วัดท่าไชยศิริ
วัดท่าไชยศิริ เป็นวัดในพระพุทธศาสนาเถรวาท สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ที่ดำเนินกิจกรรมทางพระพุทธศาสนา บ้านสมอพลือ ถนนเพชรเกษม หมู่ที่ ๑ ตำบลสมอพลือ อำเภอบ้านลาด จังหวัดเพชรบุรี
วัดท่าไชยศิริ | |
---|---|
ชื่อสามัญ | วัดท่าไชยศิริ |
ที่ตั้ง | ถนนเพชรเกษม สมอพลือ บ้านลาด เพชรบุรี |
ประเภท | วัดราษฎร์ |
นิกาย | เถรวาท |
เจ้าอาวาส | พระครูเกษมวัชรดิตถ์ (เกษม ฐิติสมฺปนฺโน) |
กิจกรรม | ศาสนสถานในพระพุทธศาสนาที่มีกิจกรรมเชิงพุทธตลอดปี/ศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ /บรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อนปีละไม่ต่ำกว่า ๕๐ รูป/พิธีอาบน้ำคืนวันเพ็ญ (ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๒) |
ส่วนหนึ่งของสารานุกรมพระพุทธศาสนา |
ที่ตั้ง
วัดท่าไชยศิริ ตั้งอยู่หมู่ที่ ๑ ถนนเพชรเกษม ตำบลสมอพลือ อำเภอบ้านลาด จังหวัดเพชรบุรี มีเนื้อที่ ๒๑ ไร่ ๑๘ ตารางวา ที่ธรณีสงฆ์ ๘ ไร่ ๓ งาน ๔๖ ตารางวา รวม ๒๙ ไร่ ๓ งาน ๖๔ ตารางวา อาณาเขต
- ทิศเหนือจดแม่น้ำเพชรบุรี
- ทิศใต้ และทิศตะวันตกติดที่ดินเอกชน
- ทิศตะวันออกติดถนนเพชรเกษม
ประวัติ
วัดท่าไชยศิริ (วัดใต้) สร้างในปีใดไม่ปรากฏปีที่สร้างแต่ตามทะเบียนวัดสำนักงานศึกษาธิการอำเภอบ้านลาดจังหวัดเพชรบุรี มีวิสุงคามสีมา๑๕ หน้า๕๑๐ บันทึกไว้ว่าได้รับพระราชวิสุงคามสีมาเมื่อ พ.ศ. ๑๙๑๐ ตรงกับรัชสมัยแผ่นดินของพระมหาธรรมราชาที่ ๑ (พญาลิไท) แห่งกรุงสุโขทัย และได้รับวิสุงคามสีมาครั้งที่ ๒ ในปี พ.ศ. ๒๒๒๕ สมัยแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราชกรุงศรีอยุธยา และได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาอีกครั้งหนึ่งพ.ศ. ๒๔๔๕ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ตรงกับสมัยสมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระยาวชิรญาณวโรรส สมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ ๑๐
เจ้าอาวาส
นามเจ้าอาวาสวัดท่าไชยศิริเท่าที่สืบได้
- พระอธิการเชียง -
- พระอธิการบุญมา -
- พระอธิการน้อย -
- พระอธิการต่าย -
- พระอธิการทอง -
- พระอธิการพุ่ม -
- พระอธิการมุ้ย -
- พระครูญาณสิริ (เหลื่อม อินฺทสิริ) (พ.ศ. ๒๔๕๓ - ๒๕๐๕)
- พระครูสิริวชิรธรรม (เทียบ จารุวณฺโณ) (พ.ศ. ๒๕๐๕ - ๒๕๓๒)
- พระสมุห์ชื่น รตนปญฺโญ (พ.ศ. ๒๕๓๒ - ๒๕๓๙)
- พระครูธรรมธรสิรภพ ปุญฺญโชโต (พ.ศ. ๒๕๓๙ - ๒๕๕๑)
- พระครูเกษมวัชรดิตถ์ (เกษม ฐิติสมฺปนฺโน) (พ.ศ. ๒๕๕๑ - ปัจจุบัน)
ศาสนสถาน-เสนาสนะ
อาคารเสนาสนะ ประกอบด้วย
- อุโบสถ สร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๒๒๕
- ศาลาการเปรียญ กว้าง ๙ เมตร ยาว ๑๓ เมตร เป็นอาคารครึ่งตึกครึ่งไม้ทรงไทย ๒ ชั้น
- หอสวดมนต์ เป็นอาคารไม้ทรงไทย
- กุฏิสงฆ์ เป็นอาคารไม้เรือนแถว ล้อมรอบหอฉันทั้งสี่ด้าน
- ศาลาบำเพ็ญกุศล จำนวน ๑หลัง สร้างด้วยไม้
ปูชนีวัตถุ
- พระพุทธรูปสำคัญของวัดท่าไชยศิริ คือ พระประธานในอุโบสถ เป็นพระยืนปางห้ามพยาธิ (ห้ามโรคภัย) หรือปางประทานพร ศิลปะสมัยลพบุรี อายุ ๗๐๐ กว่าปี ขนาดสูง ๒.๗๕ เมตร ซึ่งเป็นของแปลกไม่เหมือนวัดทั่วไปเพราะตามปกติพระประธานในอุโบสถ หรือวิหารจะเป็นพระอิริยาบถ นั่งปางที่นิยมมาก คือ ปางมารวิชัย พระประธานยืนนี้ พบว่ามีเพียง ๓ แห่ง คือ ๑.พระประธานในอุโบสถวัดท่าไชยศิริ จังหวัดเพชรบุรี ศิลปะสมัยลพบุรี ๒.พระประธานในอุโบสถวัดเสาธงทอง จังหวัดลพบุริศิลปะสมัยอยุธยาตอนต้น ๓.พระประธานในอุโบสถวัดเครือวัลย์วรวิหาร กรุงเทพมหานคร ศิลปะสมัยสุโขทัย พระประธานในอุโบสถวัดท่าไชยศิริ “ เป็นพระยืนสวมชฎาเทริดพระกรรณแบบพระพุทธรูปยอดป้านแบบพระลพบุรีทั่วไป เป็นพระยืนปางห้ามพยาธิ คลุมแบบพระร่วง ไม่มีสังฆาฎิเข้าใจว่าจะเป็นสมัยลพบุรีรุ่นหลัง (ปางห้ามญาติ มีลักษณะของพระพุทธรูปยกพระหัตถ์ ๒ ข้าง ทรงเครื่อง,ปางห้ามสมุทร มีลักษณะของพระพุทธรูปยกพระหัตถ์ ๒ ข้าง ไม่ทรงเครื่องห่ม) ด้านหลังพระประธานยืนนี้มีพระพุทธรูป สมัยลพบุรี ทำด้วยหินประทับบนฐานเตี้ย ๆ อยู่ติดผนัง ใบเสมาของวัดเป็นหินทรายแดงขนาดเล็ก มีแนวสันกลางไม่มีลวดลายอะไร ขนาด ๔๖ x ๒๙ x ๗ ซม. เป็นเสมาคู่พระพักตร์ของพระประธานองค์นี้แป้น และโอษฐ์สวยมาก พระขนงไม่โก่งมากนัก เป็นพระโลหะเป็นซุ้มเรือนแก้วอยู่เบื้องหลัง ตำนานของวัดนี้จะมีความจริงประการใด ยากที่จะค้นหลักฐานได้ เพราะตรวจดูโบราณวัตถุของวัด เห็นพระเป็นแบบลพบุรีรุ่นหลังอยู่ในอุโบสถถึงสององค์ใบเสมาก็เป็นของเก่า ชื่อนี้อาจจะมีก่อนพม่ารุกรานก็ได้”
วัดท่าไชยศิริมีเจดีย์โบราณสมัยอยุธยา และพระพุทธรูปอื่นๆ
- ท่าน้ำวัดท่าไชยศิริ มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ ๒ ประการ คือ
๑. เป็นที่ตักน้ำใช้ในพิธีบรมราชาภิเษก ๒. เป็นที่ตักน้ำสรง น้ำเสวย ๓ รัชกาล (รัชกาลที่ ๔ รัชกาลที่ ๕ รัชกาลที่ ๖) การใช้น้ำเพชรในพระราชพิธีต่างๆ นั้น คงจะใช้กันมานาน แต่ยังหาหลักฐานไม่ได้ว่าเริ่มมีมาตั้งแต่เมื่อใด แต่ตามธรรมเนียมพระราชพิธีของไทยนั้น นิยมใช้น้ำศักดิ์สิทธิ์จากสระทั้ง ๔ และแม่น้ำทั้ง ๕ นั้น รวมแม่น้ำเพชรอยู่ด้วย คือ แม่น้ำป่าสัก แม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำแม่กลอง แม่น้ำบางปะกง และแม่น้ำเพชรบุรี สำหรับแม่น้ำเพชรบุรีนั้น จะเจาะจงตักที่ท่าน้ำวัดท่าไชยศิริ และนำไปประกอบ พิธีที่วัดมหาธาตุก่อนส่งเข้าไปประกอบพิธีที่กรุงเทพฯ ต่อไป (สระน้ำศักดิ์สิทธิ์ ทั้ง ๔ อยู่ในเขตตำบลสระแก้ว จังหวัดสุพรรณบุรี พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เคยเสด็จมาทอดพระเนตรสระศักดิ์สิทธิ์ที่ตำบลนี้ จึงเป็นเหตุให้เปลี่ยนชื่อหมู่บ้านเป็น “บ้านท่าเสด็จ” สระศักดิ์สิทธิ์เดิมพบเพียง ๔ สระ คือ สระแก้ว สระคา สระยมนา สระเกษ ต่อมาพบอีก ๒ สระ คือ สระอมฤต และสระอมฤต และทรงพระราชหัตถเลขาไว้ว่า “แต่เหตุไฉนที่สระนี้ขลังนักไม่ปรากฏ คงจะมีตัวครูบาที่สำคัญเป็นอันมาก น้ำในสระก็ไม่ใช้ ปลาในสระก็ไม่กิน สระมีหญ้าขึ้นรกเต็มไปหมดมีจระเข้อาศัยอยู่ทั้งสี่สระน้ำสระคา สระยมนาไม่สู้สะอาดมีสีแดง แต่น้ำสระเกษ สระแก้วใสสะอาด”) น้ำในสระทั้งหมดนี้ใช้ในพระราชพิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยาและพระราช พิธีสระน้ำมูรธาภิเษกตามลัทธิพราหมณ์ กรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนจัดตั้งสระน้ำศักดิ์สิทธิ์ เป็นโบราณสถานไว้แต่น้ำที่ใช้ในงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ที่หาหลักฐานได้ เป็นสารตราของทางราชการสั่งให้เจ้าเมืองเพชรบุรี ตักน้ำเพชรไปใช้ในพิธีบรมราชาภิเษก มีตั้งแต่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นต้นมาจนถึงรัชกาลปัจจุบันก็ใช้น้ำเพชร และประกอบพิธีตักที่ท่าน้ำวัดท่าไชยศิริทั้งสิ้น โดยเฉพาะ พระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษาครบ ๕,๖,๗รอบ(๑๔ต.ค.๒๕๕๔) และพระราชพิธีครองราชย์ ๖๐ พรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ ๙ ได้มีพิธีทำน้ำศักดิ์สิทธิ์เช่นกัน ผู้เขียนได้ เข้าร่วมเป็น เจ้าหน้าที่ทำพิธีพลีกรรมตักน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่ท่าน้ำวัดท่าไชยด้วย โดยมีท่านผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน มีขบวนแห่น้ำเสกน้ำศักดิ์สิทธิ์แล้ว เพื่อนำเข้าสู่พิธีต่อไป
- ข้อสำคัญประการที่สอง แม่น้ำเพชรบุรี เป็นน้ำสรง น้ำเสวยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และมาเลิกใช้ในรัชกาลที่ ๖ โดยเฉพาะรัชกาลที่ ๕ ทรงโปรดแม่น้ำเพชรมาก เพราะเป็นน้ำใสมีรสจืดสนิทดี มีรับสั่งให้พระยาเพชรบุรี จัดส่งน้ำเพชรไปถวายทุกเดือนและจะมาตักน้ำที่ท่าวัดท่าไชยศิริทั้งสิ้น
นอกจากนี้ ยังมีบุคคลสำคัญในรัชกาลสมัยนั้น ใช้น้ำเพชรที่วัดท่าไชยศิริเป็นประจำอีก ๒ ท่าน คือ สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุญนาค) อีกท่านหนึ่ง คือ เจ้าพระยาภานุวงศ์มหาโกษาธิบดี (ท้วม บุญนาค) และยังใช้รับรองคณะทูตานุทูตจากต่างประเทศด้วย
แหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์
๑.พระพุทธศิริโรจน์ไชยมงคล (พระร่วงวัดท่าไชยฯ) พระประธานในอุโบสถ อายุ ๗๐๐ กว่าปี มีพระพุทธลัษณะสวยงามมากที่สุดเป็นพระพุทธรูปปางห้ามพยาธิ (ห้ามโรคภัยไข้เจ็บ) และเป็นอุโบสถมหาอุต
๒.ท่าน้ำศักดิ์สิทธิ์วัดท่าไชยศิริ เป็นแม่น้ำสำคัญของเพชรบุรี และของประเทศ
๓. พระบรมราชนุสรณ์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มาคุมสอบ Entrance นิสิตที่มหาวิทยาลัยรัชกาลที่ ๕
๔. “หมู่บ้านด่านสิงขร” สันนิษฐานว่าหมู่บ้านถูกสร้างขึ้นโดยคนไทยและทหารไทยที่หนีทัพพม่ามาจากด่านสิงขรณ์ จังหวัดประจวบฯ เมื่อต่อสู้กับพม่าจนได้รับชัยชนะบางส่วนก็ลงหลักปักฐานจนกลายเป็นส่วนหนึ่งของวัด
๕.พระบรมสารีริกธาตุ สมเด็จสังฆราชประทานให้แก่วัดท่าไชยศิริ ปลายปี ๒๕๔๙ ตั้งอยู่บนหอสวดมนต์เรือนไทยในวัด
๖.รูปเหมือนอดีตเจ้าอาวาส ๒ องค์ พระครูญาณศิริ (เหลื่อม อินฺทสิริ) และพระครูสิริวัชรธรรม (เทียบ จารุวณฺโณ)
แหล่งอ้างอิงอื่น
หนังสือ กรมการศาสนา, ประวัติวัดทั่วราชอาณาจักร เล่ม 12,กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์กรมการศาสนา 2527 หน้า 189.