตนครจากแงซาย และชักชวนให้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันหลังจากที่ชิงเอาราชบัลลังก์กลับคืนมาจากสิงหราและรหัสยะได้สำเร็จ
คะหยิ่น
หัวหน้ากะเหรี่ยงหมู่บ้านหล่มช้าง อายุประมาณ 50 ปี รูปร่างสูงใหญ่กำยำ ลักษณะท่าทางเหี้ยมเกรียมและดุดันแต่กลัวผีมากกว่าสิ่งใด คะหยิ่นเป็นกะเหรี่ยงดงที่คณะเดินทางของเชษฐาและรพินทร์มาพบที่หล่มช้าง และได้ดารินช่วยรักษาลูกชายที่บาดเจ็บให้ มีความโอ้อวดในด้านฝีมือการยิงปืนของตนเอง ดารินจึงแกล้งด้วยการท้าแข่งขันยิงปืน จนสุดท้ายก็ยอมรับในฝีมือของดารินและขอติดตามร่วมคณะเดินทางไปด้วย คะหยิ่นมีความสามารถในด้านการเลื้อยได้เหมือนงูเช่นเดียวกับจัน มองเห็นได้อย่างดีในที่มืดและพูดภาษาพม่าได้

ตัวละครรองภาคแรก

ครูพราน

หนานอิน
พรานนำทางคู่ใจพรานชด ประชากร หรือ ม.ร.ว.อนุชา วราฤทธิ์ น้องชายคนกลางของตระกูลวราฤทธิ์ที่ละทิ้งฐานะอันเป็นราชนิกูล บุกป่าฝ่าดงเพื่อค้นหาขุมทรัพย์เพชรพระอุมาอันเป็นตำนานเล่าขาน อายุประมาณ 50 ปี รูปร่างผอมบาง มีบ้องกัญชาติดตัวในย่ามอยู่ตลอดเวลา มีวิชาคาถาอาคมเก่งกล้าพอตัว ในอดีตหนานอินเคยบวชเณรและร่ำเรียนจนเป็นพระ เก่งทั้งทางโลกและทางธรรม แต่สึกออกมาเป็นพรานล่าสัตว์ในอายุเกือบ 30 ปี สถานภาพโสด ไม่มีที่อยู่อาศัยเป็นหลักแหล่งแน่นอนเป็นคนช่วยชีวิตแงซายตอนเด็ก ๆ ให้รอดพ้นจากอันตรายในการตามล่าของสิงหรา
หนานไพร
ครูพรานของรพินทร์ ไพรวัลย์ อายุมากกว่าหนานอินประมาณ 4 - 5 ปี เป็นพรานลาวเซิงที่เก่งกาจในด้านวิชาพรานในการเข้าป่าล่าสัตว์ มีเวทมนตร์คาถาอาคมและไสยศาสตร์ ในอดีตเคยบวชเป็นเณรและพระธุดงค์ แต่บวชได้ไม่นานก็ต้องสึกจากเพศบรรพชิตมาเป็นพรานล่าสัตว์ดังเดิม ติดฝิ่นอย่างรุนแรง หนานไพรเป็นคนเล่าตำนานขุมทรัพย์เพชรพระอุมาให้รพินทร์ฟังก่อนตายหลังจากได้รับบาดเจ็บจากกระทิงขวิดหนึ่งปี เป็นคนสั่งสอนและถ่ายทอดวิชาคาถาอาคมต่าง ๆ ให้แก่รพินทร์ รวมทั้งประสบการณ์ในการเดินป่าและอาถรรพณ์ของป่าที่หนานไพรเคยประสบมา

อาณาจักรนิทรานคร

มันตรัย
ราชปุโรหิตแห่งอาณาจักรนิทรานคร อายุประมาณ 50 ปี รูปร่างสูงใหญ่ ใบหน้าตอบ ผิวแห้งติดกระดูก นัยน์ตาลึกใหญ่ ศีรษะโล้นเลี่ยน นุ่งห่มร่างกายด้วยผ้าที่ย้อมเปลือกไม้สีคล้ำ สวมลูกปะคำห้อยคอ มักใหญ่ใฝ่สูงในอำนาจวาสนา ต้องการครอบครองอาณาจักรนิทรานคร แอบหมายปองในตัวจิตรางคนางค์ มกุฎราชกุมารี พระธิดาในพระเจ้ามหิทธิเดชะ กษัตริย์ผู้ครอบครองอาณาจักรนิทรานคร รักษาพระเจ้ามหิทธเดชะด้วยการควักนัยน์ตาข้างหนึ่งของตนเองเพื่อปรุงยารักษา แต่บังอาจกราบทูลขอจิตรงคนางค์เป็นการตอบแทน แต่ภายหลังที่จิตรางคนางค์สิ้นพระชนม์ด้วยยาพิษ กลับแปรเปลี่ยนมาหมายปองพันธุมวดี พระธิดาในกษัตริย์ชัยสุริยาแทน
พันธุมวดี
ธิดากษัตริย์ชัยสุริยา กษัตริย์ผู้ครอบอาณาจักรนิทรานครลูกพี่ลูกน้องของจิตรางคนางค์ มกุฎราชกุมารี ลักษณะรูปร่างงดงามทั้งหน้าตาและกิริยา ไร้ซึ่งฝีมือทางด้านวิทยายุทธ แต่มีความสามารถทางด้านนาฏศิลป์และร่ายรำ ต่อมาได้รับการสถาปนาให้ดำรงตำแหน่งมกุฎราชกุมารีแห่งอาณาจักรนิทรานครเช่นเดียวกับจิตรางคนางค์ ที่ภายหลังสิ้นพระชนม์ด้วยยาพิษ พันธุมวดีมีวรมันต์เป็นขุนพลคู่พระทัย คอยปกป้องภยันอันตรายต่าง ๆ รวมทั้งมันตรัย ราชปุโรหิตที่บังอาจเอื้อมหมายปองในตัวของพระองค์ ภายหลังอาณาจักรนิทรานครล่มสลายถูกฝังอยู่ภายใต้ผืนแผ่นดิน พันธุมวดีถูกมันตรัยจองจำดวงวิญญาณไว้และนำร่างบรรจุลงในโลงแก้ว บังคับให้กลายร่างเป็นค้าวคาวยักษ์คอยออกสูบเลือดในตอนกลางคืน
วรมันต์
ขุนพลคู่พระทัยพันธุมวดี นางพญาแห่งอาณาจักรนิทรานคร เป็นชายรูปร่างสูงใหญ่ มีฝีมือทางด้านวิทยายุทธ ถูกมันตรัยสาปให้วิญญาณอยู่ภายในร่างของก็องกอย อาศัยอยู่ภายในป่ารอบอาณาจักรนิทรานครที่ล่มสลาย ลักษณะรูปร่างเหมือนเด็ก ใบหน้ามีขนาดเล็กแต่เหี่ยวย่นเช่นคนสูงอายุ ผิวคล้ำ จมูกแบนแฟบมองเห็นรูกลวงกลางใบหน้า ฟันด้านล่างครอบฟันในแถวด้านบนในลักษณะใบหอกสามซี่เรียงกัน มีเขี้ยวสองคู่ที่ริมฝีปาก นัยน์ตากลมโต ผมยาวเป็นกระเซิง ช่วงขายาวเรียวแต่แขนสั้นและเต็มไปด้วยขนรุงรัง ท้องป่อง มีกลิ่นเหม็นสาบคล้ายกลิ่นศพ เมื่อได้รับบาดเจ็บไม่มีเลือดออกจากบาดแผลมีรอยเท้ากว้างประมาณ 3 นิ้ว ลักษณะคล้ายกับรอยเท้าลิงเคลื่อนไหวร่างกายด้วยการวิ่งเขย่ง

หุบเขานิลกาญจน์

วายา
เจ้าแห่งลิงผู้ปกครองฝูงลิงจำนวนมากภายในหุบเขานิลกาญจน์ อายุประมาณ 60 ปี รูปร่างสูงใหญ่ กำยำ ร่างกายปกคลุมด้วยเส้นขนสีดำปนน้ำตาล มีรูปร่างลักษณะคล้ายครึ่งคนครึ่งลิง ใบหน้าเรียวยาว หน้าผากสูง ริมฝีปากยื่นหนา กรอบตาลึก แผงอก หัวไหล่เต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อ วายาเป็นต้นตระกูลของเผ่าพันธุ์มนุษย์ชาติ นีแอนเดอร์ธอลส์ แมน เดิมมีมนุษย์อาศัยอยู่กับบิดามารดาภายในถ้ำเหนือยอดเขา แต่ถูกสัตว์ยุคดึกดำบรรพ์เช่นไดโนเสาร์สามเขาบุกขึ้นไปทำร้าย บิดามารดาตายเหลือเพียงวายาเท่านั้นที่รอดชีวิต ลิงที่อาศัยในหุบเขานิลกาญจน์ สงสารวายาที่กำพร้าบิดามารดา จึงเก็บมาเลี้ยงและให้ดำรงตำแหน่งเจ้าแห่งลิง
ฤๅษีโกฑัญญะ
ฤๅษีชาวเนปาลผู้บำเพ็ญเพียรและตบะ จนถึงขั้นได้ดวงตาเห็นธรรมบรรลุพระอรหันต์ บำเพ๊ญเพียรภาวนาด้วยระยะเวลากว่า 90 ปี จนร่างกายเปลี่ยนจากเนื้อหนังของมนุษย์กลายเป็นหิน มีเศษใบไม้และหยากไย่รุงรังปกคลุมร่างกาย ฤๅษีโกฑัญญะบำเพ็ญเพียรตบะอยู่เหนือยอดเขาภายในหุบเขานิลกาญจน์ และเป็นจุดศูนย์รวมความเคารพและความศัทธราของวายาและฝูงลิงในหุบเขานิลกาญจน์ ล่วงรู้ด้วยญาณวิเศษถึงอดีตและจุดมุ่งหมายในการเดินทางของแงซาย รวมทั้งอดีตชาติของรพินทร์และดาริน แงซายเป็นผู้พบฤๅษีโกฑัญญะโดยบังเอิญ ในขณะสำรวจรอบ ๆ บริเวณถ้ำของวายา ก่อนพารพินทร์ เชษฐา ดารินและทุกคนในคณะไปนมัสการและฝากตัวเป็นลูกศิษย์

มรกตนคร

เมยานี
บุตรสาวเพียงคนเดียวของผู้เฒ่าอรชุน อดีตแขนขวาของกษัตริย์วิษณุพรหมนาถ กษัตริย์แห่งมรกตนคร อายุประมาณ 21-22 ปี รูปร่างสูงใหญ่แข็งแรงเยี่ยงบรุษเพศ ใบหน้าคมเข้ม ผิวขาว นัยน์ตาคม ผมยาวดำเป็นมัน เชี่ยวชาญเก่งกาจในทักษะด้านการต่อสู้บนหลังม้า และการใช้ศาสตราวุธทุกประเภท เช่น ดาบ ธนู ง้าว รวมถึงเล่ห์กลต่าง ๆ ในการรบ โดยได้รับการฝึกฝนจากอรชุนผู้เป็นบิดา เมยานีเป็นกำลังสำคัญในการรบแบบกองโจร ได้รับมอบหมายจากอรชุนให้เป็นผู้ไปรับตัวแงซายเมื่อเข้าเขตมรกตนคร ก่อนจะพามาหลบซ่อนตัว และร่วมมือกับแงซายและรพินทร์ ไพรวัลย์ พร้อมด้วยทุกคนในคณะเดินทาง กอบกู้ราชบัลลังก์คืนจากสิงหราชและรหัสยะ ภายหลังได้รับการสถาปนาขึ้นเป็นราชินีแห่งมรกตนคร
อรชุน
อดีตนายทหารเอกเบื้องซ้ายคนสำคัญของกษัตริย์วิษณุพรหมนาถ กษัตริย์แห่งมรกตนคร เป็นชายสูงวัย ผมขาวเป็นดอกเลาทั่วทั้งศีรษะ นัยน์ตาเป็นประกายแวววาวแจ่มใส ปราดเปรียว แข็งแรง สง่างามตามแบบชายชาติทหาร ที่เต็มไปด้วยพละกำลัง อำนาจและความเฉียบขาด อรชุนมีบุตรสาวคนเดียวคือเมยานี และมีความสามารถทางด้าน โหราศาสตร์ และดาราศาสตร์ ตามที่ได้ร่ำเรียนวิชาจากจากมหาปุโรหิตประจำราชวงศ์เทพแห่งอาณาจักรมรกตนคร จนเก่งกล้าสามารถอ่านฤกษ์ยามและดวงดาวบนท้องฟ้าได้ทุกดวง สามารถล่วงรู้ถึงการมีชีวิตอยู่และกลับมายังมรกตนครของแงซาย จึงมอบหมายให้เมยานีผู้เป็นบุตรสาว ออกไปรับตัวแงซายก่อนที่กองทัพของรหัสยะจะไปถึง
รหัสยะ
พระอนุชาของกษัตริย์สิงหรา กษัตริย์แห่งมรกตนคร ที่แย่งชิงราชบัลลังก์จากกษัตริย์วิษณุพรหมนาถ เป็นชายฉกรรจ์ รูปร่างล่ำสัน แข็งแรง มีรอยแผลเป็นขนาดใหญ่คล้ายกับรอยแผลที่เกิดจากดาบ พาดผ่านปลายดั้งจมูกลงมาถึงมุมขากรรไกรด้านขวาของใบหน้า นัยน์ตาลุกโพลงและแข็งกระด้าง ไว้หนวดเครา หน้าตาเหี้ยมโหดและดุร้าย รหัสยะดำรงตำแหน่งอุปราชแห่งมรกตนคร เป็นผู้จับกุมตัวรพินทร์ ไพรวัลย์ เชษฐา วราฤทธิ์ ดาริน วราฤทธิ์และทุกคนในคณะเดินทางเป็นเชลย นำไปคุมขังไว้ภายในคุกใต้ดินรวมกับอนุชา วราฤทธิ์และหนานไพร ภายหลังแงซายท้าทายรหัสยะให้ต่อสู้ด้วยจนกระทั่งตายในสนามรบ
กุตะมะ
อดีตนายทหารเอกเบื้องขวาคนสำคัญของกษัตริย์วิษณุพรหมนาถ กษัตริย์แห่งมรกตนคร คู่กับอรชุน เป็นชายสูงวัย ผมขาวเป็นดอกเลาทั่วทั้งศีรษะ เป็นหม้ายเนื่องจากภรรยาตาย ไม่มีบุตรไว้สืบสกุล กุตะมะเคยเป็นอดีตเพื่อนรักของอรชุน และรักเอ็นดูเมยานีราวกับบุตรสาว รวมถึงการถ่ายทอดวิชาการต่อสู้ให้ ระหว่างเกิดการแย่งชิงราชบัลลังก์ของสิงหรา กุตะมะทรยศกษัตริย์วิษณุพรหมนาถและอรชุน โดยอ้างว่ามีผู้เอาดาบมาจ่อคอบิดามารดาของตนเพื่อบังคับให้ทรยศ และกลายมาเป็นนายทหารเอกคนสำคัญของกษัตริย์สิงหรา ภายหลังกุตะมะยอมทรยศสิงหรา ซ้อนแผนเปลี่ยนฝ่ายเพื่อช่วยเหลืออรชุนกอบกู้ราชบัลลังก์คืนแก่แงซาย และตายด้วยคมหอกขณะออกรบเคียงข้างจักราชในเวลาต่อมา
วาชิกา
แม่มดชราผู้เรืองเวทย์ เก่งกล้าทางด้านคาถาอาคม สามารถหยั่งรู้เหตุการณ์ล่วงหน้าในอนาคตอย่างแม่นยำ แต่เดิมวาชิกาเป็นหญิงสาวพรหมจรรย์ ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาของกษัตริย์แห่งมรกตนครมาโดยตลอด จนถึงสมัยของกษัตริย์วิษณุพรหมนาถ วาชิกาไม่สามารถยับยั้งร่องรอยการเหี่ยวย่นและความชราของตนเองได้ จำเป็นจะต้องใช้เลือดของหญิงสาวพรหมจรรย์หล่อเลี้ยงร่างกายอาทิตย์ละครั้ง เพื่อให้คงสภาพร่างกายไว้ แต่กษัตริย์วิษณุพรหมนาถไม่เห็นด้วยกับการกระทำที่โหดร้าย จึงถูกสิงหรากำจัดและแย่งชิงราชบัลลังก์ภายใต้ความเห็นชอบและยุยงของวาชิกา ภายหลังแงซายแย่งชิงราชบัลลังก์กลับคืนมาได้ และได้เผาทำลายร่างชราของวาชิกาด้วยผ้าเปื้อนเลือดประจำเดือนของหญิงพรหมจรรย์คนหนึ่งในมรกตนครนั้นเอง โดยพรานบุญคำเป็นคนไปหามา

ตัวละครหลักภาคสมบูรณ์

คณะนายจ้าง

พันตรีเชิดวุธ ไกรรณยุทธ
นายทหารหนุ่ม บุตรชายพลโทวิชัย ไกรรณยุทธ ตำแหน่งเจ้ากรมข่าวทหารบก ที่ปรึกษาของผู้บัญชาการทหารสูงสุด อายุ 36 ปี สถานภาพโสด ภูมิลำเนาเดิมอยู่ปัตตานี แต่มาเติบโตที่กรุงเทพมหานคร ดำรงตำแหน่งนายทหารคนสนิทของบิดา เชิดวุธเป็นคนหนุ่มที่ใจถึง วู่วามอารมณ์ร้อน ฉลาดหลักแหลมและมีไหวพริบปฏิภาณดีเยี่ยม เป็นคนไทยเพียงคนเดียวในคณะนายจ้าง ร่วมกับนายทหารจากอเมริกาออกติดตามค้นหาเครื่องบิน บี 52 และระเบิดนิวเคลียร์ มีรพินทร์ ไพรวัลย์เป็นพรานนำทาง รักพวกพ้อง เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ผู้ร่วมเดินทางด้วยกัน โดยเฉพาะกับคริสตินา กรูบิล ที่แอบหลงรัก
ด็อกเตอร์บิลล์ สแตนลีย์
หัวหน้าคณะเดินทางจากอเมริกา ที่ได้รับมอบหมายจากฐานทัพให้ออกติดตามค้นหาเครื่องบิน บี 52 และระเบิดนิวเคลียร์ ที่หายสาบสูญในดินแดนสนธยาที่ไม่ปรากฏบนแผนที่โลกในประเทศไทย อายุประมาณ 45 - 46 ปี รูปร่างสูงใหญ่ กำยำแข็งแรง นัยน์ตาสีฟ้า แววตาลึก ลักษณะเป็นนักคิดผู้มีความเชี่ยวชาญและชำนาญในด้านอาวุธนิวเคลียร์ ทรหดอดทน เป็นสุภาพบุรุษทั้งกายและจิตใจ เป็นผู้ใหญ่ใจดี มีจิตวิทยาสูง นิสัยใจเย็น สุขุมรอบคอบและมีเหตุผลในการตัดสินใจ รักเพื่อนพ้องและคอยเป็นห่วงเป็นใยทุกคนในคณะเดินทาง และเป็นผู้ห้ามการทะเลาะวิวาทระหว่างเชิดวุธและคีธในการเดินทางเสมอ
พันเอกลาร์รี่ คีธ
นายทหารเสนาธิการ หนึ่งในคณะนายจ้างออกติดตามค้นหาเครื่องบิน บี 52 และระเบิดนิวเคลียร์ อายุไม่เกิน 40 ปี เป็นหนุ่มฉกรรจ์ รูปร่างล่ำสัน แข็งแรง ตัดผมสั้นเกรียนแบบทหารจีไอ กล้ามเนื้อแขนแข็งแรงเป็นมัด ๆ กรอบตาลึก มีความชำนาญในด้านการบินและเจ้าหน้าที่ติดต่อสื่อสาร ใจร้อน วู่วาม ลักษณะภายนอกอวดดี บ้าดีเดือดและยโสโอหัง แต่แก่นลึกภายในเป็นคนไม่เอาไหน งุ่มง่าม เชื่องช้าและขี้กลัวจนเกินเหตุ เอาตัวรอดได้ยากในเวลาเกิดวิกฤตขึ้นกับคณะเดินทาง คีธแต่งงานมีครอบครัว มีบุตร 3 คน และมักทะเลาะกับเชิดวุธตลอดการเดินทาง เนื่องจากแสดงความหึงหวงอิสซาเบล แพทย์สาวในคณะเดินทางที่เป็นหญิงคู่ขาของตน
คริสตินา กรูบิล
หญิงสาวลูกครึ่งตุรกีและเยอรมัน นักเคมีฟิสิกส์ หนึ่งในคณะนายจ้างออกติดตามค้นหาเครื่องบิน บี 52 และระเบิดนิวเคลียร์ อายุประมาณ 32 ปี รูปร่างสูงโปร่ง ผิวขาว ผมยาว นัยน์ตาสีฟ้า ชื่อเดิมคือไลลา อามิเตจ นิสัยเงียบครึม พูดน้อยและยิ้มยาก ค่อนข้างไว้ตัว รักเพื่อนพ้อง รักหมู่คณะและมีความรับผิดชอบสูง ภายนอกฉลาดลึก เฉียบขาดและดุดันแต่ภายในอ่อนหวาน บางครั้งโหดร้ายแล้วแต่สถานการณ์ทางอารมณ์ที่แปรปรวน คริสตินาเคยเป็นอาจารย์สอนที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดและเคยร่วมงานกับบิลล์เกี่ยวกับพลังงานด้านปรมาณู เคยเป็นครูฝึกสอนสายลับหญิงเกี่ยวกับการสังหารมนุษย์ และอดีตนักเรียนแพทย์ที่เคยประสบเหตุ ทำคนไข้ตายตอนเรียนแพทย์ปีสุดท้าย นามจริงๆคือ ไลล่า อาร์มิเตจ
อิสซาเบล มูร์
แพทย์ด้านอายุรเวช โดยเฉพาะโรคในเขตเมืองร้อน และนักธรณีวิทยาความสามารถระดับอาจารย์ที่ทำการสอนในมหาวิทยาลัย อายุประมาณ 30 ปี รูปร่างกะทัดรัด ผมสีแดงยาวเคลียไหล่ นัยน์ตาสีน้ำตาล ผิวคล้ำเล็กน้อย นิสัยร่างเริง สนุกสนามและขี้เล่น ค่อนข้างเจ้าชู้ เปิดเผย ฉายาค้างคาวดูดสเปิร์ม และเข้ากับคนอื่นได้ง่าย ไม่จริงจังกับชีวิต อิสซาเบลเคยเป็นนักกีฬาว่ายน้ำโอลิมปิกเหรียญทองแดง และนักกีฬาขี่ม้ากระโดดข้ามสิ่งกีดขวาง เป็นน้องเล็กสุดในคณะเดินทางทั้งหมด และเป็นต้นเหตุของการทะเลาะวิวาทระหว่างเชิดวุธและคีธเสมอ เมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น สามารถเอาตัวรอดได้อย่างคล่องตัว ไม่เป็นภาระให้แก่คนอื่นในหมู่คณะ

ตัวละครอื่น ๆ

เนวิน
นักแสวงหาโชคลาภชาวพม่าเมาะลำเลิง ผู้สืบทอดเชื้อสายจากมังมหานรธา นายทหารชั้นแม่ทัพในสมัยพระเจ้าบุเรงนอง กษัตริย์พม่า ผู้เขียนลายแทงสมบัติขุมทรัพย์เพชรพระอุมาที่ได้รับเป็นมรดกตกทอดจากมังมหานรธาสู่คนในตระกูล เนวินออกติดตามค้นหาขุมทรัพย์ตามลายแทง บุกป่าฝ่าดงผจญกัยตามลายแทงสมบัติจนกระทั่งเป็นไข้ป่าและตายในเวลาต่อมา ก่อนตายเนวินได้รับการช่วยเหลือจากรพินทร์ ไพรวัลย์ และมอบแผนที่ลายแทงสมบัติขุมทรัพย์เพชรพระอุมาให้เป็นการตอบแทน พร้อมกับเล่าถึงมหาสมบัติ ป่าดงดิบ สางเขียวและเทือกเขาพระศิวะตามที่ได้ไปพบเห็น และกำชับห้ามไม่ให้แพร่งพรายให้ใครรู้โดยเด็ดขาด
มังมหานรธา
อดีตแม่ทัพนายทหารของสมเด็จพระเจ้าบุเรงนอง กษัตริย์ผู้ปกครองประเทศพม่า เมื่อคราวกรุงหงสาวดีเกิดศึกสงคราม มังมหานรธาเล็ดลอดหลบหนีภัยมาได้ บุกป่าฝ่าดงผจญภัยไปจนกระทั่งถึงเมืองมรกตนคร ในปี พ.ศ. 2120 และเป็นชาวพม่าเพียงคนเดียวที่ได้มีโอกาสได้เห็นขุมทรัพย์เพชรพระอุมา แต่ก็ต้องตายด้วยน้ำมือของแม่มดวาชิกาที่ทรยศต่อมังมหานรธา ไม่ยอมปฏิบัติตามข้อตกลงที่ให้แก่กัน ก่อนตายมังมหานรธาหลบหนีการตามล่าของวาชิกา ไปหลบซ่อนภายในถ้ำเล็ก ๆ แห่งหนึ่งในเทือกเขาพระศิวะ บริเวณถันพระอุมาที่เป็นทางขึ้นสู่มรกตนคร และใช้เลือดของตนเองเขียนแผนที่ลายแทงขุมทรัพย์เพชรพระอุมาไว้
สเตเกล ฮอฟมัน
นักผจญภัยชาวเยอรมัน สามีของมาเรีย ฮอฟมัน อายุประมาณ 55 ปี รูปร่างสูงใหญ่ ล่ำสันและแข็งแรง ไว้หนวดเครา จนได้รับฉายา "นายเคราเหลือง" อารมณ์ขัน ร่าเริงสนุกสนาน เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ มีความชำนาญในเรื่องแร่ธาตุและสมุนไพร รวมทั้งภูมิประเทศ เคยเป็นศาสตราจารย์สอนด้านธรณีวิทยาในซอร์บอน-มิวนิก พูดภาษาชาวเขาได้เกือบหมด เคยแต่งงานมีครอบครัว 3 ครั้ง แต่หย่าร้างทั้ง 3 ครั้ง มีบุตรกับภรรยาเก่าหลายคน ก่อนจะแต่งงานกับมาเรีย ฮอฟมันเป็นครั้งที่ 4 เมื่อประมาณ 3 ปีมาแล้ว ภายหลังถูกสางเขียวฆ่าตายด้วยลูกดอกอาบยาพิษในขณะอาบน้ำในลำธารกับมาเรีย ฮอฟมัน

อ้างอิง

  1. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนนาคเทวี เล่ม 3 หน้า 4678, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 4678
  2. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนมงกุฎไพร เล่ม 3, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 7505
  3. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนดงมรณะ เล่ม 1, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 1971
  4. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนไพรมหากาฬ เล่ม 1, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544 หน้า 89 อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ไม่สมเหตุสมผล มีนิยามชื่อ "เพชรพระอุมา ตอนไพรมหากาฬ เล่ม 1 หน้า 89" หลายครั้งด้วยเนื้อหาต่างกัน
  5. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนดงมรณะ เล่ม 2, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 2187
  6. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนไพรมหากาฬ เล่ม 1 หน้า 19, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 19
  7. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนดงมหากาฬ เล่ม 4 หน้า 337, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 337
  8. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนป่าโลกล้านปี เล่ม 1, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 7030
  9. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนอาถรรพณ์นิรานคร เล่ม 1, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 5317
  10. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนจอมผีดิบมันตรัย เล่ม 1, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 3530
  11. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนอาถรรพณ์นิทรานคร เล่ม 4, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 6344
  12. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนดงมรณะ เล่ม 3, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 2878
  13. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนดงมรณะ เล่ม 4, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 3009
  14. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนจิตรางคนางค์ เล่ม 3, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544 หน้า 3504
  15. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนนาคเทวี เล่ม 3, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 5008
  16. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนไพรมหากาฬ เล่ม 4 หน้า 1263, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544 หน้า 1236
  17. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนจิตรางคนางค์ เล่ม 3 หน้า 3512 - 3513, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 3512 - 3513
  18. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนจอมผีดิบมันตรัย เล่ม 2 หน้า 3994, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544 หน้า 3994
  19. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนจิตรงคนางค์ เล่ม 2 หน้า 3285, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 3285
  20. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนแต่ปางบรรพ์ เล่ม 1 หน้า 5371, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544 หน้า 5371
  21. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนนาคเทวี เล่ม 4 หน้า 5334, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 5334
  22. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนจอมผีดิบมันตรัย เล่ม 1 หน้า 3630, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544 หน้า 3630
  23. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนจอมผีดิบมันตรัย เล่ม 1 หน้า 3725, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 3725
  24. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนป่าโลกล้านปี เล่ม 2 หน้า 7312 - 7314, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 7312 - 7314
  25. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนป่าโลกล้านปี เล่ม 2 หน้า 7389, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 7389
  26. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนแงซายจอมจักรา เล่ม 2 หน้า 9225 - 9226, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 9225 - 9226
  27. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนแงซายจอมจักรา เล่ม 3 หน้า 9677, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 9677
  28. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนแงซายจอมจักรา เล่ม 4 หน้า 9712, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 9712
  29. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนแงซายจอมจักรา เล่ม 2 หน้า 8964, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 8964
  30. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนแงซายจอมจักรา เล่ม 2 หน้า 9304, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 9304
  31. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนแงซายจอมจักรา เล่ม 4 หน้า 9964, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 9964
  32. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนจอมพราน เล่ม 1 หน้า 196,สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 196
  33. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนไอ้งาดำ เล่ม 2 หน้า 1923,สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 1923
  34. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนจอมพราน เล่ม 1 หน้า 158 - 159,สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 158 - 159
  35. พนมเทียน, เพชรพระอุมา จอมพราน เล่ม 1 หน้า 158 - 159,สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 158 - 159
  36. พนมเทียน, เพชรพระอุมา มงกุฎไพร เล่ม 3 หน้า 7413,สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 7413
  37. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนจอมพราน เล่ม 1 หน้า 181, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 181
  38. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนไอ้งาดำ เล่ม 4 หน้า 2334, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 2334
  39. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนจอมพราน เล่ม 1 หน้า 162 - 163, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 162 - 163
  40. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนแต่ปางบรรพ์ เล่ม 1 หน้า 5523, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 5523
  41. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนมงกุฎไพร เล่ม 3 หน้า 7481, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 7481
  42. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนจอมพราน เล่ม 2 หน้า 383, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 383
  43. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนมงกุฎไพร เล่ม 4 หน้า 7700, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 7700
  44. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนดงมรณะ เล่ม 3 หน้า 2884 - 2885, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 2884 - 2885
  45. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนดงมรณะ เล่ม 3 หน้า 2884, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 2884
  46. พนมเทียน, เพชรพระอุมา ตอนจอมผีดิบมันตรัย เล่ม 3 หน้า 4218, สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม, 2544, หน้า 4218

รายช, อต, วละครในเพชรพระอ, มา, วละครในเพชรพระอ, มา, เป, นรายละเอ, ยดของต, วละครจากเพชรพระอ, มา, แยกตามต, วละครหล, กและต, วละครรอง, ตามแต, ปรากฏในแต, ละภาค, ได, แก, ภาคแรกไพรมหากาฬ, แงซายจอมจ, กรา, ในการออกต, ดตามค, นหาผ, ญหายและภาคสมบ, รณ, จอมพราน, มงก, ฎไพร, . twlakhrinephchrphraxuma epnraylaexiydkhxngtwlakhrcakephchrphraxuma aeyktamtwlakhrhlkaelatwlakhrrxng tamaetpraktinaetlaphakh idaekphakhaerkiphrmhakal aengsaycxmckra inkarxxktidtamkhnhaphusuyhayaelaphakhsmburncxmphran mngkudiphr inkarxxktidtamhaekhruxngbin bi 52 aelaraebidniwekhliyr enuxha 1 twlakhrhlkphakhaerk 1 1 phrannathang 1 2 khnanaycang 1 3 khnaphurwmedinthang 2 twlakhrrxngphakhaerk 2 1 khruphran 2 2 xanackrnithrankhr 2 3 hubekhanilkaycn 2 4 mrktnkhr 3 twlakhrhlkphakhsmburn 3 1 khnanaycang 4 twlakhrxun 5 xangxingtwlakhrhlkphakhaerk aekikhphrannathang aekikh rphinthr iphrwly phranihyphunakhnaedinthangkhxngechstha wravththi xxktidtamkhnhakhunchaychdaelahnanxin xayupraman 33 pi ruprangelkaelaphxmekrng sungraw 5 fut 7 niw phiwkhlaaelaibhnaimekhypraktrxyyim mifimuxinkaryingpunaemnya xditnkeriynthharcaksampraeths aelanaytarwcysrxytarwcexk miorkhikhmalaeriyepnorkhpracatw rphinthrepnnayphranthiidrbkarykyxngcakchawbaninaethbhmubanhnxngnaaehng indankhxngkarepnphunahmubansukhwamecriy aelaecriyrxyinthanaphranlastwtamphuepnbida thifuksxnaelathaythxdthuksingthukxyangekiywkbkarlastwih rwmthngwichakhathaxakhmtang 1 aelaepnkhuxrikhminkbpunkhukbhmxmrachwngsdarin wravththi hyingsawphuepnnaycangaelakhnrkphranbuykha phranmuxkhwakhxngrphinthr iphrwly kaehriyngphumakdwyewthmntrkhathaxakhm xayupraman 55 pi ruprangelk phxmsungaelaekrng miaephlepnbriewnibhna phmhyikkhxdtidhnngsirsa 2 nisythalungtungtngaelahyaboln spdn michayawa ixkhaphranesux enuxngcakyingesuxokhrngidthung 22 tw khunchuxwaepnphranxawuosthisudinbrrdaphrankhuicthng 4 khxngrphinthr iphrwly xditekhydarngtaaehnngphuihybanhmubanopnghxm tidsxyhxytamrphinthrenuxngcakekhyidrbkarchwychiwitcakkarthukesuxtapb buykhaepnkhuxrikbsangpa phrantxngsukhnrbichaelaphutidtamkhxngmaeriy hxfmn thiphayhlngmarwmkhnaedinthangdwyphrancn phranmuxsaykhxngrphinthr iphrwly phumiprasathsmphsaelakhwamchanayinkaridyinaeladmklinxyangdieyiym ruprangelk lksnathathangaelaphiwphrrnbngbxngthungchiwitkhwamepnxyuthimikhwamlabaktraktra edinkhakraephlkenuxngcakodnngukapakd cnmikhwamsamarthphiessinkareluxyipbnbkidechnediywkbnguenuxngcakepnkhntwelkaelanahnkkhxngrangkayeba xditidrphinthrchwychiwitexaiwhlngcakipecachukbhyingsawchawkaehriyng epnehtuihthukchaychkrrcphayinhmubankaehriyngrumtharay 3 cungehnbuykhunaelatidsxyhxytamphuthimiphrakhuntlxdchiwitphranesy phrankaehriynghnum 1 in 4 phrankhuickhxngrphinthr iphrwly xayupraman 20 pi 4 ruprangaekhngaerng thrhdxdthn esyepnlukchaykhxngphranekakhxngkhunxaphl phuxanwykarbristhithyiwldilf phuaenanaihrphinthrrbcangepnphrannathangihaekkhnakhxngechstha thithukhmikhwaytharaycnphikar esyepnphranhnumthimifimuxinkaryingpuncdwaphxich aetkimdimaknkinyamekidehtukarnkhbkhn mihyingsawchawkaehriyngchuxyakhin luksawhwhnahmubanphuetyepnkhnrk aetesykimsmhwnginkhwamrk emuxyakhinaelathukkhnphayinhmubanphuetytaythnghmubandwyorkhxhiwah 5 phranekid phrankaehriynghnum ephuxnkhuhurwmphcyphyinkarlastwaelatidtamrphinthr iphrwly khxngesy 1 in 4 phrankhuickhxngrphinthrthimixayuileliykn ruprangsungchalud aelduxxnaexnaebbphuhyingaetaekhngaekrngaelathrhdxdthnaebbphuchay 4 ekidxasyxyukbbidatamlaphng aetphayhlngbidaprasbxubtiehtuthukkrathingehyiybtay kxnsinicidfakfngekidiwkbrphinthrihchwyduaeltxip ekidcungmaxyukbrphinthrinthanaedkphayitkarpkkhrxng epnphranhnumthimifimuxinkaryingpunidphxich aetkimkhxydinkechnediywkbesy aetsamarthkhwbkhumstismpchyyaiddikwaesyinyamekidehtukarnimkhadfnkhnanaycang aekikh phnoth hmxmrachwngsechstha wravththi phichaykhnotkhxngrachskulwravththi xditthutthharbkpracashrthxemrika xayupraman 35 pi ruprangsungihyaelanaekrngkhram phiwkhaw iwhnwdehnuxbriewnrimfipak lksnaaelabukhlikbngbxkthungthanaxnepnrachnikulphusungskdi icdiaelarknxngphrxmkhxypkpxngesmx khunchayechsthaepnkhnthimibukhlikphayintwkhxngtwexngthiaeldusngangam eyuxkeynaelamistismpchyyakhrbthwnaemekidehtukarnimkhadfn aelamilksnathiaelduxngxac ekhmaekhngbukbunsmkbkarepnnaythhar 6 inxditekhyepnnkkilayingthnu khunchayechsthaepnhwhnakhnainkarxxktidtamhaphranchdhruxkhunchayxnucha nxngchaykhnklangkhxngrachskulwravththi aelaepnephiyngkhnediywthirphinthr iphrwly nayphranphunathangihkhwamekharphaelayaekrngodycringicaephthyhying hmxmrachwngshyingdarin wravththi nxngsawkhnelkkhxngrachskulwravththi slyaephthyekiyrtiniymaelankmanusywithya xayupraman 27 28 pi ruprangsungoprngaelaephriyw phiwsinaphung ibhnarupikh nyntaotaelakhmkrib cdepnhyingsawthimikhwamswyngamthngruprangaelaibhna xarmnrxnchunechiywngayaelaexaaetictwexng epnnkkilayingpunkhxngsmakhmkilayingpunaehngpraethsithythimifimuxinkaryingpunepneyiym 7 aelankkilakhimaphadophn khunhyingdarinepnkhukdkbrphinthr iphrwlytngaetkhrngaerkthiphbkn aelaphayhlngidaeprepliynepnkhwamrk epnnkedinpathimikhwamaekhngaerng xdthnimaephchaychatri minaicexuxxaritxthukkhnhmxmrachwngsxnucha wravththi phranchd phichaykhnrxngkhxngrachskulwravththi xayupraman 33 34 pi 8 rkxisra xarmnrxnaelamkepnimebuximemakbkhunhyingdarin nxngsawkhnelkesmx immihnathikarnganepnhlkepnthan inxditkhunchayxnuchamiehtuihthaelaakbbida enuxngcaknxyicaelarusukwatwexngnnimidrbkhwamyutithrrminkarthitxngesiyhyingkhnrkihaekphichayip epnehtuihlathingthanaxnepnrachnikul chkchwnphranedinpakhuicchux hnanxin thxngethiywerrxnphcyphyipinpakwang aelaipkhnhakhumthrphyephchrphraxumaxnepntananeluxnglux khunchayxnuchaepnkhnthimifimuxinkarlastwaelaaekarxyepneyiym mipun 450 inotrexkeprs epnxawuthkhuicphntriichyynt xnntry ephuxnchaykhnsnithkhxngdarin wravththi xayupraman 33 34 pi ruprangaekhngaerng kayalasntamaebbchbbkhxngnaythhar xarmndi raering ecasarayaelaepnnkesiyngochkhchnesiynaelamxngolkinaengdixyuesmx aemcaephchiychatakrrminhnasiwhnakhwan ichyyntepnlukchaykhxngtrakulesrsthithimithanaphxsmkhwr imrarwycnlnfa minxngsawephiyngkhnediyw phayhlngcakthibidamardatay phuepnlungrbexaichyyntmaxupkaraeliyngduehmuxnluk sthanphaphosd ekhyepnnaythharpunihyaelaphanhlksutrinkarkxkarwinaskrrm rwmthngmikhwamchanayindankarichwtthuraebidepnxyangdi 9 khnaphurwmedinthang aekikh aengsay kaehriyngluklb khnrbichinkhnaedinthangaelaxngkhrksswntwkhxngdarin wravththi xayupraman 24 25 pi ruprangsungihyaekhngaerng kayalasn phiwsithxngaedng 10 xditnaythharkxngocrkaehriyngysrxyothaelakhuprbtwchkackhxngrphinthr iphrwly aengsayepnkaehriyngthimilksnaruprangphidaeplkipcakkaehriynghruxchawekhathrrmda xasasmkhrkhxepnkhnrbichinkaredinthangxxktidtamkhnhaphranchdaelahnanxinodyimkhxkhatxbaethn mihnathikhxypkpxngphithksdarin epnkhnraering xarmndi mifimuxinkartxsuaelaichxawuthpunxyangyxdeyiym aengsayrwmedinthangipkbkhnakhxngechsthaephuxihidipthungeninphracnthraelamrktnkhr sthanthisungepnkarepidephythanathiaethcringthipkpidmatlxdkaredinthangmaeriy hxfmn hyingsawlukkhrungeyxrmn frngess mithinkaenidinthwipaexfrika 11 nkniruktisastr xayupraman 23 pi ruprangsungihy aekhngaerng raering epnphrryakhxngsetekl hxfmn thitaycakkarthukocmtikhxngsangekhiywaelathukcbipepnechly phayhlngidrwmedinthangipkbkhnakhxngechsthainkarxxktidtamhaphranchdaelahnanxin mifimuxinkaryingpundieyiym epnphranlastwmaaetkaenidrwmthngidrbkarsngsxnmacakphuepnbida maeriyepnhyingsawthimiesnhdungdudicchay odyechphaakbichyynt xnntry aelaphayhlngidtklngicichchiwitrwmknhlngcakedinthangklbcakemuxngmrktnkhrkhxngaengsaysangpa phrantxngsu phranfimuxdiaelakhnrbichphutidtamkhxngmaeriy hxfmn ruprangelk phxmekrng 12 thngchiwitxyuiddwykycha epnhmxrksaxakarbadecbcakkarthukstwmiphiskd miaethngyadudphissungepnmrdktkthxdmacakbrrphburus sangpaepnkhnchwychiwitkhxngaengsayexaiwhlngcakthikhunphlwrmntnarangkhxngaengsaymakhuntamsyya hlngcakesrcsinpharkicinxanackrnithrankhr aelathuktwhkkhakdcnekuxbtay sangpaepnkhuxrikbbuykha smunmuxkhwakhxngrphinthr thithaelaaknpracaemuxphbhnasungknaelakn sangpaidrbtaaehnngaephthyhlwngpracaemuxngmrktnkhrcakaengsay aelachkchwnihichchiwitxyudwyknhlngcakthichingexarachbllngkklbkhunmacaksinghraaelarhsyaidsaerckhahyin hwhnakaehriynghmubanhlmchang xayupraman 50 pi ruprangsungihykaya lksnathathangehiymekriymaeladudnaetklwphimakkwasingid khahyinepnkaehriyngdngthikhnaedinthangkhxngechsthaaelarphinthrmaphbthihlmchang aelaiddarinchwyrksalukchaythibadecbih mikhwamoxxwdindanfimuxkaryingpunkhxngtnexng darincungaeklngdwykarthaaekhngkhnyingpun cnsudthaykyxmrbinfimuxkhxngdarinaelakhxtidtamrwmkhnaedinthangipdwy khahyinmikhwamsamarthindankareluxyidehmuxnnguechnediywkbcn mxngehnidxyangdiinthimud 13 aelaphudphasaphmaidtwlakhrrxngphakhaerk aekikhkhruphran aekikh hnanxin phrannathangkhuicphranchd prachakr hrux m r w xnucha wravththi nxngchaykhnklangkhxngtrakulwravththithilathingthanaxnepnrachnikul bukpafadngephuxkhnhakhumthrphyephchrphraxumaxnepntananelakhan xayupraman 50 pi 14 ruprangphxmbang mibxngkychatidtwinyamxyutlxdewla miwichakhathaxakhmekngklaphxtw inxdithnanxinekhybwchenraelaraeriyncnepnphra ekngthngthangolkaelathangthrrm aetsukxxkmaepnphranlastwinxayuekuxb 30 pi sthanphaphosd immithixyuxasyepnhlkaehlngaennxn 15 epnkhnchwychiwitaengsaytxnedk ihrxdphncakxntrayinkartamlakhxngsinghrahnaniphr khruphrankhxngrphinthr iphrwly xayumakkwahnanxinpraman 4 5 pi epnphranlawesingthiekngkacindanwichaphraninkarekhapalastw miewthmntrkhathaxakhmaelaisysastr inxditekhybwchepnenraelaphrathudngkh aetbwchidimnanktxngsukcakephsbrrphchitmaepnphranlastwdngedim tidfinxyangrunaerng 16 hnaniphrepnkhnelatanankhumthrphyephchrphraxumaihrphinthrfngkxntayhlngcakidrbbadecbcakkrathingkhwidhnungpi 17 epnkhnsngsxnaelathaythxdwichakhathaxakhmtang ihaekrphinthr rwmthngprasbkarninkaredinpaaelaxathrrphnkhxngpathihnaniphrekhyprasbmaxanackrnithrankhr aekikh mntry rachpuorhitaehngxanackrnithrankhr xayupraman 50 pi ruprangsungihy ibhnatxb phiwaehngtidkraduk nyntalukihy sirsaolneliyn nunghmrangkaydwyphathiyxmepluxkimsikhla swmlukpakhahxykhx 18 mkihyifsunginxanacwasna txngkarkhrxbkhrxngxanackrnithrankhr aexbhmaypxngintwcitrangkhnangkh mkudrachkumari phrathidainphraecamhiththiedcha kstriyphukhrxbkhrxngxanackrnithrankhr rksaphraecamhiththedchadwykarkhwknyntakhanghnungkhxngtnexngephuxprungyarksa 19 aetbngxackrabthulkhxcitrngkhnangkhepnkartxbaethn aetphayhlngthicitrangkhnangkhsinphrachnmdwyyaphis klbaeprepliynmahmaypxngphnthumwdi phrathidainkstriychysuriyaaethnphnthumwdi thidakstriychysuriya kstriyphukhrxbxanackrnithrankhrlukphiluknxngkhxngcitrangkhnangkh mkudrachkumari lksnaruprangngdngamthnghnataaelakiriya irsungfimuxthangdanwithyayuthth aetmikhwamsamarththangdannatsilpaelarayra txmaidrbkarsthapnaihdarngtaaehnngmkudrachkumariaehngxanackrnithrankhrechnediywkbcitrangkhnangkh thiphayhlngsinphrachnmdwyyaphis 20 phnthumwdimiwrmntepnkhunphlkhuphrathy khxypkpxngphynxntraytang rwmthngmntry rachpuorhitthibngxacexuxmhmaypxngintwkhxngphraxngkh phayhlngxanackrnithrankhrlmslaythukfngxyuphayitphunaephndin phnthumwdithukmntrycxngcadwngwiyyaniwaelanarangbrrculnginolngaekw bngkhbihklayrangepnkhawkhawykskhxyxxksubeluxdintxnklangkhun 21 wrmnt khunphlkhuphrathyphnthumwdi nangphyaaehngxanackrnithrankhr epnchayruprangsungihy mifimuxthangdanwithyayuthth thukmntrysapihwiyyanxyuphayinrangkhxngkxngkxy xasyxyuphayinparxbxanackrnithrankhrthilmslay lksnaruprangehmuxnedk ibhnamikhnadelkaetehiywynechnkhnsungxayu phiwkhla cmukaebnaefbmxngehnruklwngklangibhna fndanlangkhrxbfninaethwdanbninlksnaibhxksamsieriyngkn miekhiywsxngkhuthirimfipak nyntaklmot phmyawepnkraesing chwngkhayaweriywaetaekhnsnaelaetmipdwykhnrungrng thxngpxng miklinehmnsabkhlayklinsph emuxidrbbadecbimmieluxdxxkcakbadaephl 22 mirxyethakwangpraman 3 niw lksnakhlaykbrxyethalingekhluxnihwrangkaydwykarwingekhyng 23 hubekhanilkaycn aekikh waya ecaaehnglingphupkkhrxngfunglingcanwnmakphayinhubekhanilkaycn xayupraman 60 pi ruprangsungihy kaya rangkaypkkhlumdwyesnkhnsidapnnatal mirupranglksnakhlaykhrungkhnkhrungling ibhnaeriywyaw hnaphaksung rimfipakyunhna krxbtaluk aephngxk hwihletmipdwymdklamenux 24 wayaepntntrakulkhxngephaphnthumnusychati niaexnedxrthxls aemn edimmimnusyxasyxyukbbidamardaphayinthaehnuxyxdekha aetthukstwyukhdukdabrrphechnidonesarsamekhabukkhuniptharay bidamardatayehluxephiyngwayaethannthirxdchiwit lingthixasyinhubekhanilkaycn sngsarwayathikaphrabidamarda cungekbmaeliyngaelaihdarngtaaehnngecaaehnglingvisiokthyya visichawenpalphubaephyephiyraelatba cnthungkhniddwngtaehnthrrmbrrluphraxrhnt baephyephiyrphawnadwyrayaewlakwa 90 pi cnrangkayepliyncakenuxhnngkhxngmnusyklayepnhin miessibimaelahyakiyrungrngpkkhlumrangkay visiokthyyabaephyephiyrtbaxyuehnuxyxdekhaphayinhubekhanilkaycn aelaepncudsunyrwmkhwamekharphaelakhwamsththrakhxngwayaaelafunglinginhubekhanilkaycn lwngrudwyyanwiessthungxditaelacudmunghmayinkaredinthangkhxngaengsay rwmthngxditchatikhxngrphinthraeladarin aengsayepnphuphbvisiokthyyaodybngexiy inkhnasarwcrxb briewnthakhxngwaya kxnpharphinthr echstha darinaelathukkhninkhnaipnmskar 25 aelafaktwepnluksisymrktnkhr aekikh emyani butrsawephiyngkhnediywkhxngphuethaxrchun xditaekhnkhwakhxngkstriywisnuphrhmnath kstriyaehngmrktnkhr xayupraman 21 22 pi ruprangsungihyaekhngaerngeyiyngbrusephs ibhnakhmekhm phiwkhaw nyntakhm phmyawdaepnmn 26 echiywchayekngkacinthksadankartxsubnhlngma aelakarichsastrawuththukpraephth echn dab thnu ngaw rwmthungelhkltang inkarrb odyidrbkarfukfncakxrchunphuepnbida emyaniepnkalngsakhyinkarrbaebbkxngocr idrbmxbhmaycakxrchunihepnphuiprbtwaengsayemuxekhaekhtmrktnkhr kxncaphamahlbsxntw aelarwmmuxkbaengsayaelarphinthr iphrwly phrxmdwythukkhninkhnaedinthang kxbkurachbllngkkhuncaksinghrachaelarhsya phayhlngidrbkarsthapnakhunepnrachiniaehngmrktnkhrxrchun xditnaythharexkebuxngsaykhnsakhykhxngkstriywisnuphrhmnath kstriyaehngmrktnkhr epnchaysungwy phmkhawepndxkelathwthngsirsa nyntaepnprakayaewwwawaecmis pradepriyw aekhngaerng sngangamtamaebbchaychatithhar thietmipdwyphlakalng xanacaelakhwamechiybkhad 27 xrchunmibutrsawkhnediywkhuxemyani aelamikhwamsamarththangdan ohrasastr aeladarasastr tamthiidraeriynwichacakcakmhapuorhitpracarachwngsethphaehngxanackrmrktnkhr cnekngklasamarthxanvksyamaeladwngdawbnthxngfaidthukdwng 28 samarthlwngruthungkarmichiwitxyuaelaklbmayngmrktnkhrkhxngaengsay cungmxbhmayihemyaniphuepnbutrsaw xxkiprbtwaengsaykxnthikxngthphkhxngrhsyacaipthungrhsya phraxnuchakhxngkstriysinghra kstriyaehngmrktnkhr thiaeyngchingrachbllngkcakkstriywisnuphrhmnath epnchaychkrrc rupranglasn aekhngaerng mirxyaephlepnkhnadihykhlaykbrxyaephlthiekidcakdab phadphanplaydngcmuklngmathungmumkhakrrikrdankhwakhxngibhna nyntalukophlngaelaaekhngkradang iwhnwdekhra hnataehiymohdaeladuray 29 rhsyadarngtaaehnngxuprachaehngmrktnkhr epnphucbkumtwrphinthr iphrwly echstha wravththi darin wravththiaelathukkhninkhnaedinthangepnechly naipkhumkhngiwphayinkhukitdinrwmkbxnucha wravththiaelahnaniphr phayhlngaengsaythathayrhsyaihtxsudwycnkrathngtayinsnamrbkutama xditnaythharexkebuxngkhwakhnsakhykhxngkstriywisnuphrhmnath kstriyaehngmrktnkhr khukbxrchun epnchaysungwy phmkhawepndxkelathwthngsirsa epnhmayenuxngcakphrryatay immibutriwsubskul 30 kutamaekhyepnxditephuxnrkkhxngxrchun aelarkexnduemyanirawkbbutrsaw rwmthungkarthaythxdwichakartxsuih rahwangekidkaraeyngchingrachbllngkkhxngsinghra kutamathryskstriywisnuphrhmnathaelaxrchun odyxangwamiphuexadabmacxkhxbidamardakhxngtnephuxbngkhbihthrys aelaklaymaepnnaythharexkkhnsakhykhxngkstriysinghra phayhlngkutamayxmthryssinghra sxnaephnepliynfayephuxchwyehluxxrchunkxbkurachbllngkkhunaekaengsay aelataydwykhmhxkkhnaxxkrbekhiyngkhangckrachinewlatxmawachika aemmdchraphueruxngewthy ekngklathangdankhathaxakhm samarthhyngruehtukarnlwnghnainxnakhtxyangaemnya aetedimwachikaepnhyingsawphrhmcrry thahnathiepnthipruksakhxngkstriyaehngmrktnkhrmaodytlxd cnthungsmykhxngkstriywisnuphrhmnath wachikaimsamarthybyngrxngrxykarehiywynaelakhwamchrakhxngtnexngid caepncatxngicheluxdkhxnghyingsawphrhmcrryhlxeliyngrangkayxathitylakhrng ephuxihkhngsphaphrangkayiw aetkstriywisnuphrhmnathimehndwykbkarkrathathiohdray cungthuksinghrakacdaelaaeyngchingrachbllngkphayitkhwamehnchxbaelayuyngkhxngwachika phayhlngaengsayaeyngchingrachbllngkklbkhunmaid aelaidephathalayrangchrakhxngwachikadwyphaepuxneluxdpracaeduxnkhxnghyingphrhmcrrykhnhnunginmrktnkhrnnexng odyphranbuykhaepnkhniphama 31 twlakhrhlkphakhsmburn aekikhkhnanaycang aekikh phntriechidwuth ikrrnyuthth naythharhnum butrchayphlothwichy ikrrnyuthth taaehnngecakrmkhawthharbk thipruksakhxngphubychakarthharsungsud xayu 36 pi sthanphaphosd 32 phumilaenaedimxyupttani aetmaetibotthikrungethphmhankhr darngtaaehnngnaythharkhnsnithkhxngbida echidwuthepnkhnhnumthiicthung wuwamxarmnrxn chladhlkaehlmaelamiihwphribptiphandieyiym 33 epnkhnithyephiyngkhnediywinkhnanaycang rwmkbnaythharcakxemrikaxxktidtamkhnhaekhruxngbin bi 52 aelaraebidniwekhliyr mirphinthr iphrwlyepnphrannathang rkphwkphxng exuxefuxephuxaephphurwmedinthangdwykn odyechphaakbkhristina krubil thiaexbhlngrkdxketxrbill saetnliy hwhnakhnaedinthangcakxemrika thiidrbmxbhmaycakthanthphihxxktidtamkhnhaekhruxngbin bi 52 aelaraebidniwekhliyr thihaysabsuyindinaednsnthyathiimpraktbnaephnthiolkinpraethsithy xayupraman 45 46 pi ruprangsungihy kayaaekhngaerng nyntasifa aewwtaluk lksnaepnnkkhidphumikhwamechiywchayaelachanayindanxawuthniwekhliyr 34 thrhdxdthn epnsuphaphburusthngkayaelacitic epnphuihyicdi micitwithyasung 33 nisyiceyn sukhumrxbkhxbaelamiehtuphlinkartdsinic rkephuxnphxngaelakhxyepnhwngepniythukkhninkhnaedinthang aelaepnphuhamkarthaelaawiwathrahwangechidwuthaelakhithinkaredinthangesmxphnexklarri khith naythharesnathikar hnunginkhnanaycangxxktidtamkhnhaekhruxngbin bi 52 aelaraebidniwekhliyr 35 xayuimekin 40 pi epnhnumchkrrc rupranglasn aekhngaerng tdphmsnekriynaebbthharciix klamenuxaekhnaekhngaerngepnmd krxbtaluk mikhwamchanayindankarbinaelaecahnathitidtxsuxsar icrxn wuwam lksnaphaynxkxwddi badieduxdaelayosoxhng aetaeknlukphayinepnkhnimexaihn ngumngam echuxngchaaelakhiklwcnekinehtu exatwrxdidyakinewlaekidwikvtkhunkbkhnaedinthang 36 khithaetngnganmikhrxbkhrw mibutr 3 khn aelamkthaelaakbechidwuthtlxdkaredinthang enuxngcakaesdngkhwamhunghwngxissaebl aephthysawinkhnaedinthangthiepnhyingkhukhakhxngtnkhristina krubil hyingsawlukkhrungturkiaelaeyxrmn nkekhmifisiks hnunginkhnanaycangxxktidtamkhnhaekhruxngbin bi 52 aelaraebidniwekhliyr xayupraman 32 pi 37 ruprangsungoprng phiwkhaw phmyaw nyntasifa chuxedimkhuxilla xamietc 38 nisyengiybkhrum phudnxyaelayimyak khxnkhangiwtw rkephuxnphxng rkhmukhnaaelamikhwamrbphidchxbsung phaynxkchladluk echiybkhadaeladudnaetphayinxxnhwan bangkhrngohdrayaelwaetsthankarnthangxarmnthiaeprprwn khristinaekhyepnxacarysxnthimhawithyalyharwardaelaekhyrwmngankbbillekiywkbphlngngandanprmanu 39 ekhyepnkhrufuksxnsaylbhyingekiywkbkarsngharmnusy aelaxditnkeriynaephthythiekhyprasbehtu thakhnikhtaytxneriynaephthypisudthay namcringkhux illa xarmietcxissaebl mur aephthydanxayurewch odyechphaaorkhinekhtemuxngrxn aelankthrniwithyakhwamsamarthradbxacarythithakarsxninmhawithyaly 40 xayupraman 30 pi ruprangkathdrd phmsiaedngyawekhliyihl nyntasinatal 41 phiwkhlaelknxy nisyrangering snuksnamaelakhieln khxnkhangecachu epidephy chayakhangkhawdudsepirm aelaekhakbkhnxunidngay imcringcngkbchiwit xissaeblekhyepnnkkilawaynaoxlimpikehriyythxngaedng 42 aelankkilakhimakraoddkhamsingkidkhwang 43 epnnxngelksudinkhnaedinthangthnghmd aelaepntnehtukhxngkarthaelaawiwathrahwangechidwuthaelakhithesmx emuxekidehtukarnimkhadfnkhun samarthexatwrxdidxyangkhlxngtw imepnpharaihaekkhnxuninhmukhnatwlakhrxun aekikhenwin nkaeswnghaochkhlaphchawphmaemaalaeling phusubthxdechuxsaycakmngmhanrthanaythharchnaemthphinsmyphraecabuerngnxng kstriyphma phuekhiynlayaethngsmbtikhumthrphyephchrphraxumathiidrbepnmrdktkthxdcakmngmhanrthasukhnintrakul enwinxxktidtamkhnhakhumthrphytamlayaethng bukpafadngphcykytamlayaethngsmbticnkrathngepnikhpaaelatayinewlatxma kxntayenwinidrbkarchwyehluxcakrphinthr iphrwly aelamxbaephnthilayaethngsmbtikhumthrphyephchrphraxumaihepnkartxbaethn phrxmkbelathungmhasmbti padngdib sangekhiywaelaethuxkekhaphrasiwatamthiidipphbehn aelakachbhamimihaephrngphrayihikhrruodyeddkhadmngmhanrtha xditaemthphnaythharkhxngsmedcphraecabuerngnxng kstriyphupkkhrxngpraethsphma emuxkhrawkrunghngsawdiekidsuksngkhram mngmhanrthaeldlxdhlbhniphymaid bukpafadngphcyphyipcnkrathngthungemuxngmrktnkhr inpi ph s 2120 aelaepnchawphmaephiyngkhnediywthiidmioxkasidehnkhumthrphyephchrphraxuma aetktxngtaydwynamuxkhxngaemmdwachikathithrystxmngmhanrtha imyxmptibtitamkhxtklngthiihaekkn kxntaymngmhanrthahlbhnikartamlakhxngwachika iphlbsxnphayinthaelk aehnghnunginethuxkekhaphrasiwa briewnthnphraxumathiepnthangkhunsumrktnkhr aelaicheluxdkhxngtnexngekhiynaephnthilayaethngkhumthrphyephchrphraxumaiwsetekl hxfmn nkphcyphychaweyxrmn samikhxngmaeriy hxfmn xayupraman 55 pi ruprangsungihy lasnaelaaekhngaerng iwhnwdekhra 44 cnidrbchaya nayekhraehluxng xarmnkhn raeringsnuksnan exuxefuxephuxaeph mikhwamchanayineruxngaerthatuaelasmuniphr 45 rwmthngphumipraeths ekhyepnsastracarysxndanthrniwithyainsxrbxn miwnik phudphasachawekhaidekuxbhmd ekhyaetngnganmikhrxbkhrw 3 khrng aethyarangthng 3 khrng mibutrkbphrryaekahlaykhn kxncaaetngngankbmaeriy hxfmnepnkhrngthi 4 emuxpraman 3 pimaaelw 46 phayhlngthuksangekhiywkhataydwylukdxkxabyaphisinkhnaxabnainlatharkbmaeriy hxfmnxangxing aekikh phnmethiyn ephchrphraxuma txnnakhethwi elm 3 hna 4678 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 4678 phnmethiyn ephchrphraxuma txnmngkudiphr elm 3 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 7505 phnmethiyn ephchrphraxuma txndngmrna elm 1 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 1971 4 0 4 1 phnmethiyn ephchrphraxuma txniphrmhakal elm 1 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 89 xangxingphidphlad payrabu lt ref gt imsmehtusmphl miniyamchux ephchrphraxuma txniphrmhakal elm 1 hna 89 hlaykhrngdwyenuxhatangkn phnmethiyn ephchrphraxuma txndngmrna elm 2 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 2187 phnmethiyn ephchrphraxuma txniphrmhakal elm 1 hna 19 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 19 phnmethiyn ephchrphraxuma txndngmhakal elm 4 hna 337 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 337 phnmethiyn ephchrphraxuma txnpaolklanpi elm 1 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 7030 phnmethiyn ephchrphraxuma txnxathrrphnnirankhr elm 1 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 5317 phnmethiyn ephchrphraxuma txncxmphidibmntry elm 1 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 3530 phnmethiyn ephchrphraxuma txnxathrrphnnithrankhr elm 4 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 6344 phnmethiyn ephchrphraxuma txndngmrna elm 3 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 2878 phnmethiyn ephchrphraxuma txndngmrna elm 4 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 3009 phnmethiyn ephchrphraxuma txncitrangkhnangkh elm 3 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 3504 phnmethiyn ephchrphraxuma txnnakhethwi elm 3 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 5008 phnmethiyn ephchrphraxuma txniphrmhakal elm 4 hna 1263 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 1236 phnmethiyn ephchrphraxuma txncitrangkhnangkh elm 3 hna 3512 3513 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 3512 3513 phnmethiyn ephchrphraxuma txncxmphidibmntry elm 2 hna 3994 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 3994 phnmethiyn ephchrphraxuma txncitrngkhnangkh elm 2 hna 3285 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 3285 phnmethiyn ephchrphraxuma txnaetpangbrrph elm 1 hna 5371 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 5371 phnmethiyn ephchrphraxuma txnnakhethwi elm 4 hna 5334 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 5334 phnmethiyn ephchrphraxuma txncxmphidibmntry elm 1 hna 3630 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 3630 phnmethiyn ephchrphraxuma txncxmphidibmntry elm 1 hna 3725 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 3725 phnmethiyn ephchrphraxuma txnpaolklanpi elm 2 hna 7312 7314 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 7312 7314 phnmethiyn ephchrphraxuma txnpaolklanpi elm 2 hna 7389 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 7389 phnmethiyn ephchrphraxuma txnaengsaycxmckra elm 2 hna 9225 9226 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 9225 9226 phnmethiyn ephchrphraxuma txnaengsaycxmckra elm 3 hna 9677 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 9677 phnmethiyn ephchrphraxuma txnaengsaycxmckra elm 4 hna 9712 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 9712 phnmethiyn ephchrphraxuma txnaengsaycxmckra elm 2 hna 8964 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 8964 phnmethiyn ephchrphraxuma txnaengsaycxmckra elm 2 hna 9304 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 9304 phnmethiyn ephchrphraxuma txnaengsaycxmckra elm 4 hna 9964 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 9964 phnmethiyn ephchrphraxuma txncxmphran elm 1 hna 196 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 196 33 0 33 1 phnmethiyn ephchrphraxuma txnixngada elm 2 hna 1923 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 1923 phnmethiyn ephchrphraxuma txncxmphran elm 1 hna 158 159 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 158 159 phnmethiyn ephchrphraxuma cxmphran elm 1 hna 158 159 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 158 159 phnmethiyn ephchrphraxuma mngkudiphr elm 3 hna 7413 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 7413 phnmethiyn ephchrphraxuma txncxmphran elm 1 hna 181 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 181 phnmethiyn ephchrphraxuma txnixngada elm 4 hna 2334 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 2334 phnmethiyn ephchrphraxuma txncxmphran elm 1 hna 162 163 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 162 163 phnmethiyn ephchrphraxuma txnaetpangbrrph elm 1 hna 5523 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 5523 phnmethiyn ephchrphraxuma txnmngkudiphr elm 3 hna 7481 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 7481 phnmethiyn ephchrphraxuma txncxmphran elm 2 hna 383 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 383 phnmethiyn ephchrphraxuma txnmngkudiphr elm 4 hna 7700 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 7700 phnmethiyn ephchrphraxuma txndngmrna elm 3 hna 2884 2885 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 2884 2885 phnmethiyn ephchrphraxuma txndngmrna elm 3 hna 2884 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 2884 phnmethiyn ephchrphraxuma txncxmphidibmntry elm 3 hna 4218 sankphimph n banwrrnkrrm 2544 hna 4218ekhathungcak https th wikipedia org w index php title raychuxtwlakhrinephchrphraxuma amp oldid 9105275, wikipedia, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด,

บทความ

, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม