fbpx
วิกิพีเดีย

พระนางศุภยาลัต

พระนางศุภยาลัต (พม่า: စုဖုရားလတ် ซุพะยาละ) เป็นพระอัครมเหสีพระองค์สุดท้ายแห่งราชวงศ์อลองพญา ประสูติแด่พระเจ้ามินดงกับพระนางอเลนันดอช้างขาว ด้วยความทะเยอทะยานของพระนางศุภยาลัต พระนางจึงได้เป็นพระอัครมเหสีในพระเจ้าธีบอ กษัตริย์พม่าองค์สุดท้ายก่อนที่จะตกเป็นอาณานิคมของอังกฤษ

พระนางศุภยาลัต
พระอิสริยยศพระอัครมเหสีพม่า (12 เมษายน พ.ศ. 2422 – 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2428)
พระมเหสีวังเหนือ (18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2421 – 12 เมษายน พ.ศ. 2422)
ราชวงศ์อลองพญา
ข้อมูลส่วนพระองค์
พระราชสมภพ13 ธันวาคม พ.ศ. 2402
มัณฑะเลย์ ประเทศพม่า
สวรรคต24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2468 (65 พรรษา)
ย่างกุ้ง บริติชราช
พระราชบิดาพระเจ้ามินดง
พระราชมารดาพระนางอเลนันดอ
พระราชสวามีพระเจ้าธีบอ
พระราชบุตรเจ้าฟ้าชายไม่ปรากฏนาม
เจ้าหญิงไม่ปรากฏนาม
เจ้าหญิงมยะพะย๊าจี
เจ้าหญิงมยะพะยาละ
เจ้าหญิงมยะพะย๊า
เจ้าหญิงมยะพะย๊ากะเล

พระประวัติ

พระนางเป็นพระราชธิดาในพระเจ้ามินดงกับมเหสีรองคือพระนางอเลนันดอ พระนางศุภยาลัตมีพระเชษฐภคินีคือพระนางศุภยาจี และมีพระขนิษฐาคือเจ้าหญิงศุภยากเล อุปนิสัยของพระนางศุภยลัตมีลักษณะเหมือนพระราชมารดา คือ มีความทะเยอทะยาน เจ้ากลอุบาย ใจร้าย ขี้หึง เชื้อสายดั้งเดิมเป็นสามัญชน เนื่องจากยายของพระนางเป็นแม่ค้าขายของในตลาดมาก่อน โดยพระเจ้าจักกายแมง ทรงรับเอามาเป็นนางสนมตั้งแต่ครั้งพระเจ้าจักกายแมงยังดำรงพระยศเป็นเจ้าฟ้า

พระเจ้ามินดง พระราชบิดาของพระนาง มีเจ้านครญองย่าน กับเจ้านครญองโอ๊ะ เป็นพระราชโอรสที่พอจะมีความสามารถขึ้นครองราชย์ เพราะทั้งสองพระองค์เรียนจบโรงเรียนฝรั่ง มีความฉลาดและเข้มแข็งพอสมควร แต่พระนางอเลนันดอและขุนนางเห็นว่าจะคุมได้ยาก จึงเลือกเจ้านครสีป่อที่อ่อนแอกว่า ซึ่งผนวชเป็นพระมาตลอด นิสัยเชื่องช้า หัวอ่อน และพระเจ้ามินดงเองก็เกรงพระทัยมเหสีรอง จึงไม่ได้ตั้งเจ้าชายพระองค์ใดเป็นรัชทายาทอย่างชัดเจน

การยึดอำนาจ

 
พระฉายาลักษณ์ของพระเจ้าธีบอ (ขวา) พระราชินีศุภยาลัต (กลาง) และพระเชษฐภคินีของพระนางคือพระนางศุภยาคยี (ซ้าย) ที่พระราชวังหลวง เมืองมัณฑะเลย์ เดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 1885 ไม่ทราบผู้ถ่าย

เมื่อพระเจ้ามินดงทรงพระประชวรหนัก พระนางอเลนันดอจึงเรียกพวกเสนาบดีประชุมในที่รโหฐานและประกาศตั้งเจ้านครสีป่อเป็นรัชทายาท ไล่จับกุมบรรดาเจ้าชายและขุนนางในฝ่ายอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ของตัวเองใส่คุกไปมากมาย ต่อมาเมื่อพระเจ้ามินดงสวรรคตแล้ว ก็ให้เจ้านครสีป่อขึ้นเป็นกษัตริย์แห่งกรุงพม่า พอขึ้นครองราชย์ได้พระมเหสีและมารดากับกลุ่มขุนนางก็จัดการสังหารบรรดาพี่น้องตัวเอง และบริวารรวมกันถึงราว 500 กว่าคน เจ้าชายพระองค์ใดถูกปลงพระชนม์ เจ้าจอมมารดา พระญาติและบรรดาลูก ๆ รวมทั้งเจ้าน้ององค์หญิงเจ้าฟ้าองค์นั้น ซึ่งมีทั้งผู้เฒ่าชราและแม้แต่เด็กจนถึงทารกไร้เดียงสาก็ถูกสังหารจนสิ้นด้วยสารพัดวิธีอันหฤโหด ขุนนางที่เคยรับใช้หรือญาติทางฝ่ายจอมมารดาก็จับฆ่าเสียสิ้นเหมือนกัน ด้วยพิธีที่พิสดาร และตามแต่เพชฌฆาตจะเห็นสนุก

การสังหารหมู่ดังกล่าวใช้เวลาอยู่สามวันจึงสังหารได้หมดเพราะต้องฆ่าที่วังแต่เวลากลางคืน เพื่อไม่ให้พวกชาวเมืองรู้ พระนางศุภยาลัตทรงให้จัดงานปอยตลอดสามวันนั้น ให้ชาวเมืองเที่ยวงานให้สนุก พระเจ้าธีบอก็จัดให้ดื่มน้ำจัณฑ์จนเมามายเพื่อไม่ให้สนใจการสังหารครั้งนั้น เมื่อสังหารแล้วก็จับโยนใส่หลุมใหญ่ข้างวังรวมกัน แล้วเอาดินกลบ แต่พอพ้นสามวัน ศพเหล่านั้นเริ่มขึ้นอืดจนเนินหลุมที่ฝังพูนขึ้น ก็เอาช้างหลวงมาเหยียบย่ำให้ดินที่นูนขึ้นมานั้นแบนราบลง แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถปิดบังหลุมใหญ่นั้นได้ เพราะจำนวนศพมีมากจนดันเนินดินให้นูนขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า สุดท้ายก็ต้องให้ขุดศพใส่เกวียนไปฝังบ้าง ทิ้งน้ำบ้าง เล่ากันว่าคืนนั้นสุนัขเห่าหอนทั้งคืน จนชาวเมืองผวาไม่เป็นอันหลับอันนอน พระนางจัดให้เอาวงดนตรีปี่พาทย์ การแสดงต่าง ๆ มาบรรเลงในวังตลอดเวลาที่ทำการสำเร็จโทษพวกเจ้านาย เพื่อให้เสียงดนตรีปี่กลองกลบเสียงกรีดร้องขอชีวิต แต่ขณะเดียวกันในประวัติศาสตร์พม่านั้นเชื่อว่าพระนางอเลนันดอ และเกงหวุ่นเมงจีอยู่เบื้องหลังการสั่งฆ่าโอรสธิดา[ต้องการอ้างอิง]

การสูญสิ้นอำนาจ

พระนางศุภยาลัต และแตงดาวุ่นกี้ไม่พอใจที่อังกฤษให้ค่าสัมปทานป่าไม้น้อย และฝรั่งเศสทำท่าจะเข้ามาเสนอให้มากกว่าประกอบกับมีการกล่าวหาว่าอังกฤษลอบตัดไม้เกินกว่าที่ได้รับสัมปทาน พม่าเลยสั่งปรับอย่างหนักถึง 1 ล้านรูปี อังกฤษก็ไม่พอใจยื่นประท้วง แต่พม่าไม่ยอม ตอนนั้นพระนางศุภยาลัตคิดว่าตัวเองมีฝรั่งเศสหนุนหลัง แต่ต่อมาเกิดเรื่องจริง ๆ ฝรั่งเศสก็วางตัวเป็นกลาง

วันที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2428 อังกฤษก็เริ่มส่งข้อเรียกร้องขั้นเด็ดขาด และพม่ายอมไม่ได้ เช่น ให้อังกฤษเป็นคนควบคุมนโยบายการค้าการเดินเรือของพม่าทั้งหมด ฯลฯ มิฉะนั้นจะรบกับพม่า ซึ่งขณะนั้นอังกฤษได้ยึดพม่าได้ทางใต้ได้แล้วจากสนธิสัญญายันดาโบ

พระเจ้าธีบอตามพระทัยมเหสีจึงสั่งให้เตรียมพลไปรบ อังกฤษก็ให้นายพลแฮร์รี เพนเดอร์กาส นำทหารทั้งฝรั่งและอินเดียเคลื่อนพลเข้ารบ จากย่างกุ้งบุกไปตามแม่น้ำอิรวดีถึงมัณฑะเลย์ ใช้เวลาแค่ 14 วันก็ยึดเมืองหลวงได้ นักประวัติศาสตร์ส่วนใหญ่ให้ความเห็นว่า นอกเหนือจากอาวุธที่ดีกว่าอย่างเทียบไม่ติด แต่เหตุผลสำคัญที่สุดคือราษฎรไม่คิดจะต่อสู้เพราะไม่รู้จะสู้ไปเพื่ออะไร เนื่องจากรัฐบาลของพระเจ้าธีบอโดยพระนางศุภยาลัต กดขี่พวกเขามาตลอด บ้านเมืองจึงขาดความสามัคคีขนาดหนัก เนื่องจากกษัตริย์และมเหสีไม่เคยทำตนให้เป็นที่รักของประชาชนพม่าของพระองค์เอง พระเจ้าธีบอ และพระนางศุภยาลัตจึงถูกเชิญให้ไปยังเมืองรัตนคีรี ซึ่งเป็นการสิ้นสุดเอกราชของพม่า และการปกครองโดยราชวงศ์โก้นบองที่มีอย่างยาวนาน

 
พระราชธิดาทั้งสี่ของพระเจ้าธีบอและพระนางศุภยาลัต จากซ้าย: พระราชธิดาองค์ที่สี่ เจ้าหญิงเมียะพยากเล, พระราชธิดาองค์ที่หนึ่ง เจ้าหญิงเมียะพยาจี, พระราชธิดาองค์ที่สาม เจ้าหญิงเมียะพยา และพระราชธิดาองค์ที่สอง เจ้าหญิงเมียะพยาลัต หรือ เจ้าหญิงมยะพะยาละ ภาพจาก Myanmar Historical Archive

ถูกเชิญออกนอกประเทศ

 
บรรยากาศท่าเรือขณะคุมตัวกษัตริย์พม่า

เมื่อถูกถอดจากบัลลังก์ อังกฤษก็ได้เชิญพระเจ้าธีบอและพระนางศุภยาลัตไปประทับยังบริติชราช ทั้งสองพระองค์ประทับที่เมืองมัทราสราว 2-3 เดือน ภายหลังจึงถูกส่งไปประทับถาวรที่เมืองรัตนคีรีเมืองเล็ก ๆ ทางชายฝั่งทะเล ทางใต้เมืองบอมเบย์ (มุมไบในปัจจุบัน) พระนางศุภยลัตเกิดทะเลาะกับพระนางอเลนันดอ จนพระนางอเลนันดอต้องขอกลับพม่า อังกฤษก็ยอมให้กลับคุมตัวไว้ที่เมืองเมาะลำเลิงจนสิ้นพระชนม์ พระเจ้าธีบอกับพระนางศุภยลัตถูกเนรเทศอยู่ที่บริติชราชนาน 31 ปี จนพระเจ้าธีบอจึงสิ้นพระชนม์ที่เมืองรัตนคีรีนั่นเอง พระนางจึงได้รับอนุญาตให้พาลูกสาวไปอยู่ย่างกุ้ง ส่วนพระศพพระเจ้าธีบอนั้นฝังไว้ที่อินเดีย

คืนสู่พม่า

 
กู่มณฑปบรรจุพระอัฐิของพระนางศุภยาลัต และพระนัดดา

ต่อมา พระนางได้กลับมาสู่พม่าที่เมืองย่างกุ้ง ทรงเคียดแค้นขุนนางพม่าที่ไปเข้ากับอังกฤษ ตรัสบริภาษอยู่เป็นประจำ มีฝรั่งเขียนเกี่ยวกับพระนางไว้ว่า เมื่อพระนางแก่ตัวเข้าและรู้สำนึกในชีวิตแล้ว ทรงสงบเสงี่ยม สุภาพ น่าสงสาร ทรงเลี้ยงสุนัขเป็นเพื่อน และเสียพระทนต์ทั้งหมด พระนางอยู่ในตำหนักที่อังกฤษจัดถวายให้ในเมืองย่างกุ้ง 10 ปี จึงสิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2468 ขณะพระชนมายุ 65 พรรษา การจัดการพระศพก็เป็นไปตามยถากรรม ไม่ได้มีพิธีรีตองมากมายไม่ต่างจากคนทั่วไป ปัจจุบันยังมีที่ฝังพระศพอยู่ในย่างกุ้ง โดยรัฐบาลอังกฤษจัดการพระศพให้ตามธรรมเนียม แต่ไม่อนุญาตให้เชิญพระศพขึ้นไปที่ราชธานีกรุงมัณฑะเลย์ คงอนุญาตเพียงแต่ทำเป็นมณฑปบรรจุพระอัฐิเท่านั้น ปัจจุบันนี้อยู่ที่ถนนเจดีย์ชเวดากอง ห่างจากบันไดด้านทิศใต้ของพระเจดีย์ชเวดากองมาประมาณ 200 เมตร สร้างเป็นกู่ทรงมณฑปยอดปราสาทแบบพม่า ก่ออิฐฉาบปูนขาว รูปทรงคล้ายที่ฝังพระศพของพระเจ้ามินดงในกรุงมัณฑะเลย์ ที่ฐานล่างมีแผ่นจารึกแผ่นเล็กของตอปยากะเล (Taw Payar Kalay) หรือออง ซาย (Aung Zay) ซึ่งเป็นพระราชนัดดาองค์สุดท้ายของพระเจ้าสีป่อ ที่เสียชีวิตเมื่อ ค.ศ. 2006 และนำอัฐิมาฝังไว้ในกู่เดียวกับพระนางศุภยาลัต โดยพระนางมีศักดิ์เป็น "พระอัยยิกา" ของนัดดาองค์นี้[ต้องการอ้างอิง]

ฐานันดรและพระอิสริยยศ

  • 13 ธันวาคม พ.ศ. 2402 – 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2421: เจ้าหญิงศุภยาลัต
  • 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2421 – 12 เมษายน พ.ศ. 2422: ศรีสุริยประภารัตนเทวี
  • 12 เมษายน พ.ศ. 2422 – 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2428: ศรีบวรดิลกมงคลมหารัตนเทวี

พระธิดา

  พระนาม ประสูติ สิ้นพระชนม์ หมายเหตุ
  เจ้าหญิงเมียะพยาจี 1880พ.ศ. 2423 1947พ.ศ. 2490 เจ้าหญิงทรงอภิเษกสมรสกับนายทหารอินเดียที่พระราชวังธีบอในรัตนคีรี
  เจ้าหญิงเมียะพะยาละ 18834 ตุลาคม
พ.ศ. 2426
19564 เมษายน
พ.ศ. 2499
เจ้าหญิงทรงอภิเษกสมรสกับข้าราชสำนักชาวพม่าที่พระราชวังธีบอในรัตนคีรี เจ้าหญิงมยะพะยาละ ได้รับเลือกให้เป็นรัชทายาทในราชบัลลังก์พม่า เมื่อพระเจ้าธีบอถูกโค่นล้มราชบัลลังก์ และทรงได้เป็นผู้อ้างสิทธิในราชบัลลังก์และเป็นประมุขแห่งราชวงศ์พม่าเมื่อพระราชบิดาสวรรคต พระองค์สื้นพระชนม์ที่เมืองกาลิมปง ประเทศอินเดีย
  เจ้าหญิงเมียะพะยา 18867 มีนาคม
พ.ศ. 2429
196221 กรกฎาคม
พ.ศ. 2505
เจ้าหญิงทรงเสด็จกลับพม่าพร้อมพระราชมารดา และในปีพ.ศ. 2465 ทรงอภิเษกสมรสครั้งแรกกับโกเดา กยี เนียง พระนัดดาในเจ้าฟ้าคะนอง ซึ่งมีศักดิ์เป็นพระปัยกาของเจ้าหญิง และเจ้าชายคะนองทรงเป็นพระอนุชาในพระเจ้ามินดง และทรงหย่ากันในปีพ.ศ. 2472 เจ้าหญิงอภิเษกสมรสครั้งที่สองกับอู มะยา อู นักกฎหมาย พระโอรสองค์ที่สองของเจ้าหญิงที่ประสูติแต่พระสวามีองค์แรก คือ เจ้าตอ พะยาทรงเป็นผู้อ้างสิทธิในราชบัลลังก์องค์ปัจจุบัน สืบต่อจากเจ้าหญิงเมียะพยาลัต
  เจ้าหญิงเมียะพะยากะเล 1887พ.ศ. 2430 1935พ.ศ. 2478 เจ้าหญิงมีความชำนาญในภาษาอังกฤษอย่างมากและทรงดำรงเป็นโฆษกประจำพระราชวงศ์พม่า เจ้าหญิงทรงอภิเษกสมรสกับนักกฎหมาย และทรงถูกรัฐบาลอาณานิคมส่งออกไปประทับที่เมาะลำเลิง จนกระทั่งสิ้นพระชนม์ที่นั่น

อ้างอิง

  1. พม่าเสียเมืองก็เพราะกษัตริย์อ่อนแอและมเหสีหฤโหด
  2. บุญยงค์ เกศเกศ. อรุณรุ่งฟ้า"ฉาน"เล่าตำนานคน"ไท". กรุงเทพฯ:สำนักพิมพ์หลักพิมพ์, 2548. หน้า 69
  3. ชวนกันเป็นชาวคติชน : อยากทราบประวัติของพระนางศุภยลัตค่ะ
  4. Christopher Buyers. "The Konbaung Dynasty Genealogy". royalark.net. สืบค้นเมื่อ 2009-09-26.
  • คึกฤทธิ์ ปราโมช. พม่าเสียเมือง.
  • สาส์นสมเด็จ เล่ม 9 พ.ศ. 2479 (เมษายน - กันยายน) พิมพ์เผยแพร่ พ.ศ. 2543 (รักษาตัวสะกดเดิม)
  • ลายพระหัตถ์สมเด็จฯกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ถึง สมเด็จฯเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ เล่าเรื่องเที่ยวเมืองพะม่า วินิจฉัยกรรมเมืองพะม่า (ท่อนที่ 1) หน้า 335 - 341 และเล่าเรื่องเมืองพะม่า วินิจฉัยกรรมเมืองพะม่า (ท่อนที่ 27) หน้า 355-359

พระนางศ, ภยาล, บทความน, ได, บแจ, งให, ปร, บปร, งหลายข, กร, ณาช, วยปร, บปร, งบทความ, หร, ออภ, ปรายป, ญหาท, หน, าอภ, ปราย, บทความน, องการพ, จน, กษร, อาจเป, นด, านการใช, ภาษา, การสะกด, ไวยากรณ, ปแบบการเข, ยน, หร, อการแปลจากภาษาอ, บทความน, องการแหล, งอ, างอ, งเพ, . bthkhwamniidrbaecngihprbprunghlaykhx krunachwyprbprungbthkhwam hruxxphipraypyhathihnaxphipray bthkhwamnitxngkarphisucnxksr xacepndankarichphasa karsakd iwyakrn rupaebbkarekhiyn hruxkaraeplcakphasaxun bthkhwamnitxngkaraehlngxangxingephimephuxphisucnkhxethccringphranangsuphyalt phma စ ဖ ရ လတ suphayala epnphraxkhrmehsiphraxngkhsudthayaehngrachwngsxlxngphya prasutiaedphraecamindngkbphranangxelnndxchangkhaw dwykhwamthaeyxthayankhxngphranangsuphyalt phranangcungidepnphraxkhrmehsiinphraecathibx kstriyphmaxngkhsudthaykxnthicatkepnxananikhmkhxngxngkvsphranangsuphyaltphraxisriyysphraxkhrmehsiphma 12 emsayn ph s 2422 29 phvscikayn ph s 2428 phramehsiwngehnux 18 phvscikayn ph s 2421 12 emsayn ph s 2422 rachwngsxlxngphyakhxmulswnphraxngkhphrarachsmphph13 thnwakhm ph s 2402 mnthaely praethsphmaswrrkht24 phvscikayn ph s 2468 65 phrrsa yangkung britichrachphrarachbidaphraecamindngphrarachmardaphranangxelnndxphrarachswamiphraecathibxphrarachbutrecafachayimpraktnamecahyingimpraktnamecahyingmyaphayaciecahyingmyaphayalaecahyingmyaphayaecahyingmyaphayakael enuxha 1 phraprawti 2 karyudxanac 3 karsuysinxanac 4 thukechiyxxknxkpraeths 5 khunsuphma 6 thanndraelaphraxisriyys 7 phrathida 8 xangxingphraprawti aekikhphranangepnphrarachthidainphraecamindngkbmehsirxngkhuxphranangxelnndx phranangsuphyaltmiphraechsthphkhinikhuxphranangsuphyaci aelamiphrakhnisthakhuxecahyingsuphyakel xupnisykhxngphranangsuphyltmilksnaehmuxnphrarachmarda khux mikhwamthaeyxthayan ecaklxubay icray khihung echuxsaydngedimepnsamychn enuxngcakyaykhxngphranangepnaemkhakhaykhxngintladmakxn odyphraecackkayaemng thrngrbexamaepnnangsnmtngaetkhrngphraecackkayaemngyngdarngphraysepnecafaphraecamindng phrarachbidakhxngphranang miecankhryxngyan kbecankhryxngoxa epnphrarachoxrsthiphxcamikhwamsamarthkhunkhrxngrachy ephraathngsxngphraxngkheriyncborngeriynfrng mikhwamchladaelaekhmaekhngphxsmkhwr aetphranangxelnndxaelakhunnangehnwacakhumidyak cungeluxkecankhrsipxthixxnaexkwa sungphnwchepnphramatlxd nisyechuxngcha hwxxn aelaphraecamindngexngkekrngphrathymehsirxng cungimidtngecachayphraxngkhidepnrchthayathxyangchdecnkaryudxanac aekikh phrachayalksnkhxngphraecathibx khwa phrarachinisuphyalt klang aelaphraechsthphkhinikhxngphranangkhuxphranangsuphyakhyi say thiphrarachwnghlwng emuxngmnthaely eduxnphvscikayn kh s 1885 imthrabphuthay emuxphraecamindngthrngphraprachwrhnk phranangxelnndxcungeriykphwkesnabdiprachuminthirohthanaelaprakastngecankhrsipxepnrchthayath ilcbkumbrrdaecachayaelakhunnanginfayxun thiimichkhxngtwexngiskhukipmakmay txmaemuxphraecamindngswrrkhtaelw kihecankhrsipxkhunepnkstriyaehngkrungphma phxkhunkhrxngrachyidphramehsiaelamardakbklumkhunnangkcdkarsngharbrrdaphinxngtwexng aelabriwarrwmknthungraw 500 kwakhn ecachayphraxngkhidthukplngphrachnm ecacxmmarda phrayatiaelabrrdaluk rwmthngecanxngxngkhhyingecafaxngkhnn sungmithngphuethachraaelaaemaetedkcnthungtharkirediyngsakthuksngharcnsindwysarphdwithixnhvohd khunnangthiekhyrbichhruxyatithangfaycxmmardakcbkhaesiysinehmuxnkn dwyphithithiphisdar aelatamaetephchchkhatcaehnsnukkarsngharhmudngklawichewlaxyusamwncungsngharidhmdephraatxngkhathiwngaetewlaklangkhun ephuximihphwkchawemuxngru phranangsuphyaltthrngihcdnganpxytlxdsamwnnn ihchawemuxngethiywnganihsnuk phraecathibxkcdihdumnacnthcnemamayephuximihsnickarsngharkhrngnn emuxsngharaelwkcboynishlumihykhangwngrwmkn aelwexadinklb aetphxphnsamwn sphehlannerimkhunxudcneninhlumthifngphunkhun kexachanghlwngmaehyiybyaihdinthinunkhunmannaebnrablng aetsudthaykimsamarthpidbnghlumihynnid ephraacanwnsphmimakcndnenindinihnunkhunsaaelwsaela sudthayktxngihkhudsphisekwiynipfngbang thingnabang 1 elaknwakhunnnsunkhehahxnthngkhun cnchawemuxngphwaimepnxnhlbxnnxn phranangcdihexawngdntripiphathy karaesdngtang mabrrelnginwngtlxdewlathithakarsaercothsphwkecanay ephuxihesiyngdntripiklxngklbesiyngkridrxngkhxchiwit 2 aetkhnaediywkninprawtisastrphmannechuxwaphranangxelnndx aelaeknghwunemngcixyuebuxnghlngkarsngkhaoxrsthida txngkarxangxing karsuysinxanac aekikhphranangsuphyalt aelaaetngdawunkiimphxicthixngkvsihkhasmpthanpaimnxy aelafrngessthathacaekhamaesnxihmakkwaprakxbkbmikarklawhawaxngkvslxbtdimekinkwathiidrbsmpthan phmaelysngprbxyanghnkthung 1 lanrupi xngkvskimphxicyunprathwng aetphmaimyxm txnnnphranangsuphyaltkhidwatwexngmifrngesshnunhlng aettxmaekideruxngcring frngesskwangtwepnklangwnthi 17 tulakhm ph s 2428 xngkvskerimsngkhxeriykrxngkhneddkhad aelaphmayxmimid echn ihxngkvsepnkhnkhwbkhumnoybaykarkhakaredineruxkhxngphmathnghmd l michanncarbkbphma sungkhnannxngkvsidyudphmaidthangitidaelwcaksnthisyyayndaobphraecathibxtamphrathymehsicungsngihetriymphliprb xngkvskihnayphlaehrri ephnedxrkas nathharthngfrngaelaxinediyekhluxnphlekharb cakyangkungbukiptamaemnaxirwdithungmnthaely ichewlaaekh 14 wnkyudemuxnghlwngid nkprawtisastrswnihyihkhwamehnwa nxkehnuxcakxawuththidikwaxyangethiybimtid aetehtuphlsakhythisudkhuxrasdrimkhidcatxsuephraaimrucasuipephuxxair enuxngcakrthbalkhxngphraecathibxodyphranangsuphyalt kdkhiphwkekhamatlxd banemuxngcungkhadkhwamsamkhkhikhnadhnk enuxngcakkstriyaelamehsiimekhythatnihepnthirkkhxngprachachnphmakhxngphraxngkhexng phraecathibx aelaphranangsuphyaltcungthukechiyihipyngemuxngrtnkhiri sungepnkarsinsudexkrachkhxngphma aelakarpkkhrxngodyrachwngsoknbxngthimixyangyawnan phrarachthidathngsikhxngphraecathibxaelaphranangsuphyalt caksay phrarachthidaxngkhthisi ecahyingemiyaphyakel phrarachthidaxngkhthihnung ecahyingemiyaphyaci phrarachthidaxngkhthisam ecahyingemiyaphya aelaphrarachthidaxngkhthisxng ecahyingemiyaphyalt hrux ecahyingmyaphayala phaphcak Myanmar Historical Archivethukechiyxxknxkpraeths aekikh brryakasthaeruxkhnakhumtwkstriyphma emuxthukthxdcakbllngk xngkvskidechiyphraecathibxaelaphranangsuphyaltipprathbyngbritichrach thngsxngphraxngkhprathbthiemuxngmthrasraw 2 3 eduxn phayhlngcungthuksngipprathbthawrthiemuxngrtnkhiriemuxngelk thangchayfngthael thangitemuxngbxmeby mumibinpccubn phranangsuphyltekidthaelaakbphranangxelnndx cnphranangxelnndxtxngkhxklbphma xngkvskyxmihklbkhumtwiwthiemuxngemaalaelingcnsinphrachnm phraecathibxkbphranangsuphyltthukenrethsxyuthibritichrachnan 31 pi cnphraecathibxcungsinphrachnmthiemuxngrtnkhirinnexng phranangcungidrbxnuyatihphaluksawipxyuyangkung swnphrasphphraecathibxnnfngiwthixinediykhunsuphma aekikh kumnthpbrrcuphraxthikhxngphranangsuphyalt aelaphrandda txma phranangidklbmasuphmathiemuxngyangkung thrngekhiydaekhnkhunnangphmathiipekhakbxngkvs trsbriphasxyuepnpraca mifrngekhiynekiywkbphranangiwwa emuxphranangaektwekhaaelarusanukinchiwitaelw thrngsngbesngiym suphaph nasngsar thrngeliyngsunkhepnephuxn aelaesiyphrathntthnghmd phranangxyuintahnkthixngkvscdthwayihinemuxngyangkung 10 pi cungsinphrachnmemuxwnthi 24 phvscikayn ph s 2468 khnaphrachnmayu 65 phrrsa karcdkarphrasphkepniptamythakrrm imidmiphithiritxngmakmayimtangcakkhnthwip pccubnyngmithifngphrasphxyuinyangkung 3 odyrthbalxngkvscdkarphrasphihtamthrrmeniym aetimxnuyatihechiyphrasphkhunipthirachthanikrungmnthaely khngxnuyatephiyngaetthaepnmnthpbrrcuphraxthiethann pccubnnixyuthithnnecdiychewdakxng hangcakbniddanthisitkhxngphraecdiychewdakxngmapraman 200 emtr srangepnkuthrngmnthpyxdprasathaebbphma kxxithchabpunkhaw rupthrngkhlaythifngphrasphkhxngphraecamindnginkrungmnthaely thithanlangmiaephncarukaephnelkkhxngtxpyakael Taw Payar Kalay hruxxxng say Aung Zay sungepnphrarachnddaxngkhsudthaykhxngphraecasipx thiesiychiwitemux kh s 2006 aelanaxthimafngiwinkuediywkbphranangsuphyalt odyphranangmiskdiepn phraxyyika khxngnddaxngkhni txngkarxangxing thanndraelaphraxisriyys aekikh13 thnwakhm ph s 2402 18 phvscikayn ph s 2421 ecahyingsuphyalt 18 phvscikayn ph s 2421 12 emsayn ph s 2422 srisuriypraphartnethwi 12 emsayn ph s 2422 29 phvscikayn ph s 2428 sribwrdilkmngkhlmhartnethwi 4 phrathida aekikh phranam prasuti sinphrachnm hmayehtu ecahyingemiyaphyaci 1880 ph s 2423 1947 ph s 2490 ecahyingthrngxphiesksmrskbnaythharxinediythiphrarachwngthibxinrtnkhiri ecahyingemiyaphayala 1883 4 tulakhmph s 2426 1956 4 emsaynph s 2499 ecahyingthrngxphiesksmrskbkharachsankchawphmathiphrarachwngthibxinrtnkhiri ecahyingmyaphayala idrbeluxkihepnrchthayathinrachbllngkphma emuxphraecathibxthukokhnlmrachbllngk aelathrngidepnphuxangsiththiinrachbllngkaelaepnpramukhaehngrachwngsphmaemuxphrarachbidaswrrkht phraxngkhsunphrachnmthiemuxngkalimpng praethsxinediy ecahyingemiyaphaya 1886 7 minakhmph s 2429 1962 21 krkdakhmph s 2505 ecahyingthrngesdcklbphmaphrxmphrarachmarda aelainpiph s 2465 thrngxphiesksmrskhrngaerkkbokeda kyi eniyng phranddainecafakhanxng sungmiskdiepnphrapykakhxngecahying aelaecachaykhanxngthrngepnphraxnuchainphraecamindng aelathrnghyakninpiph s 2472 ecahyingxphiesksmrskhrngthisxngkbxu maya xu nkkdhmay phraoxrsxngkhthisxngkhxngecahyingthiprasutiaetphraswamixngkhaerk khux ecatx phayathrngepnphuxangsiththiinrachbllngkxngkhpccubn subtxcakecahyingemiyaphyalt ecahyingemiyaphayakael 1887 ph s 2430 1935 ph s 2478 ecahyingmikhwamchanayinphasaxngkvsxyangmakaelathrngdarngepnokhskpracaphrarachwngsphma ecahyingthrngxphiesksmrskbnkkdhmay aelathrngthukrthbalxananikhmsngxxkipprathbthiemaalaeling cnkrathngsinphrachnmthinnxangxing aekikh phmaesiyemuxngkephraakstriyxxnaexaelamehsihvohd buyyngkh ekseks xrunrungfa chan elatanankhn ith krungethph sankphimphhlkphimph 2548 hna 69 chwnknepnchawkhtichn xyakthrabprawtikhxngphranangsuphyltkha Christopher Buyers The Konbaung Dynasty Genealogy royalark net subkhnemux 2009 09 26 khukvththi praomch phmaesiyemuxng sasnsmedc elm 9 ph s 2479 emsayn knyayn phimphephyaephr ph s 2543 rksatwsakdedim layphrahtthsmedckrmphrayadarngrachanuphaph thung smedcecafakrmphrayanrisranuwdtiwngs elaeruxngethiywemuxngphama winicchykrrmemuxngphama thxnthi 1 hna 335 341 aelaelaeruxngemuxngphama winicchykrrmemuxngphama thxnthi 27 hna 355 359ekhathungcak https th wikipedia org w index php title phranangsuphyalt amp oldid 9406637, wikipedia, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด,

บทความ

, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม