fbpx
วิกิพีเดีย

พระพิทักษ์เจดีย์ (ถง รามางกูร)

พระพิทักษ์เจดีย์ (ถง) อดีตนายกองข้าอุปัฏฐากพระธาตุพนม หรือผู้ควบคุมท้าวเพี้ยตัวเลกข้าพระธาตุพนม หรือนายกองบ้านธาตุพนมลำดับ ๕ พ.ศ. ๒๔๑๗-๒๒ (๒๓) ในราชวงศ์เวียงจันทน์ปกครองธาตุพนมลำดับ ๗ เดิมบรรดาศักดิ์ท้าวอุปละควบคุมท้าวเพี้ยตัวเลกข้าพระธาตุพนม เชื้อสายราชวงศ์เวียงจันทน์และจำปาศักดิ์ รับบรรดาศักดิ์พระพิทักษ์เจดีย์คนแรกของธาตุพนมจาก ร.๕ ราชทินนามนี้ปรากฏในบรรดาศักดิ์พระพิทักษ์เจดีย์ (แก้ว โคตรธรรม) นายกองข้าพระธาตุเชิงชุมเมืองสกลนครด้วย

พระพิทักษ์เจดีย์ (ถง รามางกูร)
นายกองข้าอุปัฏฐากพระธาตุพนม หรือหัวหน้าผู้ควบคุมท้าวเพี้ยตัวเลกข้าพระธาตุพนม หรือนายกองบ้านธาตุพนม
ก่อนหน้า ท้าวอุปละ (มุง รามางกูร)
ถัดไป พระพิทักษ์เจดีย์ (แก่น รามางกูร)
ข้อมูลส่วนบุคคล
เกิด ธาตุพนม
เสียชีวิต ธาตุพนม
คู่สมรส อาดยานางรัตนะจันทร์และอาดยานางแก้วบัวพา
ศาสนา ศาสนาพุทธ

ประวัติ

พระพิทักษ์เจดีย์ (ถง) นามเดิมท้าวสุวันนะคำถงหรือท้าวคำถง พื้นเมืองพนมออกนามเจ้าพระพีพักคำถุงหรือยาพ่อพระพีพัก นามเต็มพื้นพระบาทใช้ชาติระบุว่า ...หลานตน ๑ มีซื่อว่าอุปปะละสูวัณณะคำถงก็ตื่มแถมยดว่าเจ้าพระพีพักเจดีสีปะริสัดขัดตติยะวงสา... เป็นบุตรชายลำดับแรกและบุตรลำดับ ๒ ของท้าวอุปละ (มุง) หัวหน้าผู้ควบคุมท้าวเพี้ยตัวเลกข้าพระธาตุพนมกับนางจันทาวะดี เป็นหลานพระอุปละ (คำมั่น) กรมการ เป็นเหลนพระมหาสุระนันทากับนางแก้วอาไพธิดาเจ้าพระรามราชฯ (ราม) ขุนโอกาสธาตุพนมคนแรก พ.ศ. ๒๔๑๗ เพี้ยอัคคะฮาชหรือท้าวอุปละ (มุง) บิดาถึงแก่กรรม ท้าวถงผู้บุตรเลื่อนเป็นท้าวอุปละควบคุมท้าวเพี้ยตัวเลกข้าพระธาตุพนมแทน ท้าวเพี้ยตัวเลกข้าพระสมัครทำราชการขึ้นมุกดาหารเป็นเลกฉกรรจ์ขึ้นใหม่ ๙๖๗ นครพนม ๕๓๑ สกลนคร ๒๒๗ รวม ๑,๗๗๕ คน ท้าวอุปละ (มุง) เกณฑ์ท้าวเพี้ยตัวเลกมาปฏิสังขรณ์พระธาตุพนมเจ้าเมืองกรมการเมืองนครพนม มุกดาหาร และสกลนครขัดขวางไม่ยอมส่งให้ตามจารีต

ฟ้องกรมการมุกดาหาร

พ.ศ. ๒๔๒๑ ท้าวอุปละตั้งบ้านเรือนอยู่บ้านธาตุพนมขณะเป็นหัวหน้าหมวดเลกข้าพระธาตุพนมกล่าวฟ้องกรมการมุกดาหารลงกรุงเทพฯ ว่า เขตแดนมุกดาหารต่อแดนนครพนมหน้าองค์พระธาตุพนมให้มุกดาหารและนครพนมรักษามีข้าพระธาตุพนมเป็นเลกข้าพระ ยกเว้นไม่ต้องเก็บส่วยแต่มีหน้าที่ดูแลรักษาเกณฑ์สิ่งของ เช่น อิฐ ปูน ทราย กรวด บูรณะปฏิสังขรณ์พระธาตุพนม ต่อมา พ.ศ. ๒๔๑๕ ท้าวอุปละเกณฑ์อิฐ ปูน ทองคำเปลว น้ำรักกับตัวเลกเพื่อซ่อมแซมพระธาตุพนม เจ้าเมืองมุกดาหารจะจับตัวจำขังตะราง ฝ่ายกรุงเทพฯ มีท้องตราพระราชสีห์ให้อำแดงล่าหรืออาดยานางหล่าพี่สาวท้าวอุปละถือขึ้นมาถึงผู้รักษาราชการเมืองมุกดาหาร ว่าให้เร่งแต่งท้าวเพี้ยกรมการผู้ใหญ่รู้ราชการบ้านเมืองพาตัวท้าวอุปละลงกรุงเทพฯ พร้อมอำแดงล่าโดยเร็ว จะได้ให้ตระลาการชำระตัดสินให้แล้วแก่กัน

วิวาทพระอัคร์บุตร

พ.ศ. ๒๔๒๒ ท้าวอุปละ (ถง) และพระอัคร์บุตร (บุนมี) บุตรเจ้าพระรามราชปราณีฯ (ศรี) ซึ่งมีศักดิ์เป็นปู่เพราะย่าทวดท้าวอุปละเป็นน้องสาวต่างมารดาเจ้าพระรามราชปราณีฯ (ศรี) วิวาทกันรุนแรง พระอัคร์บุตรอยากเป็นขุนโอกาสเพราะท้าวอุปละอายุน้อยและไม่ใช่บุตรขุนโอกาส มีเรื่องฟ้องร้องกันถึงกรุงเทพฯ พื้นพระบาทใช้ชาติระบุโดยละเอียดว่า ...พระยาทัมมิกะราดเจ้าตนมีบุรหนักจักเสกเอาลาดสะกุมมานเจ้าพระอักคคะบูตตะสูตตะสูวัณณะบุนมี แลว่าตนนี้อาดกว่าท้าวพระยาทังหลายว่าดังนี้ ว่าตนนี้แม่นหลานแลลูกพระยาเจ้าโอกาดสาสสะนานะครพระมะหาธาดตุเจ้าพระนมบุรรมมะสัถถานวิเสดแท้ดังนั้นแล จิงว่าเจ้าพระอุปปะละเกิดตามหลังบ่ให้เป็นใหย่ในกองข้อยน้อยใหย่ในเวียงพระมะหาธาดตุเจ้าแลว่าดังนั้นแล้วก็มีแท้ดีหลีแล...ทีนี้อุปปะละเจ้าคำถงก็จักมีใจเคียดจิงไปฟ้องเจ้าพระยาหลวงละคอร ๆ จักว่าความให้ยอมกันบ่ได้ด้วยเกงบุรปาระมีแห่งพระยาทัมมิกะราด จิงให้เจ้าทัง ๒ ตนลงไปเมืองบังกอกแลเฝ้าพระบาดเจ้าสีวิดก็มีแท้ดังนั้น พระเจ้าอัคคะบุตตตนอ้ายจักบ่ยอมด้วยบุรสมพพานแห่งพระยาทัมมิกะราดเจ้าแล จิงให้อาดยาพระอุปปะละคำถุงลงไปบังกอกแท้แล เจ้าจิงวิวาดใส่ความเจ้าพระยาละครบังมุกแลสะกลละคอรหนองละหานด้วยใจเคียดแท้ดังนั้น ฝ่ายตนผู้พี่จิงได้นั่งอยู่เป็นใหย่ในเวียงแก้วพระมะหาธาดตุเจ้าพระนมบุรมมะเจดีหัวอกพระพุทธะเจ้าแท้ดีหลีแล ว่าอั้นแล้วสาสสะนาบ้านเมืองจักเกิดโกละหนวุ่นวายยิ่งนัก พระยาทัง ๓ ก็มาวิวาดแลจักลบเลวกันแท้ดังนั้น ตนอ้ายเฮวตนน้อง ตนน้องเฮวตนอ้าย เจ้าเลวข้อย ไพ่เลวขุร พระยาเลวท้าว เพียเลวกวาน ผู้น้อยเลวผู้ใหย่ หลานเลวปู่ ลูกเลวพ่อ สิดเลวคู คะหัดเลวสังฆะ...

ฟ้องเจ้าเมืองทั้งสาม

พ.ศ. ๒๔๒๒ ปีเถาะ ท้าวอุปละเดินทางลงกรุงเทพฯ เขียนคำร้องทุกข์กราบทูลสมเด็จพระเจ้าบรมวงษ์เธอ เจ้าฟ้ามหามาลา กรมพระยาบำราบปรปักษ์ สำเร็จราชการกรมมหาดไทย ว่าเจ้าเมืองกรมการเมืองมุกดาหาร นครพนม สกลนคร ขัดเอาท้าวเพี้ยตัวเลกข้าพระธาตุพนมไม่ให้มาซ่อมแซมปฏิสังขรณ์พระธาตุพนม เจ้าเมืองกรมการ ๓ เมืองเก็บเงินส่วยข้าวถังกับตัวเลกข้าพระธาตุพนมหรือพระเจ้าทาษพนมทุกปีไม่ขาด เมื่อร้องทุกข์แล้วสมเด็จฯ เจ้าฟ้ามหามาลาฯ โปรดฯ แต่งตั้งท้าวอุปละเป็นพระพิทักษ์เจดีย์นายกองข้าพระธาตุพนมเพื่อให้อำนาจปกครองเต็มที่

เป็นพระพิทักษ์เจดีย์

พ.ศ. ๒๔๒๓ สมเด็จฯ เจ้าฟ้ามหามาลาฯ มีท้องตราถึงเจ้าเมืองมุกดาหารและนครพนมว่า ...ด้วยท้าวอุปละ (ถง) ท้าวเพี้ยข้าพระธาตุพนมลงไปทำเรื่องราวกล่าวโทษเจ้าเมืองมุกดาหารเจ้าเมืองนครพนมว่า กดขี่ข่มเหงกะเกณฑ์ใช้สอยถึงปีก็เก็บเอาข้าวเปลือกไปเป็นอาณาประโยชน์ตัวเลกข้าพระธาตุพนมได้รับความเดือดร้อน ความทั้งนี้จะเท็จจริงอย่างไรไม่แจ้งแต่ท้าวอุปละกับครอบครัวตัวเลกรายนี้ก็ปรนนิบัติรักษาพระอารามเจดีย์พระธาตุพนมมาช้านานหลายเจ้าเมืองแล้ว ถ้าจะไม่ตั้งเป็นหมวดเป็นกองไว้ท้าวเพี้ยตัวเลกข้าพระธาตุจะพากันโจทย์ไปอยู่ต่างบ้านต่างเมือง เลกข้าพระธาตุพนมก็จะร่วงโรยเบาบางลงจะเสียไพร่พลเมือง การปฏิสังขรณ์วัดวาอารามก็ไม่เป็นที่รุ่งเรืองขึ้นเหมือนแต่ก่อน พระจันทรสุริยวงษ์พระพนมนครานุรักษ์กรมการก็พลอยเสียชื่อเสียงไป หัวเมืองทั้งปวงก็จะว่ากล่าวติเตียนไปต่าง ๆ หาควรไม่ จึงให้ตั้งท้าวอุปละเป็นพระพิทักษ์เจดีย์นายกองควบคุมท้าวเพี้ยสำมะโนครัวตัวเลกญาติพี่น้องในหมวดท้าวอุปละ เป็นกองขึ้นเมืองมุกดาหารเมืองนครพนมแผนกหนึ่ง เป็นคนชรา ๘๔ พิการ ๔๘ ท้าว ๑๓ เพี้ย ๑๑๔ พระ ๔ หลวง ๒๖ เสมียน ๔ ทนาย ๙ รวม ๑๗๐ คน ชายฉกรรจ์ ๕๗๙ โสด ๔๕ ทาส ๖๔ รวม ๖๘๘ ครัว ชายหญิง ๑,๗๓๘ รวม ๒,๗๒๘ คน และให้พระพิทักษ์เจดีย์นายกองฟังบังคับบัญชาพระจันทรสุริยวงษ์เจ้าเมืองมุกดาหาร พระพนมนครานุรักษ์เจ้าเมืองนครพนมแต่ที่ชอบด้วยราชการ...

กองขึ้นเมืองมุกดาหารและนครพนม

แบบแผนปกครองสยามต่อหัวเมืองลาวจัดหมู่บ้านมีนายหมู่เป็นหัวหน้า หลายหมู่บ้านเป็นหมวดมีนายหมวดเป็นหัวหน้า หลายหมวดเรียกกองมีนายกองเป็นหัวหน้า มุกดาหารมีกองนอกกองส่วยรวม ๔ กอง กองนอก ๑ กองส่วย ๓ ธาตุพนมมีฐานะเป็นกองนอกเรียกกองข้าพระธาตุพนม ไม่ขึ้นมุกดาหารโดยตรงแต่อยู่ในความดูแลมุกดาหารและนครพนมร่วมกัน เนื่องจากแดนเมืองทั้ง ๒ แบ่งกันที่หน้าพระธาตุพนม หัวหน้ากองบรรดาศักดิ์พระพิทักษ์เจดีย์ ปลัดกองบรรดาศักดิ์หลวงโพธิ์สาราช พลเมืองเป็นเลกข้าพระเว้นไม่เสียส่วย แต่ถูกเกณฑ์อิฐ หิน ปูน ทราย แรงงาน สำหรับบูรณะปฏิสังขรณ์พระธาตุพนม อยู่เวรยามถวายข้าวปลาอาหารดอกไม้ธูปเทียนบรรเลงดนตรีถวายพระธาตุพนม ถูกยกเลิกปลาย ร. ๕ อีก ๓ กองคือกองบ้านไผ่อยู่เขตเมืองชุมพร (จำพอนแก้งกอก) แขวงสุวรรณเขต นายกองบรรดาศักดิ์หลวงสุริยวงษาส่งส่วยหมากแหน่ง (ผลเร่ว) ปีละ ๑๐ หาบหลวง กองบ้านผึ่งแดดเป็นหมู่บ้านใหญ่ใน ลาว นายกองส่วยบรรดาศักดิ์ท้าวโพธิสารส่งส่วยหมากแหน่งปีละ ๑๔ หาบหลวง และกองส่วยบ้านโคก แขวงสุวรรณเขต นายกองส่วยบรรดาศักดิ์พระรัษฎากรบริรักษ์ ปลัดกองบรรดาศักดิ์หลวงพิทักษ์สุนทร

พี่น้องบุตรธิดา

พระพิทักษ์เจดีย์ (ถง) มีพี่น้อง ๗ ท่านคือพระพิทักษ์เจดีย์ (ถง) หรือท้าวสุวันนะคำถง, ท้าวไซยะเสน (เหลา) หรือท้าวสุวันนะคำเหลา, เพี้ยไซยะบุตร (ลือ) หรือท้าวสุวันนะคำลือ, นางแดง, นางสุเทพา, นางปะทุมวะดี, นางหล่า มีภริยาปรากฏนาม ๒ ท่านคือนางพิทักษ์เจดีย์ (รัตนะจันทร์) กับยาแม่แก้วบัวพา มีบุตรธิดา ๖ ท่านคือพระพิทักษ์เจดีย์ (สุวันนะคำแก่น), พระพิทักษ์เจดีย์ (เทพพระสี), ท้าวเทพพระนม, นางเทพสวัสดิ์, นางเทพทุมมา, นางคำอ้วน

อนิจกรรม

ป่วยถึงแก่กรรมที่กรุงเทพฯ พ.ศ. ๒๔๒๒ (๒๓) ก่อนปฏิรูปการปกครองหัวเมืองลาวเป็นมณฑลเทศาภิบาลใน พ.ศ. ๒๔๔๔ ด้วยเหตุไปฟ้องร้องเจ้าเมืองนครพนม มุกดาหาร สกลนคร เรื่องแย่งชิงข้าเลขพระธาตุพนม แม้รับโปรดเกล้าฯ เป็นนายกองแต่ไม่ได้เดินทางกลับว่าราชการธาตุพนมเพราะถึงแก่กรรมก่อน พื้นเมืองพระนมระบุไม่ได้ส่งร่างกลับธาตุพนมแต่พระราชทานเพลิงอยู่กรุงเทพฯ ท้าวโพธิสารเชิญอัฐิบรรจุธาตุทิศเหนือกำแพงแก้วธาตุพนมร่วมกับเจ้านายอื่น ต่อมารกร้าง พ.ศ. ๒๕๑๘ พระธาตุพนมถล่มจึงรื้อธาตุพังออกเหลือเพียงธาตุเจ้าราชครูหลวงโพนสะเม็ก

นามานุสรณ์

รองอำมาตย์เอก หลวงพิทักษ์พนมเขต (สีห์ จันทรสาขา) นายอำเภอธาตุพนมคนแรกตั้งสถานศึกษาประจำธาตุพนมคือโรงเรียนบ้านธาตุพนม (พิทักษ์วิทยา) (Banthatpanom (Pitakwittaya)) คำว่าพิทักษ์มาจากราชทินนามพิทักษ์พนมซึ่งมาจากราชทินนามพระพิทักษ์เจดีย์ ก่อตั้ง ๑๗ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๗๖ หลังเปลี่ยนแปลงระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์เป็นประชาธิปไตย ๑ ปี ติดวัดหัวเวียงรังษี ริมฝั่งโขง หมู่ ๒ บ้านธาตุพนม ตำบลธาตุพนม อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม เปิดสอนระดับอนุบาลและประถมศึกษา รหัสโรงเรียน ๑๐ หลัก ๑๐๔๘๑๙๐๑๑๗ รหัส Smis ๘ หลัก ๔๘๐๑๐๑๒๑ รหัส Obec ๖ หลัก ๑๙๐๑๑๗


ก่อนหน้า พระพิทักษ์เจดีย์ (ถง รามางกูร) ถัดไป
ท้าวอุปละ (มุง รามางกูร)   นายกองข้าอุปัฏฐากพระธาตุพนม
หรือผู้ควบคุมท้าวเพี้ยตัวเลกข้าพระธาตุพนม
หรือนายกองบ้านธาตุพนม

  พระพิทักษ์เจดีย์ (แก่น รามางกูร)


อ้างอิง

  1. ประวิทย์ คำพรหม และคณะ, ประวัติอำเภอธาตุพนม: จัดพิมพ์โดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม, (กาฬสินธุ์: ประสารการพิมพ์, ๒๕๔๕), หน้า ๑๐๘.
  2. พระมหาดวง รามางกูร, พื้นเมืองพนม (ประวัติวงส์เจ้าเมืองธาตุพนม), (ม.ป.ท.: วัดบวรนิเวศวิหาร คณะแดงรังสี, ม.ป.ป.), ไม่ปรากฏหน้า (อัดสำเนา).
  3. ดูรายละเอียดใน สุรัตน์ วรางค์รัตน์ (บรรณาธิการ), ตำนานพงศาวดารเมืองสกลนคร ฉบับพระยาประจันตประเทศธานี (โง่นคำ พรหมสาขา ณ สกลนคร), (สกลนคร: ภาควิชาประวัติศาสตร์ วิทยาลัยครูสกลนคร, ๒๕๒๔).
  4. พระครูสิริปัญญาวุฒิ (ขุนละคร ขันตะ) (คัดลอก). คัมภีร์เรื่อง พื้นพระบาทใช้ชาติหรือพื้นครุธฮาช (พื้นพระยาธัมมิกราช). วัดศรีสุมังค์ บ้านนาถ่อนท่า ตำบลนาถ่อน อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม. เอกสารเขียนบนกระดาษ ๑ ฉบับ. อักษรธรรมลาว. อักษรลาวเดิม. ภาษาบาลี-ลาว. เส้นเขียน. ม.ป.ป. (ต้นฉบับ พ.ศ. ๒๔๔๙). ไม่ปรากฏเลขรหัส. ๒๓ ใบ ๖ หน้า. ไม่ปรากฏหมวด. หน้า ๓.
  5. พระมหาดวง รามางกูร, พื้นเมืองพนม (ประวัติวงส์เจ้าเมืองธาตุพนม), ไม่ปรากฏหน้า (อัดสำเนา).
  6. ประวิทย์ คำพรหม และคณะ, ประวัติอำเภอธาตุพนมː: จัดพิมพ์โดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม, หน้า ๑๐๘.
  7. หอจดหมายเหตุแห่งชาติ.เอกสาร ร. ๕ มท. เล่ม ๑๕ จ.ศ. ๑๒๔๐.
  8. พระครูสิริปัญญาวุฒิ (ขุนละคร ขันตะ) (คัดลอก). คัมภีร์เรื่อง พื้นพระบาทใช้ชาติหรือพื้นครุธฮาช (พื้นพระยาธัมมิกราช). หน้า ๓-๔.
  9. ประวิทย์ คำพรหม และคณะ, ประวัติอำเภอธาตุพนม: จัดพิมพ์โดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม, หน้า ๑๐๘.
  10. หอจดหมายเหตุแห่งชาติ. เอกสาร ร. ๕ รล. ตราน้อย เล่มที่ ๔ จ.ศ. ๑๒๔๒.
  11. ดูรายละเอียดใน ภูริภูมิ ชมภูนุช, "พัฒนาการของเมืองในแอ่งสกลนคร ระหว่าง พ.ศ. ๒๓๗๑ ถึง ๒๔๓๖", วิทยานิพนธ์อักษรศาสตร์มหาบัณฑิต, (บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยศิลปากร, ๒๕๔๙), หน้า ๙๕, ๒๓๗-๒๔๕.
  12. สุรจิตต์ จันทรสาขา, เมืองมุกดาหาร, (มุกดาหาร: ม.ป.พ., ๒๕๔๓), หน้า ๒๖.
  13. พระมหาดวง รามางกูร, พื้นเมืองพนม (ประวัติวงส์เจ้าเมืองธาตุพนม), ไม่ปรากฏหน้า (อัดสำเนา).
  14. เรื่องเดียวกัน.
  15. ประวิทย์ คำพรหม และคณะ, ประวัติอำเภอธาตุพนมː: จัดพิมพ์โดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม, หน้า ๑๐๘.
  16. สัมภาษณ์นางสาวจันเนา รามางกูร เรื่อง ที่ตั้งธาตุบรรจุอัฐิขุนโอกาส อาชีพค้าขาย อายุ ๙๐ ปี เมื่อ ๑ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๐.
  17. ดูรายละเอียดใน https://data.bopp-obec.info/emis/schooldata-view.php?School_ID=1048190117&Area_CODE=4801

พระพ, กษ, เจด, ถง, รามางก, พระพ, กษ, เจด, ถง, อด, ตนายกองข, าอ, ฏฐากพระธาต, พนม, หร, อผ, ควบค, มท, าวเพ, ยต, วเลกข, าพระธาต, พนม, หร, อนายกองบ, านธาต, พนมลำด, ๒๔๑๗, ๒๒, ๒๓, ในราชวงศ, เว, ยงจ, นทน, ปกครองธาต, พนมลำด, เด, มบรรดาศ, กด, าวอ, ปละควบค, มท, าวเพ, ยต,. phraphithksecdiy thng xditnaykxngkhaxuptthakphrathatuphnm hruxphukhwbkhumthawephiytwelkkhaphrathatuphnm hruxnaykxngbanthatuphnmladb 5 ph s 2417 22 23 inrachwngsewiyngcnthnpkkhrxngthatuphnmladb 7 edimbrrdaskdithawxuplakhwbkhumthawephiytwelkkhaphrathatuphnm 1 echuxsayrachwngsewiyngcnthnaelacapaskdi 2 rbbrrdaskdiphraphithksecdiykhnaerkkhxngthatuphnmcak r 5 rachthinnamnipraktinbrrdaskdiphraphithksecdiy aekw okhtrthrrm naykxngkhaphrathatuechingchumemuxngsklnkhrdwy 3 phraphithksecdiy thng ramangkur naykxngkhaxuptthakphrathatuphnm hruxhwhnaphukhwbkhumthawephiytwelkkhaphrathatuphnm hruxnaykxngbanthatuphnmkxnhna thawxupla mung ramangkur thdip phraphithksecdiy aekn ramangkur khxmulswnbukhkhlekid thatuphnmesiychiwit thatuphnmkhusmrs xadyanangrtnacnthraelaxadyanangaekwbwphasasna sasnaphuthth enuxha 1 prawti 1 1 fxngkrmkarmukdahar 1 2 wiwathphraxkhrbutr 1 3 fxngecaemuxngthngsam 1 4 epnphraphithksecdiy 1 5 kxngkhunemuxngmukdaharaelankhrphnm 2 phinxngbutrthida 3 xnickrrm 4 namanusrn 5 xangxingprawti aekikhphraphithksecdiy thng namedimthawsuwnnakhathnghruxthawkhathng phunemuxngphnmxxknamecaphraphiphkkhathunghruxyaphxphraphiphk nametmphunphrabathichchatirabuwa hlantn 1 misuxwaxuppalasuwnnakhathngktumaethmydwaecaphraphiphkecdisiparisdkhdttiyawngsa 4 epnbutrchayladbaerkaelabutrladb 2 khxngthawxupla mung hwhnaphukhwbkhumthawephiytwelkkhaphrathatuphnmkbnangcnthawadi epnhlanphraxupla khamn krmkar epnehlnphramhasurannthakbnangaekwxaiphthidaecaphraramrach ram khunoxkasthatuphnmkhnaerk 5 ph s 2417 ephiyxkhkhahachhruxthawxupla mung bidathungaekkrrm thawthngphubutreluxnepnthawxuplakhwbkhumthawephiytwelkkhaphrathatuphnmaethn thawephiytwelkkhaphrasmkhrtharachkarkhunmukdaharepnelkchkrrckhunihm 967 nkhrphnm 531 sklnkhr 227 rwm 1 775 khn thawxupla mung eknththawephiytwelkmaptisngkhrnphrathatuphnmecaemuxngkrmkaremuxngnkhrphnm mukdahar aelasklnkhrkhdkhwangimyxmsngihtamcarit 6 fxngkrmkarmukdahar aekikh ph s 2421 thawxuplatngbaneruxnxyubanthatuphnmkhnaepnhwhnahmwdelkkhaphrathatuphnmklawfxngkrmkarmukdaharlngkrungethph wa ekhtaednmukdahartxaednnkhrphnmhnaxngkhphrathatuphnmihmukdaharaelankhrphnmrksamikhaphrathatuphnmepnelkkhaphra ykewnimtxngekbswyaetmihnathiduaelrksaeknthsingkhxng echn xith pun thray krwd burnaptisngkhrnphrathatuphnm txma ph s 2415 thawxuplaeknthxith pun thxngkhaeplw narkkbtwelkephuxsxmaesmphrathatuphnm ecaemuxngmukdaharcacbtwcakhngtarang faykrungethph mithxngtraphrarachsihihxaaednglahruxxadyananghlaphisawthawxuplathuxkhunmathungphurksarachkaremuxngmukdahar waiherngaetngthawephiykrmkarphuihyrurachkarbanemuxngphatwthawxuplalngkrungethph phrxmxaaednglaodyerw caidihtralakarcharatdsinihaelwaekkn 7 wiwathphraxkhrbutr aekikh ph s 2422 thawxupla thng aelaphraxkhrbutr bunmi butrecaphraramrachprani sri sungmiskdiepnpuephraayathwdthawxuplaepnnxngsawtangmardaecaphraramrachprani sri wiwathknrunaerng phraxkhrbutrxyakepnkhunoxkasephraathawxuplaxayunxyaelaimichbutrkhunoxkas mieruxngfxngrxngknthungkrungethph phunphrabathichchatirabuodylaexiydwa phrayathmmikaradecatnmiburhnkckeskexaladsakummanecaphraxkkhkhabuttasuttasuwnnabunmi aelwatnnixadkwathawphrayathnghlaywadngni watnniaemnhlanaellukphrayaecaoxkadsassananakhrphramahathadtuecaphranmburrmmasththanwiesdaethdngnnael cingwaecaphraxuppalaekidtamhlngbihepnihyinkxngkhxynxyihyinewiyngphramahathadtuecaaelwadngnnaelwkmiaethdihliael thinixuppalaecakhathngkckmiicekhiydcingipfxngecaphrayahlwnglakhxr ckwakhwamihyxmknbiddwyekngburparamiaehngphrayathmmikarad cingihecathng 2 tnlngipemuxngbngkxkaelefaphrabadecasiwidkmiaethdngnn phraecaxkhkhabutttnxayckbyxmdwybursmphphanaehngphrayathmmikaradecaael cingihxadyaphraxuppalakhathunglngipbngkxkaethael ecacingwiwadiskhwamecaphrayalakhrbngmukaelsakllakhxrhnxnglahandwyicekhiydaethdngnn faytnphuphicingidnngxyuepnihyinewiyngaekwphramahathadtuecaphranmburmmaecdihwxkphraphuththaecaaethdihliael waxnaelwsassanabanemuxngckekidoklahnwunwayyingnk phrayathng 3 kmawiwadaelcklbelwknaethdngnn tnxayehwtnnxng tnnxngehwtnxay ecaelwkhxy iphelwkhur phrayaelwthaw ephiyelwkwan phunxyelwphuihy hlanelwpu lukelwphx sidelwkhu khahdelwsngkha 8 fxngecaemuxngthngsam aekikh ph s 2422 piethaa thawxuplaedinthanglngkrungethph ekhiynkharxngthukkhkrabthulsmedcphraecabrmwngsethx ecafamhamala krmphrayabarabprpks saercrachkarkrmmhadithy waecaemuxngkrmkaremuxngmukdahar nkhrphnm sklnkhr khdexathawephiytwelkkhaphrathatuphnmimihmasxmaesmptisngkhrnphrathatuphnm ecaemuxngkrmkar 3 emuxngekbenginswykhawthngkbtwelkkhaphrathatuphnmhruxphraecathasphnmthukpiimkhad emuxrxngthukkhaelwsmedc ecafamhamala oprd aetngtngthawxuplaepnphraphithksecdiynaykxngkhaphrathatuphnmephuxihxanacpkkhrxngetmthi 9 epnphraphithksecdiy aekikh ph s 2423 smedc ecafamhamala mithxngtrathungecaemuxngmukdaharaelankhrphnmwa dwythawxupla thng thawephiykhaphrathatuphnmlngipthaeruxngrawklawothsecaemuxngmukdaharecaemuxngnkhrphnmwa kdkhikhmehngkaeknthichsxythungpikekbexakhawepluxkipepnxanapraoychntwelkkhaphrathatuphnmidrbkhwameduxdrxn khwamthngnicaethccringxyangirimaecngaetthawxuplakbkhrxbkhrwtwelkraynikprnnibtirksaphraxaramecdiyphrathatuphnmmachananhlayecaemuxngaelw thacaimtngepnhmwdepnkxngiwthawephiytwelkkhaphrathatucaphaknocthyipxyutangbantangemuxng elkkhaphrathatuphnmkcarwngoryebabanglngcaesiyiphrphlemuxng karptisngkhrnwdwaxaramkimepnthirungeruxngkhunehmuxnaetkxn phracnthrsuriywngsphraphnmnkhranurkskrmkarkphlxyesiychuxesiyngip hwemuxngthngpwngkcawaklawtietiyniptang hakhwrim cungihtngthawxuplaepnphraphithksecdiynaykxngkhwbkhumthawephiysamaonkhrwtwelkyatiphinxnginhmwdthawxupla epnkxngkhunemuxngmukdaharemuxngnkhrphnmaephnkhnung epnkhnchra 84 phikar 48 thaw 13 ephiy 114 phra 4 hlwng 26 esmiyn 4 thnay 9 rwm 170 khn chaychkrrc 579 osd 45 thas 64 rwm 688 khrw chayhying 1 738 rwm 2 728 khn aelaihphraphithksecdiynaykxngfngbngkhbbychaphracnthrsuriywngsecaemuxngmukdahar phraphnmnkhranurksecaemuxngnkhrphnmaetthichxbdwyrachkar 10 kxngkhunemuxngmukdaharaelankhrphnm aekikh aebbaephnpkkhrxngsyamtxhwemuxnglawcdhmubanminayhmuepnhwhna hlayhmubanepnhmwdminayhmwdepnhwhna hlayhmwderiykkxngminaykxngepnhwhna mukdaharmikxngnxkkxngswyrwm 4 kxng kxngnxk 1 kxngswy 3 thatuphnmmithanaepnkxngnxkeriykkxngkhaphrathatuphnm imkhunmukdaharodytrngaetxyuinkhwamduaelmukdaharaelankhrphnmrwmkn enuxngcakaednemuxngthng 2 aebngknthihnaphrathatuphnm hwhnakxngbrrdaskdiphraphithksecdiy pldkxngbrrdaskdihlwngophthisarach phlemuxngepnelkkhaphraewnimesiyswy aetthukeknthxith hin pun thray aerngngan sahrbburnaptisngkhrnphrathatuphnm xyuewryamthwaykhawplaxahardxkimthupethiynbrrelngdntrithwayphrathatuphnm thukykelikplay r 5 11 xik 3 kxngkhuxkxngbaniphxyuekhtemuxngchumphr caphxnaekngkxk aekhwngsuwrrnekht naykxngbrrdaskdihlwngsuriywngsasngswyhmakaehnng phlerw pila 10 habhlwng kxngbanphungaeddepnhmubanihyin law naykxngswybrrdaskdithawophthisarsngswyhmakaehnngpila 14 habhlwng aelakxngswybanokhk aekhwngsuwrrnekht naykxngswybrrdaskdiphrarsdakrbrirks pldkxngbrrdaskdihlwngphithkssunthr 12 phinxngbutrthida aekikhphraphithksecdiy thng miphinxng 7 thankhuxphraphithksecdiy thng hruxthawsuwnnakhathng thawisyaesn ehla hruxthawsuwnnakhaehla ephiyisyabutr lux hruxthawsuwnnakhalux nangaedng nangsuethpha nangpathumwadi nanghla 13 miphriyapraktnam 2 thankhuxnangphithksecdiy rtnacnthr kbyaaemaekwbwpha mibutrthida 6 thankhuxphraphithksecdiy suwnnakhaaekn phraphithksecdiy ethphphrasi thawethphphranm nangethphswsdi nangethphthumma nangkhaxwn 14 xnickrrm aekikhpwythungaekkrrmthikrungethph ph s 2422 23 kxnptirupkarpkkhrxnghwemuxnglawepnmnthlethsaphibalin ph s 2444 dwyehtuipfxngrxngecaemuxngnkhrphnm mukdahar sklnkhr eruxngaeyngchingkhaelkhphrathatuphnm aemrboprdekla epnnaykxngaetimidedinthangklbwarachkarthatuphnmephraathungaekkrrmkxn 15 phunemuxngphranmrabuimidsngrangklbthatuphnmaetphrarachthanephlingxyukrungethph thawophthisarechiyxthibrrcuthatuthisehnuxkaaephngaekwthatuphnmrwmkbecanayxun txmarkrang ph s 2518 phrathatuphnmthlmcungruxthatuphngxxkehluxephiyngthatuecarachkhruhlwngophnsaemk 16 namanusrn aekikhrxngxamatyexk hlwngphithksphnmekht sih cnthrsakha nayxaephxthatuphnmkhnaerktngsthansuksapracathatuphnmkhuxorngeriynbanthatuphnm phithkswithya Banthatpanom Pitakwittaya khawaphithksmacakrachthinnamphithksphnmsungmacakrachthinnamphraphithksecdiy kxtng 17 singhakhm ph s 2476 hlngepliynaeplngrabxbsmburnayasiththirachyepnprachathipity 1 pi tidwdhwewiyngrngsi rimfngokhng hmu 2 banthatuphnm tablthatuphnm xaephxthatuphnm cnghwdnkhrphnm epidsxnradbxnubalaelaprathmsuksa rhsorngeriyn 10 hlk 1048190117 rhs Smis 8 hlk 48010121 rhs Obec 6 hlk 190117 17 kxnhna phraphithksecdiy thng ramangkur thdipthawxupla mung ramangkur naykxngkhaxuptthakphrathatuphnm hruxphukhwbkhumthawephiytwelkkhaphrathatuphnm hruxnaykxngbanthatuphnm phraphithksecdiy aekn ramangkur xangxing aekikh prawithy khaphrhm aelakhna prawtixaephxthatuphnm cdphimphodyxngkhkarbriharswncnghwdnkhrphnm kalsinthu prasarkarphimph 2545 hna 108 phramhadwng ramangkur phunemuxngphnm prawtiwngsecaemuxngthatuphnm m p th wdbwrniewswihar khnaaedngrngsi m p p imprakthna xdsaena duraylaexiydin surtn wrangkhrtn brrnathikar tananphngsawdaremuxngsklnkhr chbbphrayapracntpraethsthani ongnkha phrhmsakha n sklnkhr sklnkhr phakhwichaprawtisastr withyalykhrusklnkhr 2524 phrakhrusiripyyawuthi khunlakhr khnta khdlxk khmphireruxng phunphrabathichchatihruxphunkhruthhach phunphrayathmmikrach wdsrisumngkh bannathxntha tablnathxn xaephxthatuphnm cnghwdnkhrphnm exksarekhiynbnkradas 1 chbb xksrthrrmlaw xksrlawedim phasabali law esnekhiyn m p p tnchbb ph s 2449 impraktelkhrhs 23 ib 6 hna imprakthmwd hna 3 phramhadwng ramangkur phunemuxngphnm prawtiwngsecaemuxngthatuphnm imprakthna xdsaena prawithy khaphrhm aelakhna prawtixaephxthatuphnmː cdphimphodyxngkhkarbriharswncnghwdnkhrphnm hna 108 hxcdhmayehtuaehngchati exksar r 5 mth elm 15 c s 1240 phrakhrusiripyyawuthi khunlakhr khnta khdlxk khmphireruxng phunphrabathichchatihruxphunkhruthhach phunphrayathmmikrach hna 3 4 prawithy khaphrhm aelakhna prawtixaephxthatuphnm cdphimphodyxngkhkarbriharswncnghwdnkhrphnm hna 108 hxcdhmayehtuaehngchati exksar r 5 rl tranxy elmthi 4 c s 1242 duraylaexiydin phuriphumi chmphunuch phthnakarkhxngemuxnginaexngsklnkhr rahwang ph s 2371 thung 2436 withyaniphnthxksrsastrmhabnthit bnthitwithyaly mhawithyalysilpakr 2549 hna 95 237 245 surcitt cnthrsakha emuxngmukdahar mukdahar m p ph 2543 hna 26 phramhadwng ramangkur phunemuxngphnm prawtiwngsecaemuxngthatuphnm imprakthna xdsaena eruxngediywkn prawithy khaphrhm aelakhna prawtixaephxthatuphnmː cdphimphodyxngkhkarbriharswncnghwdnkhrphnm hna 108 smphasnnangsawcnena ramangkur eruxng thitngthatubrrcuxthikhunoxkas xachiphkhakhay xayu 90 pi emux 1 emsayn ph s 2550 duraylaexiydin https data bopp obec info emis schooldata view php School ID 1048190117 amp Area CODE 4801ekhathungcak https th wikipedia org w index php title phraphithksecdiy thng ramangkur amp oldid 9433916, wikipedia, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด,

บทความ

, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม