fbpx
วิกิพีเดีย

ประเพณีสารทเดือนสิบ

ประเพณีสารทเดือนสิบ เป็นประเพณีสำคัญที่จัดขึ้นเพื่อทำบุญอุทิศแก่บรรพบุรุษผู้ล่วงลับไปแล้ว ตรงกับวันสิ้นเดือน 10 หรือ แรม 15 ค่ำ เดือน 10 ซึ่งเป็นช่วงที่พืชพันธุ์ธัญญาหารกำลังออกดอกออกผล

ประเพณีสารทเดือนสิบ
ชื่อวันสารทไทย
จัดขึ้นโดยประเทศไทย
ประเภทตอนแรกเป็นเทศกาลเก็บเกี่ยวของวิญญาณนิยม ภายหลังได้ร่วมกับธรรมเนียมศาสนาพุทธ
วันที่เดือนดับในเดือน 10 ของปฏิทินจันทรคติไทย
การถือปฏิบัติจัดงานเทศกาลกลางปี; ทำบุญแก่บรรพบุรุษและญาติที่ล่วงลับ
ส่วนเกี่ยวข้องPchum Ben (กัมพูชา)
บุญข้าวประดับดิน (ลาว)
Mataka dānēs (ศรีลังกา)
วันสารทจีน (จีน)
Tết Trung Nguyên (เวียดนาม)
เทศกาลบง (ญี่ปุ่น)
Baekjung (เกาหลี)

ที่มา

พิธีสารทมีต้นกำเนิดมาจากพิธีของพราหมณ์ เมื่อชาวนาเก็บเกี่ยวรวงข้าวสาลีอันเป็นผลผลิตแรก จะนำมาทำเป็นข้าวมธุปายาสและยาคูเพื่อเลี้ยงพราหมณ์ เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ข้าวในนา และเพื่อเป็นการเซ่นไหว้บรรพบุรุษที่ล่วงลับไป ต่อมาเมื่อคนเปลี่ยนมานับถือพระพุทธศาสนา จึงนำแนวคิดนี้มาปฏิบัติด้วย

พระยาอนุมานราชธนได้กล่าวไว้ในสารานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานว่า การชิงเปรตที่ปฏิบัติกันในประเพณีสารทเดือนสิบนี้ มีลักษณะคล้ายกับการทิ้งกระจาดของจีน แต่การทิ้งกระจาดของจีนมีเป้าหมายตรงกับการตั้งเปรต-ชิงเปรตเพียงบางส่วนเท่านั้น กล่าวคือการทิ้งกระจาดของจีนเป็นการทิ้งทานให้แก่พวกผีไม่มีญาติ ส่วนการชิงเปรตของไทยเป็นการอุทิศส่วนกุศลไปให้ทั้งผี (เปรต) ที่เป็นญาติพี่น้องของตนเองและที่ไม่มีญาติด้วย นอกจากนี้วิธีการปฏิบัติในการทิ้งกระจาดและการชิงเปรตก็แตกต่างกันด้วย ผู้เฒ่าผู้แก่หลายคนได้ยืนยันว่าการชิงเปรตไม่เป็นความอัปมงคลแก่ผู้ชิงเปรตแต่อย่างใด ในทางตรงกันข้ามกลับถือว่าเป็นการทำบุญด้วยซ้ำไป เพราะชื่อว่าบุตรหลานของเปรตตนใดชิงได้ เปรตตนนั้นย่อมได้รับส่วนนั้น เพียงแต่ว่าผู้ชิงต้องระมัดระวังในการที่อาหารหรือขนมที่ตั้งเปรตอาจตกหล่นลงพื้น ซึ่งจะทำให้เกิดความสกปรกและเป็นอันตรายต่อสุขภาพเท่านั้น

ประเพณีแต่ละท้องที่

ภาคใต้

งานบุญประเพณีของคนภาคใต้โดยเฉพาะชาวนครศรีธรรมราชที่ได้รับอิทธิพลด้านความเชื่อมาจากทางศาสนาพราหมณ์ โดยมีการผสมผสานกับความเชื่อทางพระพุทธศาสนาโดยมีจุดมุ่งหมายสำคัญเพื่อเป็นการอุทิศส่วนกุศลให้แก่บรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว ซึ่งเชื่อว่าได้รับการปล่อยตัวมาจากภูมินรกที่ตนต้องจองจำอยู่เนื่องจากผลกรรมที่ตนได้เคยก่อไว้ตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ โดยจะเริ่มปล่อยตัวจากภูมินรกในทุกวันแรม 1 ค่ำ เดือน 10 เพื่อมายังโลกมนุษย์ มีจุดประสงค์เพื่อให้มาขอส่วนบุญส่วนกุศลจากลูกหลานญาติพี่น้องที่ได้เตรียมการอุทิศไว้ให้ เป็นการแสดงความกตัญญูกตเวทีต่อผู้ล่วงลับ หลังจากนั้นก็จะกลับไปยังภูมินรก ในวันแรม 15 ค่ำ เดือน 10

วันสารทเป็นวันที่ตรงกันข้ามกับวันสงกรานต์ ถ้าวันสงกรานต์เป็นแสงสว่าง วันสารทก็คือความมืด ถ้าวันสงกรานต์คือดวงอาทิตย์ วันสารทก็คือพระจันทร์ วันสงกรานต์ถือว่าเป็นวันที่โลกเข้าสู่ราศีเมษเป็นวันแรก และราศีเมษเป็นราศีที่โลกเข้าใกล้ดวงอาทิตย์มากที่สุด (โลกโคจรเป็นวงรี)

ส่วนวันสารทเป็นช่วงที่โลกออกห่างดวงอาทิตย์มากที่สุด โดยถ้านับจากวันสงกรานต์จนถึงวันสารทจะเป็นเวลาประมาณหกเดือนพอดี โดยจะเอาช่วงเวลาทางจันทรคติคือแรม 15 ค่ำ (หรือ 14) ซึ่งเป็นเดือนดับ ซึ่งเป็นเวลาที่โลกมืดมิดที่สุด ความเชื่อของคนโบราณในแถบภูมิภาคนี้ จึงถือว่าเป็นเวลาที่วิญญาณกลับจากนรก ญาติพี่น้องจึงควรทำบุญ เพื่อแผ่ส่วนกุศลไปให้ ถ้าผู้ล่วงลับได้รับส่วนบุญได้อิ่มท้องก็จะให้พร ถ้าไม่มีใครทำบุญไปให้ก็จะเสียใจบางทีอาจโกรธและสาปแช่ง จนถือเป็นวันรวมญาติ วันบูชาบรรพบุรุษ ใครไม่ร่วมจะโดนดูถูกว่าอกตัญญู วันสงกรานต์นับตามสุริยคติ วันสารทจะนับตามจันทรคติ

การจัดหฺมฺรับ

เมื่อถึงวันแรม 14 ค่ำเดือนสิบ ซึ่งเรียกกันว่า "วันหลองหฺมฺรับ"แต่ละครอบครัวจะร่วมกันนำข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ มาจัดเป็นหฺมฺรับ การจัดหฺมฺรับนั้น ไม่มีรูปแบบที่แน่นอน จะจัดเป็นรูปแบบใดก็ได้ แต่ลำดับการจัดของลงหฺมฺรับจะเหมือน ๆ กัน คือ เริ่มต้นจะนำกระบุง กระจาด ถาดหรือกะละมังมาเป็นภาชนะ แล้วรองก้นด้วยข้าวสาร ตามด้วยกระเทียม พริก เกลือ น้ำตาล และเครื่องปรุงอาหารที่จำเป็น ต่อไปก็ใส่ของจำพวกอาหารแห้ง เช่น ปลาเค็ม ผักผลไม้ที่เก็บไว้ได้นาน เช่น ฟักทอง มะพร้าว ขมิ้น ลางสาด เงาะ ลองกอง ข่า ตะไคร้ ฯลฯ จากนั้นก็ใส่ของใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น น้ำมันมะพร้าว ไม้ขีด หม้อ กระทะ ถ้วยชาม เข็ม-ด้าย และเครื่องเชี่ยนหมาก สุดท้ายใส่สิ่งที่สำคัญที่สุดของหฺมฺรับ คือ ขนม 5 อย่าง ซึ่งขนมแต่ละอย่างล้วนมีความหมายที่แต่งต่างกันได้แก่ ขนมพอง เป็นสัญลักษณ์แทนแพ สำหรับผู้ล่วงลับใช้ล่องข้ามห้วงมหรรณพ ขนมลา แทนเครื่องนุ่งห่ม ขนมกงหรือขนมไข่ปลา แทนเครื่องประดับ ขนมดีซำ แทนเงินเบี้ยสำหรับใช้สอย ขนมบ้า แทนสะบ้าใช้เล่น ในกรณีที่มีขนม 6 อย่าง จะเพิ่มขนมลาลอยมัน ซึ่งใช้แทนฟูกหมอน

การยกหฺมฺรับ

ในวันแรม 15 ค่ำ เดือนสิบ ซึ่งเป็นวันยกหมฺรับ ต่างก็จะนำหมฺรับพร้อมภัตตาหารไปวัด โดยแต่ละคนจะแต่งตัวอย่างสะอาดและสวยงาม เพราะถือเป็นการทำบุญครั้งสำคัญ วัดที่ไปมักจะเป็นวัดใกล้บ้านหรือการยกหฺมฺรับไปวัดอาจต่างครอบครัวต่างไปหรืออาจจัดเป็นขบวนแห่ ทั้งนี้เพื่อต้องการความสนุก วัดบางแห่งอาจจะจัดให้มีการประกวด หฺมฺรับในส่วนของจังหวัดนครศรีธรรมราชนั้นจะจัดให้มีขบวนแห่หมฺรับอย่างยิ่งใหญ่ตระการตาในงานเดือนสิบของทุกปี โดยมีองค์กรทั้งภาครัฐและองค์กรเอกชนต่างส่งหฺมฺรับของตนเข้าร่วมขบวนแห่และร่วมการประกวด ซึ่งในช่วงเทศกาลนี้สามารถจูงใจนักท่องเที่ยวให้มาท่องเที่ยวจังหวัดนครศรีธรรมราชมากยิ่งขึ้น

เมื่อขบวนแห่หฺมฺรับมาถึงวัดแล้ว ก็จะร่วมกันถวายภัตตาหารแก่ภิกษุสงฆ์ เสร็จแล้วจะร่วมกัน "ตั้งเปรต" เพื่อแผ่ส่วนบุญส่วนกุศลให้แก่ผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว ในอดีตมักตั้งเปรตบริเวณโคนต้นไม้หรือบริเวณกำแพงวัด แต่ปัจจุบันนิยมตั้งบน "หลาเปรต" หรือร้านเปรต โดยอาหารที่จะตั้งนั้นจะเป็นขนม 5 อย่างหรือ 6 อย่างดังกล่าวข้างต้น รวมถึงอาหารอื่น ๆ ที่บรรพชนชื่นชอบ เมื่อตั้งเปรตเสร็จพระสงฆ์จะสวดบังสุกุล โดยจับสายสิญจน์ที่ผูกไว้กับหลาเปรต เมื่อพิธีสงฆ์เสร็จสิ้น ผู้คนจะร่วมกัน "ชิงเปรต" โดยการแย่งชิงอาหารบนหลาเปรต ทั้งนี้นอกจากเพื่อความสนุกสนานแล้วยังมีความเชื่อว่า หากใครได้กินอาหารบนหลาเปรตจะได้รับกุศลแรง เป็นศิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว

ประเพณีชิงเปรต

ชิงเปรต เป็นประเพณีของภาคใต้ที่ทำกันในวันสารทเดือนสิบ เป็นประเพณีเมืองมนุษย์ 15 วัน โดยมาในวันแรม 1 ค่ำ เดือน 10 ซึ่งถือว่าเป็นวัน "รับเปรต" หรือ วันสารทเล็ก ลูกหลานต้องเตรียมขนมมาเลี้ยงดูให้อิ่มหมีพีมันและฝากกลับเมืองเปรต ในวันแรม 15 ค่ำ เดือน 10 นั้นคือวัน " ส่งเปรต " กลับคืนเมือง เรียกกันว่า วันสารทใหญ่

ผู้เฒ่าผู้แก่หลายคนยืนยันว่า การชิงเปรตไม่เป็นความอัปมงคลแก่ผู้ชิงเปรตแต่อย่างใด ในทางตรงกันข้ามกลับถือว่าเป็นการได้บุญ เพราะเชื่อกันว่าหากลูกหลานของเปรตใดชิงได้ เปรตตนนั้นย่อมได้รับส่วนบุญส่วนกุศลนั้น

ภาคเหนือ

ภาคเหนือเรียกว่า ประเพณีตานก๋วยสลาก ถือปฏิบัติกันในช่วงกลางพรรษา คือตั้งแต่วันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 เหนือ (ประมาณปลายเดือนสิงหาคม) เป็นต้นไป จนถึงวันขึ้น 15 ค่ำ เดือนยี่เหนือ ประมาณเดือนพฤศจิกายน ประเพณีตานก๋วยสลากนั้น เป็นพิธีที่จัดขึ้นเพื่อการอุทิศส่วนบุญให้แก่ผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว หรือถวายสังฆทานแก่พระสงฆ์โดยการจัดเตรียมก๋วย (หรือชะลอมขนาดเล็ก) ที่สานด้วยไม้ไผ่บรรจุอาหารแห้ง อาหารคาวหวาน เครื่องใช้ที่จำเป็น

ภาคกลาง

การทำบุญเดือน 10 ตรงกับวันแรม 15 ค่ำ เดือน 10 ประมาณปลายเดือนกันยายน–ตุลาคม มีมาตั้งแต่สมัยสุโขทัย ตามที่ปรากฏหลักฐานในหนังสือของนางนพมาศเนื่องจากศาสนาพราหมณ์เผยแผ่เข้ามาในประเทศไทย คนไทยจึงรับประเพณีนมาจากศาสนาพราหมณ์ สำหรับขนมที่นิยมนำมาทำบุญวันสารทไทยนั้น ประกอบด้วยขนมกระยาสารท

คนไทยเชื้อสายลาว

ประเพณีสารทเดือนสิบของคนไทยเชื้อสายลาว เรียก การทำบุญข้าวสาก ในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 10 เป็นวันที่พระยายม เปิดขุมนรกให้สัตว์นรกได้มารับส่วนบุญ จากญาติพี่น้องที่อยู่ในมนุษย์โลก ตั้งแต่เที่ยงคืนถึง วันขึ้น 14 ค่ำ ไปจนถึงเที่ยงคืน วันขึ้น 15 ค่ำ บางท้องถิ่นจะจัดให้มีการถวายทาน รักษาศีล เพื่อเป็นอุทิศส่วนบุญไปให้เหล่าปวงญาติที่ตายไปแล้ว นอกจากนี้ยังจัดให้มีการฟังเทศน์ตลอดทั้งวัน เป็นเรื่องวรรณกรรมท้องถิ่น เช่นเรื่องมโหสถ เรื่องพระเจ้าสิบชาติ เรื่องท้าวกำกาดำเป็นต้น

คนไทยเชื้อสายเขมร

ประเพณีสารทเดือนสิบของคนไทยเชื้อสายเขมร หรือเรียกว่า แซนโฎนตา ประกอบพิธีกรรมจะตรงกับวันแรม 14-15 ค่ำ เดือน 10 ของทุกปี

อ้างอิง

  1. ประเพณีชิงเปรต วันสารท สารสนเทศห้องสมุด สาขาวิทยบริการเฉลิมพระเกียรติจังหวัดตรัง
  2. ประเพณี ตรังโซน:ชุมชนคนตรังออนไลน์
  3. อรทัย ทรงศรีสกุล, การวิจัยตรวจสอบยุทธศาสตร์กระบวนการมีส่วนร่วมสืบทอดประเพณีตานก๋วยสลากเพื่อความยั่งยืน : กรณีศึกษา ตำบลปงยางคก อำเภอห้างฉัตร จังหวัดลำปาง, วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต, บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยราชภัฎลำปาง, 2551, หน้า 42–43.
  4. สิริวิภา ขุนเอม, "วันสารทไทย", วัฒนธรรมไทย, ปีที่ 48 ฉบับที่ 9 (กันยายน 2552) : 6–7.
  5. พระอธิการชัยรัตน์ ญาณวีโร (สิทธิศักดิ์), ศึกษาความเชื่อเรื่องเปรตที่ปรากฏในประเพณีการทำบุญของชาวอีสาน : กรณีศึกษาประเพณีการทำบุญข้าวประดับดินและบุญข้าวสาก,วิทยานิพนธ์พุทธศาสตรมหาบัณฑิต,บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย, 2553,หน้า 56–57.

ประเพณ, สารทเด, อนส, เป, นประเพณ, สำค, ญท, ดข, นเพ, อทำบ, ญอ, ศแก, บรรพบ, ษผ, วงล, บไปแล, ตรงก, บว, นส, นเด, อน, หร, แรม, เด, อน, งเป, นช, วงท, ชพ, นธ, ญญาหารกำล, งออกดอกออกผลช, อว, นสารทไทยจ, ดข, นโดยประเทศไทยประเภทตอนแรกเป, นเทศกาลเก, บเก, ยวของว, ญญาณน, ยม,. praephnisartheduxnsib epnpraephnisakhythicdkhunephuxthabuyxuthisaekbrrphburusphulwnglbipaelw trngkbwnsineduxn 10 hrux aerm 15 kha eduxn 10 sungepnchwngthiphuchphnthuthyyaharkalngxxkdxkxxkphlpraephnisartheduxnsibchuxwnsarthithycdkhunodypraethsithypraephthtxnaerkepnethskalekbekiywkhxngwiyyanniym phayhlngidrwmkbthrrmeniymsasnaphuththwnthieduxndbineduxn 10 khxngptithincnthrkhtiithykarthuxptibticdnganethskalklangpi thabuyaekbrrphburusaelayatithilwnglbswnekiywkhxngPchum Ben kmphucha buykhawpradbdin law Mataka danes srilngka wnsarthcin cin Tết Trung Nguyen ewiydnam ethskalbng yipun Baekjung ekahli enuxha 1 thima 2 praephniaetlathxngthi 2 1 phakhit 2 1 1 karcdh m rb 2 1 2 karykh m rb 2 1 3 praephnichingeprt 2 2 phakhehnux 2 3 phakhklang 2 4 khnithyechuxsaylaw 2 5 khnithyechuxsayekhmr 3 xangxingthima aekikhphithisarthmitnkaenidmacakphithikhxngphrahmn emuxchawnaekbekiywrwngkhawsalixnepnphlphlitaerk canamathaepnkhawmthupayasaelayakhuephuxeliyngphrahmn ephuxepnsirimngkhlaekkhawinna aelaephuxepnkaresnihwbrrphburusthilwnglbip txmaemuxkhnepliynmanbthuxphraphuththsasna cungnaaenwkhidnimaptibtidwyphrayaxnumanrachthnidklawiwinsaranukrmchbbrachbnthitysthanwa karchingeprtthiptibtikninpraephnisartheduxnsibni milksnakhlaykbkarthingkracadkhxngcin aetkarthingkracadkhxngcinmiepahmaytrngkbkartngeprt chingeprtephiyngbangswnethann klawkhuxkarthingkracadkhxngcinepnkarthingthanihaekphwkphiimmiyati swnkarchingeprtkhxngithyepnkarxuthisswnkuslipihthngphi eprt thiepnyatiphinxngkhxngtnexngaelathiimmiyatidwy nxkcakniwithikarptibtiinkarthingkracadaelakarchingeprtkaetktangkndwy phuethaphuaekhlaykhnidyunynwakarchingeprtimepnkhwamxpmngkhlaekphuchingeprtaetxyangid inthangtrngknkhamklbthuxwaepnkarthabuydwysaip ephraachuxwabutrhlankhxngeprttnidchingid eprttnnnyxmidrbswnnn ephiyngaetwaphuchingtxngramdrawnginkarthixaharhruxkhnmthitngeprtxactkhlnlngphun sungcathaihekidkhwamskprkaelaepnxntraytxsukhphaphethannpraephniaetlathxngthi aekikhphakhit aekikh nganbuypraephnikhxngkhnphakhitodyechphaachawnkhrsrithrrmrachthiidrbxiththiphldankhwamechuxmacakthangsasnaphrahmn odymikarphsmphsankbkhwamechuxthangphraphuththsasnaodymicudmunghmaysakhyephuxepnkarxuthisswnkuslihaekbrrphburusthilwnglbipaelw sungechuxwaidrbkarplxytwmacakphuminrkthitntxngcxngcaxyuenuxngcakphlkrrmthitnidekhykxiwtxnthiyngmichiwitxyu odycaerimplxytwcakphuminrkinthukwnaerm 1 kha eduxn 10 ephuxmayngolkmnusy micudprasngkhephuxihmakhxswnbuyswnkuslcaklukhlanyatiphinxngthiidetriymkarxuthisiwih epnkaraesdngkhwamktyyuktewthitxphulwnglb hlngcaknnkcaklbipyngphuminrk inwnaerm 15 kha eduxn 10wnsarthepnwnthitrngknkhamkbwnsngkrant thawnsngkrantepnaesngswang wnsarthkkhuxkhwammud thawnsngkrantkhuxdwngxathity wnsarthkkhuxphracnthr wnsngkrantthuxwaepnwnthiolkekhasurasiemsepnwnaerk aelarasiemsepnrasithiolkekhaikldwngxathitymakthisud olkokhcrepnwngri swnwnsarthepnchwngthiolkxxkhangdwngxathitymakthisud odythanbcakwnsngkrantcnthungwnsarthcaepnewlapramanhkeduxnphxdi odycaexachwngewlathangcnthrkhtikhuxaerm 15 kha hrux 14 sungepneduxndb sungepnewlathiolkmudmidthisud khwamechuxkhxngkhnobraninaethbphumiphakhni cungthuxwaepnewlathiwiyyanklbcaknrk yatiphinxngcungkhwrthabuy ephuxaephswnkuslipih thaphulwnglbidrbswnbuyidximthxngkcaihphr thaimmiikhrthabuyipihkcaesiyicbangthixacokrthaelasapaechng cnthuxepnwnrwmyati wnbuchabrrphburus ikhrimrwmcaodnduthukwaxktyyu wnsngkrantnbtamsuriykhti wnsarthcanbtamcnthrkhti karcdh m rb aekikh emuxthungwnaerm 14 khaeduxnsib sungeriykknwa wnhlxngh m rb aetlakhrxbkhrwcarwmknnakhawkhxngekhruxngichtang macdepnh m rb karcdh m rbnn immirupaebbthiaennxn cacdepnrupaebbidkid aetladbkarcdkhxnglngh m rbcaehmuxn kn khux erimtncanakrabung kracad thadhruxkalamngmaepnphachna aelwrxngkndwykhawsar tamdwykraethiym phrik eklux natal aelaekhruxngprungxaharthicaepn txipkiskhxngcaphwkxaharaehng echn plaekhm phkphlimthiekbiwidnan echn fkthxng maphraw khmin langsad engaa lxngkxng kha taikhr l caknnkiskhxngichinchiwitpracawn echn namnmaphraw imkhid hmx kratha thwycham ekhm day aelaekhruxngechiynhmak sudthayissingthisakhythisudkhxngh m rb khux khnm 5 xyang sungkhnmaetlaxyanglwnmikhwamhmaythiaetngtangknidaek khnmphxng epnsylksnaethnaeph sahrbphulwnglbichlxngkhamhwngmhrrnph khnmla aethnekhruxngnunghm khnmknghruxkhnmikhpla aethnekhruxngpradb khnmdisa aethnenginebiysahrbichsxy khnmba aethnsabaicheln inkrnithimikhnm 6 xyang caephimkhnmlalxymn sungichaethnfukhmxn karykh m rb aekikh inwnaerm 15 kha eduxnsib sungepnwnykhm rb tangkcanahm rbphrxmphttaharipwd odyaetlakhncaaetngtwxyangsaxadaelaswyngam ephraathuxepnkarthabuykhrngsakhy wdthiipmkcaepnwdiklbanhruxkarykh m rbipwdxactangkhrxbkhrwtangiphruxxaccdepnkhbwnaeh thngniephuxtxngkarkhwamsnuk wdbangaehngxaccacdihmikarprakwd h m rbinswnkhxngcnghwdnkhrsrithrrmrachnncacdihmikhbwnaehhm rbxyangyingihytrakartainnganeduxnsibkhxngthukpi odymixngkhkrthngphakhrthaelaxngkhkrexkchntangsngh m rbkhxngtnekharwmkhbwnaehaelarwmkarprakwd sunginchwngethskalnisamarthcungicnkthxngethiywihmathxngethiywcnghwdnkhrsrithrrmrachmakyingkhunemuxkhbwnaehh m rbmathungwdaelw kcarwmknthwayphttaharaekphiksusngkh esrcaelwcarwmkn tngeprt ephuxaephswnbuyswnkuslihaekphuthilwnglbipaelw inxditmktngeprtbriewnokhntnimhruxbriewnkaaephngwd aetpccubnniymtngbn hlaeprt hruxraneprt odyxaharthicatngnncaepnkhnm 5 xyanghrux 6 xyangdngklawkhangtn rwmthungxaharxun thibrrphchnchunchxb emuxtngeprtesrcphrasngkhcaswdbngsukul odycbsaysiycnthiphukiwkbhlaeprt emuxphithisngkhesrcsin phukhncarwmkn chingeprt odykaraeyngchingxaharbnhlaeprt thngninxkcakephuxkhwamsnuksnanaelwyngmikhwamechuxwa hakikhridkinxaharbnhlaeprtcaidrbkuslaerng epnsirimngkhlaektnexngaelakhrxbkhrw praephnichingeprt aekikh chingeprt epnpraephnikhxngphakhitthithakninwnsartheduxnsib epnpraephniemuxngmnusy 15 wn odymainwnaerm 1 kha eduxn 10 sungthuxwaepnwn rbeprt hrux wnsarthelk lukhlantxngetriymkhnmmaeliyngduihximhmiphimnaelafakklbemuxngeprt inwnaerm 15 kha eduxn 10 nnkhuxwn sngeprt klbkhunemuxng eriykknwa wnsarthihy 1 phuethaphuaekhlaykhnyunynwa karchingeprtimepnkhwamxpmngkhlaekphuchingeprtaetxyangid inthangtrngknkhamklbthuxwaepnkaridbuy ephraaechuxknwahaklukhlankhxngeprtidchingid eprttnnnyxmidrbswnbuyswnkuslnn 2 phakhehnux aekikh phakhehnuxeriykwa praephnitankwyslak thuxptibtikninchwngklangphrrsa khuxtngaetwnkhun 15 kha eduxn 12 ehnux pramanplayeduxnsinghakhm epntnip cnthungwnkhun 15 kha eduxnyiehnux pramaneduxnphvscikayn praephnitankwyslaknn epnphithithicdkhunephuxkarxuthisswnbuyihaekphuthilwnglbipaelw hruxthwaysngkhthanaekphrasngkhodykarcdetriymkwy hruxchalxmkhnadelk thisandwyimiphbrrcuxaharaehng xaharkhawhwan ekhruxngichthicaepn 3 phakhklang aekikh karthabuyeduxn 10 trngkbwnaerm 15 kha eduxn 10 pramanplayeduxnknyayn tulakhm mimatngaetsmysuokhthy tamthiprakthlkthaninhnngsuxkhxngnangnphmasenuxngcaksasnaphrahmnephyaephekhamainpraethsithy khnithycungrbpraephninmacaksasnaphrahmn sahrbkhnmthiniymnamathabuywnsarthithynn prakxbdwykhnmkrayasarth 4 khnithyechuxsaylaw aekikh praephnisartheduxnsibkhxngkhnithyechuxsaylaw eriyk karthabuykhawsak inwnkhun 15 kha eduxn 10 epnwnthiphrayaym epidkhumnrkihstwnrkidmarbswnbuy cakyatiphinxngthixyuinmnusyolk tngaetethiyngkhunthung wnkhun 14 kha ipcnthungethiyngkhun wnkhun 15 kha bangthxngthincacdihmikarthwaythan rksasil ephuxepnxuthisswnbuyipihehlapwngyatithitayipaelw nxkcakniyngcdihmikarfngethsntlxdthngwn epneruxngwrrnkrrmthxngthin echneruxngmohsth eruxngphraecasibchati eruxngthawkakadaepntn 5 khnithyechuxsayekhmr aekikh praephnisartheduxnsibkhxngkhnithyechuxsayekhmr hruxeriykwa aesnodnta prakxbphithikrrmcatrngkbwnaerm 14 15 kha eduxn 10 khxngthukpixangxing aekikh praephnichingeprt wnsarth sarsnethshxngsmud sakhawithybrikarechlimphraekiyrticnghwdtrng praephni trngosn chumchnkhntrngxxniln xrthy thrngsriskul karwicytrwcsxbyuththsastrkrabwnkarmiswnrwmsubthxdpraephnitankwyslakephuxkhwamyngyun krnisuksa tablpngyangkhk xaephxhangchtr cnghwdlapang withyaniphnthsilpsastrmhabnthit bnthitwithyaly mhawithyalyrachphdlapang 2551 hna 42 43 siriwipha khunexm wnsarthithy wthnthrrmithy pithi 48 chbbthi 9 knyayn 2552 6 7 phraxthikarchyrtn yanwior siththiskdi suksakhwamechuxeruxngeprtthipraktinpraephnikarthabuykhxngchawxisan krnisuksapraephnikarthabuykhawpradbdinaelabuykhawsak withyaniphnthphuththsastrmhabnthit bnthitwithyaly mhawithyalymhaculalngkrnrachwithyaly 2553 hna 56 57 bthkhwamekiywkbwthnthrrmniyngepnokhrng khunsamarthchwywikiphiediyidodyephimkhxmul ekhathungcak https th wikipedia org w index php title praephnisartheduxnsib amp oldid 9791827, wikipedia, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด,

บทความ

, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม