พระยาพิมพิสารราชา
พระยาพิมพิสารราชา หรือ เจ้าหลวงพิมพิสาร เป็นเจ้าผู้ครองนครแพร่ องค์ที่ 25 (องค์ที่ 4 แห่งราชวงศ์เทพวงศ์) ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ครองนครแพร่ต่อจากพระยาอินทวิไชยผู้เป็นราชมาตุลา
พระยาพิมพิสารราชา | |
---|---|
พระยานครแพร่ | |
ครองราชย์ | พ.ศ. 2390 — พ.ศ. 2429 |
ก่อนหน้า | พระยาอินทวิไชย |
ถัดไป | เจ้าพิริยเทพวงษ์ |
ภริยา | แม่เจ้าแก้วไหลมา แม่เจ้าธิดาเทวี แม่เจ้าคำใย้เทวี หม่อมจันทร์ |
พระบุตร | 5 พระองค์ |
ราชวงศ์ | ราชวงศ์เทพวงศ์ |
พระบิดา | พระยาวังขวา |
พระมารดา | แม่เจ้าปิ่นแก้ว |
เกิด | พ.ศ. 2356 |
อนิจกรรม | พ.ศ. 2429 |
เจ้าผู้ครองนครแพร่แห่ง ราชวงศ์เทพวงศ์ | |
---|---|
* | พระยาแสนซ้าย |
พระยาเทพวงศ์ | |
* | พระยาอินทวิไชย |
พระยาพิมพิสารราชา | |
เจ้าพิริยเทพวงษ์ | |
พระประวัติ
พระยาพิมสารราชา หรือ เจ้าหลวงพิมพิสาร มีนามเดิมว่าเจ้าพิมพิสาร เป็นโอรสของพระยาวังขวา (เฒ่า) กับแม่เจ้าปิ่นแก้ว น้องสาวของ พระยาแสนซ้าย เจ้าเมืองแพร่
เจ้าพิมพิสารได้รับราชการมีบรรดาศักดิ์เป็นพระยาราชวงศ์ เมื่อพระยาอินทวิไชยผู้เป็นราชมาตุลาถึงแก่อนิจกรรมในปี พ.ศ. 2390 พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงโปรดเกล้าฯ ตั้งเป็นพระยาแพร่ ขณะมีชันษาได้ 34 ปี เมื่อพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวขึ้นครองราชย์ พระยาพิมพิสารไม่ลงไปเข้าเฝ้า จึงไม่ได้รับพระราชทานนามใหม่ขึ้นเป็นเจ้าอย่างเจ้านครเชียงใหม่ เจ้านครลำพูน เจ้านครลำปาง และเจ้านครเมืองน่าน
พระยาพิมพิสาร ทรงเป็นเจ้าหลวงที่ปลูกฝังนิสัยเรื่องการประหยัด และการรู้จักประมาณตนแก่ชาวเมืองแพร่เป็นอย่างดี ดังมีเรื่องเล่ากันว่า หม้อน้ำที่ท่านตั้งไว้ข้างถนนสำหรับผู้สัญจรนั้น จะมีกระบวยใหญ่และกระบวยเล็กอย่างละ 1 อัน หากใครใช้กระบวยใหญ่ตักดื่มน้ำแล้ว เทน้ำที่เหลือทิ้ง หรือใช้กระบวยเล็กตักดื่มซ้ำเมื่อไม่อิ่ม ต่างก็โดนก๋งยิง (เป็นอาวุธที่ใช้ลูกหินขนาดเล็กเป็นกระสุนสามารถทำให้เจ็บตัวหรือเป็นแผลได้) ด้วยเหตุผลที่ว่าไม่รู้จักประมาณตนเอง หรือไม่ประหยัด นอกจากนี้เจ้าหลวงพิมพิสารยังมีกิจการค้าไม้สัก ทำรายได้เข้าเมืองแพร่นับหลายล้านบาทต่อปี ทำให้เศรษฐกิจในเมืองแพร่มีความต่อเนื่องและเป็นไปได้ดีและพระองค์ยังทรงบูรณะวัดหลวง เมืองแพร่ในปี พ.ศ. 2416
พระยาพิมพิสาร ถึงแก่อนิจกรรมเวลาบ่าย 5 โมง แรม 7 ค่ำ เดือน 11 ปีจอ พ.ศ. 2429 สิริชันษา 73 ปี
ราชโอรส-ธิดา
พระยาพิมพิสาร มีพระชายา และราชโอรส-ธิดา ดังนี้
- แม่เจ้าแก้วไหลมา (พบหลักฐานในแผ่นศิลา-จารึกที่วัดหลวง) แต่ไม่ปรากฏมีว่าราชบุตร ด้วยกันหรือไม่
- แม่เจ้าธิดาเทวี มีราชโอรส-ธิดา 4 พระองค์ คือ
- แม่เจ้าไข เสกสมรสกับ เจ้าชัยลังกา ไม่มีบุตร
- แม่เจ้าเบาะ สมรสกับ เจ้าหัวหน้า มีโอรส-ธิดา 2 คน
- 1.เจ้าฟองคำ สามีไม่ทราบนาม
- 2.เจ้าน้อยทวงศ์ สมรสกับแม่เจ้าขันคำ รสเข้ม (ไม่มีบุตร)
- แม่เจ้าอินทร์ลงเหลา เสกสมรสกับเจ้าหนานศรีทิ (เจ้านายเมืองน่าน) มีโอรส-ธิดา 3 คน
- 1.เจ้าศรีเมือง
- 2.แม่เจ้าฟอง บรรเลง สมรสกับนายหนานแสน บรรเลง โยมมารดา-บิดา พระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (ฟู อตฺตสิโว) อดีตเจ้าคณะตรวจการภาค 4 และ 5
- 3.แม่เจ้าแก้วเหลี่ยมเพชร
- เจ้าน้อยเทพวงศ์ ต่อมาคือ เจ้าพิริยเทพวงษ์ เจ้าผู้ครองนครแพร่องค์สุดท้าย
- แม่เจ้าคำใย้เทวี มีโอรส 1 พระองค์ คือ
- เจ้าสุริยะจางวาง (น้อยมหาอินทร์ สารศิริวงศ์) เจ้าสุริยะจางวางนครแพร่ เสกสมรส 4 ครั้ง
- สมรสครั้งที่1 กับแม่เจ้าสุชาดา (ไม่มีบุตร)
- สมรสครั้งที่2 กับหม่อมฟองแก้ว มีธิดา 1 คน คือ
- เจ้าบุญนำ วังซ้าย (สารศิริวงศ์)
- สมรสครั้งที่3 กับหม่อมเป็ง มีโอรส 1 คน คือ
- เจ้าน้อย สารศิริวงศ์
- สมรสครั้งที่4 กับหม่อมแก้ว มีโอรส 1 คน คือ
- เจ้าน้อยเป็ด สารศิริวงศ์
- หม่อมจันทร์ (พบชื่อในประวัติพญาพรหมโวหาร) ไม่ปรากฏว่ามีราชบุตรด้วยกันหรือไม่
พระอิสริยยศ
- พ.ศ. 2356 เจ้าพิมพิสาร
- ก่อนพ.ศ. 2390 พระยาราชวงศ์
- พ.ศ. 2390 - พ.ศ. 2429 พระยานครแพร่
อ้างอิง
- ↑ วรชาติ มีชูบท. เจ้านายฝ่ายเหนือและตำนานรักมะเมียะ. กรุงเทพฯ : สร้างสรรค์บุ๊คส์, 2556. 428 หน้า. หน้า 20. ISBN 978-616-220-054-0
- เจ้าพระยาทิพากรวงศ์ (ขำ บุนนาค). พระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ ๑-๔. กรุงเทพฯ : ศรีปัญญา, 2555. 2,136 หน้า. หน้า 1559. ISBN 978-616-7146-30-0
- ↑ "เจ้าหลวงพิมพิสาร (พิมสาร หรือขาเค)". วังฟ่อนดอตคอม. 18 สิงหาคม 2011. สืบค้นเมื่อ 9 กุมภาพันธ์ 2559. Check date values in:
|accessdate=
(help)
ก่อนหน้า | พระยาพิมพิสารราชา | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
พระยาอินทวิไชย | เจ้าผู้ครองนครแพร่ (พ.ศ. 2390 — พ.ศ. 2429) | เจ้าพิริยเทพวงษ์ |