fbpx
วิกิพีเดีย

ปราสาทเคนิลเวิร์ธ

ปราสาทเคนิลเวิร์ธ (อังกฤษ: Kenilworth Castle) เป็นปราสาทซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองเคนิลเวิร์ธในวอริคเชอร์มาตั้งแต่ยุคแซ็กซัน โครงสร้างดั้งเดิมของปราสาทน่าจะถูกทำลายไปในช่วงสงครามระหว่างพระเจ้าเอ็ดมันด์ กษัตริย์ชาวแซ็กซัน กับพระเจ้าคานุต กษัตริย์ของชาวเดนส์

ปราสาทเคนิลเวิร์ธ
Kenilworth Castle
ภาพปราสาทเคนิลเวิร์ธ โดยมองจากสนามทิล์ตยาร์ด
เจ้าของเมืองเคนิลเวิร์ธ
ที่ตั้งวอริคเชอร์
ประเทศประเทศอังกฤษ

ยุคนอร์มัน

หลังการพิชิตอังกฤษของชาวนอร์มัน ปราสาทเคนิลเวิร์ธกลายเป็นทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ในปี ค.ศ. 1129 พระเจ้าเฮนรีที่ 1 ได้พระราชทานปราสาทให้แก่มหาดเล็กประจำพระองค์ซึ่งเป็นขุนนางชาวนอร์มันนามว่าเจฟฟรีย์ เดอ คลินตัน ซึ่งเป็นทั้งผู้ดูแลคลังและหัวหน้าผู้พิพากษาของอังกฤษในเวลานั้น

หลังปี ค.ศ. 1129 เจฟฟรีย์ได้ก่อตั้งวัดคริสต์คณะออกัสติเนียนและสร้างปราสาทขึ้นมาในเคนิลเวิร์ธ โครงสร้างดั้งเดิมน่าจะเป็นปราสาทเนินโครงสร้างไม้ขนาดไม่ใหญ่มาก เจฟฟรีย์ทุ่มเงินก้อนโตในการสร้างป้อมปราการอันทรงพลังให้แก่ปราสาท ซึ่งทำออกมาได้ทรงพลังเกินกว่าจะอยู่นอกอำนาจการควบคุมของกษัตริย์ ทำให้พระเจ้าเฮนรีที่ 2 จึงทำการยึดสิ่งปลูกสร้างและเริ่มพัฒนาเคนิลเวิร์ธให้เป็นหนึ่งในป้อมปราการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในอังกฤษ

ยุคแพลนแพเจเนต

 
หอคอยใหญ่ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงสร้างยุคแรกๆ ที่ยังหลงเหลืออยู่ของปราสาทเคนิลเวิร์ธ

ตลอดหลายศตวรรษต่อมาเงินจำนวนมากมายถูกทุ่มให้กับปราสาทเคนิลเวิร์ธเพื่อปรับปรุงแนวป้องกันและเพื่อผสมผสานแนวคิดสมัยใหม่ให้โครงสร้างของปราสาทมีความทันสมัย พระเจ้าจอห์นได้ทุ่มเงินมากกว่า 1,000 ปอนด์ ซึ่งในสมัยนั้นถือว่าเป็นเงินก้อนโต ไปกับการสร้างแนวป้องกัน หนึ่งในนั้นคือการสร้างกำแพงรอบนอกขึ้นมาใหม่

ในปี ค.ศ. 1244 พระเจ้าเฮนรีที่ 3 ได้พระราชทานปราสาทให้แก่ซีมง เดอ มงฟอร์ เอิร์ลแห่งเลสเตอร์ กับเอเลนอร์ ภรรยาซึ่งเป็นพระขนิษฐาของกษัตริย์ ว่ากันว่าเอิร์ลผู้นี้ได้ "เสริมความแข็งแกร่งอันน่าตื่นตาตื่นใจให้แก่ปราสาท และเก็บรักษาเครื่องจักรสงครามมากมายที่จนถึงตอนนั้นยังไม่มีใครในอังกฤษเคยเห็นหรือเคยได้ยิน" เขายังเพิ่มความแข็งแกร่งให้แก่แนวป้องกันน้ำซึ่งทำให้ปราสาทเคนิลเวิร์ธเป็นปราสาทที่ไม่สามารถเอาชนะได้อย่างแท้จริง

เดอ มงฟอร์ชาวฝรั่งเศสนั้นเป็นที่จดจำในประวัติศาสตร์ในฐานะหนึ่งในผู้ก่อตั้งระบอบประชาธิปไตยในอังกฤษ รัฐสภาในปี ค.ศ. 1265 ที่เขาก่อตั้งขึ้นได้ให้คำสัญญาว่าจะให้สามัญชนทำหน้าที่บริหารปกครองประเทศ นโยบายดังกล่าวถูกตั้งขึ้นเพื่อเอื้อประโยชน์ให้แก่บารอนของประเทศที่ในตอนนั้นกำลังทุกข์ในกับระบบเรียกเก็บภาษีอันขูดเลือดขูดเนื้อของกษัตริย์ เดอ มงฟอร์ได้รับความนิยมอย่างมาก ทว่าเพียงไม่กี่เดือนต่อมาเขาถูกกองทัพของกษัตริย์สังหารในสมรภูมิอีฟแชม

ซีมง เดอ มงฟอร์ได้กลายเป็นผู้นำการก่อกบฏต่อต้านการข่มเหงทางอำนาจของพระเจ้าเฮนรีที่ 3 ซึ่งมีชื่อว่า "สงครามบารอน" ในฤดูร้อนของปี ค.ศ. 1266 กลุ่มบารอนซึ่งหนึ่งในนั้นคือบุตรชายของซีมงที่ขณะนั้นอยู่ภายใต้การนำของเฮนรี เดอ เฮสติงส์ ใช้ปราสาทเป็นที่ลี้ภัยเมื่อครั้งที่กษัตริย์ปิดล้อมเคนิลเวิร์ธ

การปิดล้อมดังกล่าวเป็นการปิดล้อมที่กินเวลายาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์อังกฤษ ปราสาทเป็นป้อมปราการชั้นดีที่ทำให้กลุ่มกบฏต้านทางกองทหารของกษัตริย์ไว้ได้นานถึงหกเดือน ตัวปราสาทได้พิสูจน์ให้เห็นว่ามีความน่าเกรงขามมากพอ ทะเลสาปที่มีขนาดใหญ่จนแทบจะโอบล้อมปราสาทได้พิสูจน์ตัวเองว่าเป็นแนวป้องกันที่สำคัญมาก เรือท้องแบนถูกนำมาจากเชสเตอร์ซึ่งอยู่ห่างไกลเพื่อใช้ทำลายแนวป้องกันน้ำ

ตัวอย่างแรกๆ ของการทำสงครามทางจิตวิทยาเกิดขึ้นเมื่ออาร์ชบิชอปแห่งแคนเทอร์บรีถูกนำตัวมาที่หน้ากำแพงปราสาทเพื่อตัดกลุ่มกบฏออกจากศาสนา หนึ่งในผู้ป้องกันซึ่งยืนอยู่ตรงเชิงเทินของปราสาทสวมเสื้อคลุมของนักบวชและเอาคืนด้วยการตัดทั้งกษัตริย์และอาร์ชบิชอปออกจากศาสนาเช่นกัน หลังการปิดล้อมหกเดือนกลุ่มบารอนที่ประสบกับทั้งโรคภัยไข้เจ็บและความอดอยากก็ยอมจำนนในที่สุด

 
หอคอยใหญ่ (ซ้ายมือ) กับโถงใหญ่ของจอห์นแห่งกอนท์ (ขวามือ)

หลังการยอมจำนนพระเจ้าเฮนรีที่ 3 ได้พระราชทานปราสาทให้แก่เอ็ดมันด์ เอิร์ลแห่งแลงคัสเตอร์ผู้เป็นพระโอรสคนเล็ก นับตั้งแต่นั้นเป็นเวลาเกือบสองศตวรรษที่เคนิลเวิร์ธอยู่ภายใต้การครอบครองของเอิร์ลแห่งแลงคัสเตอร์ ในปี ค.ศ. 1361 ปราสาทตกเป็นของจอห์นแห่งกอนท์ พระราชโอรสคนที่สี่ของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 3 ผู้สืบทอดตำแหน่งและทรัพย์สินที่ดินของดยุคแห่งแลงคัสเตอร์

ในช่วง ค.ศ. 1373 ถึง ค.ศ. 1380 จอห์นแห่งกอนท์ได้พัฒนาและขยายส่วนของคนรับใช้ให้มีขนาดใหญ่ขึ้น รวมถึงโถงใหญ่ เคนิลเวิร์ธกลายเป็นปราสาทซึ่งไม่ใช่ที่พำนักของกษัตริย์ที่โดดเด่นสะดุดตาที่สุดในยุคนั้น และได้รับอิทธิพลหลักๆ มาจากที่พำนักใหม่ของพระราชบิดาของพระองค์ในวินด์เซอร์ อันเป็นสิ่งปลูกสร้างที่หรูหราตระการตาที่สุดที่กษัตริย์อังกฤษเคยสร้างขึ้นมา

เมื่อบุตรชายของจอห์นแห่งกอนท์ขึ้นเป็นพระเจ้าเฮนรีที่ 4 แห่งอังกฤษ เคนิลเวิร์ธกลับมาเป็นปราสาทของกษัตริย์อีกครั้งและเป็นที่โปรดปรานของพระเจ้าเฮนรีที่ 5, พระเจ้าเฮนรีที่ 6 และพระเจ้าเฮนรีที่ 7 พระเจ้าเฮนรีที่ 8 ได้เลือกเคนิลเวิร์ธเป็นหนึ่งในปราสาทเก่าจากบรรพบุรุษของราชอาณาจักรที่พระองค์ต้องการรักษาไว้ไม่ว่าจะใช้เงินเท่าใดก็ตาม

ยุคทิวดอร์

 
หน้าตาของปราสาทเคนิลเวิร์ธในปี ค.ศ. 1575

ในปี ค.ศ. 1563 สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 1 ได้ยกปราสาทเคนิลเวิร์ธให้แก่โรเบิร์ต ดัดลีย์ เอิร์ลแห่งเลสเตอร์ซึ่งเป็นคนโปรดของพระองค์ เชื่อกันว่าพระราชินีสาวต้องการสมรสกับดัดลีย์ แต่ชื่อเสียงของเขาด่างพร้อยจากข่าวลือเรื่องการเสียชีวิตอย่างน่าสงสัยของภรรยา ดัดลีย์ทุ่มเงินก้อนโตให้กับปราสาท โดยได้เปลี่ยนปราสาทเป็นพระราชวังทิวดอร์อันทันสมัย

 
เรือนเฝ้าประตูซึ่งสร้างโดยโรเบิร์ต ดัดลีย์

สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 1 มาเยือนโรเบิร์ต ดัดลีย์ที่ปราสาทเคนิลเวิร์ธในปี ค.ศ. 1566 และอีกครั้งในปี ค.ศ. 1568 ทว่าในการมาพักครั้งสุดท้ายของพระองค์ในปี ค.ศ. 1575 มีผู้ติดตามจำนวนหลายร้อยได้สร้างประวัติกาล ในเดือนกรกฎาคมมีการใช้เงินอย่างไม่อั้นไปกับการมาเยือนเป็นเวลา 19 วัน ว่ากันว่าดัดลีย์ต้องใช้เงินมากถึง 1,000 ปอนด์ต่อวันจนเขาเกือบล้มละลาย

เอิร์ลแห่งเลสเตอร์ถึงแก่กรรมโดยไร้ทายาท ปราสาทจึงกลับไปเป็นของราชบัลลังก์และพระเจ้าเจมส์ที่ 1 ได้พระราชทานให้แก่เจ้าชายชาร์ลส์ในปี ค.ศ. 1612 ในปี ค.ศ. 1626 พระองค์ได้ส่งต่อปราสาทให้อ็องเรียต มารีเป็นส่วนหนึ่งในมรดกสำหรับพระมเหสีม่าย

ยุคใหม่

 
ภาพมุมกว้างของปราสาทเคนิลเวิร์ธในช่วงที่น้ำหลาก (พฤศจิกายน ค.ศ. 2012)

ในช่วงสงครามกลางเมืองอังกฤษ ปราสาทเคนิลเวิร์ธเป็นป้องปราการสำคัญของฝ่ายสนับสนุนเจ้า แต่สุดท้ายก็ถูกรื้อออกบางส่วนจนเกือบไม่เหลือซากโดยกองทหารฝ่ายรัฐสภา

หลังกอบกู้ราชบัลลังก์กลับคืนมาได้ในปี ค.ศ. 1660 ปราสาทถูกพระราชทานให้แก่ลอเรนซ์ ไฮด์ เอิร์ลแห่งโรเชสเตอร์ในปี ค.ศ. 1665 และหลุดพ้นจากการครอบครองของกษัตริย์

ในปี ค.ศ. 1958 เนื่องในวโรกาสครบรอบการครองบัลลังก์ปีที่ 400 ของสมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธที่ 1 องค์การอนุรักษ์แห่งอังกฤษได้เข้าตรวจสอบซากปรักหักพังตั้งแต่ปี ค.ศ. 1984 และทุ่มเงินจำนวนหลายล้านปอนด์เพื่อบูรณะปราสาทและพื้นดินขึ้นมาใหม่

อ้างอิง

  • Kenilworth Castle: Historic UK
  • Kenilworth Castle: Royal Palaces

ปราสาทเคน, ลเว, งกฤษ, kenilworth, castle, เป, นปราสาทซ, งต, งอย, เม, องเคน, ลเว, ธในวอร, คเชอร, มาต, งแต, คแซ, กซ, โครงสร, างด, งเด, มของปราสาทน, าจะถ, กทำลายไปในช, วงสงครามระหว, างพระเจ, าเอ, ดม, นด, กษ, ตร, ชาวแซ, กซ, บพระเจ, าคาน, กษ, ตร, ของชาวเดนส, kenilw. prasathekhnilewirth xngkvs Kenilworth Castle epnprasathsungtngxyuthiemuxngekhnilewirthinwxrikhechxrmatngaetyukhaesksn okhrngsrangdngedimkhxngprasathnacathukthalayipinchwngsngkhramrahwangphraecaexdmnd kstriychawaesksn kbphraecakhanut kstriykhxngchawednsprasathekhnilewirthKenilworth Castlephaphprasathekhnilewirth odymxngcaksnamthiltyardecakhxngemuxngekhnilewirththitngwxrikhechxrpraethspraethsxngkvs enuxha 1 yukhnxrmn 2 yukhaephlnaephecent 3 yukhthiwdxr 4 yukhihm 5 xangxingyukhnxrmn aekikhhlngkarphichitxngkvskhxngchawnxrmn prasathekhnilewirthklayepnthrphysinswnphramhakstriy inpi kh s 1129 phraecaehnrithi 1 idphrarachthanprasathihaekmhadelkpracaphraxngkhsungepnkhunnangchawnxrmnnamwaecffriy edx khlintn sungepnthngphuduaelkhlngaelahwhnaphuphiphaksakhxngxngkvsinewlannhlngpi kh s 1129 ecffriyidkxtngwdkhristkhnaxxkstieniynaelasrangprasathkhunmainekhnilewirth okhrngsrangdngedimnacaepnprasatheninokhrngsrangimkhnadimihymak ecffriythumenginkxnotinkarsrangpxmprakarxnthrngphlngihaekprasath sungthaxxkmaidthrngphlngekinkwacaxyunxkxanackarkhwbkhumkhxngkstriy thaihphraecaehnrithi 2 cungthakaryudsingpluksrangaelaerimphthnaekhnilewirthihepnhnunginpxmprakarthiyingihythisudinxngkvsyukhaephlnaephecent aekikh hxkhxyihysungepnhnunginokhrngsrangyukhaerk thiynghlngehluxxyukhxngprasathekhnilewirth tlxdhlaystwrrstxmaengincanwnmakmaythukthumihkbprasathekhnilewirthephuxprbprungaenwpxngknaelaephuxphsmphsanaenwkhidsmyihmihokhrngsrangkhxngprasathmikhwamthnsmy phraecacxhnidthumenginmakkwa 1 000 pxnd sunginsmynnthuxwaepnenginkxnot ipkbkarsrangaenwpxngkn hnunginnnkhuxkarsrangkaaephngrxbnxkkhunmaihminpi kh s 1244 phraecaehnrithi 3 idphrarachthanprasathihaeksimng edx mngfxr exirlaehngelsetxr kbexelnxr phrryasungepnphrakhnisthakhxngkstriy waknwaexirlphuniid esrimkhwamaekhngaekrngxnnatuntatunicihaekprasath aelaekbrksaekhruxngckrsngkhrammakmaythicnthungtxnnnyngimmiikhrinxngkvsekhyehnhruxekhyidyin ekhayngephimkhwamaekhngaekrngihaekaenwpxngknnasungthaihprasathekhnilewirthepnprasaththiimsamarthexachnaidxyangaethcringedx mngfxrchawfrngessnnepnthicdcainprawtisastrinthanahnunginphukxtngrabxbprachathipityinxngkvs rthsphainpi kh s 1265 thiekhakxtngkhunidihkhasyyawacaihsamychnthahnathibriharpkkhrxngpraeths noybaydngklawthuktngkhunephuxexuxpraoychnihaekbarxnkhxngpraethsthiintxnnnkalngthukkhinkbrabberiykekbphasixnkhudeluxdkhudenuxkhxngkstriy edx mngfxridrbkhwamniymxyangmak thwaephiyngimkieduxntxmaekhathukkxngthphkhxngkstriysngharinsmrphumixifaechmsimng edx mngfxridklayepnphunakarkxkbttxtankarkhmehngthangxanackhxngphraecaehnrithi 3 sungmichuxwa sngkhrambarxn invdurxnkhxngpi kh s 1266 klumbarxnsunghnunginnnkhuxbutrchaykhxngsimngthikhnannxyuphayitkarnakhxngehnri edx ehstings ichprasathepnthiliphyemuxkhrngthikstriypidlxmekhnilewirthkarpidlxmdngklawepnkarpidlxmthikinewlayawnanthisudinprawtisastrxngkvs prasathepnpxmprakarchndithithaihklumkbttanthangkxngthharkhxngkstriyiwidnanthunghkeduxn twprasathidphisucnihehnwamikhwamnaekrngkhammakphx thaelsapthimikhnadihycnaethbcaoxblxmprasathidphisucntwexngwaepnaenwpxngknthisakhymak eruxthxngaebnthuknamacakechsetxrsungxyuhangiklephuxichthalayaenwpxngknnatwxyangaerk khxngkarthasngkhramthangcitwithyaekidkhunemuxxarchbichxpaehngaekhnethxrbrithuknatwmathihnakaaephngprasathephuxtdklumkbtxxkcaksasna hnunginphupxngknsungyunxyutrngechingethinkhxngprasathswmesuxkhlumkhxngnkbwchaelaexakhundwykartdthngkstriyaelaxarchbichxpxxkcaksasnaechnkn hlngkarpidlxmhkeduxnklumbarxnthiprasbkbthngorkhphyikhecbaelakhwamxdxyakkyxmcanninthisud hxkhxyihy saymux kbothngihykhxngcxhnaehngkxnth khwamux hlngkaryxmcannphraecaehnrithi 3 idphrarachthanprasathihaekexdmnd exirlaehngaelngkhsetxrphuepnphraoxrskhnelk nbtngaetnnepnewlaekuxbsxngstwrrsthiekhnilewirthxyuphayitkarkhrxbkhrxngkhxngexirlaehngaelngkhsetxr inpi kh s 1361 prasathtkepnkhxngcxhnaehngkxnth phrarachoxrskhnthisikhxngphraecaexdewirdthi 3 phusubthxdtaaehnngaelathrphysinthidinkhxngdyukhaehngaelngkhsetxrinchwng kh s 1373 thung kh s 1380 cxhnaehngkxnthidphthnaaelakhyayswnkhxngkhnrbichihmikhnadihykhun rwmthungothngihy ekhnilewirthklayepnprasathsungimichthiphankkhxngkstriythioddednsadudtathisudinyukhnn aelaidrbxiththiphlhlk macakthiphankihmkhxngphrarachbidakhxngphraxngkhinwindesxr xnepnsingpluksrangthihruhratrakartathisudthikstriyxngkvsekhysrangkhunmaemuxbutrchaykhxngcxhnaehngkxnthkhunepnphraecaehnrithi 4 aehngxngkvs ekhnilewirthklbmaepnprasathkhxngkstriyxikkhrngaelaepnthioprdprankhxngphraecaehnrithi 5 phraecaehnrithi 6 aelaphraecaehnrithi 7 phraecaehnrithi 8 ideluxkekhnilewirthepnhnunginprasathekacakbrrphburuskhxngrachxanackrthiphraxngkhtxngkarrksaiwimwacaichenginethaidktamyukhthiwdxr aekikh hnatakhxngprasathekhnilewirthinpi kh s 1575 inpi kh s 1563 smedcphrarachininathexlisaebththi 1 idykprasathekhnilewirthihaekorebirt ddliy exirlaehngelsetxrsungepnkhnoprdkhxngphraxngkh echuxknwaphrarachinisawtxngkarsmrskbddliy aetchuxesiyngkhxngekhadangphrxycakkhawluxeruxngkaresiychiwitxyangnasngsykhxngphrrya ddliythumenginkxnotihkbprasath odyidepliynprasathepnphrarachwngthiwdxrxnthnsmy eruxnefapratusungsrangodyorebirt ddliy smedcphrarachininathexlisaebththi 1 maeyuxnorebirt ddliythiprasathekhnilewirthinpi kh s 1566 aelaxikkhrnginpi kh s 1568 thwainkarmaphkkhrngsudthaykhxngphraxngkhinpi kh s 1575 miphutidtamcanwnhlayrxyidsrangprawtikal ineduxnkrkdakhmmikarichenginxyangimxnipkbkarmaeyuxnepnewla 19 wn waknwaddliytxngichenginmakthung 1 000 pxndtxwncnekhaekuxblmlalayexirlaehngelsetxrthungaekkrrmodyirthayath prasathcungklbipepnkhxngrachbllngkaelaphraecaecmsthi 1 idphrarachthanihaekecachaycharlsinpi kh s 1612 inpi kh s 1626 phraxngkhidsngtxprasathihxxngeriyt mariepnswnhnunginmrdksahrbphramehsimayyukhihm aekikh phaphmumkwangkhxngprasathekhnilewirthinchwngthinahlak phvscikayn kh s 2012 inchwngsngkhramklangemuxngxngkvs prasathekhnilewirthepnpxngprakarsakhykhxngfaysnbsnuneca aetsudthaykthukruxxxkbangswncnekuxbimehluxsakodykxngthharfayrthsphahlngkxbkurachbllngkklbkhunmaidinpi kh s 1660 prasaththukphrarachthanihaeklxerns ihd exirlaehngorechsetxrinpi kh s 1665 aelahludphncakkarkhrxbkhrxngkhxngkstriyinpi kh s 1958 enuxnginworkaskhrbrxbkarkhrxngbllngkpithi 400 khxngsmedcphrarachiniexlisaebththi 1 xngkhkarxnurksaehngxngkvsidekhatrwcsxbsakprkhkphngtngaetpi kh s 1984 aelathumengincanwnhlaylanpxndephuxburnaprasathaelaphundinkhunmaihmxangxing aekikhKenilworth Castle Historic UK Kenilworth Castle Royal Palacesekhathungcak https th wikipedia org w index php title prasathekhnilewirth amp oldid 8562869, wikipedia, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด,

บทความ

, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม