มงกุฎทิวดอร์
มงกุฎทิวดอร์ (อังกฤษ: Tudor Crown) หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า มงกุฎพระเจ้าเฮนรีที่ 8 (อังกฤษ: Henri VIII's Crown) เป็นมงกุฎองค์หลักซึ่งใช้ทรงโดยพระมหากษัตริย์ของอังกฤษและสหราชอาณาจักรช่วงรัชสมัยของพระเจ้าเฮนรีที่ 8 จนถึงช่วงสงครามกลางเมืองในปีค.ศ. 1649 โดยมงกุฎองค์นี้ได้ถูกขนานนามโดยนักประวัติศาสตร์ศิลปะ เซอร์รอย สตรอง ว่าเป็น"ผลงานชิ้นเอกของช่างศิลป์ราลสำนักสมัยทิวดอร์" และรูปร่างลักษณะของมงกุฎก็ได้รับการเปรียบเทียบกับมงกุฎแห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์
มงกุฎทิวดอร์ Tudor Crown | |
---|---|
มงกุฎทิวดอร์ ปรากฎอยู่ในพระบรมสาทิสลักษณ์ของพระเจ้าชาลส์ที่ 1 | |
ตราสัญลักษณ์ | |
รายละเอียด | |
สำหรับ | อังกฤษ |
ผลิตเมื่อ | ก่อน ค.ศ. 1521 |
ทำลายเมื่อ | ค.ศ. 1649 |
ผู้ครอบครอง | พระมหากษัตริย์อังกฤษ |
น้ำหนักสุทธิ | 3.3 กิโลกรัม (7 ปอนด์ 6 ออนซ์) |
จำนวนโค้ง | 2 โค้ง |
วัตถุดิบหลัก | ทองคำ |
วัสดุซับใน | ผ้ากำมะหยี่ |
อัญมณีสำคัญ | ทับทิมเจ้าชายดำ เพชร มรกต ทับทิม แซฟไฟร์ ไข่มุก |
องค์ถัดไป | มงกุฎเซนต์เอ็ดเวิร์ด |
ประวัติ
มงกุฎองค์นี้ไม่ปรากฎหลักฐานปีที่จัดสร้างขึ้น แต่สันนิษฐานว่าพระเจ้าเฮนรีที่ 7 หรือพระราชโอรส พระเจ้าเฮนรีที่ 8 ได้ทรงให้จัดสร้างขึ้น โดยพบหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษรในสมุดจดบันทึกเครื่องเพชรของพระเจ้าเฮนรีที่ 8 ในปีค.ศ. 1521 โดยเรียกมงกุฎองค์นี้ว่า "มงกุฎทองคำ" โดยมีลักษณะงดงามและประณีตมากกว่ามงกุฎจากยุคกลางที่ทรงใช้มาก่อน โดยมงกุฎองค์นี้ประกอบด้วยเส้นโค้ง 2 เส้นตัดกัน มีกางเขนแพตตีจำนวน 5 ตำแหน่ง และเฟลอ-เดอ-ลีสจำนวน 5 ตำแหน่ง ซึ่งประดับประดาด้วยรัตนชาติได้แก่ เพชร มรกต ทับทิม แซฟไฟร์ ไข่มุก และในช่วงสมัยหนึ่งได้ประดับยอดด้วยทับทิมเจ้าชายดำ บริเวณเฟลอ-เดอ-ลีสตำแหน่งกึ่งกลางของมงกุฎมีภาพเขียนพระเยซู พระนางมารีย์พรหมจารี และนักบุญจอร์จ เพื่อที่จะใช้แสดงถึงพระราชอำนาจของพระเจ้าเฮนรีที่ 8 ที่ทรงเป็นประมุขแห่งคริสตจักรแห่งอังกฤษ นอกจากนี้ยังพบบันทึกของมงกุฎองค์นี้อีกหลายครั้งในเอกสารปีค.ศ. 1532, 1550, 1574 และ 1597
ชะตากรรม
หลังจากการสวรรคตของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 1 ซึ่งถือเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์สุดท้ายของราชวงศ์ทิวดอร์ ซึ่งราชวงศ์สจวตได้เข้ามามีบทบาทในราชบัลลังก์ของอังกฤษ โดยทั้งรัชสมัยของพระเจ้าเจมส์ที่ 1 และพระเจ้าชาลส์ที่ 1 ก็พบหลักฐานว่าได้ทรงมงกุฎองค์นี้เช่นกัน จนกระทั่งถึงช่วงสงครามกลางเมืองอังกฤษ ซึ่งทำมาซึ่งการปลงพระชนม์ของพระเจ้าชาลส์ที่ 1 ในปีค.ศ. 1649 มงกุฎองค์นี้ได้ถูกทำลายและถอดชิ้นส่วนอัญมณีออกขายเป็นมูลค่าประมาณ 1,100 ปอนด์ โดยจากหลักฐานบันทึกทรัพย์สินของพระมหากษัตริย์ที่ถูกนำมาขายนั้นพบว่ามงกุฎองค์นี้มีน้ำหนักถึง 3.3 กิโลกรัม (7 ปอนด์ 6 ออนซ์)
ตราอาร์ม
ในระหว่างช่วงปีค.ศ. 1902 ถึง 1953 ภาพวาดมงกุฎทิวดอร์ได้ถูกนำมาใช้ในตราอาร์ม และตราสัญลักษณ์ต่างๆ ในประเทศต่างๆ ที่เป็นราชอาณาจักรเครือจักรภพ เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของพระมหากษัตริย์ และพระราชอำนาจของพระองค์
มงกุฎองค์ใหม่
ในปีค.ศ. 2012 ได้มีการจัดสร้างมงกุฎทิวดอร์องค์จำลองโดยอาศัยรูปแบบจากงานวิจัยของ Historic Royal Palaces โดยให้แฮรี คอลลินส์ อดีตนายช่างอัญมณีประจำราชสำนัก โดยใช้เทคนิคต่างๆ ในการขึ้นงานโลหะเหมือนในสมัยทิวดอร์ โดยใช้อัญมณี และไข่มุกทั้งสิ้นกว่า 344 เม็ดในการประดับ โดยได้จัดแสดงอยู่ ณ Royal Chapel ที่พระราชวังแฮมป์ตันคอร์ต
หมายเหตุ
- Black Prince's Ruby was located at the top of the arches and surmounted by a cross.
อ้างอิง
- Sir Roy Strong (19 November 1989). "A Vanished Realm: The Lost Treasures of Britain". The Sunday Times Magazine. p. 33.
- Lucy Gent; Nigel Llewellyn (1990). Renaissance Bodies: The Human Figure in English Culture, c. 1540–1660. Reaktion Books. p. 14. ISBN 978-0-948462-08-5.
- John Plowfeld (1521). "King Henry VIII's Jewel Book". ใน Edward Trollope (บ.ก.). Associated Architectural Societies Reports and Papers. 17. James Williamson. pp. 158–159.
- ↑ Jennifer Loach; G. W. Bernard; Penry Williams (1999). Edward VI. Yale University Press. p. 36. ISBN 978-0-300-07992-0.
- Collins, p. 12.
- Edward Francis Twining (1960). A History of the Crown Jewels of Europe. Batsford. p. 139.
- Arthur Jefferies Collins (1955). Jewels and Plate of Queen Elizabeth I: The Inventory of 1574. Trustees of the British Museum. p. 266.
- Oliver Millar, บ.ก. (1972). The Inventories and Valuations of the King's Goods, 1649–51. Walpole Society. p. 43. ISBN 095023740X.
- "Henry VIII's Crown at Hampton Court Palace". Historic Royal Palaces. สืบค้นเมื่อ 15 December 2015.